Interview

ความสัมพันธ์เอย จงซับซ้อนยิ่งขึ้น ใน ‘เข้าข้างตัวเอง(อีกแล้ว)’ เพลงล่าสุดจาก ETC

ETC ศิลปินป๊อปรุ่นพี่ของวงการ กลับมาอีกครั้งในซิงเกิ้ลที่ 3 ที่ร่วมงานกับค่าย Muzik Move ในเพลง เข้าข้างตัวเอง(อีกแล้ว) มาอ่านเบื้องหลังการทำงานของเพลงนี้ และโปรแกรมที่กำลังจะเกิดขึ้นของพวกเขากัน

มาร่วมงานกับ Muzik Move ได้ยังไง

หนึ่ง: จริง รู้จักกับคนทำงานเบื้องหลัง Muzik Move อยู่แล้วครับ รวมทั้งหัวหน้าค่ายคือพี่จุ๊บ วุฒินันท์ ก็สนิทกันเป็นการส่วนตัวมาสิบกว่าปีแล้ว พอหมดสัญญาจากที่เก่าก็เลยตั้งใจมาอยู่ที่นี่เลย แล้วปีที่แล้วก็ปล่อยมาสองเพลง ชื่อ Lies กับ กอดได้ไหม

วางแผนทิศทางการทำงานให้ต่างจากชุดก่อน ยังไงบ้าง

หนึ่ง: ก็เป็นการต่อยอดแหละครับ ETC ทำงานกันมา 4 อัลบั้มแล้ว การมาอยู่ Muzik Move ก็รู้สึกดีใจที่ได้มาเจอทีมงานที่แข็งแรง ทีมครีเอทิฟ ฝ่ายขายต่าง ทำให้ภาพในหัวเรารู้ว่าจะทำเพลงออกมายังไงให้ไปได้พร้อมกันหมด

เนื้อหาสามเพลงรวมถึงเพลงล่าสุดมีความเชื่อมโยงกันไหม

หนึ่ง: ETC ก็มีแนวทางดนตรีที่ชัดเจนอยู่แล้ว เนื้อหาก็เกี่ยวกับความรักมุมต่าง เพลงแรก Lies ก็เป็นความสัมพันธ์ที่มีการโกหกกัน อีกคนรู้สึกเหมือนตกอยู่ในสถานะที่ยังไงก็เลือกที่จะอยู่ ยอมให้เขาหลอกเราเพราะรักเขาไปแล้ว อีกเพลงคือ กอดได้ไหม เป็นฟีล positive หน่อย พูดถึงคนที่อยากได้กำลังใจด้วยการกอดคนที่เรารัก

ซิงเกิ้ลล่าสุด เข้าข้างตัวเอง (อีกแล้ว) ก็เป็นบัลลาดของ ETC ก็ยังพูดถึงความสัมพันธ์ แต่เป็นสถานะที่ไม่ชัดเจน เพลงนี้ย้อนกลับไปก็คล้าย เพลง เปลี่ยน ของเราเมื่อก่อน มีความเป็นเพลงอกหักในตัว แต่ก็เป็นเพลงเยียวยาจิตใจไปด้วย เปลี่ยน คือ เราพยายามปรับตัวเท่าไหร่ เปลี่ยนแปลงตัวเองเท่าไหร่ เขาก็ไม่รัก ยิ่งไม่เป็นตัวของตัวเอง สุดท้ายแล้วเราไปรักคนที่เขารักเราดีกว่าไหม ก็ปลอบตัวเองไปด้วย เข้าข้างตัวเอง (อีกแล้ว) ก็เหมือนเป็นการเตือนสติตัวเองว่าเขาไม่ได้คิดอะไรกับเรา เราก็น่าจะตัดใจได้แล้ว

แต่ละคนแบ่งพาร์ตทำงานยังไงเป็นพิเศษไหม

หนึ่ง: การเรียบเรียงครับ ส่วนใหญ่ใครเรียบเรียงเป็นหลักคนนั้นก็จะเป็นหัวหน้า อันนี้พี่บีเป็นผู้นำทีมเรียบเรียงในเพลงนี้

มิวสิกวิดิโอค่อนข้างสับขาหลอกคนดู

หนึ่ง: ก็ประชุมกับทีมครีเอทิฟ ผู้กำกับ หาเรเฟอเรนซ์มาดูกัน แล้วรู้สึกว่าอยากได้การเล่าเรื่องหลาย ชั้นหน่อย ไม่ใช่ A B C D จบ เพราะชื่อเพลงมันคือ เข้าข้างตัวเอง (อีกแล้ว) ผู้กำกับก็อยากให้คนดูได้ฟีลเหมือนเข้าข้างตัวเองเวลาที่ดูด้วย ดูแล้วมันต้องเป็นแบบนี้แน่ เลย ซึ่งจริง ไม่ใช่อย่างที่คุณคิด มีการหักมุม

ในฐานะที่เป็นคนเขียนเพลงมาโดยตลอด มีมุมมองความรักเป็นยังไงบ้าง

หนึ่ง: จริง มุมมองความรักมันเหมือนวนเวียน มีรักกัน มีความสัมพันธ์ ไม่เข้าใจ เสียใจ เลิกรา เรื่องราวพวกนี้ก็หยิบมาเขียนเป็นเพลงได้หลาย มุมในทุก ครั้ง ทุก ปีเลย แต่ยุคปัจจุบัน อย่างที่ได้เพลงเข้าข้างตัวเอง (อีกแล้ว) ก็เป็นมุมมองที่ได้มาจากความสัมพันธ์ที่ไม่ชัดเจน มากกว่าแค่เพื่อน แต่ไม่ใช่แฟน แบบที่หลายคนเจอกันเยอะ มันก็สะท้อนให้เห็นว่าคนในปัจจุบันเขามีความสัมพันธ์กันแบบนี้ มันซับซ้อนขึ้น ความสัมพันธ์มีหลายเลเวล category แบ่งย่อยเยอะขึ้นจนมีมุมให้มาเขียนได้เยอะ ถ้าเมื่อสิบปีที่แล้วเราอาจจะไม่สามารถเขียนเพลงแบบนี้ขึ้นมาได้ หรือคนก็อาจจะไม่ได้อิน

ยังทำเพลงประกอบละครอยู่หรือเปล่า

หนึ่ง: ก็ยังมีเรื่อย ครับ แล้วแต่ จริง เพลงละครเป็นเหมือน side project มากกว่า ไม่ได้เป็นงานหลักอยู่แล้ว

อัลบั้มเต็มชุดใหม่

หนึ่ง: ตอนนี้เริ่มได้สามเพลง เราจะทยอยเป็นซิงเกิ้ลเรื่อย ถ้าครบก็น่าจะรวมเป็นอัลบั้ม ปีหน้าครับ น่าจะมี 6-8 เพลง

โซ่: สมัยนี้เขาก็ทำเพลงกันเป็นซิงเกิ้ลเนาะ เราก็วางไทม์ไลน์โครงหลักไว้ 10-11 เพลง วางแผนไว้ แล้วพยายามจะทำให้ได้ตามแผน แต่ชีวิตจริงแล้ว เมื่อเวลาผ่านไป บางทีมันอาจจะมีการเปลี่ยนแผนกลางทาง โครงเดิมก็ยังอยู่ อย่าง 10 เพลงที่จะทำภายใน 3 ปีนี้ มีช้ากี่เปอร์เซนต์ กลาง เร็ว กี่เพลง แต่ในทางปฏิบัติจริง พอเราทำออกมาแล้วมันไปอีกทาง แล้วดีไปอีกแบบ เราก็ยอมที่จะเปลี่ยนแผนได้เลยถ้าคิดว่าสิ่งนั้นลงตัวกว่า แต่เราก็จะไม่ได้รอ feedback ตอนปล่อยนะครับ เราจะรอตอนที่เราทำงานเนี่ยแหละ

หนึ่ง: แผนการทำงานเราไม่ได้ตายตัว คอนเซ็ปต์ค่อนข้างเป็นอิสระไปเป็นเพลง แต่จะนึกถึงปลายทางว่าจะต้องไปอยู่ในอัลบั้มเดียวกัน ทำให้มีการคุมโทนไว้อยู่ ด้านคอนเทนต์เราก็พยายามทำให้รู้สึกว่ามันเล่าในเรื่องที่ต่างกัน

คำจำกัดความเพื่ออธิบายสไตล์ของแต่ละชุดที่ผ่านมา

หนึ่ง: ถ้าอัลบั้มแรกก็น่าจะเป็นเด็กจบใหม่’ (โซ่: ร้อนวิชา) ไร้เดียงสา เพราะว่าทำทุกอย่างมาจากใจล้วน ยังไม่ได้กรอง ทำแบบรู้สึกว่าอันไหนดีก็จะทำ

อัลบั้มที่ 2-3 มาเขาเรียกว่า (โอเล่: จับทางได้) เขาเรียกว่า เริ่มเจอประสบการณ์ชีวิต มันก็เริ่มจะมีการกรองมากขึ้น ปล่อยของเยอะขึ้น

พอโตขึ้นเพลงที่จะปล่อยแต่เพลง จะเขียนเนื้อ คิดเรื่องกันแต่ละทีมันก็จะยากขึ้น เพราะบางเรื่องเคยพูดไปแล้ว มันก็น่าจะเป็นกันหลาย ศิลปิน เวลาทำอัลบั้มหลัง มา จะคิดว่าต้องพูดเรื่องอะไรดี หรือเราจะต้องโตขึ้นไหม ก็ ETC พยายามหามาเรื่อย ว่าเราจะนำเสนอดนตรีหรือเรื่องเล่าแบบไหนดี

มีวิธี refresh ตัวเองยังไงให้เขียนงานใหม่ ได้

โซ่: ผมพยายามหาข้อมูลให้มากขึ้น ยิ่งอยู่ในวงการมานาน การที่กลับไปทำงานกับรุ่นน้องเด็ก ทำให้เราได้รับความสดชื่น พลังงานมาจากเขาได้เยอะมาก ได้แลกเปลี่ยนกับน้อง เยอะเลย อีกอย่างคือการเอาคนอื่นมาร่วมทีมบ้าง อย่างสิ่งที่เราสัมผัสเลยคือการได้มาทำงานกับ Muzik Move นั่นคือการ refresh มาก เพราะทีมงานทั้งหมดเป็นทีมใหม่ ตั้งแต่ exucutive producer, creative, pr, art director เป็นเคมีใหม่ ซึ่งเราได้พลังใหม่ แล้วเราก็พยายามหาน้อง มาทำงานด้วย เราไปหานักแต่งเพลงใหม่ที่เราชอบ อย่างเพลง เข้าข้างตัวเอง เป็นเพลงที่เราไม่ได้เขียนกันเอง เราให้คอนเซ็ปต์ อยู่ในโต๊ะประชุม นักแต่งเพลงเป็นผู้หญิง ชื่อน้องแอ้ม เขาเขียนเพลงฮิตหลาย เพลง นี่ก็เป็นสิ่งนึงที่รู้สึกว่าพอมีคนใหม่ มาเจือในทีมมันทำให้เราเป็น ETC ที่มีเคมีใหม่ สำเนียงใหม่

การเป็นนักเขียนเพลงผู้หญิงทำให้มุมมองการเล่าเรื่องความรักในเพลงของ ETC ต่างไปไหม

โซ่: พี่นี้พี่ว่าต่างสุด เลย

หนึ่ง: เขามีรายละเอียดที่บางทีเราอาจจะมองไม่เห็นเท่าเค้า เป็นเรื่องอารมณ์ด้วย จริง เพลง ETC จะมีความเป็นผู้หญิงเยอะเหมือนกัน ตั้งแต่เพลง เปลี่ยน อะไรแล้ว mv ของเราก็มักจะเป็นผู้หญิงดำเนินเรื่อง เพราะเพลงเราเล่ารายละเอียดของอารมณ์เยอะ

ปกติจะเห็นภาพหนึ่งตีกลอง ตอนนี้ยังตีอยู่ไหม

หนึ่ง: ตีตอนอัดเสียงเท่านั้นเองครับ แต่ตอนเล่นสดไม่ได้ตีแล้ว เพราะว่าเคยตีอยู่ตอนอัลบั้มแรก ถ้าใครทันมาดูจริง ก็จะเคยเห็นบ้าง แล้วอัลบั้มแรกยังไม่ค่อยออกทัวร์ด้วยเพราะยังไม่ดัง

โซ่: ทุก เพลงในห้องอัดหนึ่งจะตี แต่ในชีวิตจริงพอออกทัวร์มันไม่สะดวก ต้องตี ต้องร้อง

หนึ่ง: คือเราเคยคิดแหละว่าจะนำเสนอในรูปแบบนี้ ที่นักร้องนำมาตีกลอง แต่พอเล่นหลาย ทีเข้ามันไม่ประสบความสำเร็จในด้านการ entertain หรือมีส่วนร่วมกับคนดู เพราะมือพี่เองสองข้างมันก็ไม่ว่างแล้ว ถือไม้กลอง จะใช้คำว่าขอมือ ยังทำไม่ได้เลยครับ เลยได้พี่ดำมือกลองระดับประเทศมาร่วมวงตั้งแต่อัลบั้มสอง

เร็ว นี้จะมีแผนไปทำอะไรอีก

หนึ่ง: จะได้ไปเล่นที่ญี่ปุ่น งาน Thai Festival เดือนพฤษภาคมครับ แต่ต้องดูสถานการณ์ covid-19 อยู่ อาจจะไม่ทัน ไม่แน่ใจ

โซ่: งานส่งเสริมการท่องเที่ยวประเทศไทยครับ น่าจะได้เล่นทั้งโตเกียว โอซาก้า แล้วเรากำลังจะไป featuring กับศิลปินญี่ปุ่น เอา 3 เพลงใหม่ของ ETC เนี่ย ไปทำเป็นภาษาอังกฤษกับภาษาญี่ปุ่น ร้องกับศิลปินท้องถิ่นที่นู่น อยู่ในช่วงการเริ่มทำงานครับ มีชอยส์ศิลปินที่จะร่วมงานด้วยระดับนึงแล้ว

ฝากผลงาน

หนึ่ง: ก็ฝากซิงเกิ้ล เข้าข้างตัวเอง(อีกแล้ว) สำหรับแฟนเพลงที่ติดตาม ETC มาโดยตลอด เป็นอีกหนึ่งเพลงที่ค่อนข้างมีลายเซ็นของพวกเราชัดเจน หลาย คนได้ฟังน่าจะชอบ ก็ฝากเพลงนี้และ mv ด้วยครับ

 

Facebook Comments

Next:


Montipa Virojpan

อิ๊ก เนิร์ดดนตรีที่เพิ่งกล้าเรียกตัวเองว่าเป็นนักเขียนตอนอายุ 25 ชอบเดินเร็ว นอกจากขนมปังกับกาแฟดำแล้วก็สามารถกินไอศกรีมกับคราฟต์เบียร์แทนมื้อเช้าได้