ปัญหาระบบนิเวศใต้ทะเลยังเป็นปัญหาใหญ่ ที่หลายฝ่ายพยายามหาวิธีแก้ไขกันอย่างสุดความสามารถ เนื่องจากปะการังใต้ทะเลเริ่มเสื่อมโทรมหรือตายลงในหลายพื้นที่ ทำให้ปลาในแถบนั้นไม่มีที่อยู่อาศัยและลดจำนวนลงอย่างน่าเป็นห่วง ส่งผลกระทบเป็นลูกโซ่สู่สัตว์น้ำตัวอื่นจนมาถึงมนุษย์ แต่ปัญหานี้อาจแก้ได้ด้วย “เสียงเพลง” เป็นอีกครั้งที่นักวิทยาศาสตร์สามารถเยียวยาธรรมชาติให้กลับมาดีอีกครั้งได้อย่างน่าทึ่ง พวกเขาฟื้นฟูปะการังที่เสื่อมโทรมด้วยเสียงดนตรีแห่งชีวิตจากปะการังซึ่งมนุษย์ไม่มีทางได้ยิน ดึงดูดให้ปลามากมายกลับมาที่แนวปะการังทรุดโทรม และฟื้นฟูพวกมันให้กลับมามีชีวิตได้อีกครั้งตามระบบนิเวศธรรมชาติ พวกเขาเรียกมันว่า ‘reef music’ หรือดนตรีแห่งปะการัง ซึ่งในปะการังที่อุดมสมบูณร์จะก้องไปด้วยเสียงมากมาย ทั้งเสียงคลายฟองอากาศของปะการัง เสียงแคะแกะเขี่ยทรายของกุ้งหอยปูปลา เสียงปลาหายใจซึ่งล้วนมาจากความหลากหลายทางชีวภาพใต้ทะเลที่สำคัญเหล่าปลาที่อยู่ในวัยกำลังขยายพันธุ์มักตามหาเสียงเหล่านี้เพื่อหาที่อยู่อาศัย ปัญหาคือปะการังที่เสียหายหรือกำลังจะตายมักจะเงียบเชียบจนน่าใจหาย ห่วงโซ่อาหารก็ย้ายถิ่นฐานจากไป ปล่อยให้พวกมันค่อย ๆ เสื่อมโทรมลงไปช้า ๆ ปลาแต่ละชนิดก็ต้องการปะการังที่แตกต่างกัน ยิ่งทำให้ความหลากหลายทางชีวภาพหายไป กลายเป็นปัญหาใหญ่ที่สุดของระบบนิเวศใต้ท้องทะเล ด้วยเสียง “acoustic enrichment” จังหวะของความอุดมสมบูรณ์เนี่ยแหละที่จะเข้ามากอบกู้หายนะครั้งนี้ พวกเขาทำการทดลองอย่างเข้มข้น ด้วยการวางเครื่องขยายเสียงไว้ใต้น้ำตามปะการังที่ตายแล้วเป็นเวลา 40 วัน ในเขต Lizard Island Research Station ของออสเตรเลีย ซึ่งได้รับรายงานเมื่อสองปีก่อนว่ามีแนวปะการังฟอกขาวไปแล้วถึง 60% ซึ่งเสียงของปะการังที่อุดมสมบูรณ์ก็ดึงดูดปลามาเพิ่มในจุดเดิมถึงสองเท่า สร้างความหลากหลายทางชีวภาพได้มากขึ้น 50% การที่ปลาทั้งหลายมารวมตัวกันทำให้สามารถฟื้นฟูปะการังฟอกขาวได้ แม้ว่าแนวปะการังที่ตายไปแล้วจะดึงดูดปลาที่กำลังหาที่อยู่อาศัยได้น้อยกว่าแนวปะการังที่แข็งแรง ซึ่งจากการทดลองแล้วทำให้มั่นใจว่านอกจากปลาจะมองหาสังคมใต้ทะเลที่ใหญ่กับแหล่งอาหารแล้ว พวกมันก็ถูกดึงดูดด้วยเสียงจริง ๆ ไม่ใช่ภาพชี้นำอื่น ๆ หรือโครงสร้างอันใหญ่โตแม้ปลาจะกลับไปที่แนวปะการังเสื่อมโทรมแต่ก็ชุบชีวิตพวกมันไม่ได้ทันที … Continued