ความงดงามของดนตรีและศิลปะฉบับ Hexthree
- Writer: Malin Jairakthongtheaw
- Photo: Hexthree
ย้อนกลับไปเดือนที่แล้ว เราได้ฟังเพลงจันทร์ (Moon My Tune) ของ Hexthree วงเร็กเก้ดั๊บจากนนทบุรีที่รักและคลั่งไคล้ในดนตรีแนวนี้และอยากทำเพลงเพื่อส่งความรู้สึกด้านบวกของตัวเองให้กับคนฟัง ยอมรับว่าปกติแล้วเราไม่ค่อยยอมฟังเพลงแนวนี้เท่าไหร่เพราะคิดว่าเป็นแนวที่ฟังยากและเราเองก็เข้าไม่ถึง แต่พอเจอเพลงจันทร์ เข้าไป เรียกได้ว่าเป็นการเปิดซิงต่อมประสาทรับรู้เพลงเร็กเก้ของเราเลยก็ว่าได้ มันดีงามตั้งแต่การรัวกลองจังหวะสั้น ๆ แล้วขึ้นด้วยซาวด์เบสเท่ ๆ มีเสียงเครื่องเป่าแทรกเข้ามาเป็นระยะ ปูด้วยเมโลดี้คีย์บอร์ดใส ๆ บวกกับเนื้อเพลงที่ถูกเขียนขึ้นอย่างสละสลวยก็ยิ่งทำให้เพลงนี้กลมกล่อมและลงตัวสุด ๆ เหยย ไหนใครบอกว่าฟังยากห๊ะ มันดีเว้ย! พวกเขาจะนำศาสตร์แห่งศิลปะและการออกแบบที่ร่ำเรียนมาผสมผสานกับแนวทางดนตรีที่ตัวเองรักแล้วถ่ายทอดออกมาเป็นเพลงในรูปแบบของ Hexthree ได้งดงามแค่ไหนต้องลองติดตาม
สมาชิก
อาร์ม—จิรภัทร กลิ่นอุทัย (ร้องนำ, เบส)
แคร์—จันท์จุฑา วิมลศิลปิน (กลอง, คอรัส)
ธี—ธีระพงษ์ สิงห์อานศรี (คีย์บอร์ด, คอรัส)
มาโนช—อิทธิพัทธ์ หงษ์ทอง (ดั๊บไวส์เซอร์)
มอส—วิชญะ วงศ์สกุล (ทรอมโบน)
มายด์—ราชนาวี สนธิสรวล (แซ๊กโซโฟน)
Hexthree มีความหมายว่า มนต์สะกดหมายเลข 3
เป็นโปรเจกต์ที่อาร์มเริ่มทำเพลงด้วยคอมพิวเตอร์คนเดียวตั้งแต่ตอนเรียนอยู่มหาวิทยาลัย แต่จุดเริ่มต้นของรูปแบบวงดนตรีจริง ๆ เกิดขึ้นประมาณช่วงเดือนธันวาคม 2014 วันนั้นอาร์มชวนธีที่เคยเล่นดนตรีด้วยกันอยู่แล้วมาเล่นดนตรีกันที่ห้องนั่งเล่นในบ้านซึ่งตอนนั้นแคร์ก็อยู่ด้วย ถือเป็นการเริ่มต้นโปรเจกต์ Hexthree แบบวงดนตรีสดครั้งแรกด้วยเครื่องดนตรี 3 ชิ้นกับเสียงร้องของพวกเขา อาทิตย์ต่อมาอาร์มก็ได้ชวนมาโนช รุ่นน้องที่สนใจเรื่องเอฟเฟกต์เสียงอยู่แล้ว มาลองรู้จักการผสมเสียงแบบดั๊บแล้วปรับใช้กับวง ดังนั้นรูปแบบของวงในช่วงนั้นจะเป็น กลอง เบส คีย์บอร์ด บวกกับการผสมเสียง dub mix ต่อมาทั้ง 4 เริ่มทำเพลง ทำอัลบั้ม และแสดงสดเรื่อยมาจนถึงช่วงเดือนพฤศจิกายน 2015 ก็ได้รู้จักมอสและมายด์ ผ่านการแนะนำจาก ฟิช (Fish saxsanse) แขกรับเชิญในแทร็ค Sunday Swing อัลบั้ม Far East Rockers กลายมาเป็น Hexthree ที่มีสมาชิก 6 คนในวันนี้
ความพิเศษของเร็กเก้ดั๊บในแบบ Hexthree คือสมาชิกส่วนใหญ่ในวงเรียนเกี่ยวกับศิลปะและการออกแบบ ดังนั้นในการทำเพลงของพวกเขานอกจากจะใช้หลักการทางดนตรีแล้วพวกเขาก็ได้นำเอาความรู้ด้านศิลปะและการออกแบบมาช่วยในการสร้างสรรค์งานครั้งนี้ด้วย
Far East Rockers อัลบั้มแรกของพวกเขา
Far East คือ ตะวันออก rockers เป็นศัพท์จาไมก้า ที่ใช้เรียกนักดนตรีเร็กเก้ อัลบั้มนี้แปลว่า นักดนตรีเร็กเก้จากโลกตะวันออก สื่อถึงการเกิดขึ้นของวงดนตรีเร็กเก้วงหนึ่งจาก ‘ประเทศไทย’ เรียกว่าเป็นคอนเซปต์เล็ก ๆ ก็ได้ เพราะมันรวมไปถึงการทำอาร์ตเวิร์กให้สอดคล้องกันด้วยเหมือนกัน
Born From Root
ในอัลบั้ม Born From Root ทุกอย่างจะอิงตามแรงบันดาลใจของเพลง อยากให้ทุกคนย้อนดูรากของตนเองที่ผ่านมาแล้วภูมิใจกับสิ่งที่ตัวเองเป็น อาร์ตเวิร์คก็ออกแบบให้ปกหน้าเป็นรากต้นไม้ วางประกอบกับลำต้นไม้ใหญ่ตรงปกหลัง กลายเป็นต้นไม้เต็มต้น บนต้นไม้จะมีนกน้อยล้อมวงกันอยู่ 4 ตัว แทนพวกเขาที่ในขณะนั้นที่ยังมีสมาชิกแค่ 4 คน
อัลบั้ม Empty Paper ที่เปิดตัวในงาน Dub & Roll
เป็นการต่อยอดทำนองเพลง Empty Paper ที่พวกเราทำขึ้น ด้วยการทำงานร่วมกับศิลปินอื่น เกิดเป็นอารมณ์เพลงอีกรูปแบบหนึ่งบนทำนองดนตรีเดิม มีหลายเวอร์ชัน เช่น ทำเป็นเวอร์ชั่นกีต้าร์โซโล่ หรือเอาเร็กเก้ดั๊บของเราไปผสมกับแคนและพิณ อันนี้เพราะเรารู้สึกว่ามีอะไรบางอย่างในท่วงทำนองที่ทำให้เร็กเก้กับดนตรีพื้นบ้านไปด้วยกันได้อย่างลงตัว อันนี้เรามองแค่ในเรื่องจังหวะท่วงทำนองนะ แต่สิ่งสำคัญคือดนตรีพื้นบ้านและวัฒนธรรมของเราเป็นภูมิปัญญาที่ดี เลยอยากนำมาถ่ายทอดและบันทึกไว้ในแบบของเรา แล้วก็มีทำเป็นเวอร์ชั่นภาษาญี่ปุ่นด้วย สาเหตุที่ทำเป็นเวอร์ชั่นญี่ปุ่นเพราะว่าแขกรับเชิญหนึ่งในอัลบั้มนี้เป็นพี่ชายคนญี่ปุ่น ชื่อ U-key Hayashi พี่ยูคีเคยให้อธิบายเนื้อหาเพลงที่เขียน แล้วเขาก็เอาไปเขียนเป็นภาษาญี่ปุ่น อีกอย่างเราก็รู้สึกว่าสไตล์ของพี่ยูคีกับดนตรี Empty Paper ของเราเป็นส่วนผสมที่น่าสนใจ เวอร์ชันนี้ Hexthree ทั้ง 6 คน ก็ได้อัดคอรัสเป็นภาษาญี่ปุ่นด้วยครับ
เพลง จันทร์ (Moon my tune) พูดถึงอะไร
เป็นเพลงที่บอกเล่าความรู้สึกของการตกหลุมรักในบางสิ่ง จริง ๆ เพลงจันทร์ ก็เป็นเพลงรักทั่วไปที่เปรียบเปรยผู้หญิงที่เราคิดถึงคล้ายดวงจันทร์ เป็นดวงจันทร์ที่จะเจอได้แค่ยามกลางคืน แล้วเราก็คิดถึงเขา แต่ถ้ามองในมุมกว้าง ๆ ‘จันทร์’ ก็เป็นเหมือนสิ่งใด ๆ ก็ได้ ที่เราปรารถนาถึงและเฝ้านึกหาให้มาอยู่ข้างเรา
กระแสตอบรับ
อัลบั้มแรก Far East Rocker ไม่ได้มีการจัดงาน เพราะพวกเราโปรโมทไม่เป็นเลย แต่หลังจากนั้นก็ออกไปเล่นเยอะขึ้น ทำให้คนมองเห็นมากขึ้น ผลตอบรับเลยดีขึ้นเรื่อย ๆ อย่างเพลง Sunday Swing ได้ลงคอลัมน์ฟังใจ และล่าสุดมี นักศึกษามหิดลมาทำ mv เพลง จันทร์ (Moon my tune) ให้ จากก่อนหน้าที่ส่วนมากมีแค่กลุ่มคนฟังเพลงแนวนี้เท่านั้น หลัง ๆ ก็มีคนฟังใหม่ ๆ สนใจตามฟังอัลบั้มก่อน ๆ เยอะขึ้นเหมือนกัน ก็รู้สึกโชคดีที่มีคนฟังและรับรู้การมีอยู่ของเรามากขึ้น ที่บอกว่าโชคดีคือเราเพียงศรัทธาที่จะทำดนตรีของเราอย่างจริงใจ พอมีคนมารับฟัง มารับรู้ มีผู้ใหญ่มองเห็น และเข้ามาสนับสนุนในสิ่งที่เราทำด้วยการจัดเทศกาลดี ๆ เพื่อเชื่อมศิลปินกับผู้ฟังให้เข้าใกล้กันมากขึ้นก็รู้สึกดีมาก ๆ
Tipple Sun Studio
เป็นสตูดิโอเล็ก ๆ ที่พวกเราช่วยกันสร้างขึ้นมา เพราะการทำเพลงหลายครั้งในหลายกระบวนการค่อนข้างต้องใช้เวลา ยิ่งการสร้างสรรค์งานของเราส่วนใหญ่จะเป็นการลองแล้วลองอีกจนได้อันที่ทุกคนยิ้ม ทุกคนโอเค เลยสร้างที่ที่เราใช้เวลากับมันได้หน่อยดีกว่า อีกอย่างเราอยากให้เสียงที่ทำออกมามีคุณภาพ อย่างถ้าอัดกลองในห้องนั่งเล่นที่บ้าน ซาวด์ก็จะไม่ค่อยได้ เลยอยากสร้างสตูดิโอกัน
ปกติเล่นที่ไหนกันบ้าง
ตอนนี้ยังไม่มีร้านที่เล่นประจำครับ ส่วนใหญ่จะไปเล่นตามงานอีเว้นท์ งานดนตรี และ Exhibition art ต่าง ๆ เช่น Backyard, Noise (pop) Market, Stone Free, Pai Music, Hatyai Dub Xamp ล่าสุดก็ไปเล่นงานอีสานเขียว ที่เขื่อนอุบลรัตน์ ขอนแก่น
เห็นไปเล่น RVAG ll ที่ลาวมา เราได้โอกาสตรงนี้ยังไง
RVAG ll (COLA Reverse AGAIN Concert ll) เป็นงานที่เพื่อน ๆ วงสังกะสีที่ลาวจัดกัน ซึ่งเรากับวงสังกะสีรู้จักกันตั้งแต่ปี 2013 ในงาน Backyard 3 Zion Hill แล้ว เขาสนใจรูปแบบวงที่ทำกันเลยชวนไปเล่น กระแสตอบรับหลังจากนั้นก็มีวัยรุ่นชาวลาวที่ชอบฟังเร้กเก้มาติดตามเพิ่มขึ้นเหมือนกัน เป็นความรู้สึกที่ดีและอบอุ่นดีครับ
เพลงไหนที่อยากให้คนที่ไม่เคยฟัง Hexthree ลองฟัง
เพลง Born From Root ครับ เป็นเพลงที่ฟังง่าย เนื้อหาของเพลงมีความเป็นธรรมชาติพวกเราอยู่ในนั้น ได้แรงบันดาลใจจากต้นไม้หลาย ๆ ต้นในสวนหลังบ้าน ตอนนั้นสังเกตเห็นว่าพันธุ์ไม้ที่ปลูกอยู่นั้นมีหลายชนิด และแต่ละชนิดก็มีประโยชน์ในตัวที่แตกต่างกันออกไป ก็เหมือนกับคนเราแต่ละคนที่ล้วนสวยงาม มีประโยชน์ และมีคุณค่าในตัว อยากให้คนที่ไม่เคยฟังได้รับความรู้สึกจากเพลงนี้
เป้าหมายในปีนี้
เป้าหมายยังเหมือนเดิมคือ สร้างสรรค์ผลงานของพวกเราให้ดีที่สุดและทำมันออกมาให้ดีขึ้นด้วย เพราะเริ่มต้นเราอาจจะไม่ได้คิดอะไรมากไปกว่าการได้ทำดนตรีที่อยากทำ ทำให้ไม่ได้มีเป้าหมายที่ชัดเจนทางด้านธุรกิจการตลาด มองเป็นแบรนด์สินค้าแฮนด์เมดที่เราตั้งใจทำขึ้นมา ส่วนผู้ซื้อก็เหมือนผู้ที่เข้าใจในคุณค่าของผลงานมากกว่า เป้าหมายอีกอย่างคือเราอยากไปทัวร์ที่ญี่ปุ่นกันครับ
ฝากผลงาน
ตอนนี้กำลังอยู่ในช่วงอัดเสียงอัลบั้มหน้าอยู่ครับ ถ้ามิกซ์/มาสเตอร์ และทำ mv ทัน ก็น่าจะได้ฟังอีก 1 track จากอัลบั้มในเร็ว ๆ นี้ก็ ซึ่งอัลบั้มหน้าจะเป็นอัลบั้มแรกที่มีไลน์เครื่องเป่าในรูปแบบของเรา ส่วนวันที่ 4 มีนาคมนี้ จะมีไปเล่นที่งาน Back Yard Music Festival 4 ครับ ก็อยากให้ติดตามอัลบั้มเต็มหน้าที่เราทั้งพัฒนาการอัดทั้งวิธีการอัดและอุปกรณ์ มีการเรียบเรียงทำนองแบบมีไลน์เครื่องเป่าเพิ่มขึ้นมา และยังมีเพลงที่แคร์ กับ ธี มีส่วนร่วมในการร้องอยู่ด้วย ส่วนการ dub mix อัลบั้มหน้า มาโนช ก็จะเข้ามาทำในส่วนนี้มากขึ้น สุดท้าย Hexthree อยากฝากขอบคุณผู้ฟังและผู้สนับสนุนพวกเราทั้งทางตรงและอ้อม มาก ๆ ครับ
รับฟังเพลงของ Hexthree บนเว็บไซต์ฟังใจได้ ที่นี่
