Uncategorized

Indie’s Sweetheart ต้องตา จิตดี

  • Writer: Fungjai Staff

Indie’s Sweetheart
ต้องตา จิตดี

เมื่อพูดถึงวง Plastic Plastic แล้วทุกคนคงร้องอ๋อ และคงคุ้นหน้าสาวน้อยคนนี้เป็นอย่างดี แต่ครั้งนี้เราจะไม่ได้มาคุยกับเธอแค่เรื่องความสามารถในการแต่งเพลงและการเล่นดนตรี แต่เราจะได้เห็นมุมมองชีวิตที่หลากหลายของเธอมากขึ้น ถ้าคุณคิดว่ารู้จักเพลง ต้องตา ดีอยู่แล้ว ฟังใจซีนอยากให้คุณรู้จักเธอให้มากกว่าเดิมจากบทสัมภาษณ์นี้

“พลังงานของผู้หญิงเป็นพลังที่ลึกลับนะ แต่ในความคิดของเพลง พลังนี้ต้องไม่ใช่ผู้หญิงอ่อนแอด้วย เพลงคิดว่าพลังงานของผู้หญิงสามารถทำอะไรเองได้ ไม่พึ่งพาใคร มีความคิดเป็นของตัวเอง กล้าที่จะลุยอย่างเต็มที่ ”

จุดเริ่มต้นส่วนผสมของพ่อและแม่

เพลง: เพลงรู้จักดนตรีมาตั้งแต่เด็กแล้ว คือ พ่อแม่ของเพลงเจอกันเพราะว่าเล่นดนตรีอยู่ที่ TU Band ทำวงด้วยกัน แม่เป็นนักร้อง ส่วนพ่อเป็นมือกีตาร์กับคีย์บอร์ด จึงเป็นที่มาของชื่อเล่นเพลง เราเติบโตมากับแรงสนับสนุนทางด้านดนตรีมาตลอด พ่อส่งให้ไปเรียนเปียโนตั้งแต่อายุ 4 ขวบ แล้วพ่อก็เข้าไปเรียนด้วยกันกับเรา สำหรับแม่ก็มีสอนร้องเพลงบ้าง แต่ก็ยังส่งไปเรียนร้องเพลงอยู่ดี พูดง่าย ๆ ว่าที่เพลงเป็นนักดนตรีทุกวันนี้ได้ก็เพราะพ่อแม่เป็นอิทธิพลหลักของเพลงเลยค่ะ

ก่อร่างสร้างวง พลาสติก พลาสติก

เพลง: ช่วงนั้นเพลงกำลังจะเป็นนักศึกษาชั้นปีที่ 1 ตอนนั้นมันไม่ได้คิดอะไรมาก แค่รู้สึกว่าอยากเล่นดนตรี หาเงินได้แค่นั้นเลยเข้าไปในกูเกิ้ลง่าย ๆ เลยพิมพ์ว่า การประกวดร้องเพลง (หัวเราะ) ก็ไปเจอการประกวดของคลื่น Good FM เป็นการประกวดที่เขาให้แต่งเพลงรักมาแข่งกัน เลยไปลองชวนพี่ปกป้องมาทำด้วยกัน เขาก็ตอบโอเคเลย จึงลองส่งเพลง Elastic ไปโดยตอนนั้นมีแค่เพลงอย่างเดียว ชื่อวงตามมาทีหลัง ตอนตั้งชื่อก็ไม่มีเหตุผลด้วย แค่ให้มันสอดคล้องกับเพลงแค่นั้นเอง เพราะส่วนตัวสมัยนั้นไม่ได้คาดหวังจะทำวงต่อเลย แข่งเสร็จก็เลิก แค่สนุกกับมันก็พอแล้ว แต่มันดันชนะไง ซึ่งตอนนั้นมีกรรมการท่านหนึ่งเป็นผู้จัดการค่าย Believe Records เขาเลยชวนพวกเรามาร่วมงานกับทางค่าย ในตอนแรกเรากะจะทำเป็นวงด้วยซ้ำ คุยไปคุยมาไม่เอาดีกว่า เพราะคนเยอะตัวหารจะมากขึ้นด้วยเลยทำกับพี่ป้องสองคนพอ (หัวเราะ)

ทำเพลงที่ชอบ สไตล์เพลงที่ใช่

เพลง: ก่อนมาเป็นวง Plastic Plastic เพลงจะชอบเพลงสไตล์ R&B ส่วนพี่ป้องจะเป็นสไตล์ร็อคหนัก ๆ เลย แต่พอมาร่วมวงกันทดลองไปด้วยกันก็ไปเจอสไตล์อะคูสติกที่คิดว่ามันใช่สำหรับเราสองคน จึงตัดสินใจทำเพลงแนวนี้ออกมา เพราะมันมีความเป็นตัวของพวกเราเองทั้งคู่

Plastic Plastic ซุ่มเงียบ เตรียมปล่อยเพลง

เพลง: ตอนนี้พวกเรากำลังทำเพลงกันอยู่ แต่ไม่ได้อยู่กับค่ายเดิมแล้ว ออกมาทำเป็นอิสระเลย เพลงน่าจะออกมาช่วงสิ้นปีนี้ค่ะ เป็นสไตล์เดิม แต่จะโตขึ้นและมีการใส่เสียงพวกเสียงซินธิไซเซอร์ลงไปด้วย ทำให้เกิดเสียงแปลกใหม่ในตัวเพลง ตอนนี้เพลงกับพี่ชายก็ช่วย ๆ กันคิดและทำอยู่ค่ะ หวังว่าทุกคนจะได้ฟังในไม่ช้านี้

ต้องตากับพลังงานของผู้หญิง

เพลง: พลังงานของผู้หญิงเป็นพลังที่ลึกลับนะ แต่ในความคิดของเพลง พลังนี้ต้องไม่ใช่ผู้หญิงอ่อนแอด้วย เพลงคิดว่าพลังงานของผู้หญิงสามารถทำอะไรเองได้ ไม่พึ่งพาใคร มีความคิดเป็นของตัวเอง กล้าที่จะลุยอย่างเต็มที่ มันซ่อนไว้อยู่ในความอ่อนหวานของเราและพร้อมที่จะปล่อยออกมาถ้าเราเชื่อมั่นในตัวเองจริง ๆ

ขอกรี๊ดกับศิลปินหญิงในดวงใจ

เพลง: ถ้าเป็นในอดีตศิลปินหญิงไทยที่เราชื่นชอบ คงเป็นพี่ปาล์มมี่ เขาดูเท่ดีค่ะ เสียงก็มีเสน่ห์ แต่ช่วงนี้ไม่ค่อยมีผลงานออกมาแล้ว ถ้าในปัจจุบันตอนนี้ยังไม่มีใครที่ปลื้มเป็นพิเศษนะ ยังคิดไม่ออกเลย สำหรับต่างประเทศจะชอบ Yeye เป็นศิลปินผู้หญิงที่เราชอบมาก มีความสามารถเยอะมาก ชอบเพลงสไตล์นี้ด้วย แนวอะคูสติก แต่เขาเล่นทุกตำแหน่งเลย ร้องเอง เล่นกลองเอง เปียโนเอง เพลงก็แต่งเองด้วย แถมยังน่ารักอีกด้วย

เส้นขอบเขตระหว่างเรียนกับการทำงาน

เพลง: ไม่ยากเลยค่ะ เพราะเพลงเรียนดนตรีอยู่แล้วด้วย ทุกอย่างมันไปในทิศทางเดียวกันอยู่แล้ว ทำงานก็เพิ่มสกิลการเรียน การเรียนก็เพิ่มสกิลการทำงาน มันส่งเสริมกันและกันอยู่ค่ะ

อาชีพนักดนตรีเลี้ยงตัวเองได้

เพลง: การเรียนดนตรีมันไม่ใช่ตัวตัดสินว่าตัวเราจะเป็นศิลปินเพียงอย่างเดียว มันมีทางเลือกอีกมากมายนะ สามารถสอนดนตรีได้ เช่น สอนเปียโน หรือเครื่องดนตรีอื่น ๆ มันไปได้หลายทางนะ เบื้องหลังก็ได้ ศิลปินยังสามารถทำเพลงให้คนอื่นได้ด้วย ไม่ใช่ต้องทำเพลงของตัวเองเพียงอย่างเดียว

อีกหนึ่งตัวตนที่คนยังไม่รู้จากต้องตา

เพลง: ของเพลงจะเป็นสองเรื่องหลัก ๆ เลยนะที่คนส่วนมากยังไม่ค่อยรู้จักเราในมุมนี้ก็ คือ ถ่ายภาพและงานเขียน เพลงเริ่มถ่ายภาพจากการไปเที่ยวมาก่อน เวลาที่เราไปเที่ยวเราก็อยากมีความทรงจำใช่ไหม แล้วอะไรล่ะที่มันเก็บความทรงจำได้ดี สำหรับเพลงก็มีแต่กล้องถ่ายรูปเท่านั้น เริ่มต้นเพลงใช้แค่โทรศัพท์ถ่ายรูปอย่างเดียว หลัง ๆ มาบ้าตอนไหนไม่รู้ ซื้อเลนส์เก็บไว้เต็มเลย จริงจังมาก (หัวเราะ) สำหรับเรื่องงานเขียน ต้องเกริ่นก่อนว่าเราแต่งเพลงมาอยู่แล้ว ตั้งแต่จำได้เราเคยเขียนเพลงส่งประกวดตอน ป.3 เลย ก็เริ่มเขียนมาตลอด ตอนนั้นก็ไม่ได้ไปให้พี่ชายฟังอะไรหรอกนะ ทุกวันนี้ก็ยังไม่กล้าบอกตัวเพลงเองว่าเรามีความสามรถนะ เพียงแค่เพลงชอบทำชอบเขียนไปเรื่อย ๆ

ความหลงใหลในตัวหนังสือ

เพลง: อย่างที่บอก จุดเริ่มต้นในเรื่องนี้มันมาจากการแต่งเพลงอยู่แล้ว แต่มาตกหลุมรักจริง ๆ ในการเขียนก็คงจะเป็นตอนที่ไปเห็นหนังสือแนวท่องเที่ยวมันทำให้เพลงชอบและอยากลองมาทำงานด้านนี้ดูบ้าง เอาเข้าจริงเพลงก็อ่านหมดนะ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเล่า หรือหนังสือรางวัลโนเบลอะไรก็ตาม ไอดอลนักเขียนที่เพลงชื่นชอบ จะเป็น พี่หนึ่ง วรพจน์ พันธุ์พงศ์ กับ John Green ค่ะ

Nice to Meet Me ผลงานเขียนหนังสือเล่มแรกในชีวิต

เพลง: ที่มาที่ไปมันมาจากเรื่องของดนตรีก่อนเลย จากเพลง Last weekend เพลงได้เดินทางไปที่เมือง Brighton เป็นชายฝั่งทางตอนใต้ของประเทศอังกฤษ ด้วยความตั้งใจจะไปเรียนภาษาและไปหาประสบการณ์ อยู่ ๆ ก็รู้สึกว่า การที่เรามาในที่แบบนี้มันน่าจะมีงานเขียนเรื่องราวของตัวเองด้วยนะ ไหน ๆ ก็ไปทั้งทีแล้ว เรื่องราวมันก็เยอะพอสมควรในช่วงเวลา 4 เดือนที่นั่น ควบคู่กับมีภาพถ่ายอยู่แล้วด้วย ทุกอย่างมันจึงเชื่อมโยงกันหมด แต่เนื้อหาจะเป็นอะไร ยังไง  ก็อยากให้ลองไปอ่านกันนะคะ

ชีวิตตอนนี้กับตำแหน่งเด็กฝึกงานกองบรรณาธิการของ a team Junior

เพลง: ตอนที่ยื่นไปก็ไม่คิดว่าจะได้นะ แค่อยากลองทำงานนิตยสารบ้าง เท่านั้นเอง ผลงานที่ยื่นไปให้คัดเลือกก็เป็นส่วนหนึ่งจากหนังสือ Nice to Meet Me นั่นแหละ (หัวเราะ) ปรากฏพอได้เข้ามาตรงนี้รู้สึกมันเหนื่อยมาก ไม่คาดฝันเลยว่ามันจะต้องมาเหนื่อยอะไรขนาดนี้ แต่มันทำให้ได้รับประสบการณ์หลาย ๆ อย่างเลยนะ เพลงได้ลองไปสัมภาษณ์ ได้ไปเที่ยว ได้ออกไปดูสถานที่ต่าง ๆ  ร้านอาหารอะไรแบบนี้ อยากให้ทุกคนติดตามกันด้วยนะคะใน a day ฉบับที่ 181

“ตอนนี้ทุกอย่างมันมาไกลจากตอนแรกมากเลยค่ะ เพลงไม่เคยคิดว่าเพลงจะมาถึงจุดนี้ได้ ไม่เคยคิดจะเป็นศิลปินหรืออะไรก็ตาม แค่ชอบอะไรแล้วก็ลงมือ มันคือความสุขมากแล้วสำหรับเพลง”

ระหว่างนักดนตรีและนักเขียน

เพลง: ยากนะถ้าให้เลือก แต่ยังไงเพลงคงเลือกดนตรี เพราะมันเติบโตมากับเพลงมาทั้งชีวิตแล้ว เป็นส่วนประกอบของเพลงไปแล้วด้วยค่ะ

เกินความคาดหวังมาแสนไกล

เพลง: ตอนนี้ทุกอย่างมันมาไกลจากตอนแรกมากเลยค่ะ เพลงไม่เคยคิดว่าเพลงจะมาถึงจุดนี้ได้ ไม่เคยคิดจะเป็นศิลปินหรืออะไรก็ตาม แค่ชอบอะไรแล้วก็ลงมือ มันเป็นความสุขของเพลง แต่ทุกวันนี้มันเหมือนเป็นกำไรของการลงมือทำอะไรแบบจริงจังค่ะ

เส้นทางต่อจากนี้ของเพลง ต้องตา

เพลง: คงจะเขียนหนังสือต่อไป กำลังแพลนเรื่องไว้อยู่ตอนนี้ แล้วก็จะเป็นเรื่องเพลงที่อยากทำให้เสร็จและอยากทำอัลบั้มเต็มด้วย เป็นความฝันของศิลปินทุกคนแหละค่ะ

ตึง ตึง ตึง ตึ๊ง ขอฝากประชาสัมพันธ์

เพลง: ฝากติดตามพวกเราวง Plastic Plastic ด้วยนะคะ อดทนรอหน่อย เพลงใหม่ตอนนี้กำลังทำอยู่ น่าจะได้ฟังกันปลายปีนี้ และหนังสือ Nice to Meet Me ด้วยเป็นหนังสือของเพลงเล่มแรกเลย อยากให้ช่วยไปอุดหนุนกันเยอะ ๆ สุดท้ายนี้ฝากฟังใจซีนฉบับนี้ด้วยนะคะ

Facebook Comments

Next:


Gandit Panthong

กันดิศ ป้านทอง อดีตนักศึกษาฝึกงานนิตยสาร Hamburger Magazine, ทำงานในกองบรรณาธิการ MiX Magazine และ บก.คนแรกของ Fungjaizine ที่มีความมุ่งมั่นว่าจะตั้งใจสร้างสรรค์วงการเพลงให้เกิดแต่สิ่งดี ๆ ต่อไปอย่างไม่หยุดยั้ง