ฟังเพลงไม่เหมือนกัน อาจทำให้ความสัมพันธ์ไม่ราบรื่น การเลือกใครซักคนมาเป็นแฟนมันคงมีปัจจัยที่แต่ละคนใช้ตัดสินไม่เหมือนกัน แต่การเลือกคนที่เหมือนเราไว้ก่อนก็เป็นความคิดที่ดีอยู่แล้ว น่าจะทำให้เราตกหลุมรักกันได้ง่ายขึ้น บางคนจึงเลือกคนที่ฟังเพลงคล้ายกันหรือไปคอนเสิร์ตด้วยกันได้ เราเคยเขียนไปแล้วว่า เพลงทำให้ความสัมพันธ์ของคนเราแน่นแฟ้นขึ้นได้จริง พวกเขาอาจจะเลือกกันถูกแล้วก็ได้ มีผลสำรวจที่ไปเก็บความเห็นของคนชอบฟังเพลงมา หลายคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่ารสนิยมการฟังเพลงก็มีผลกับความสัมพันธ์ของเราด้วยเหมือนกัน ส่วนหนึ่งเป็นเพราะเพลงคือหนึ่งในสัญญะที่เด็กวัยรุ่นใช้เพื่อโฆษณาให้โลกรู้ว่าเราเป็นใคร สะท้อนตัวตนว่าเราเป็นคนยังไงเพื่อสร้างจุดยืนทางตัวตนของเราบนสังคม หรือเพื่อบอกเล่าความเชื่อที่มีต่อโลกนี้ เรามักจะเปลี่ยนไปเมื่อคบเพื่อนคล้ายการแลกเปลี่ยนเพลงที่ฟังกัน บางคนจึงเริ่มตามหาเพลงที่ไม่เคยมีใครฟังเพื่อให้ตัวเองพิเศษกว่าคนอื่น เพลงที่เราฟังยังบอกได้ถึงคุณค่าในตัวของเราด้วย (เหมือนที่บางคนหวงเพลงที่เราชอบเพราะต้องการรักษาตัวตนของเราไว้ไม่ให้เหมือนใคร) เพราะฉะนั้นการที่เราถูกปฎิเสธเพลงที่เราชอบก็เหมือนถูกปฎิเสธตัวตนของเราด้วย เว็บไซต์ขายบัตรออนไลน์อย่าง TickPick เก็บผลสำรวจว่ารสนิยมในการฟังเพลงส่งผลกับความสัมพันธ์ของพวกเขาหรือไม่ มีตัวเลขที่น่าสนใจมากว่ามีเพียง 2% ของคนที่ทำแบบสอบถามเท่านั้น ที่คบกันรอดทั้งที่ฟังเพลงไม่เหมือนกันเลย และคู่รักที่ฟังเพลงเหมือนกันก็มีความสัมพันธ์ที่น่าพอใจ สื่อสารทางอารมณ์เข้าใจซึ่งกันและกัน และยังมีตัวเลขน่าสนใจอีกเยอะมาก 1 ใน 5 ของคนที่ทำแบบสอบถามไม่เคยออกเดทกับคนที่ฟังเพลงไม่เหมือนตัวเองเลย มีผู้หญิงแค่ 46% และผู้ชาย 54% เท่านั้น ที่ยอมออกเดทกับคนที่ฟังเพลงไม่เหมือนตัวเอง ผู้ชายส่วนใหญ่คิดว่าผู้หญิงที่ฟังเพลงฮิปฮอปไม่ค่อยน่าสนใจ ส่วนผู้หญิง(ผิวขาว)ส่วนใหญ่บอกว่าผู้ชายที่ฟังเพลงเฮฟวี่เมทัลไม่น่าดึงดูดเลย กลับกัน ผู้หญิงกลับรู้สึกว่าผู้ชายที่ฟังฮิปฮอปมีเสน่ห์มาก ส่วนผู้ชายรู้สึกว่าผู้หญิงฟังเพลงร็อกนั่นน่าสนใจสุด ๆ ในคู่รักที่ทั้งสองชอบเพลงร็อก แจ๊ส คันทรีหรือโฟล์กเหมือนกัน ให้ระดับความพึ่งพอใจในความสัมพันธ์ของตัวเองถึง 8.5 เต็ม 10 อ่านจบแล้วก็ใจเย็น ๆ อย่าเพิ่งคิดว่าฟังเพลงไม่เหมือนกันแล้วจะต้องเลิกกับแฟนทันที … Continued