Interview

‘ดนตรีไม่มีกำแพงภาษา’ ก้าวใหม่ Adora ภายใต้บ้าน GeneLab ส่งซิงเกิลล่าสุด Ms. Brainwash มาให้เราฟังแล้ว!

Adora สี่หนุ่มลูกผสมไทย-ญี่ปุ่น ที่เราได้เห็นการเติบโตของการพยายามทลายกำแพงภาษาในดนตรีจากพวกเขามาเสมอ ที่วันนี้พวกเขาก็ตัดสินใจเข้าไปอยู่ใต้หลังคาบ้าน GeneLab เป็นที่เรียบร้อยแล้ว พร้อมส่งซิงเกิลล่าสุด Ms. Brainwash ออกมาให้เราได้สนุกหูกันกับเรื่องราวของความสัมพันธ์ที่เราต่างหลอกตัวเองไว้ ทั้ง ๆ ที่ความจริงมันไม่เคยมีความสุขอยู่ในช่วงเวลานั้นเลย มาพูดคุยและทำความรู้จักพวกเขา Adora ให้มากขึ้นกัน!

ADORA

 

adora-2023ฮิโรชิ – กีตาร์

กีตาร์ – ร้องนำ, กีตาร์, ​ เปียโน

ต้า – เบส

นาม – กลอง

เล่าให้ฟังหน่อยว่าไปอยู่ GeneLab ได้ยังไง

กีตาร์: ต้องย้อนไปเลยว่าเราไม่ได้กะจะมาถึงตรงนี้เลยตั้งแต่แรก ทำเพราะสนุกเท่านั้น แต่ที่มาดู GeneLabได้เป็นเพราะตัวผมไปสังสรรค์กับเพื่อนแล้วก็ไปเจอร้านหนึ่งที่คนเต็มไปหมดเลย ตอนแรกกะจะไม่เข้าไปแล้ว แต่มีคนโบกมือเรียกให้เข้าไป เราก็บอกว่าไม่เป็นไร​ ซึ่งเขาก็ตอบว่าไม่เป็นไรเดี๋ยวพี่เลี้ยง ซึ่งเขาก็เลี้ยงจริง ๆ ก็ยังแอบงงอยู่ว่าเกิดอะไรขึ้น เขาเป็นใครไม่รู้ที่เมามากแล้วก็บอกกับเราว่าเพื่อนเขาทำงานอยู่ค่ายเพลงซึ่งก็คือ GeneLab เขาก็บอกถ้าเพลงถึง ริธึมได้ก็ส่งเลย ซึ่งเราเองก็ไม่ได้พูดเลยว่าเราเล่นดนตรี ก็กลายเป็นได้ยื่นนามบัตรวงไปให้เขา และได้คุยกันนิดหน่อยว่าจริง ๆ ทำเพลงญี่ปุ่นอยู่ เพราะชอบและอยากทำ โดนถามชื่อแล้วเขาก็บอกว่า โอเค เดี๋ยวเจอกัน! 

พอผ่านไปราวสองวัน GeneLab ก็โทรมา เราก็ไม่คิดว่าจะเป็นจริง เขาโทรมาหาก่อนว่าใช่กีตาร์ไหม หิวข้าวหรือยัง กินข้าวไหม แต่ก็หิวก็เลยเข้าไปที่ตึกสุดท้ายเจอพวกเขาทั้งทีมเลย พี่ ๆ นั่งกันอยู่ก็ตกใจเพราะพี่คนอื่นในวงไม่ได้ว่าง ก็เลยตัดสินใจบอกคนอื่นในวงว่าค่ายสนใจแต่ไม่มีใครเชื่อเลย อาจเพราะผมพูดไปเรื่อยบ่อย (ขำ) สุดท้ายคือเขาสนใจ Adora เราก็ขอเวลามาตัดสินใจกันก่อน จนสุดท้ายก็ได้อยู่ที่นี่ฮะ

ฮิโรชิ: จริง ๆ ตอนนั้นมีราวสองสามค่ายที่ติดต่อมา ก็คิดกันหนักพอสมควรเลยว่าจะไปอยู่ที่ไหนดี ซึ่งมันเป็นช่วงหลังปล่อย EP พอดีเลย เหมือนข้อตกลงตรงกันที่สุดแล้วก็เลยได้ร่วมงานกัน

คำนิยาม J-Rock, J-Pop ในแบบของ Adora เป็นยังไง

กีตาร์: สำหรับผมมันคือดนตรีที่มีชาติกำเนิดมาจากญี่ปุ่น โดยไม่มีบุคคลเกี่ยวข้องนะครับ ไม่จำเป็นต้องเป็นคนที่เกิดในญี่ปุ่นก็ได้ แค่คุณเล่นออกมาแล้วมันมีกลิ่นอายความเป็นต้นฉบับของญี่ปุ่น แม้ไม่เป็นรูปเป็นร่างก็ตามเพราะเอาเข้าจริงก็อธิบายตรงตัวได้ยาก แต่สำหรับผมมันคือแค่มีกลิ่นอายความเป็น J อยู่ จริง ๆ ภาษาก็อาจไม่เกี่ยวนะครับ เราอาจจะใช้ภาษาอังกฤษหรือไทยเล่าก็ได้ แต่ถ้ามัน J จริง ๆ มันก็ได้ยินเลยทันทีสำหรับผม

ผมเคยได้มีโอกาสเล่นแบ็คอัพวงญี่ปุ่น จนมีโอกาสได้ร้องบ้างเพลงในโชว์ จนได้เป็นศิลปินเดี่ยวไปเล่นตามที่ต่าง ๆ ในญี่ปุ่น ด้วยความที่ญี่ปุ่นเปิดกว้างประมาณหนึ่งมันเลยทำให้เขาสนใจด้วย ดูจากการที่มันเกิดคำว่า J มาได้มันหมายความว่าดนตรีของพวกเขามันเป็นเอกลักษณ์มาก ๆ จริง ๆ 

ฮิโรชิ: ของผมก็เหมือนกับของกีตาร์เลยครับ ผมว่ามันมองกันที่ elements มากกว่า ถ้าฟังแล้วเหมือนมันรู้เลยไม่สามารถอธิบายได้เหมือนกัน แต่ถ้าฟังปุ๊บก็รู้ปั๊บเลยทันทีว่าอันนี้คือสิ่งนี้เพราะมันค่อนข้างมีเอกลักษณ์ที่ชัดเจนจริง ๆ 

Ms. Brainwash


กีตาร์: ส่วนใหญ่ในการทำเพลงผมจะเริ่มก่อน รอบนี้ดนตรีกับเมโลดี้มาพร้อมกัน

ฮิโรชิ: เหมือนฮุกมาก่อนเลย

กีตาร์: ใช่ มาก่อน แต่ยังไม่มีเวิร์สเพราะยังไม่รู้ว่าจะแต่งยังไง ผมก็เลยพยายามเขียนดนตรีให้เสร็จก่อนแล้วก็รู้สึกว่าอยากเติมอะไรบ้างส่วนนั้นส่วนนี้ก็เลยโยนไปให้พี่นามกับพี่ฮิโรชิเสริมในเรื่องที่ผมไม่ถนัด ส่วนตัวเนื้อเพลงก็มาเขียนต่อทีหลัง เนื้อหาเพลงเกี่ยวกับคู่รักที่เคยอยู่ด้วยกันแบบมีความสุข พอวันที่เลิกราจากกันความสุขที่เคยเกิดขึ้น เคยใช้เวลาร่วมกันมันคืออะไรกันแน่ หรือมันเป็นแค่เรื่องโกหก เหมือนเราถูกล้างสมองให้รู้สึกว่ามีความสุขอยู่ตลอดเวลา ณ ช่วงเวลานั้น แต่จริง ๆ มันไม่ได้มีความสุขเลย เปรียบเป็น toxic relationship เลยก็ว่าได้ครับที่เราหลอกตัวเองกันทั้งคู่ ส่วนดนตรีเราทำแยกกันด้วยยุคสมัย เราออนไลน์กันเยอะมากแล้วค่อยมารวมร่างกัน ไม่ค่อยได้ซัดกันในห้องซ้อม

ฮิโรชิ: มันจะมีช่วงที่ขึ้นโครงเราก็พยายามเลือก elements บางอย่างให้โครงสมบูรณ์ที่สุดไว้ก่อน พอใกล้จะจบเพลงเราไปรวมตัวกันที่บ้านกีตาร์เพื่อทำดีเทลเล็ก ๆ น้อย ๆ ด้วยกัน จริง ๆ ทุกเพลงก่อนหน้านี้ก็ทำกันแบบนี้ มันจะไม่เสร็จทีเดียวแต่แรกค่อยมาคิดด้วยกันที่บ้านกีตาร์ ว่าความรู้สึกตอนที่ฟังแต่ละท่อนมันทำให้รู้สึกยังไงกันบ้าง

FJZ: เทียบกับเพลงก่อน ๆ เพลงนี้ยากไหม หรือรู้สึกยังไง

ต้าร์: ของผมรู้สึกยากกว่าครับ เพราะตอนส่งเดโมมารู้สึกว่าเพลงมันประหลาดมาก ส่วนประหลาด ทางคอร์ดก็ประหลาด แต่พอเริ่มฟังไปเรื่อย ๆ ก็รู้สึกว่ามันได้อยู่นะ พอผ่านการตบตีกันมาประมาณหนึ่งก็ได้ออกมาแบบนี้

ฮิโรชิ: เป็นเพลงแรกที่ต้าร์ใช้ซินธ์เบสด้วยหรือเปล่านะ

ต้าร์: ใช่ ๆ ได้ของใหม่มาก็ลองจัดเลย ซื้อมาคุ้มแล้วครับ (ขำ)

เวลาไปเล่นดนตรีแล้วเจอแฟน ๆ พวกเขาเป็นยังไงกันเวลายืนฟังเพลงจากพวกเรา

กีตาร์: ถ้าเป็นช่วงแรก ๆ เลยผมรู้สึกว่าเขาน่าจะเหวออยู่พอสมควรครับ มันจะมีงานหนึ่งที่รู้สึกว่าคนเริ่มเยอะจริง ๆ คืองานที่ได้ไปเล่นกับ Dept ครับ แล้วคนส่วนใหญ่ก็จะเป็นแฟนคลับ Dept ฮะ พอได้เล่นเพลงของ Adora ที่มันฉีก ซึ่งถึงแม้เขาจะไม่คุ้นเคยกับเพลงพวกผมก็ยังน่ารักกันมาก ๆ คอยโบกมือเอ็นจอยไปด้วย

ฮิโรชิ: มันมีงานหนึ่งที่เป็นอีเวนต์ NFT วันนั้นเราได้เล่นกับ KIKI, Bomb At Track และก็ panician เขาน่าจะรวมสายที่อินเตอร์ไป ซึ่งก็มีฝรั่งที่เดินทางมาอีเวนต์ในไทยค่อนข้างเยอะ เราได้เห็นสีหน้าแววตาของเขาที่ดูว้าวมาก เป็นคนดูที่ประทับใจที่สุด

 

ความท้าทายของกำแพงภาษาเมื่อตัดสินใจทำเพลงญี่ปุ่นในไทย

กีตาร์: อย่างแรกน่าจะเป็นเรื่องที่เราไม่ได้เป็นคนญี่ปุ่น แต่แค่เป็นคนที่เรียนภาษาญี่ปุ่น หรือว่าคลุกคลีอยู่กับวัฒนธรรมญี่ปุ่น มันก็ทำให้เราไม่สามารถเข้าใจความเป็นคนญี่ปุ่นได้ร้อยเปอร์เซ็นขนาดนั้นแต่พอใช้ประสบการณ์หลาย ๆ อย่างดู เช่น เราลองใช้ภาษาอื่นที่ไม่ใช่ภาษาแม่ตัวเองในการแต่งเพลงมันจะมีมุมมองบางอย่างที่ไม่ใช่ของคนญี่ปุ่น เป็นของคนไทยเลยแต่เราใช้ภาษาญี่ปุ่นในการสื่อสาร สมมติว่าเขาเรียงไวยกรณ์กันจากหน้าไปหลังแล้วกลับมากลาง แต่เราเรียงจากหน้าไปหลัง เราอาจไม่รู้สึกตัวตอนเล่าแต่ด้วยความที่ไวยกรณ์มันต่างกันมันเลยทำให้เราเล่าเรื่องไม่เหมือนกัน เราอาจจะเล่าจากหัวเรื่องแล้วค่อยเล่าเนื้อหา แต่กลับกันคนญี่ปุ่นเขาจะเล่าเนื้อหาก่อนแล้วค่อยบอกว่าสิ่งนี้หัวข้อมันคืออะไร มันเลยทำให้คนญี่ปุ่นเวลาฟังก็อาจจะเอ๊ะนิดหนึ่ง ที่เราเล่าเรื่องไม่เหมือนกับเขา ต่อให้เราจะใช้ภาษาถูกทุกคำแล้วก็ตาม มันอาจจะทำให้คนญี่ปุ่นที่ได้ฟังตกใจประมาณหนึ่งเลย แต่ไม่อยากให้มองว่ามันเป็นไปไม่ได้ 

ถ้าจะให้มองเรื่องสนุกจากการทำเพลงญี่ปุ่นมันคือการที่เราได้ทำในสิ่งที่เราอยากทำจริง ๆ ฝันอยากทำมาตลอดแต่เราเป็นคนไทยเราไม่ได้เกิดที่นู่นก็มีคำถามในหัวตลอดว่ามันจะเป็นไปได้ยังไง แต่พอมาถึงจุดนี้ก็รู้เลยว่าสิ่งที่เราพยายามมาตั้งแต่เด็กมันไม่ได้สูญเปล่านะ เป็นความภูมิใจมากกว่า

Adora อยากเล่าเรื่องอะไรอีกในอนาคต

ฮิโรชิ: เหมือนเราเคยคุยกันไว้ว่าอนาคตเราอาจไม่ได้เล่าภาษาญี่ปุ่นแล้วก็ได้ อยู่ที่ว่า ณ โมเมนต์นั้นเราอยากทำอะไร บางทีมันอาจเป็นกิมมิกบางอย่างที่จะชูเรื่องราวของดนตรีเราได้ ตอนนี้เราก็พยายามทำให้พาร์ตดนตรีบางอย่างให้คนจำว่ามันเป็นเรา เช่นการที่กีตาร์ใช้โทรโข่งในการร้อง พร้อมกับเป็นฟรอนต์แมนที่เล่นเปียโนด้วย เราพยายามสร้างเอกลักษณ์ด้านตัวตนเราด้วยผ่านดนตรี แต่เรื่องภาษานี่ยังให้เป็นเรื่องของอนาคตมากกว่าอยู่ครับ ว่าเราจะทำลายกำแพงภาษาอะไรได้อีก

 

J-Rock 101 ที่น่าฟังสำหรับ Adora มีวงอะไรบ้าง

ฮิโรชิ: ถ้าเป็นวงที่ผมชอบเลยก็จะมี The Oral Cigarettes กับ YAOSOBI ครับ

กีตาร์: King Gnu, TK from Ling tosite sigure

ต้าร์: Cody Lee แล้วก็ไปฟัง EP ˈkanvəs ของวงก่อนก็ได้จะได้ทำความรู้จักวงมากขึ้น

นาม: ONE OK ROCK ครับ

ฮิโรชิ: แล้วก็มีอีกวงที่พวกเราชอบเหมือนกัน น่าจะเป็น OFFICIAL HIGE DANDISM ครับ

อนาคตของ Adora

ฮิโรชิ: EP ที่ปล่อยมาก่อนหน้านี้เราเรียกได้เต็มปากว่ามันคือคำว่าจับฉ่าย เราจะทำหลายแนวมากหากใครได้ฟัง มันไม่เหมือนกันสักเพลงเลย ทีนี้พอเหมือนก่อนเราจะได้อยู่ GeneLab เราตั้งเป้ากันไว้ว่าโอเคเรามีอีพีแล้วเราก็อยากจะทำอัลบั้มที่มีภาพรวมที่กลมกว่านี้ ก็เลยตัดสินใจทำเพลงประมาณนี้กันดู ซึ่งเพลงหลังจากนี้มันก็จะมีความกลมกลืนมากขึ้นกว่าที่เราทำกันอยู่ตอนนี้ ก็เลยได้คำตอบในเพลงชุดใหม่ ๆ พอทำ ˈkanvəs ไปแล้วตอบเราทุกอย่างหมดเลย ไม่ว่าจะตัวเพลง วิธีการทำเพลง หรือวิธีการทำงานร่วมกัน ซึ่งเราก็คิดมาก่อนหน้านี้ว่าจะทำอีพีให้เสร็จก่อน อาจจะไม่ได้อยู่ค่าย พอทำอีพีเสร็จเรากำลังจะหาค่ายอยู่ แล้วค่ายก็พุ่งมาพอดีกันก็เลยเป็นเส้นทางที่เราตั้งใจไว้กันพอดี

FJZ: แสดงว่าอัลบั้มเริ่มทำกันไปประมาณหนึ่งแล้วสิ

ฮิโรชิ: ก็มีอยู่ 5-6 เพลงได้ครับตอนนี้ 2024 น่าจะได้ฟังกันครับแบบรัว ๆ แน่นอนเลย

 

ทิ้งท้ายและฝากผลงาน

กีตาร์: ก็ฝากพวกเรา Adora ด้วยนะครับ บางคนอาจจะยังเข้าไม่ถึงหรืออาจยังไม่เข้าใจ แต่ก็อยากให้เปิดใจรับฟังกัน เราเชื่อว่าดนตรีเป็นภาษาการสื่อสารที่ดีพอที่ภาษาอาจไม่จำเป็นต้องเข้ามาเป็นตัวดำเนินหลักได้ เพราะบางเพลงต่อให้ไม่มีเนื้อร้องคุณก็เข้าใจได้ หรือมันก็เข้าถึงความรู้สึกได้ว่าเขาจะสื่อสารอะไร เราก็ขอฝากไว้ด้วยนะครับ

ฮิโรชิ: ก็ขอฝากไว้นะครับ ตอนนี้อยู่ GeneLab แล้วฮะ ถ้ามีโอกาสก็อยากให้มาดูเราเล่นสดด้วยเหมือนกัน!

‘ฟังไร’ รวมเพลงใหม่น่าฟัง สัปดาห์ที่สาม เดือนพฤศจิกายน 2023

 

Facebook Comments

Next:


Donratcharat

นัท มีหมาน่ารักสองตัวชื่อหมูตุ๋นกับหมูปิ้ง กาแฟดำยังจำเป็นต่อชีวิต และยกให้กาแฟใส่นมเป็นรางวัล