boy-imagine-songs-vol-1

Article Story

รวมเพลงที่ผ่านการตกผลึกชีวิตจาก Boy Imagine ศิลปินผู้รังสรรค์บทกวีที่มีทำนอง ภาค 1

Boy Imagine หรือ รงค์ ดรุณ ศิลปินผู้ส่งเสียงเพลงที่ผ่านการตกตะกอนชีวิต เก็บแง่มุมความคิดที่ผ่านร้อนหนาวมาเขียนเป็นบทเพลงและส่งเสียงจากดินแดนล้านนาเชียงใหม่ ไปถึงใจแฟน ๆ ของเขาที่ปัจจุบันมีอยู่ไม่น้อยเลย

แม้ว่า Boy Imagine จะไม่ได้มีอาชีพหลักเป็นนักดนตรี แต่จังหวะชีวิตของเขามีดนตรีอยู่ด้วยเสมอตั้งแต่วัยมหาวิทยาลัยใจกลางเมืองหลวง จนถึงหลังเรียนจบกลับไปอยู่ถิ่นบ้านเกิด มาจนถึงปัจจุบันที่มีร้านนั่งชิลเป็นของตัวเองอย่าง Imagine’s House (เราขอเรียกเป็น ‘พื้นที่สำหรับการพักผ่อนที่แท้จริง’ ก็แล้วกัน) มักจะได้เห็นผู้ชายคนนี้ในเสื้อยืดสีขาว กางเกงยีนส์ ขึ้นมาบรรเลงเพลงที่เขาชื่นชอบให้เหล่านักฟังจากทั่วสารทิศได้ฟังและยิ้มตาม แต่ถ้าอยากฟังเพลงที่เขาเป็นคนลงลายน้ำหมึกไว้ ต้องบอกว่ายากหน่อย รอโอกาสดี ๆ วาระพิเศษตามอีเวนต์ต่าง ๆ (หวังว่าทุกคนที่ชื่นชอบจะได้ฟังนะ)

ในวาระที่ Imagine’s House เพิ่งจัดงานต้อนรับปีที่ 11 ไปหมาด ๆ Fungjaizine ขอรวมเพลงที่ผ่านแง่คิด ผ่านจังหวะชีวิตของเขามาแชร์ให้ทุกคนได้ทบทวนใจความที่ผู้ชายคนนี้ส่งมาถึงคนฟัง (อย่างน้อยก็ในความคิดของเรา ที่จุดมืดบอดในชีวิตผ่านไปได้ก็เพราะเพลงของเขา)

จั๊กจั่นรินเบียร์

เพลงชื่อแปลกที่แฝงหลักปรัชญาจากคัมภีร์ ‘เต้าเต๋อจิง’ ของมหาปราชญ์แห่งเต๋าอย่างจวงจื่อ เพลงที่ตั้งคำถามให้กับชีวิตว่า ความสุขที่แท้นั้นเป็นอย่างไรกัน? ต้องยิ่งใหญ่สักเพียงไหนถึงเรียกว่าพอ? ต้องเอาตนไปเปรียบเทียบกับสรรพชีวิตอีกแค่ไหนกัน? ตัวเราถึงจะดูมีคุณค่าขึ้นมา เพราะในท้ายที่สุดแล้วชีวิตเราต่างสุขไม่เหมือนกัน แม้นว่าเราเป็นเพียงนกน้อยที่บินได้ไกลเพียงต้นหญ้าถึงกิ่งไผ่ แต่สุดท้ายเราก็บินด้วยปีกของเราเอง ใต้ปีกของคุณหรือเราก็คือแรงลมจากผืนฟ้าเดียวกัน

ในตอนจบของเพลงนี้ Boy Imagine กล่าวถึงความสุขที่แท้ว่าไม่จำเป็นต้องมีเงินเป็นร้อยล้านขอเพียงมีความสุขในแบบที่เป็น หากมีเงินสักร้อยล้านแต่ไม่มีมิตรข้างกาย จะมีเงินมากมายไปเพื่อสิ่งใดกัน?

“แค่เบียร์ 1 แก้ว แล้วก็เพื่อนจำนวนหนึ่ง
ไม่ว่ามันจะเป็นเพื่อนรัก เพื่อนกิน หรือเพื่อนแท้
แต่สำหรับฉันมันไม่สำคัญ แค่มันเป็นเพื่อนก็พอ”

หยั่งฟ้าถามทะเล

เพลงนี้แทบจะเป็นเพลงที่เราชอบที่สุดในเซ็ตลิสต์ของเขาเลยก็ว่าได้ เพลงที่ให้คำตอบสำหรับคำถาม ความหมายชีวิตที่เรียบง่ายเป็นอย่างไรกันแน่ ? เล่าถึงเรื่องราวธรรมชาติที่มนุษย์เราไม่อาจเอื้อมความเป็นไปของสรรพสิ่งมาครอบครองได้ แล้วเราจะไขว่คว้าความยิ่งใหญ่ไปเพื่อสิ่งใด ความยิ่งใหญ่นั้นวัดจากสิ่งที่ผู้อื่นมอบให้ หรือวัดจากใจเราที่พร้อมด้วยปัญญาและละซึ่งนานาอัตตาลงได้ เราจะแก่งแย่งแข่งขันชิงชัยกันเพื่ออะไร ในเมื่อระยะเวลาของชีวิตเราก็เป็นเพียงประกายไฟวูบเดียวของความเป็นไปในกฎเกณฑ์ธรรมชาติ

“แก่งแย่งแข่งขันบนเกมชิงชัย
ในช่วงเวลาประกายไฟวูบเดียว
ต่อสู้ยึดครองช่วงชิงจนตัวเป็นเกลียว
ชีวิตนี้ที่จริงเรามีเวลากันสักเท่าใด”

เพลงนี้ไม่ได้บอกให้เราหยุดพัฒนา ไม่ได้บอกให้เรายอมแพ้ท้อถอยต่อกายสังขาร แต่เพลงนี้ทำให้เราได้ลองใส่ใจรายละเอียดของการกระทำซึ่งไม่ควรเบียดเบียนชีวิตอื่นใด แม้ว่าจะเป็นเรื่องราวที่ดูไกลตัว หรือทำได้ยากในจิตมนุษย์ที่มากไปด้วยความโลภ แต่หากลองคิดตามใจความของเพลงนี้ ชีวิตเราคงเย็นขึ้นและเบาลงได้ไม่น้อย

ยินดี

“ยินดีที่ได้พบคุณ กับวันคืนที่ผันไป
ทักทายและบอกลามาสักเท่าไหร่
ผ่านกาลเวลานานสักแค่ไหน”

ประโยคเริ่มต้นของเพลงยินดี อีกเพลงฮิตที่แทบจะเป็นสัญลักษณ์ประจำตัวของ Boy Imagine รวมถึงได้ยินคัฟเวอร์เวอร์ชันอีกมากมายจากทั้ง YouTube และตามร้านนั่งชิลยามค่ำคืน

เพลงที่บอกให้เรามองความรักอย่างเข้าอกเข้าใจและยิ้มรับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอย่างไม่ยึดติด ยามมีรักก็ยิ้มให้กับความรู้สึกนั้น ยามเศร้าก็เรียนรู้ที่จะร้องไห้ปนในความรักนั้นบ้าง และสุดท้ายจงยินดีที่เรายังได้เรียนรู้อะไรจากความรักในครั้งนี้ แม้จะยั่งยืนหรือรักนั้นจะชั่วคราว ปริมาณความสัมพันธ์ก็ผกผันกันไปดั่งเนื้อเพลงที่เล่าให้เราฟังว่า “รากความรักนั้นมันหยั่งลงไปลึกเท่าไหร่ กิ่งใบมันก็ไปไกลเท่านั้น” ขอให้ความรักอยู่กับคุณ..ทุกคน

ความรักความงาม

เพลงที่ชื่อเพลงพาเราคิดไปถึงเรื่องราวความรักของวัยหนุ่มสาว แต่หากได้ลองฟังแล้วบรรจงความคิดลงไปในความหมายของเพลงนี้ ความรักความงาม กำลังตั้งคำถามกับเราว่า ความงามที่แท้จริงขึ้นอยู่กับสิ่งใดกันแน่? หากเราเอาความคิดในมุมเราไปตัดสินสิ่งต่าง ๆ บนโลก ความทุกข์ก็จะเกิดกับใจเราเอง หากพิจารณาสรรพสิ่งอย่างถี่ถ้วนเราจะได้รู้ว่าทุกสิ่งมีความงามในตัวเองเช่นกัน สิ่งที่ตั้งอยู่จะดีหรือร้ายสุดท้ายก็อยู่ที่ใจเราเลือกที่จะรู้สึก

“ดั่งสายรุ่งนั้นมันก็มีความงามอย่างสายรุ้ง
อย่างท้องทะเลนั้นมันก็มีความงามอย่างทะเล
แต่ความงดงามนั้นไซร้ มันอยู่ที่ใครเป็นคนผู้มองอยู่
เหมือนอย่างกับคุณ ที่สวยได้อย่างนั้น..เพราะมีฉันมองอยู่”

โปรดเรียกขานฉันด้วยนามอันแท้จริง

บทเพลงชื่อยาวที่มาพร้อมความยาวของนาทีในการเล่าเรื่องกว่า 8 นาที ที่ร้อยเรียงเรื่องราวจาก 3 คัมภีร์ อย่าง เรียกฉันด้วยนามอันแท้จริง (Call Me By My True Names) ของปราชญ์แห่งความสงบ ติช นัท ฮันห์, ประวัติชีวิตตอนหนึ่งของสมเด็จพระมหาโฆษนันทะ จากกัมพูชา และ กรณียเมตตสูตร สูตรหนึ่งในสายความคิดอย่างพุทธ ที่ว่าด้วยความรักและการอภัย Boy Imagine นำเรื่องราวจากหนังสือเหล่านี้มาเขียนเป็นเพลงเพื่อมอบความรักและการอภัยให้แด่ทุกคน


เป็นอีกเพลงที่ต้องใช้เวลา ความตั้งใจและเข้าใจในเนื้อหาที่ถูกเขียนขึ้นมา แท้จริงแล้วการเป็นศัตรูกันนั้น เราและเขาเป็นศัตรูกันแท้จริงหรือว่าสิ่งที่เราทำอยู่เพียงเพื่อสิ่งบางสิ่งที่เราไม่ได้เป็นผู้เริ่มมันขึ้นมา ดังที่เนื้อเพลงได้เขียนไว้

หยุดก่อนเพื่อนเอ๋ย ศัตรูของเราไม่ใช่เขา
หยุดก่อนเพื่อนเอ๋ย ศัตรูของเรา.. ไม่ใช่มนุษย์คนใด
พราะศัตรูที่แท้จริงของเราคือความโกรธแค้น
คือศัตรูที่แท้จริงของพวกเรา

เราจำเป็นต้องช่วงชิงชัยชนะไปเพื่อสิ่งใด เพราะสุดท้ายท่ามกลางไฟสงครามมีแต่ผู้ชนะบนความพ่ายแพ้ทั้งนั้น สุดท้ายที่เพลงนี้ทิ้งไว้ให้แม้ว่าจะยากสำหรับมนุษย์ที่มีความ รัก โลภ โกรธ หลง อยู่นั้น แต่หากบรรเทาสิ่งเหล่านี้ลงอาจทำให้คุณมองคนข้าง ๆ หรือปัญหาที่เจอได้เย็นขึ้นและคลี่คลายได้อย่างมีสติ

“เหมือนดั่งที่มารดารักถนอมบุตรด้วยชีวิตอย่างไร
หากเราเองฝึกให้มีใจ ต่อคนทั้งปวงได้อย่างนั้น
เริ่มจากการรัก..คนที่เรารัก ไปจนถึงรักแม้คนที่ชัง
จนกล้าที่จะรักแม้คนที่มุ่งหวังทำร้ายตัวเราได้อย่างนี้
ผู้ที่มีรักคือผู้เข้มแข็ง ผู้เข้มแข็งคือไม่มีความกลัว
ผู้ที่ยังมีความกลัว..ไม่อาจมีความรักและให้อภัย”

โจโฉ

’โจโฉ’ ผู้นำที่ยิ่งใหญ่จากยุคสามก๊ก พร้อมไปด้วยอำนาจ การปกครอง การเมือง ทุกอย่างอยู่ในมือของชายผู้นี้จนยากที่จะควบคุม ดังคำกล่าวที่ว่า ‘ขี่หลังเสือนั้นลงยาก’ ในมุมที่เป็นสาธารณชน โจโฉ เข้มแข็ง เด็ดเดี่ยว มากไปด้วยเล่ห์ พร้อมไปด้วยกล และรายล้อมด้วยศัตรู แต่ในมุมที่เป็น ’มนุษย์’ เขาคือมนุษย์คนหนึ่งที่มีหัวใจไม่ต่างจากมนุษย์ทั่วไป เคยเสียน้ำตาให้กับปัญหาครอบครัว เคยได้ความรักและเคยผิดหวังจากความรัก มีผู้ที่เกลียดชังเขา และเขาเลือกที่จะจบความเกลียดชังนั้นด้วย..สงคราม

“เป็นตัวของตัวเอง ที่ได้ค้นหามาเนิ่นนาน
อุดมการณ์หรือปณิธานในการรวมแผ่นดิน
หรือตัวตนที่ยิ่งใหญ่ หรือเป็นจอมทัพที่เกรียงไกร
แต่สุดท้ายก็ได้รู้ว่าครอบครัวเป็นสิ่งเดียว
ที่ต้องการ ที่ข้าต้องการ..”

สุดท้ายแล้วมนุษย์เราต้องการสิ่งใดกันแน่ เราอยากได้ อยากมี จนความอยากนั้นมันเกินตัว เกินกว่าที่หัวใจก้อนเนื้อขนาดเท่าหนึ่งกำมือจะรับไหว และบทสุดท้าย..วันหนึ่งเราก็ต้องแพ้พ่ายให้กับ ‘เวลา’ ท่านเลือกจะสร้างความทรงจำรูปแบบไหนให้เพื่อนมนุษย์ได้จดจำ หรือยามที่คนใกล้ชิดเกิดระลึกถึงท่านขึ้นมา เขาจะยิ้มให้ท่านที่อยู่ในความทรงจำ หรือเขาจะรีบลืมท่านลบให้หมดไปจากความทรงจำ 

เพื่อนใหม่


อีกหนึ่งเพลงที่กินเวลากว่า 7 นาที เพื่อเล่าเรื่องราวของเทคโนโลยีที่เปรียบเสมือน เพื่อนใหม่ ในชีวิตปัจจุบัน มีการเปรียบเทียบช่วงเวลาในอดีตและปัจจุบันที่เกิดขึ้นว่าทุกอย่างนั้นรวดเร็ว เป็นได้ดั่งใจโดยที่เราไม่ต้องใช้เวลาเพื่อรู้จักคำว่า ‘รอ’ เมื่อช่วงเวลาของการรอนั้นลดลง การพินิจในเรื่องราวนั้น ๆ ก็จะสั้นตามไปด้วย จนบางทีอาจทำให้คนสำคัญข้าง ๆ นั้นบทบาทลดน้อยถอยลงไป ‘เมื่อเธอหลงเธอก็มีเสียงนำบอกทาง เมื่อเธอหาของเธอก็เจอทันใด เมื่อเธอมีคำถามร้อยพันเรื่องใด เธอก็มีคำตอบในทันที’

หากมองย้อนไปในวันที่เรายังไม่มีเทคโนโลยีเหล่านี้ เราคงใส่ใจรายละเอียดต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นมากกว่าเดิม ใจความของเพลงนี้ไม่ได้บอกว่าเทคโนโลยีนั้นไม่ดีกับโลกปัจจุบัน แต่หากใช้สิ่งนั้นจนเกินไป เราอาจจะไม่เหลือเวลาในการทำความเข้าใจความสัมพันธ์ใด ๆ ที่เทคโนโลยีมิอาจมอบให้เราได้ เพลงนี้ไม่ได้โจมตีฝ่ายใดแต่หากให้หาความพึงพอใจในสมดุลทั้งสองฝ่ายให้เจอว่าสิ่งใดคือความสำคัญกับชีวิต

“ในช่วงเวลาที่เธอเคยเสียมันไปให้กับฉัน
ช่วงเวลาเหล่านั้นนั่นแหละคือฉันสำหรับเธอ
เราเคยเป็นความสำคัญของกันและกันเสมอ
ก่อนที่เธอจะได้พบกับเพื่อนใหม่”

มูซาชิ (Musashi)

หนึ่งตำนาน หนึ่งวีรบุรุษ หนึ่งซามูไรผู้ไม่เคยพ่ายแพ้ในสงครามใด ด้วยความยึดมั่น ศรัทธาและเชื่อในเส้นทางชีวิตที่กำลังดำเนินไป แต่ทุกเส้นทางย่อมมีอุปสรรค อยู่ที่เราจะพ่ายแพ้ท้อถอยหรือฝึกฝนเพื่อสู้ต่อจนขึ้นไปอยู่บนจุดหนึ่ง แม้ไม่อาจเรียกว่าจุดสูงสุดแต่อาจเรียกได้ว่า ‘ตำนาน’ เราได้ฟังเพลงนี้รอบแรกคือ live session ที่ Boy Imagine เล่นแจมกับ ชาติ—สุชาติ แซ่เห้ง จนต่อมาถูกหยิบขึ้นมาบันทึกเสียงในฉบับของเขาอีกครั้ง 

“อ่อนแอ ข้าต้องฝึกฝนให้เข้มแข็ง
เข้มแข็ง ข้าต้องฝึกฝนให้อ่อนโยน
เพื่อให้วิถีดาบของข้า อยู่เหนือคำวิจารณ์ของผู้คน
และอยู่เหนือคำชื่นชม หรือเหยียดหยาม”


เพลงนี้ให้แง่คิดแฝงเรื่องราวของชีวิตผนวกเข้ากับตำนานแห่งวิถีบูชิโดผู้คิดค้นคัมภีร์ห้าห่วงที่ถูกกล่าวขานมาจนถึงปัจจุบัน ทั้งในด้านชีวิต ธุรกิจ หรือผู้ที่กำลังค้นหาตัวตนของตัวเอง แม้ความรักที่แท้เขาก็สามารถตัดได้ เพื่อก้าวเข้าสู่ห้วงเวลาแห่งความสงบ เพลงนี้ไม่ได้บอกให้เราต้องออกไปรบราฆ่าฟันเพื่อชัยชนะใด แต่บอกเราว่าให้มุ่งมั่นกับชัยชนะในวิถีของตัวเอง ชนะหัวใจตัวเองให้ได้ด้วยการฝึกฝนเพื่อค้นพบปัญญา “ข้ายอมโดดเดี่ยว เพื่อดาบเดี่ยว อย่างเด็ดเดี่ยว แม้ต้องเดียวดาย” สำหรับผู้ซื่อสัตย์กับชีวิตทุกคน..

แค่ไหนแค่นั้น


เพลงที่เขียนถึงเรื่องราวของ เวลากับชีวิต ที่บางครั้งชีวิตเราก็ไม่ได้มีเวลามากพอจะทำให้ทุกอย่างเป็นอย่างใจต้องการ เปรียบเทียบกับสมัยเด็ก ๆ ที่ขณะทำข้อสอบ สุดท้ายเราต้องเข้าใจในเงื่อนไขของเวลา “ทุกคน..เราเหมือนกัน บางทีไม่มีเวลามากพอจะทำทุกอย่างให้มันดี ทุกคน..เราเหมือนกัน เราไม่ได้มีเวลามากพอจะทำ”  ในบางเรื่องเราทำได้เพียงวางปากกาแล้วเดินออกมา เพราะเราฝืนอะไรจากนั้นไม่ได้

เพลงนี้ยังมีเวอร์ชันที่เขาได้ไป featuring วงนั่งเล่น อีกหนึ่งวงรุ่นเก๋าที่มีแนวทางการเขียนเพลง เล่าเรื่อง เพื่อช่วยปลอบประโลมสังคมเช่นเดียวกัน ในท้ายที่สุดเรื่องราวของวัยเด็กที่เปรียบเทียบกับข้อสอบก็ถูกหยิบมาใช้ได้ในทุกจังหวะชีวิต เมื่อเราเติบโตขึ้นมา โจทย์ปัญหาต่าง ๆ ก็เปลี่ยนไป แม้แต่เรื่องความรักก็เหมือนกัน “หมดเวลา เดินออกมา แล้วเช็ดน้ำตามองเข้าเดินไป..”

ความรัก ตู้ปลา กับสุราหนึ่งป้าน

Boy Imagine ชื่อนี้ถูกจดจำและมีชื่อเสียงก็อาจพูดได้ว่า ความรัก ตู้ปลา กับสุราหนึ่งป้าน คือหนึ่งเพลงหลักที่พาเขาเดินทางไปไกลในใจคนฟัง เริ่มจากชื่อเพลงที่แทบจะเป็นการตีหัวเข้าบ้าน ถ้าเห็นผ่านตาก็คงอยากกดเข้าไปฟังสักครั้ง วินาทีที่เพลงนี้เริ่มดังขึ้นมาคือวินาทีเดียวกันกับที่เราได้ฟังสัดส่วนของเพลงที่ไม่คุ้นชิน แต่พอรวมเข้ากับเนื้อหาของเพลงกลับกลายเป็นอีกเพลงที่ติดหูได้ไม่ยากเย็น


ความรัก ตู้ปลา กับสุราหนึ่งป้าน ยังคงลายมือของผู้ชายคนนี้เอาไว้ การเปรียบเทียบความรักกับสุราที่วางอยู่ หากเรากลัวที่จะเมามายกับอาการเมาค้างของวันใหม่ แล้วเมื่อไหร่เล่าที่จะได้ลิ้มลองรสชาติของสุรานั้นเสียที เช่นกันกับความรักหากเราไม่กล้าที่จะรัก สุดท้ายเราจะได้รู้หรือไม่ว่าความรักที่วางอยู่รสชาติเป็นเช่นไร แต่ในท้ายที่สุดของเพลงนี้ก็บอกกับเราถึงความเดียวดายในตอนจบ เพราะใจคนนั้นยากที่จะหยั่งถึง “เดาใจปลายังว่ายาก แล้วใจคนไม่ยากกว่าหรือ ยังจะมีใครหาญไปทายใจสตรี”

พ่อกับลูกชาย


เพลงรักที่ไม่มีคำว่ารักที่เล่าถึงความรักระหว่าง พ่อกับลูกชาย เขาเขียนเพลงนี้เพื่อส่งสารบางอย่างไปสู่ลูกของเขา ไม่ใช่การสอนแบบชี้นิ้วสั่งแต่เป็นการสอนเพื่อให้คิดอย่างค่อยเป็นค่อยไปเพราะทุกช่วงเวลาชีวิตจะมีบรรยากาศ ยิ้ม หัวเราะ ร้องไห้ ปนเปกันอยู่เสมอ ขอเพียงผู้เป็นลูกยืนหยัดด้วยตัวเองได้และซื่อสัตย์กับเส้นทางที่เลือกเดินนั่นคือความสุขของคนเป็นพ่อแล้ว หลังจากฟังเพลงนี้จบคุณอาจจะอยากเดินไปกอดพ่อมากขึ้น

“เพราะอย่างนั้นวันใดที่เจ้ายากจน จงเรียกชื่อพ่อขึ้นมา
ความคิดของพ่อเจ้าจะได้ยินอยู่เสมอ
ความจนใช่ว่าต้องทุกข์ ความสุขใช่ว่าต้องร่ำรวย
สุขทุกข์จนรวย เพียงเจ้าแยกมันออกจากกัน”

Boy Imagine ศิลปินโฟล์กทั่วไปในสายตาของใครหลายคน แต่สำหรับเราเพลงของเขาได้ช่วยเยียวยาวันที่ชีวิตเรามืดบอดเอาไว้ เพลงสุดยาวเหยียดกว่า 7-8 นาที อาจไม่อภิรมย์นักสำหรับบางคน แต่เพลงของเขาเปรียบเป็นคำสอนบทใหญ่สำหรับชีวิตมนุษย์คนหนึ่งใจกลางเมือง หากใครสักคนที่อ่านบทความนี้จบ ขอให้ความรักอยู่กับคุณ..

เพราะชีวิตเรามีคุณค่าเพื่ออยู่สร้างสิ่งที่ดีให้กับคนรอบข้าง คนข้างหลัง และชีวิตในอนาคตได้อีกมากมาย หยิบคุณค่าที่สวยงามออกมาและมอบให้กับสรรพสิ่งเท่าที่จะทำได้ ‘แค่ไหน แค่นั้น’ (อาจดูจริงจังไปสักหน่อยกับบทความนี้ แต่เราอยากเขียนบทความนี้เพื่อผู้ชายคนหนึ่งที่มีคุณค่าสำหรับชีวิตเรา) ขอให้ปลอดภัยเสมอ..ทุกชีวิต

อ่านต่อที่นี่: 10 เพลงที่อาจช่วยทำให้อยากมีชีวิตอยู่ต่อ

Facebook Comments

Next:


บ็อบ รักเพลงโฟล์ก พอ ๆ กับชอบกินกาแฟดำไม่ใส่น้ำตาล วงนั่งเล่น กับ Boy Imagine คืออาจารย์ ดูอาร์เซน่อลเตะเวลาฟอร์มดี ชอบอ่านหนังสือแปลจากญี่ปุ่นกับจีน ตอนเช้ากินกาแฟ กลางวันกินกะเพรา ตอนเย็น อะ! กินเหล้ากัน