Yonlapa หรือ น้อยหน่า — ยลภา จากเล่นโฟล์ก วันนี้เธอมาพร้อมวงดนตรีของตัวเองในค่าย Minimal Records

Interview

คุยกับ Yonlapa ถึงการเติบโต ความสูญเสีย มาสู่อ้อมกอด Minimal Records และเพลงล่าสุด Why Why Why

เมื่อวันที่ 21 ที่ผ่านมาเพิ่งมีคอนเสิร์ต ’19 Visit’ ที่ร้าน Nineteens Up ร่วมกับ Shadow Shade พาศิลปินคุณภาพจากเชียงใหม่ลงมาสร้างความสนุกให้กับคนกรุงเทพ ฯ ไลน์อัพก็ยังน่าสนใจด้วย Vels., The Vuniyerse และ Yonlapa แน่นอนว่า เราไม่มีทางพลาดโชว์ที่สนุกขนาดนี้พร้อมระเห็ดเตร็ดเตร่แบบครบทุกรายละเอียด เมื่อมีโอกาสเราเลยลองชวนวง Yonlapa มานั่งเล่นพูดคุยกันที่บ้านฟังใจ ในฐานะวงหน้าใหม่ที่มีฐานแฟนเพลงเติบโตเร็วอยู่เหมือนกัน และเป็นวงเดียวจากไลน์อัพที่เรายังไม่เคยคุยด้วย

ท่ามกลางกระแสวงดนตรีที่มีนักร้องนำเป็นผู้หญิงกับดนตรีป๊อปฟังสบายชวนผ่อนคลาย Yonlapa กลับมีเนื้อเพลงและดนตรีที่โดดเด่นเกินกว่าใคร น้ำเสียงที่สะกดเราเอาไว้ให้สลับไปหน้า YouTube ที่แรนด้อมเธอมาให้เพื่อตั้งใจฟังอีกครั้ง ยิ่งตัว น้อยหน่า นักร้องนำเองก็เติบโตมาจากการเล่นอะคูสติกในเชียงใหม่ แต่วันนี้เธอมาพร้อมวงดนตรีของตัวเองภายใต้ค่าย Minimal Records พร้อมหน้าด้วยพี่น้องที่ไม่ได้เป็นแค่แบ็กอัพ ลองมาคุยกับทุกคนในวันที่สนุกกับการเล่นดนตรีที่สุดในชีวิต

สมาชิกวง Yonlapa
น้อยหน่า—ยลภา เพียรพนัสสัก (ร้องนำ, กีตาร์)
กันย์—อานุภาพ เฟยลุง (กีตาร์, ซินธิไซเซอร์)
นาวิน—นาวิน รักในศิล (เบส)
ฟิวชี่—ชลันธร สุนทรพิทักษ์ (กลอง)

Yonlapa - น้อยหน่า — ยลภา เพียรพนัสสัก

“รู้สึกดีใจ เรามาครั้งแรกก็ไม่คิดว่าจะมีคนมารอดูเราเยอะขนาดนี้ด้วยซ้ำ หน่าตื่นเต้น เล่นผิดเล่นถูกไปเยอะเลย (หัวเราะ)” น้อยหน่าพูดแบบเขิน ๆ ถึงครั้งแรกที่ได้ลงมาเล่นที่กรุงเทพ ฯ ซึ่งถือว่าเป็นก้าวสำคัญในฐานะศิลปินของเธอเหมือนกัน “อาจไม่ค่อยได้โชว์บ่อยด้วย งานในเชียงใหม่ส่วนใหญ่ก็จะเป็นอะคูสติกซะส่วนใหญ่”

สังเกตได้ว่าน้อยหน่ายังดูประหม่าอยู่บ้าง เราเลยบอกเธอไปว่าชอบเพลง Why Why Why เพลงใหม่ล่าสุดที่วงเพิ่งปล่อยออกมามากขนาดไหน เพราะมันไม่เหมือนเพลงก่อนหน้านี่ของวงเลย น้อยหน่าก็ขอบคุณและเล่าให้ฟังต่อ “เพลงนี้หน่าแต่งให้แม่เนี่ยแหละ ช่วงตอนที่แม่หน่าเสีย เลยเศร้า ๆ หน่อย เป็นช่วงที่หน่าสับสน ชีวิตมันเสียศูนย์ไปหมด ก็เลยไม่ได้ทำอะไรเลย ช่วงตอนแม่เสีย ลาออกจากงานประจำด้วย เลยแต่งเพลงนี้”

เราสารภาพออกไปทันทีว่าเราตกหลุมรักเครื่องเป่าในเพลง “หน่าอยากให้เพลงมันดูอุ่น ๆ ขึ้น ตอนแรกเราใส่แค่โซโล่ของน้องกันย์ไป ไม่รู้อะ หน่าอยากใส่เครื่องเป่าลงไปได้” กันย์ มือกีตาร์ของวงก็เสริมว่ามันควรต้องมีแหละ “ถ้าเอาตามจริง ตอนนั้นรู้สึกว่าไลน์ที่อัดมันโล่งไป แล้ววันก่อนจะส่งไฟล์จริง ๆ เลยตัดสินใจเพิ่มไลน์ทรัมเป็ต ก็ไปชวนพี่อาร์ม Smile Station มาอัดให้” ฟิวชี่ มือกลองก็ช่วยเสริมอีกมุมหนึ่ง

Yonlapa 03

เมื่อถามถึงเหตุผลที่น้อยหน่าหันมาเล่นดนตรี เธอพูดอย่างมีความสุขว่าชอบเพลงมาก ๆ เลยขอให้พ่อซื้อกีตาร์ให้ตัวหนึ่งตั้งแต่สมัยม.ต้น แล้วฝึกเล่นตั้งแต่ตอนนั้น แม้จะไม่ได้อิงทฤษฎีอะไรแถมเล่นตามคอร์ดตามหนังสือเพลงที่ซื้อมาจากแถวบ้าน แต่ก็ไม่หยุดที่จะฝึกฝนตัวเองไปเรื่อย ๆ “พอจบมหาลัยก็มีโอกาสได้ไปเล่นตามบาร์ในเชียงใหม่ ได้ไปเล่นที่ Minimal Bar ด้วย พี่เมธ Minimal Records ก็เลยชวนมาอยู่ค่าย ก็ชักชวนพี่ ๆ น้อง ๆ มาเป็นแบ็กอัพให้”

การไปอยู่ค่ายก็เหมือนได้รับการยอมรับในระดับหนึ่งเลยนะ แต่ด้วยความสงสัยเลยถามไปว่าตอนนั้นมีเพลงของตัวเองหรือยัง น้อยหน่าหัวเราะก่อนตอบว่า “ไม่มีเลยค่ะ คัฟเวอร์อย่างเดียวเลย พวกเพลงนอกกระแสต่างประเทศ เลยได้เล่นตามร้านที่คนไม่ค่อยไปกัน พวกร้านอินดี้อะค่ะ พี่เมธอยากให้มาเป็นศิลปินเดี่ยว มีแบ็กอัพกับโปรดิวซ์ให้ มีคนแต่งเพลงให้ แต่เอาเข้าจริง ๆ เพลงที่มันเกิดขึ้นมันไม่ได้เหมาะกับตัวหน่า เท่าที่หน่าทำเอง เท่าที่พี่น้องที่หน่ารู้จักทำด้วยกันมันดีกว่า ชอบมากกว่าที่จะได้ทำเป็นวง”

“ตอนแรกพี่เมธชวนพี่หน่าเข้ามาเพื่อดันให้เป็นศิลปินเดี่ยวแล้วหาแบ็กอัพให้ มีโปรดิวเซอร์เป็นพี่เบียร์ Solitude is Bliss แต่พอได้แบ็กอัพครบ แล้วทำเพลงจริง ๆ ทุกคนก็ได้ทำเพลงด้วยกัน มันเลยดูเป็นวงมากกว่า ไม่ได้ถือว่าเป็นศิลปินเดี่ยวแล้ว” ฟิวชี่ออธิบายเพิ่ม

Yonlapa 05

เหมือนน้อยหน่าจะแต่งเพลงให้คุณแม่เยอะมาก หรือแม่จะเป็นแรงบันดาลใจให้เธอมาเป็นศิลปิน “ไม่ใช่เลยค่ะ แม่หน่าเนี่ยอยากให้เป็นข้าราชการเหมือนหลาย ๆ บ้านแหละ ทำงานที่มันมั่นคง แต่พอแม่หน่าป่วยเป็นมะเร็ง ทำให้ไม่มีเวลาดูแลเลยต้องลาออกจากงานประจำมาดูแม่ ตอนหลังจากแม่เสียก็เสียงานประจำไปด้วย เลยเล่นดนตรีอย่างเดียวเลยตอนนี้ ก็เลยทำมาตลอด”

แน่นอนว่าการเล่นคัฟเวอร์กับการทำวงทำเพลงด้วยตัวเองไม่มีทางเหมือนกัน มันต้องมีความท้าทายมากมายที่เธอต้องเจอ “สำหรับหน่า ท้าทายที่สุดน่าจะเป็นการแต่งเพลงกับการไปเล่นสด เราไม่เคยแต่งเพลงมาก่อน เราไม่รู้เลยว่าภาษาเราจะเป็นยังไง ภาษาอังกฤษหน่าก็ไม่ได้เก่งนะคะ ภาษาไทยก็ไม่เก่ง (หัวเราะ) ไม่คิดว่าตัวเองจะต้องมาแต่ง แต่พอได้แต่งก็เหมือนฝึกตัวเองไปเรื่อย ๆ หน่าก็เล่นกีตาร์โปร่งมาก่อน โฟล์กคนเดียวเวลาไปเล่นตามบาร์ พอมาเล่นกับวงแล้วก็ต้องปรับเทคนิกในการเล่นให้เข้ากับวง ทุกคนเขาเล่นกับวงมาตลอด พอหน่ามาเข้าวงปุ๊บหน่าก็เก่งน้อยสุด ก็ต้องปรับให้ทันคนอื่น”

ถ้าสังเกตดี ๆ เราอาจจะคุ้นหน้า กันย์ อยู่บ้างเพราะเขาเป็นสมาชิกของวง VEGA นั่นเอง ส่วนฟิวชี่เป็นแบ็กอัพให้กับ สภาพสุภาพ และนาวินก็มาจาก Smile Station ที่มีแนวดนตรีคนละสายกันไปเลย

กันย์ VEGA

ช่วงนี้เหมือนจะมีวงดนตรีที่มีนักร้องนำเป็นผู้หญิงเป็นกระแสกำลังมา แถมดนตรีที่คล้าย ๆ กันอยู่บ้าง เลยลองถามถึงเอกลักษณ์ของ Yonlapa ในสายตาของสมาชิกในวงดู “ตัวหน่าคิดว่าสิ่งที่หน่าแต่งออกมามันหวานมาก ด้วยเมโลดี้อะไรงี้ แต่พอมาเข้ากับความคิดของแต่ละคนในวง ทำให้เพลงมันซับซ้อนยิ่งขึ้น ความซับซ้อนทางดนตรีจากไลน์เบส ไลน์กลอง ไลน์โซโล่ ทุกอย่างมันเป็นกลิ่นของวงเราที่ชัดเจนอยู่แล้ว แต่เราก็ยังทำเพลงน้อยเนอะ มันชัดเจนใช่มั้ย (หัวเราะ)”

ไลน์เบสก็เป็นอีกหนึ่งเอกลักษณ์ที่ฟิวชี่ยืนยัน ส่วน โด่ง Solitude is Bliss ตอบในฐานะ Sound Engineer ของวงว่า “เพิ่งทำด้วยน่าจะกำลังทดลองอยู่ เพลงแรกออกมาก็ค่อนข้างโอเค มีกลิ่นที่ชัดเจนเหมือนกันไม่ค่อยจะเหมือนใคร ทุกคนน่าจะใส่ความคิดของตัวเองเข้ามาฟิวชั่นกัน ทำให้เกิดซาวด์ที่แปลกใหม่ ไม่ได้ออกนอกโลกเลย แต่ก็มีรายละเอียดที่น่าสนใจ”

อีกสิ่งหนึ่งที่ทำให้ใคร ๆ ตกหลุมรักเสียงร้องและเนื้อเพลงภาษาอังกฤษของน้อยหน่า ซึ่งดึงดูดแฟนเพลงต่างชาติได้มากมาย ฟิวชี่เล่าว่าใน YouTube คนไทยมาฟังเพลง Let Me Go แค่ 30% เป็นคนอเมริกา 10% แล้วก็ฟิลิปปินส์กับอินโดนีเซีย แต่เธอยืนยันว่าจะกลับมาทำเพลงภาษาไทยอีกแน่นอน “ตอนนี้มีหนึ่งเพลงที่อยู่ในอัลบั้ม Minimal’s Less Vol.2 เป็นภาษาไทย หน่าก็แต่งให้แม่เหมือนกันชื่อเพลงว่า คิดถึงเหลือเกิน (ฟังได้แล้วบน ฟังใจ) ซึ่งถ้าได้ทำอัลบั้มแรกหน่าก็คิดว่าคงมีเพลงภาษาไทยเหมือนกัน จะทำทั้งสองภาษาเลย ไม่ได้เลือกทำแค่ภาษาใดภาษาเดียว”

Yonlapa หรือ น้อยหน่า — ยลภา จากเล่นโฟล์ก วันนี้เธอมาพร้อมวงดนตรีของตัวเองในค่าย Minimal Records

ในสายตาคนกรุงเทพ ฯ ก็อาจมองว่าเชียงใหม่มีวงดี ๆ เยอะ น่าจะมีร้านที่วงไปลงได้เยอะ แล้วเชียงใหม่มันทำให้ศิลปินอยู่ได้จริง ๆ ไหม น้อยหน่าตอบในฐานะศิลปินและคนที่เคยเล่นคัฟเวอร์ตามร้านในเชียงใหม่ว่าสำหรับศิลปินอินดี้ไม่ค่อยมี ด้วยความที่คนจะมาลงทุนกับสิ่งนี้ก็น้อย ที่เล่นก็น้อย เงินที่ได้รับก็น้อย ฟิวชี่รีบเสริมว่าคนฟังก็เฉพาะกลุ่มด้วย จำนวนคนและงานก็ไม่ได้เยอะเท่ากรุงเทพ ฯ ไม่ค่อยมีงานที่ผู้จัดเลือกวงเชียงใหม่เป็น headline แต่จะเป็นงานที่เอาวงกรุงเทพ ฯ มาเล่นแล้วให้วงเชียงใหม่ไปเป็นวงเปิด “ขนาด Solitude is Bliss ยังมีงานเล่นไม่ค่อยเยอะเลยครับ”

เพราะการเป็นศิลปินเชียงใหม่อาจเสียเปรียบกว่าศิลปินในกรุงเทพ ฯ “ถ้างานจัดที่กรุงเทพ ฯ ก็จะมีต้องมีค่าเดินทางที่เขาต้องจ่ายเพิ่ม” ฟิวชี่อธิบาย กันย์เสริมด้วยว่า “ทำให้มีโอกาสที่เขาจะตัดเราออก สู้เขาเอาเงินที่ต้องจ่ายเพิ่มไปจ้างวงในกรุงเทพที่ราคาพอกันแล้วดังกว่า ดึงคนได้ดีกว่า” แต่ฟิวชี่ก็พูดติดตลกบวกมองโลกในแง่ดีกว่ามันก็ข้อดีเหมือนกัน ฟลุ๊ค Stoic เคยบอกว่าอยู่เชียงใหม่แล้วมาคิดงานอะไรอย่างงี้ดีเลย เรื่องบรรยากาศอะไรงี้ด้วย โด่งเสริมอีกนิดว่าจะนัดกันอะไรยังงี้ก็เจอกันง่าย ไม่เดินทางยากเหมือนกรุงเทพ ฯ

พอถามถึงเป้าหมายของวง น้อยหน่าก็ยิ้มขึ้นมาทันที “หน่าอยากไปเล่นเพลงของตัวเองให้ไกลเท่าที่จะไกลที่สุดได้ อยากพาตัวเองไปรู้จักกับเพื่อนใหม่ ๆ ในสถานที่ใหม่ ๆ ไม่ว่าจะเป็นคนไทย ต่างประเทศเมืองต่าง ๆ มันเป็นความใฝ่ฝันของหน่าตั้งแต่เด็ก ๆ แล้ว หน่ามีวงดนตรีสมัยม.สาม หน่าชอบการมีวงดนตรี มีกลุ่มเพื่อนที่ไปทำโชว์ด้วยกัน ไปท่องเที่ยว เดินทางไปด้วยกัน อยากทำซักครั้งในชีวิตตอนที่มีแรงอยู่ ก่อนที่จะแก่ กลัวแแก่ (หัวเราะ)”

น้อยหน่า — ยลภา เพียรพนัสสัก  คือใคร สัมภาษณ์

ถึงจะเป็นความฝันที่เรียบง่าย แต่ก็เป็นความฝันที่ต้องเดินทางไกลเหมือนกัน โดยเฉพาะการไปต่างประเทศ “จริง ๆ ก็อยากไปครับ แต่ค่ายเรายังไม่มีวงไหนได้ไปทัวร์ต่างประเทศเลย อาจยังไม่มีคอนเน็กชั่นหรือเอเจนซี่อะไรงี้” ฟิวชี่บอก

มาที่เรื่อง EP น้อยหน่าบอกว่าเจอกลางปีแน่นอน มี 5 เพลง ประกอบด้วย 3 เพลงที่ปล่อยไปแล้วกับ 2 เพลงที่ทำขึ้นมาเพื่อ EP นี้โดยเฉพาะ น้อยหน่าตั้งใจว่าจะตามหาสไตล์ของตัวเองให้เจอเพื่อที่ทำอัลบั้มเต็มแล้วจะได้มีความเป็นตัวของตัวเอง 100%

เราเลยขอให้สมาชิกทุกคนขายวงดนตรีในค่าย Minimal Records หรือวงพี่น้องในเชียงใหม่หน่อย น้อยหน่าก็อาสาคนแรก “หน่าพูดถึง VEGA ละกันเพราะสนิทกับวง เป็นวงที่มีสไตล์ดนตรีเป็นเอกลักษณ์ของตัวเองมาก แล้วมันมีกลิ่นของความเป็นล้านนา คนเมืองแต้ ๆ หน่าว่ามันแปลกและสนุกอะค่ะเวลาเล่นสด เรารู้สึกว่าเขาทำให้คนดูมีความเป็นกลุ่มเป็นก้อน แสดงความมันออกมาได้แบบไม่อาย”

“ตอนโชว์สดก็สนุกขึ้นด้วยครับ เหมือนเขาเป็นเพื่อนกันมาหลายปีละ ถ้าจะเล่นเพลงเดิมเขาจะแอบทำโชว์ใหม่นิดนึง มีอะไรเซอร์ไพรส์เรื่อย ๆ วงนี้” ฟิวชี่ตอบต่อหลังจากที่กันย์ขอข้ามก่อน “ส่วนผมขาย Vels. ครับ ผมสนิทกับวงนี้ เพลงก็น่าสนใจ ตอนเล่นสดก็ซาวด์แบบ … ต้องไปดูเองอะ ดีมากจริง ๆ เล่นเฉียบกันทุกคน”

น้อยหน่า — ยลภา เพียรพนัสสัก  - Fungjaizine

นาวินที่มาจากสายเร็กเก้ก็อยากช่วยพี่น้องในซีนตัวเองบ้าง “เร็กเก้เชียงใหม่ก็จะมีไม่กี่วง ไปหาดูได้ที่กลางเมืองเชียงใหม่ กาดบุญอยู่ ชื่อร้าน Roots Rock Reggae บาร์ ร้านเขาเล่นเร็กเก้ล้วน มีบลูส์มีอะไรผสมนิดหน่อย แนะนำวง Croissant เขาเล่นร้านเดียวกับวงผม เป็นรุ่นพี่ เล่นดีเหมือนกัน เป็น raggae roots ที่เก่งแต่ไม่ค่อยมีโอกาสไปเล่นให้คนกรุงเทพ ฯ ฟัง อาจจะไปฟังใต้มากกว่า อยากให้ภาคกลางลองฟังดูบ้าง”

กลับมาที่กันย์ รอบนี้เขาพร้อมแล้ว “ผมขายวงนี้เลย แต่ว่ายังไม่บอกชื่อวงเพราะเป็นวงใหม่ของค่าย ดนตรีสไตล์ lo-fi dreampop ครับ แต่ยังไม่ยืนยัน ยังไงรอติดตามต่อไป” ฟิวชี่ตบมุกทันที “ถ้าเราไม่บอกชื่อวงแล้วมันจะขายได้ไงวะ (หัวเราะ)”

สุดท้ายแล้ว Yonlapa ก็อยากขอบคุณคนที่ฟังเพลงพวกเขาอย่างสุดหัวใจ “ฝากเนื้อฝากตัวพวกเราด้วยนะคะ พวกเราเป็นวงจากเชียงใหม่ก็อยากทำความรู้จักกับเพื่อน ๆ ทุกคน ฝากเพลงของพวกเราด้วยที่ปล่อยไปทั้งหมดและเพลงล่าสุด Why Why Why ด้วย” นาวินเสริมอีกนิดว่า “ฝากติดตามด้วยนะครับ ทั้งเฟซบุ๊กและอินสตาแกรมด้วย” ทุกคนก็ไหว้อย่างเป็นกันเองและหัวเราะกันสนุกสนานเหมือนเดิม เพลงของพวกเขาอบอุ่นและสะกิดใจเราได้ขนาดนี้ คงเป็นเพราะความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นของพวกเขาก็ได้

ติดตามข่าวสาร งานเล่น และให้กำลังใจวงได้ที่ Facebook Page

คุยกับ น้อยหน่า — ยลภา เพียรพนัสสัก ถึงการเติบโต ความสูญเสีย มาสู่อ้อมกอด Minimal Records และเพลงล่าสุด Why Why Why

Facebook Comments

Next:


Peerapong Kaewthae

แม็ค เป็นคนชอบฟังเพลงเพราะเป็นกิจกรรมที่ทำคนเดียวได้ และก็ชอบแนะนำวงดนตรีหรือเพลงใหม่ ๆ ให้คนอื่นรู้จักผ่านตัวอักษรตลอดเวลา