Mileece ศิลปินผู้เปลี่ยนต้นไม้ให้กลายเป็นเครื่องดนตรีเพื่อสื่อสารเรื่องโลกร้อน

Article Story

Mileece ศิลปินผู้เปลี่ยนต้นไม้ให้กลายเป็นเครื่องดนตรีเพื่อสื่อสารเรื่องโลกร้อน

‘กระบี่อยู่ที่ใจ แม้กิ่งไผ่ก็ไร้เทียมทาน’ เป็นประโยคเด็ดในหนังจีนสมัยก่อน ที่อธิบายถึงความแข็งแกร่งของจอมยุทธจ้าวยุทธภพ ถ้าเก่งซะอย่างไม่ว่าจะใช้อะไรต่อสู้ก็สามารถต่อกรกับศัตรูได้ เปรียบได้กับนักดนตรีเก่ง ๆ ที่ไม่ว่าเครื่องดนตรีจะดีหรือแย่ ก็สามารถบรรเลงเพลงออกมาได้ไพเราะ หรือหยิบของรอบตัวมาสร้างเป็นเสียงดนตรีได้เหมือนกัน ศิลปินคนหนึ่งจึงหันมาทำงานเพลงผ่านต้นไม้เสียเลย

Mileece Petre อาจโด่งดังในฐานะนักออกแบบเพื่อสิ่งแวดล้อม และตัวแทนของการใช้พลังงานแบบยั้งยืน แต่สิ่งที่ทำให้เราตื่นเต้นมาก ๆ คือเธอเป็นศิลปินคลื่นเสียง ผู้ใช้ต้นไม้ที่เธอรักในการสร้างเสียงดนตรี

ในฐานะศิลปินคนหนึ่ง Mileece ก็ยังเชื่อ ‘การเชื่อมต่อระหว่างมนุษย์และพฤกษาเข้าด้วยกัน’ เธอเชื่อมต่อกับต้นไม้นานาพันธุ์ด้วยขั้วไฟฟ้าตัวจิ๋วอย่างอ่อนโยน เพื่อขยายคลื่นไฟฟ้าในตัวพวกมันออกมาเป็นข้อมูล แล้วแปลข้อมูลตัวเลขเหล่าด้วยซอฟต์แวร์ที่เธอเขียนขึ้นมาเองออกมาเป็นเสียงที่ไพเราะ สวนที่สวยงามก็เปรียบเหมือนวงออร์เคสตรา (โดยเฉพาะต้น philodendron ที่ส่งคลื่นไฟฟ้าได้ดีด้วยใบรูปหัวใจ) ร้อยเรียงทุกเสียงขึ้นมาเป็นเพลงซึ่งเป็นตัวแทนเหล่าพืชพันธ์ุ เหมาะสำหรับมนุษย์ทุกคนและต้นไม้ทุกต้น

“ฉันอยากให้ทุกคนเห็นถึงความสำคัญของธรรมชาติมากขึ้น พวกมันเป็นทั้งอาหาร เป็นทั้งน้ำ เป็นทั้งที่พักอาศัย และสร้างความสวยงามให้กับโลกมาตลอด สิ่งมีชีวิตทุกชนิดบนโลกเชื่อมต่อกับต้นไม้แบบ 100% ฉันจึงหยิบความสวยงามมาผสมกับศิลปะและประโยชน์ของมัน แทรกซึมเข้าไปในชีวิตประจำวัน เพื่อสร้างเทคโนโลยีที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมในบ้านของทุกคน”

Mileece ผู้ซึ่งเติบโตขึ้นมาในเมือง อุดอู้อยู่แต่ในป่าคอนกรีตและสังคมที่ไม่เป็นมิตร หลังจากทนมาได้หลายสิบปี เธอจึงตกลงกับสามีและแม่เพื่อเปลี่ยนบ้านหลังนี้ให้กลายเป็นโอเอซิส โดยใช้ของรีไซเคิลทั้งหมด และปลูกต้นไม้ทุกชนิดที่เธอเคยอยากปลูกมาทั้งชีวิต ทั้งไม้ผล ไม้ดอก ไม้ประดับ ลองจินตนาการว่าถ้าอาบน้ำเสร็จแล้วก็ออกมาเด็ดผลไม้สด ๆ กินได้ทันทีจะมีความสุขขนาดไหน การนอนหลับท่ามกลางป่าขนาดจิ๋วในห้องของตัวเองมันทำให้เธอรู้สึก ‘เป็นส่วนหนึ่งของโลกใบเล็ก ๆ นี้อีกครั้ง’

“เสียงคือตัวชี้วัดที่สำคัญที่สุดทางธรรมชาติ น่าจะบอกรายละเอียดได้ชัดเจนกว่าภาพด้วยซ้ำ เวลาเด็ก ๆ ถามว่าที่นั่นมีต้นไม้เยอะแค่ไหน เราก็แค่ให้พวกแกฟังเสียงของธรรมชาติ มันเงียบมาก จนได้ยินเสียงของสัตว์ป่า เสียงของสิ่งมีชีวิตที่หมุนเวียนอยู่ที่นี่ ทำให้เรารู้ว่าเราใช้ชีวิตอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่แปลกประหลาด เสียงคือตัวบ่งบอกว่าทุกสิ่งยังเชื่อมต่อกันอยู่ นี่คือเหตุผลที่ทำให้ฉันหันมาสนใจเรื่องคลื่นเสียง”

ครอบครัวของเธอเป็นทั้งห้องอัดและโปรดักชัน แถมลูกของเธอก็ยังเข้าถึงดนตรีทุกชนิดตั้งแต่ไวโอลิน ไปจนถึงการอิมโพรไวส์เปียโน แจ๊ส และดีเจเปิดแผ่น ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าเธอเป็นแรงบันดาลใจให้ลูก หรือลูกเป็นแรงบันดาลใจให้กับเธอ

เธอเคยโชว์ที่ Museum of Modern Art บนเวทีเธอสัมผัสต้นไม้แแต่ละชนิดก็ให้เสียงลูปที่กังวานน่าฟัง บรรเลงไปพร้อมกับเชลโล่ที่มาเติมดนตรีให้ครบรส พร้อมขับกล่อมด้วยเสียงอันอ่อนโยน ตราตรึงทุกคนในฮอลได้ทันที เธอเลยตัดสินใจบันทึกเสียงอย่างจริงจังจนออกมาเป็นอัลบั้ม Formations โดยไม่ขอเครดิตอะไร และเขียนไว้สั้น ๆ ว่า ‘อุทิศให้แก่ต้นไม้ทั่วโลก’ อัลบั้มของเธอถูกสื่อตั้งชื่อเล่นให้ว่า ‘organic electronic music’ และ ‘musical science’

แม้เธอจะไม่ค่อยชอบพูดถึงอัลบั้มของเธอเท่าไหร่ แต่มีอีกหลายโปรเจกต์ของเธอที่ทำงานกับธรรมชาติได้อย่างน่าทึ่ง ORBS คือโดมที่ยกป่ามาไว้กลางเมือง ข้างในเต็มไปด้วยพืชพันธ์ุที่น่ารื่นรมย์ โดยเธอตั้งคำถามกับตัวเองว่า VR อาจจะสร้างประสบการณ์ที่น่าทึ่งให้กับผู้ชมได้ แต่ทำไมเราไม่ยกสิ่งแวดล้อมที่พวกเขาควรจะปกป้องมาให้พวกเขาได้สัมผัสซะเองเลยล่ะ พร้อมปล่อยดนตรีบรรเลงที่สร้างจากคลื่นไฟฟ้าของต้นไม้เหมือนกัน ภายในโดมยังออกแบบมาอย่างดีให้เสียงสะท้อนไปมาได้อย่างลงตัว เรียกว่าเป็นโลกสีเขียวอีกใบที่อยากให้ทุกคนมาสัมผัส

“ถึงงานที่ฉันทำจะเป็นเพียงจุดเล็ก ๆ ในสังคม แต่ก็อยากจะขับเคลื่อนให้สังคมตระหนักว่าโลกของเรากำลังพุ่งไปสู่ภาวะโลกร้อนอย่างรวดเร็ว และมันเป็นปัญหาที่ต้องร่วมมือกันแก้” เธอพยายามผลักดันให้ทุกคนหันมาสนใจปัญหานี้อย่างจริงจัง เพราะมันกำลังจะกลายเป็นวิกฤตที่ไม่อาจหันหลังกลับได้อีกต่อไปแล้ว การหยิบต้นไม้มาสร้างงานศิลปะ ก็เพื่อให้เห็นความสวยงามของพวกมันในแง่ที่พวกเขาไม่เคยเห็น พร้อมให้ความรู้เกี่ยวกับพืชพันธ์ุและโลกร้อนไปพร้อมกัน

ถ้าได้ลองฟัง Formations จะเข้าใจความงดงามของธรรมชาติได้ทันที ไม่กังขาเลยว่าทำไมเธอเก่งและทำได้ขนาดนี้ ศิลปินถ้าได้ลองทำในสิ่งที่พวกเขาเชื่อแล้วล่ะก็ อะไรก็เป็นไปได้ทั้งนั้นแหละ ลองฟังเพลงทั้งหมดในอัลบั้มนี้ได้ข้างล่างเลย

อ้างอิง
tomtommag.com
nytimes.com
imprintlab.com
pacificdomes.com

Facebook Comments

Next:


Peerapong Kaewthae

แม็ค เป็นคนชอบฟังเพลงเพราะเป็นกิจกรรมที่ทำคนเดียวได้ และก็ชอบแนะนำวงดนตรีหรือเพลงใหม่ ๆ ให้คนอื่นรู้จักผ่านตัวอักษรตลอดเวลา