Zweed N' Roll วงดนตรีอัลเทอร์เนทิฟร็อกที่มีการเดินทางยาวนานมาถึง 8 ปี เล่นทุกเพลงโปรดของคุณให้ฟังและร้องไปพร้อม ๆ กันใน Zweed n' Roll The First Full Concert

Article ระเห็ดเตร็ดเตร่

ประทับใจกับคอนเสิร์ตใหญ่ครั้งแรกในชีวิต Zweed n’ Roll The First Full Concert

  • Writer & Photographer: JINO

Zweed N’ Roll วงดนตรีอัลเทอร์เนทิฟร็อกที่มีการเดินทางยาวนานมาถึง 8 ปี บางคนอาจจะรู้จักพวกเขาจากเพลง ธันวาคม บางคนรู้จักจากเพลง ช่วงเวลา แต่ไม่ว่าจะเป็นเพลงอะไร พวกเขาก็เตรียมมาเล่นทุกเพลงโปรดของคุณให้ฟังและร้องไปพร้อม ๆ กันใน Zweed n’ Roll The First Full Concert คอนเสิร์ตใหญ่ครั้งแรกในชีวิตของพวกเขา

29 กุมภาพันธ์ 2563

ประตูเปิดให้เข้างานตอน 17.00 น. และเราไปถึงงานสิบนาทีให้หลัง เพราะต้องการมาซื้อ merchandise ของวง คิดว่าคนอื่นน่าจะมาช่วงใกล้แสดง (19.00 น.) แน่ ๆ แต่.. เราคิดผิดถนัด ภายในงานมีเหล่าแฟนเพลง Zweed N’ Roll จำนวนมากยืนต่อแถวกัน ซึ่งมองเห็นได้ตั้งแต่จากประตูทางเข้าไกล ๆ

ระหว่างทางเดินเข้างาน ประตูแรกมีแมสก์แจกและเจลล้างมือให้ผู้เข้างานเพื่อป้องกัน covid-19 ที่กำลังแพร่ระบาดอยู่ในช่วงนี้ ทุกคนภายในงานทำตามระเบียบของงานและมาต่อแถวซื้อสินค้ากัน งานนี้จำกัดให้ซื้อสินค้าได้ไม่เกินคนละ 2 ออเดอร์ เราต่อแถวอยู่ประมาณ 1 ชั่วโมง ก็ถึงคิว ซื้อสินค้าเสร็จประมาณ 18:30 น.

พอได้เวลา 19:00 น. เหล่าบรรดาแฟนคลับก็เริ่มต่อแถวรอเข้าฮอลกันอย่างหนาแน่น เพื่อที่จะรีบเข้าไปจับจองพื้นที่ด้านใน staff ทุกคนจะยืนตรวจความเรียบร้อยพร้อมถือขวดแอลกอฮอล์เพื่อแจกจ่ายให้กับทุกคนก่อนผ่านเข้าประตู เข้ามาถึงภายในฮอล ทุกคนจับจองพื้นที่กันแน่นขนัด เราได้ที่ยืนท้ายสุดของฮอลเลยแม้จะเข้ามาเร็วมากแล้วนะ ตอนนั้นก็ได้ยินเสียงน้ำคลอ เบาๆ สร้างความรู้สึกดำดิ่งลงไปตั้งแต่ศิลปินยังไม่ขึ้นโชว์เลยทีเดียว

เวลาประมาณ 20:40 เสียงเริ่มเงียบลง ในฮอลมืดสนิท หลังจากนั้นไม่นานบนเวทีก็เริ่มมีแสงสว่างขึ้นมา ภาพที่เห็นบนเวทีคือ วง Zweed’n roll พร้อมเครื่องสาย และทีมคอรัส เริ่มต้นบรรเลงคืนนั้นด้วยเพลงแรกที่ชื่อว่า Blow Over และต่อด้วย ธันวาคม

จากนั้นไฟในฮอลเริ่มเปลี่ยนเป็นสีแดง ในเพลง You เปลี่ยนเป็นจังหวะที่เริ่มสนุกขึ้นมาหน่อยด้วยเพลง ทุกวัน ต่อด้วย Always จากนั้นแสงไฟในฮอลก็ค่อย ๆ ดับลงพร้อมบรรยากาศที่เงียบสนิทภายในฮอล จากนั้นสปอตไลต์ ก็ฉายแสงลงมาที่กลางสุดของเวที คนที่ยืนอยู่บนนั้นไม่ใช่พี่พัด แต่เป็นพี่ตุล อพาร์ตเมนต์คุณป้า พร้อมกับเพลง ฉันเชื่อในการจากลา ฉันจึงมาหาหนทางของเรา” เป็นโปรเจกต์ที่ทางวงและพี่ตุลร่วมงานกัน

จากนั้นกลับมาอยู่ต่อกับ Zweed’n roll ด้วยเพลง Another dimension ต่อด้วย Restless, Linger , Lies จากนั้นไฟภายในงานเริ่มเปลี่ยนเป็นสีขาวจากสีเหลืองวอร์ม ๆ ต่อกันด้วยเพลง Diary หลังจากที่เพลงนี้จบลง เราก็เพิ่งได้ยินเสียงพี่พัดพูดเป็นครั้งแรก หลังจากที่เริ่มเล่นมาสักพักใหญ่ พี่พัดแนะนำศิลปินทั้งหมดบนเวที พร้อมด้วยบอกว่าเพลงนี้เป็นเพลงสุดท้าย (ปล่อยให้แฟนเพลงงงกันไป) และยังหันกลับไปถามเพื่อนในวงว่า “กูพูดจบสวยไหม” ทำให้เรียกเสียงฮากันไป

ไฟในฮอลมืดลง แต่ยังพอมีแสงอยู่บ้าง ทำให้เห็นว่ายังมีคนเดินอยู่บนเวที แต่ไม่สว่างพอที่จะเห็นว่าเขาทำอะไรกันอยู่ แต่เหล่าบรรดาแฟนเพลง ก็ยังรอกันอยู่ในฮอล หลังจากนั้นประมาณ 10 นาที ไฟในฮอลเริ่มสว่างขึ้น แต่มีโซฟาขึ้นมาวางด้วย พี่พัดพูดขึ้นมาว่า “เพลงของเราหมดไปแล้วนะคะ เพลงต่อไปคือเพลงที่เราแต่งไว้นานแล้ว เป็นเพลงที่แย่สุด ๆ ไปเลยในชีวิต” ต่อด้วยเพลงที่เพิ่งแต่งเสร็จเมื่อ 2 วันที่แล้ว ชื่อเพลงว่า อยากมีความหมาย หลังจากเพลงนี้จบลง มีคนเดินขึ้นมาเวที และมานั่งลงบนโซฟาที่มีที่ว่างอยู่หนึ่งท่าน โดยที่เรากำลังจดจ่ออยู่กับวง โดยไม่ได้สังเกตเลยว่า มีที่นั่งว่างอยู่ คนที่เดินขึ้นบนเวทีนั่นก็คือ พี่เอ้ Beagle Hug พร้อมร่วมกันร้องเพลง ช่วงเวลา เป็นเพลงสุดท้าย

คอนเสิร์ตจบลงไปอย่างงดงาม พร้อมความประทับใจที่จะอยู่กับแฟนเพลงของ ZweedN’Roll และวงไปอีกนาน

Facebook Comments

Next: