รวมมิวสิกวิดิโอน่าดู ประจำเดือนกันยายน 2561

  • Writer: Montipa Virojpan

อ๊อฟ ปองศักดิ์ x TattooColour – Stupid Game เมื่อนักร้องเสียงดี อ๊อฟ ปองศักดิ์ ได้มาร่วมงานกับวงป๊อปลีลาเหลือร้าย Tattoo Colour ออกมาเป็นเพลงโซลป๊อปฟังสบายที่แฝงไว้ด้วยลายกีตาร์เท่ ๆ และไม่ลืมแทรกด้วยกิมมิกเก๋ ๆ ของการร้องประสานเสียง ดังนั้นแล้ว mv เขาเลยเอาความเป็นเพลงประสานเสียงมาสร้างเรื่องราวรักวุ่น ๆ ของวัยรุ่นในชมรมประสานเสียงซะเลย วิดิโอถูกถ่ายด้วย long take เล่าเรื่องความรักที่ไม่สมหวังในแง่มุมต่าง ๆ ดูเพลินมากเพราะได้เน็ตไอดอลชายหญิงแห่งยุคมารวมตัวกันในวิดิโอตัวเดียวถึง 8 ชีวิต Torphan – Flicker เราไม่ค่อยได้ยินเพลงบรรเลงในไทยที่ใช้กลองเป็นเครื่องดนตรีหลักทั้งในการเล่าเรื่องและเดินจังหวะไปพร้อม ๆ กัน แต่ ปอม—ทอฝัน ดิลกวิทยรัตน์ มือกลองมากความสามารถจาก Sasi, Midnight Children และ Beagle Hug ได้นำเสนอผลงานอีกรูปแบบของเขาด้วยการทำเพลงที่มีแต่กลองบรรเลง แล้วใส่ซาวด์ดนตรีแอมเบียนต์เข้าไปเพิ่มบรรยากาศและความรู้สึก ซึ่งเพลงนี้ก็ถูกแบ่งเป็นสามพาร์ต ให้ความรู้สึกตามตอนที่ปรากฏในวิถิโอ คือ การตั้งคำถาม การค้นหา และการพบคำตอบ … Continued

Conflakes x Blaq Lyte Presents Tennyson Live In Bangkok

Conflakes x Blaq Lyte presents TENNYSON Live in Bangkok (For English please scroll down) กลับมาสร้างความสนุกอีกครั้งกับสองเจ้าน้องตัวจี๊ด Tennyson จากแคนาดา ลุค และ เทส พริตตี้ ที่คราวนี้ยังขนพลังความแสบมาซัดกันบนเวทีอีกเช่นเคย กับดนตรีอิเล็กทรอนิกมินิมัลแสบซ่าไม่เหมือนใคร พร้อมให้คุณได้ไปดีดดิ้นกันโดยพร้อมเพรียงในวันที่ 14 ตุลาคม เน้ เอ๊ ๆๆๆๆ และครั้งนี้เราก็มีธีมสนุก ๆ มาให้ทุกคนแต่งตัวตามอีกเหมือนกัน นั่นก็คืออออ ‘การละเล่นไทยยยย‘ ใส่ชุดที่คิดว่าจะมาเป่ากบ โดดยาง ขี่ม้าก้านกล้วย เล่นหมากเก็บ ฯลฯหรือถ้ายากไป จะแต่งธีม ‘อาเซียนร่วมใจ‘ ก็ไม่ว่ากันนะ ———————————– It’s our second time to celebrate the lively spirit of youth with electronic duo Tennyson! We’ve got to warn you this is another Conflakes show you shouldn’t miss. Canadian siblings Luke and Tess Pretty are coming to Bangkok … Continued

การขยับย้ายทศวรรษจาก 80s สู่ 90s ของ Polycat กับเพลงใหม่ ‘อาวรณ์’

  • Writer: Kunchanit Liengudom
  • Photographer: Chavit Mayot

หากจะบอกว่า Polycat ทำเพลงอะไรออกมาก็ดัง ก็คงจะไม่ผิดนัก ในเมื่อเพลงของพวกเขามันช่างมีเอกลักษณ์และฟังติดหูเสียเหลือเกิน คราวนี้ก็เช่นกันกับการออกซิงเกิลล่าสุด ‘อาวรณ์’ ที่อันดับพุ่งพรวดขึ้นอย่างรวดเร็วในชาร์ตฟังใจ และสามารถครองอันดับสูง ๆ ได้อยู่จนถึงตอนนี้ แถมด้วยมิวสิกวิดีโอที่ได้ฟีล 90s ไปเต็ม ๆ เข้ากับตัวเพลงจนถูกใจใครหลาย ๆ คนที่ได้ดู เราก็ไม่พลาดที่จะนำสมาชิก Polycat ทั้งนะ โต้ง และเพียวมาพูดคุยกับเราถึงซิงเกิลตัวนี้ด้วย ที่มาของเพลง ‘อาวรณ์’ นะ: คือเราอยากเขียนเพลงเกี่ยวกับเรื่องที่ทุกคนมีส่วนเกี่ยวข้องหรือเคยเจอ ซึ่งเรื่องนี้ทุกคนก็น่าจะพอลิงก์กับมันได้ คิดว่าทุกคนน่าจะจำวันเกิดของใครสักคนได้อะ อาจจะไม่ใช่แค่แฟนเก่า แต่จำวันเกิดแม่หรือพี่ชายตัวเองได้อะไรแบบนี้ ไอเดียคำพ้อง ‘อาวรณ์อยู่’ กับ ‘I want you’ ที่เป็นท่อนหลักของเพลง นะ: เหมือนกับตอนแต่งเพลงอยู่ก็ร้องคำว่า ‘I want you’ ขึ้นมา แล้วเราก็ไม่อยากจะร้องเป็นภาษาอังกฤษเลยได้คำว่า ‘อาวรณ์’ มาแล้วก็ร้องเป็นคำนี้แทน สิ่งของหรือบุคคลที่ฉันยังอาวรณ์อยู่  นะ: เครื่องเกมครับ กันดั้มอะไรแบบนี้ พวกของเล่นตอนเด็ก ๆ เพียว: ของผมเป็นพี่ชื่อ … Continued

‘เห็ดสด 6’ ปิดฉากความสนุกของคอนเสิร์ตใหญ่โดย ‘ฟังใจ’ จนกว่าจะพบกันใหม่

  • Writer: Montipa Virojpan and Kunchanit Liengudom
  • Photographer: Gundercuss and Buktouch

8 กันยายน 2561 อย่างที่หลายคนทราบกันดีว่าคอนเสิร์ตประจำปีของฟังใจอย่าง เห็ดสด ได้เดินทางมาถึงครั้งที่ 6 และอาจจะเป็นครั้งสุดท้ายที่เราจะได้ชวนวงในตำนาน วงฮอตฮิต ณ ปัจจุบันขณะ และวงหน้าใหม่ที่น่าสนใจ ให้มาร้องบรรเลงดนตรีบนเวทีเดียวกัน ซึ่งชาวฟังใจหลายคนก็ใจหายไปตาม ๆ กัน (ทั้งผู้ติดตามและพนักงานเองเนี่ยแหละ) ดังนั้นแล้วเราจึงให้คำมั่นสัญญาว่าครั้งสุดท้ายนี้จะต้องเป็นอีกเห็ดสดในความทรงจำของทุกคน ด้วยการให้ Retrospect (เมทัล/อีโม) Monotone (โซลป๊อป) Inspirative (โพสต์ร็อก) Phum Viphurit (อัลเทอร์เนทิฟโฟล์ก/อินดี้ป๊อป) TELEx TELEXs (ซินธ์ป๊อป) และ Boyjozz (ฟังก์ทองแดง) มาเล่นงานเดียวกันนี้ซะเล้ยยยย และทุกครั้งงานเห็ดสดของเราจะมีธีมสนุก ๆ หมุนเวียนกันไป ล่าสุดก็เป็นธีม ‘เห็ดผี’ (อย่าผวน!) ซึ่งก็มีที่มามาจากว่าปาร์ตี้เปิดตัวบริษัทฟังใจทีแรกกกก เลยเนี่ยเราใช้ชื่อเดียวกัน เพราะมันเกิดขึ้นตอนวันฮาโลวีนพอดี ก็เลยเหมือนเป็นการรำลึกความหลังประมาณนึง ด้านหน้าฮอลที่นอกจากจะมีของที่ระลึก exclusive เฉพาะงานเห็ดสดแล้ว ก็มีบูธให้ถ่ายรูปเพื่อนรับ photostrips กันฟรี ๆ อีกด้วย จนเมื่อเวลา 17.45 … Continued

รอเลย! ปฏิกิริยาเมื่อเราได้แอบฟังสามเพลงใหม่ของ Slot Machine ชนิดที่อ้าปากค้าง

  • Writer: Montipa Virojpan
  • Photographer: Chavit Mayot

เมื่อต้นเดือนกันยายนที่ผ่านมา ทีมงาน Fungjaizine มีโอกาสได้ไปเยี่ยมเยียน Karma Sound Studios ที่บางเสร่เพื่อทดลองฟัง 3 เพลงล่าสุดของ Slot Machine ผลงานพวกเขาได้ร่วมทำกับ Brandon Darner โปรดิวเซอร์เพลงฮิตของวงระดับโลกอย่าง Imagine Dragons ที่ต้องบอกเลยว่า โคตรเอา! โคตรถึง! และต้องตั้งตารออัลบั้มใหม่ของพวกเขาอย่างใจจดใจจ่อจริง ๆ ในบทความนี้เราจึงจะแบ่งออกเป็น 3 ส่วน ได้แก่ การพูดคุยกันระหว่างเรากับ Slot Machine บทสัมภาษณ์ของ Brandon Darner และสปอยล์เพลงใหม่ของพวกเขาที่ยังไม่ปล่อยที่ไหนให้ได้จินตนาการตามกันไปก่อน PART I : The Band อัลบั้มใหม่จะทำเป็นภาษาอังกฤษอีกหรือเปล่า เฟิด: ใช่ครับ ณ ตอนนี้ แก๊ก: แต่ว่ายังไงก็ต้องมีภาษาไทยด้วยครับ ตอนนี้ยังทำอยู่เรื่อย ๆ ยังไม่เสร็จดี เฟิด: นับตั้งแต่อัลบั้มที่แล้ว Spin The World ที่เราทำเพลงภาษาอังกฤษ ก็ยังเป็นแค่ช่วงของการเริ่มต้นเอง แล้วเราก็ได้เริ่มต้นอะไรหลาย ๆ … Continued

Cuco ถึงกับช็อก เมื่อเด็กไทยแร็ปภาษาสเปนได้รัว ๆ ใน BAM Weekender

  • Writer: Mikey Sent
  • Photographer: Conflakes

9 กันยายน 2561 BAAM กลับมาอีกครั้งกับชื่อ BAM Weekender ในค่ำคืนสุดท้ายที่แสนหวาน หลังจากที่ผ่าน Giraffage และ Mild High Club มาหมาด ๆ และในรอบสุดท้ายนี้ Conflakes ได้พาพวกเราเข้าสู่ทุ่งดอกไม้ไปกับ Cuco หรือ Omar Banos หนุ่มละตินวัย 20 จากแคลิฟอร์เนีย ผู้ได้แรงบันดาลใจจากการฟัง MC Magic และ Baby Bash จนให้กำเนิดอัลบั้ม Wannabewithyou ตั้งแต่เขายังเรียนไฮสคูล (ร้ายกาจจจจจจ) และแน่นอนว่าค่ำคืนนี้คงเป็นสวรรค์ของคนที่รักในความโรแมนติกและแฟน ๆ lo-fi, hiphop, bed room pop อย่างแน่นอน แฟนเพลงมานั่งรอจับจองพื้นที่กันตั้งแต่ 2 ทุ่ม จนถึงเวลาที่เราจะได้เห็น Cuco ปรากฏตัว และแน่นอนว่าธีมของงานคือ ‘floral babe’ ด้านหน้างานมีการตกแต่งด้วยแบ็คดรอปรูปบูชาของ Cuco … Continued

Plastic Plastic เมื่อดนตรีคือส่วนเติมเต็มความรู้สึกของ BNK48 ใน Girls Don’t Cry

  • Writer: Montipa Virojpan
  • Photographer: Chavit Mayot

จะมีอะไรน่าสนใจไปกว่าการที่ผู้กำกับลายเซ็นจัดอย่าง เต๋อ นวพล เลือกที่จะทำภาพยนตร์สารคดีถ่ายทอดแง่มุมที่เราไม่เคยเห็นของ BNK48 ไอดอลแห่งชาติที่ไม่น่าจะมีใครไม่รู้จักพวกเธอ และด้วยกระแสตอบรับที่ดีแบบถล่มทลายทำให้เราต้องไปพิสูจน์ด้วยตัวเองว่าจะดีงามแบบที่หลายคนพูดไว้หรือเปล่า หลังจากที่ดูจบก็พบว่าเต๋อยังเป็นผู้กำกับที่เลือกหยิบประเด็นมานำเสนอได้น่าสนใจ มีอารมณ์ขัน และไม่ทิ้งจังหวะการเล่าเรื่องหรือการตัดต่อเป็นเอกลักษณ์ของเขาไปแม้แต่น้อย และนอกจากเส้นเรื่องหลักแล้ว สิ่งที่ดึงความสนใจเราไปจากความน่ารักสดใสของน้อง ๆ ได้โดยสิ้นเชิง คือดนตรีประกอบที่เป็นอีกส่วนสำคัญของหนังที่ทำให้เราต้องตั้งใจฟัง เพราะมันสามารถทำหน้าที่เล่าเรื่องที่น้อง ๆ บอกเล่าให้สมบูรณ์ขึ้นได้อย่างน่าอัศจรรย์ โดยคนที่อยู่เบื้องหลังสกอร์เหล่านี้ไม่ใช่ใครที่ไหนแต่เป็นคู่พี่น้องมหัศจรรย์ Plastic Plastic ปกป้อง และ ต้องตา จิตดี เราจึงรีบติดต่อพวกเขาเพื่อไปหาคำตอบว่าอะไรคือเคล็ดลับที่ทำให้ทั้งสองคนเล่าเรื่องผ่านเสียงเพลงออกมาได้ยอดเยี่ยมขนาดนี้ ***บทสัมภาษณ์นี้สปอยล์ส่วนสำคัญของภาพยนตร์*** ก่อนหน้านี้ป้องกับเพลงเคยทำเพลงประกอบภาพยนตร์อื่นมาก่อนที่จะได้ทำ Girls Don’t Cry หรือเปล่า เพลง: ก็มี ‘Die Tomorrow’ ค่ะ หนังของพี่เต๋อเหมือนกัน รู้สึกยังไงตอนที่เต๋อชวนมาทำเพลงประกอบ ไปรู้จักกันได้ยังไง เพลง: ก็ดีใจนะ คือตอนนั้นเพลงเดินไปเจอพี่เต๋อที่สยามโดยบังเอิญ ‘อ้าว หวัดดีค่ะพี่เต๋อ’ ปกติรู้จักกันแบบผ่าน ๆ ไม่เคยคุยกัน พี่เต๋อก็บอก ‘เนี่ยกำลังหาเบอร์เพลงอยู่พอดีเลย กำลังคิดอยู่ว่าจะหาจากใครดี จะให้ทำเพลงประกอบหนัง’ แล้วเขารู้ได้ไงว่าเราทำเพลงประกอบได้ด้วย เพลง: เขาอาจจะไม่ได้คิดว่าเราทำได้ ตอนนั้นเขาอยากได้เปียโนคลาสสิก เหมือนเขารู้ว่าเพลงเล่นเปียโนได้ (ป้อง: ซึ่งเพลงมันก็เรียนคลาสสิกมา) แต่เพลงก็ไม่เคยทำนะ … Continued

โคตรเดือดที่งาน Yuppercut เปิดตัวค่ายเพลงฮิปฮอปที่น่าติดตามที่สุดในขณะนี้

  • Story and photos by Chavit Mayot

6 กันยายน 2561 ในยุคที่เพลงแร็ป เพลงฮิปฮอปกำลังมาแบบนี้ จากการที่เราเห็นรายการตามช่องเคเบิ้ลทีวีหรือศิลปินฮิปฮอปได้พาเหรดลืมตาอ้าปากกันทั่ววงการ ก็อดดีใจไม่ได้จริง ๆ ที่ฮิปฮอปกลับมาเฟื่องฟูเต็มที่ในบ้านเราซะที ไม่ใช่แค่เรื่องการแต่งตัวหรือแค่กระแสต่าง ๆ แต่ศิลปินฮิปฮอปใต้ดินก็สามารถทัวร์คอนเสิร์ตได้เต็มที่ ตารางยาวไม่แพ้ศิลปินจากค่ายใหญ่ ๆ  และแน่นอนเหล่ากลุ่มก้อนที่ร่วมกันรันวงการกันมาตั้งนานก็ถึงเวลามีค่ายเพลงแร็ปรุ่นใหม่กันซักที ซึ่งก็เป็นการร่วมมือของมือพระกาฬอย่างกลุ่ม Rap is Now, Freshment และ NINO โปรดิวเซอร์มือทอง ปลุกปั้นค่าย YUPP กันขึ้นมาได้ และประเดิมเปิดตัวสามศิลปินที่เรียกได้ว่าคนไม่ฟังแร็ปก็ต้องคุ้นอย่าง Maiyarap, Blacksheep, และ Ben Bizzy ที่ได้ฤกษ์ประเดิมให้เราได้โชว์กันในงาน Yuppercut ณ ร้าน Beans เอกมัย หลังจากปล่อยวิดิโอ cypher สุดเท่มาก่อนหน้านี้ (เท่มาก ๆ สวยมาก ๆ ผู้เขียนเองกรี๊ดมาก ๆ ต้องลองดูจริง ๆ) ผู้เขียนเองนั่งแกร๊บไบค์มาถึงงานตามเวลาโชว์อย่างฉิวเฉียดหวิดโดนฝน ซึ่งก็พอดีกับการเปิดตัว mv เพลงใหม่ของไมยราพ อย่างเพลง Listen ที่พอถึงท่อนแร็ปรัวก็มีตัวไมยราพจริง ๆโผล่มาแร๊ปโชว์ดื้อ ๆ เปิดงานกันได้เท่สุดตัวไปเลยจ้า ก่อนจะมาต่อกันด้วย cypher ‘YUPP’ สุดคูล ที่ดูสดก็พบว่า เท่มาก ๆ เลยโว่ย ต่อด้วย Blacksheep ที่เราคุ้นกันดีจากรายการ The Rapper ขึ้นมาเปิดด้วย cypher ประจำตัวและโชว์เพลงใหม่ที่ยังไม่ได้ปล่อยอย่าง อย่าอาย เป็นการเปิดเผยแนวทางของ Blacksheep แล้วว่าจะมาสายแร็ปเพื่อชีวิตจริง ๆ ซึ่งก็ทำได้ถึงมาก ๆ จนผู้เขียนเองก็แอบลุ้นว่า นี่อาจจะเป็นพี่กอล์ฟ ฟักกลิ้งฮีโร่คนต่อไปก็ได้ หลังจากมาเข้ม ๆ Ben Bizzy ก็ขึ้นมาโชว์เพลงใหม่ล่าสุดอย่างเพลง Inw จากผลงานชุดใหม่สุดเท่อย่าง Moodsuz EP 1 ในสไตล์ trap กลิ่นอายเอเชีย ๆ ที่น่าสนใจมาก ๆ และยังใหม่ในตลาดเมืองไทยอยู่ก่อนจะจบโชว์ด้วย cypher ตามระเบียบ ช่วงต่อไปนี่ถือว่าเซอไพรส์มาก ๆ เพราะก่อนตัวผมจะมาก็ไม่คิดว่าจะได้ดูเหล่าแร็ปเปอร์สุดฮิตจากรายการ The Rapper อย่าง Laxyloxy ที่มาพร้อม Organic ที่ผู้ชมแหกปากร้องท่อน ‘ดีต่อใจ ไดต่อจี’ จากเพลง รู้ทั้งรู้ กันลั่นผับ ต่อกันด้วยสามหนุ่มแนว old school อย่าง The Foolest ที่โอ้โห บอกเลยว่าสุดจริงเดือดจริง ถึงอารมณ์ old school แท้ ๆ … Continued

‘นี่’ อาจเป็นเพลงของ ‘เดือน จงมั่นคง’ ที่ทำให้ทบทวนอะไรมากกว่าแค่ความสัมพันธ์

  • Writer: Montipa Virojpan

แม้ว่าจะเป็นการถ่ายทอดชุดคำที่มีใจความเดียวกันหรือทำให้เกิดปฏิกิริยากับผู้รับสารได้คล้ายคลึงกัน แต่ด้วยองค์ประกอบตามธรรมชาติรวมถึงรูปแบบที่เลือกนำเสนอจึงทำให้ ‘บทเพลง’ ถูกแยกออกจาก ‘กวี’ แต่แปลกไหมที่บางครั้งเรารู้สึกว่าเพลงเพลงนึงให้ความรู้สึกได้เหมือนบทกวี หรือบทกวีนี้ก็มีความไพเราะไม่ต่างไปจากเพลง ซึ่งไม่ใช่เรื่องที่พบได้บ่อยนักกับโลกฉาบฉวยและว่องไวเช่นทุกวันนี้ แต่ทันทีที่เราได้ฟังเพลงล่าสุดของ เดือน จงมั่นคง ศิลปิน นักเขียน และนักดนตรีที่มีผลงานออกมามากมายตั้งแต่หนังสือรวมบทกวี ภาพถ่าย วงดนตรีที่ชื่อ Sasi จนล่าสุดเธอก็กลับมาจับโปรเจกต์เพลงโฟล์กอะคูสติกที่เธอทำมาโดยตลอดอีกครั้งโดยใช้ชื่อจริงของเธอเอง และเรารู้สึกว่า เพลงเพลงนี้ของเธองดงามและรู้สึกได้ไม่ต่างจากบทกวี ความรู้สึกหลังจากที่ฟังเพลงนี้จบไปในรอบแรกเราคงมองว่า นี่ คงเป็นแค่เรื่องเกี่ยวกับความสัมพันธ์ประเดี๋ยวประด๋าวที่มีผลกับอุณหภูมิร่างกายและจังหวะการเต้นของหัวใจ เมื่อทุกอย่างได้ผ่านพ้นไปก็เกิดการตระหนักรู้ในที่สุดว่ามันก็เป็นเพียงวัฏฏะหนึ่งที่เกิดขึ้นและจบลง แต่พอได้ซึมซับกับเพลงนี้ไปอีกซักสองสามรอบก็จะพบว่า นี่ คือการเข้าใจความเป็นธรรมดาของชีวิตที่ไม่มีอะไรอยู่กับเราได้ถาวร แม้แต่ความสุขของเราเอง จนบางทีเราก็เกิดความสงสัยอีกครั้งว่าเมื่อทุกสิ่งไม่จีรัง แล้วมันมีอะไรที่เป็นจริงบ้าง เพราะการที่มันได้เกิดขึ้นและผ่านพ้นไปแล้วแบบไม่มีหลักฐานรูปธรรมหลงเหลืออยู่ก็เหมือนว่าสิ่งเหล่านั้นไม่เคยมีอยู่มาก่อน ตรงนี้อาจเป็นเหตุผลที่ทำให้เพลงนี้ถูกเรียกในชื่อภาษาอังกฤษว่า Surreal ที่อะไรก็ดูเหนือจริงราวกับเป็นแค่ฝัน แต่ก็แปลกนะที่บ่อยครั้งความฝันเหล่านั้นดันเหมือนจริงเสียเหลือเกิน สิ่งที่โดดเด่นของเพลง นี่ น่าจะเป็นการขึ้นต้นเกือบทุกวรรคเป็นคำเดียวกันหมดคือคำว่า ‘นี่’ แต่ไม่ได้บอกในทีแรกว่า ‘นี่’ ในที่นี้คืออะไร ซึ่งเป็นวิธีอธิบายความหมายของคำว่า ‘นี่’ ได้อย่างเป็นธรรมชาติที่สุด เพราะคำว่า ‘นี่’ หรือ ‘this’ มันไม่ได้เป็นการระบุสิ่งเจาะจง แต่เป็นการบอกตำแหน่ง บอกสถานะของสิ่งที่อยู่ตรงหน้าหรือกำลังเกิดขึ้นแบบคร่าว ๆ เท่ากับว่ามันคือความคลุมเครือในตัวเองอยู่แล้ว ลองนึกถึงเวลาคนพูดว่า ‘นี่’ ขึ้นมาลอย ๆ ถ้าไม่ได้มองเห็นด้วยตาของตัวเองหรืออยู่ในสถานการณ์นั้นเราก็จะต้องถามว่า ‘นี่’ ที่พูดถึงอยู่คืออะไร แต่พอฟังไปเรื่อย ๆ … Continued

แรงฉุดไม่อยู่ Phum Viphurit ร่วมงานกับศิลปินญี่ปุ่น STUTS ในเพลงล่าสุด Dream Away

  • Writer: Montipa Virojpan

วินาทีนี้คงไม่มีศิลปินไทยรุ่นใหม่คนไหนที่มาแรงไปกว่า Phum Viphurit อีกแล้ว เพราะนอกจากเขาจะมีทัวร์ไปทั่วโลก ทั้งเอเชีย ยุโรป และอเมริกา เขายังได้ร่วมงานกับศิลปินที่มีชื่อเสียงและกำลังเป็นที่จับตามองอีกหลายคน ทั้ง Higher Brothers แร็ปเปอร์จากกลุ่มศิลปิน 88Rising และล่าสุดเขาก็ถูกโปรดิวเซอร์มือดีจากญี่ปุ่นนาม STUTS ชักชวนให้เขาไปร่วมแจมในเพลง Dream Away ที่ทำให้เราได้สัมผัสถึงเสน่ห์ที่ต่างไปในน้ำเสียงของภูมิเวลาที่มาอยู่กับดนตรีแนวอื่น ๆ ซึ่งน่าหลงใหลไม่แพ้ผลงานของเขาเองเลยแม้แต่นิดเดียว หลาย ๆ คน ณ ที่นี้คงจะรู้จักภูมิกันเป็นอย่างดีแล้วจากอัลบั้มแรกในชีวิตของเขาอย่าง Man Child หรือเพลงสุดฮิตของยุค Lover Boy จนทำให้ถูกพูดถึงในสื่อชั้นนำทั้งไทยเทศและโด่งดังจนฉุดความแรงไม่อยู่แล้วจริง ๆ ในบทความนี้เราจึงขอแนะนำ STUTS ให้ได้รู้จักกันมากขึ้นอีกนิดว่าเขาเป็นใครมาจากไหนทำไมถึงมาร่วมงานกับภูมิได้ STUTS หรือ Yuya Kita คือศิลปิน โปรดิวเซอร์ และนักเล่น MPC ชาวญี่ปุ่นวัย 29 ปี ที่ในปี 2013 เขาเคยไปสร้างความตื่นใจให้นิวยอร์กเกอร์ที่อยู่ในละแวกฮาร์เลมได้เต้นรำไปกับเครื่อง MPC ของเขา และทำให้เขาโด่งดังขึ้นมาผ่านคลิปใน YouTube ภายหลังเขาได้รับความไว้วางใจให้โปรดิวซ์และรีมิกซ์งานของศิลปินในโตเกียวหลากหลายแนว ทำเพลงโฆษณา และออกอัลบั้มแรกของตัวเองที่ชื่อ Pushin ในปี … Continued

เก็บตก ‘Produce 48’ และ 12 ไฟนอลเมมเบอร์ที่จะได้เดบิวต์กับวง ‘IZ*ONE’

  • Writer: Kunchanit Liengudom
  • Visual Designer: Jiratchaya Pattarathumrong

Produce 48 คือเรียลลิตี้ที่เฟ้นหาไอดอลหญิงจากบรรดาเด็กฝึกของค่ายต่าง ๆ ในเกาหลีและสมาชิกจาก AKB48 Group ของทางฝั่งญี่ปุ่น ซึ่งเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (31 สิงหาคม) ก็มีการถ่ายทอดสด epsiode สุดท้ายของรายการ และนี่ก็เป็นการประกาศผลโหวตที่ใช้ในการตัดสินรายชื่อสมาชิกทั้ง 12 คนสุดท้ายที่จะได้เดบิวต์พร้อมกับชื่อวง ‘IZ*ONE’ (ไอซ์วัน) อย่างเป็นทางการ จากทั้ง 12 EP ที่ผ่านมา Produce 48 ทำให้เราเห็นถึงความหวังและความฝันของของผู้เข้าแข่งขัน รวมถึงความยากลำบากและสิ้นหวังที่ออกมาในรูปแบบของน้ำตาของพวกเธออยู่บ่อยครั้ง ทำเราเผลอน้ำตาคลอตามอยู่ในหลาย ๆ EP (อินมาก) ทั้งเด็กฝึกเกาหลีที่ต้องรอคอยการเดบิวต์อย่างไม่มีที่สิ้นสุด มีหลายคนที่เริ่มเป็นเด็กฝึกมานานหลายปีแล้วแต่ยังไม่ได้ข่าวคราวจากทางค่ายเรื่องการทำวง หรือคนที่เคยเดบิวต์เป็นไอดอลมาแล้วแต่ไม่ได้รับความนิยม กระทั่งขาดการทำกิจกรรมทางวงมานานจนต้องตัดสินใจออกมาเริ่มใหม่ และทางฝั่งญี่ปุ่นที่ถึงแม้ทุกคนจะได้เป็นสมาชิกใน AKB48 Group และมีวงกันอยู่แล้ว พวกเธอก็ยังอ่อนทักษะไปค่อนข้างมากเมื่อเทียบกับเด็กฝึกเกาหลี เนื่องจากระบบฝึกของทั้งสองประเทศที่ต่างกัน รวมถึงปัญหาเรื่องภาษาที่ใช้ในการร้อง ทำให้หลาย ๆ คนต้องพบเจอกับช่วงเวลาที่ยากลำบากไม่น้อย ซึ่งเราก็บีบหัวใจทุกครั้งที่มีการประเมินอันดับและต้องคัดคนออก จาก 96 เหลือ 58 คนในรอบแรก, 58 เหลือ 30, … Continued

Princess Nokia ปลดแอกความเกรี้ยวกราดของหญิงสาววัย 25 ผ่านไรห์มแร็ปดุดัน

  • Writer: Montipa Virojpan
  • Photos: LoveDa Records Thailand

มีอยู่น้อยครั้งที่แร็ปเปอร์หญิงจะถูกพูดถึงในแวดวงฮิปฮอป โดยเฉพาะกับแร็ปเปอร์หญิงที่เป็นเฟมินิสต์ ระเบิดความหงุดหงิดของหญิงสาวที่ถูกกดทับในสังคมออกมาได้เผ็ดร้อน วินาทีนี้เราเลยต้องหลีกทางให้กับ Princess Nokia ศิลปินชาวแอโฟรโปโตริกันอเมริกันที่กล้าลุกขึ้นมาถ่ายทอดสิ่งที่เธอคิดโดยไม่สนใจคำครหาและคำสบประมาทจากคนรอบข้าง เพราะหลังจากประสบความสำเร็จจากอัลบั้ม 1992 ที่ทำให้เธอดังกระฉ่อนแล้ว งานชุดล่าสุด Girl Cried Red อาจจะต้องใช้คำว่า ‘หลบหน่อยแม่จะเดิน’  Destiny Nicole Frasqueri กลับมาอาศัยอยู่กับยายของเธอหลังจากถูกทำร้ายร่างกายจากผู้ดูแลในสถานเยาวชนสมัยเป็นวัยรุ่น เพราะตอนเด็ก ๆ เธอต้องสูญเสียแม่จากการติดเชื้อ HIV และทำให้เธอเริ่มเขียนไรห์มครั้งแรกในชีวิตตอนอายุ 16 ปี กับเพลงที่ชื่อ Destiny โดยให้ชื่อตามชื่อจริงของเธอเอง ก่อนหน้านี้เธอมีผลงานอยู่ใน Soundcloud โดยใช้ชื่อว่า Wavy Spice แน่นอนว่าเรื่องราวที่เล่าในเพลงเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับชีวิตของเธอ ซึ่งในช่วงปี 2012 นี้เองทำให้เธอเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางจากเพลง Yaya ที่เป็นภาษาอังกฤษและภาษาถิ่นของเผ่า Taino ซึ่งเธอสืบเชื้อสายมา แปลว่า ‘จิตวิญญาณที่ยิ่งใหญ่’ ซึ่งสะท้อนแนวคิดที่เธอภูมิใจในสายเลือดและความรุ่มรวยวัฒนธรรมของสังคมผิวสี จากนั้นก็เข้าอยู่ในสังกัด Vice Records พร้อมออกอัลบั้มชื่อ Metallic Butterfly ที่เต็มไปด้วยเพลงเกี่ยวกับจินตนาการและโลกในอุดมคติ รวมถึงการที่เธอสามารถพรรณนาถึงความภูมิใจในคุณค่าความเป็นผู้หญิงจากฐิ่นฐานเดียวกัน หลังจากนั้นจึงปล่อยงานดิสโก้/โซลชุด Honeysuckle ในปี 2015 ที่เธอเริ่มเผยความความโกรธเกรี้ยวและเรื่องน่าเบื่อหน่าย การถูกกดขี่ของคนผิวสีที่เกิดขึ้นในสังคมอเมริกัน การแสดงออกในฐานะผู้หญิงที่มีความรู้สึกนึกคิดไม่ต่างจากเพศไหน ๆ ไปจนถึงการพร่ำพรรณนาความรู้สึกหรือความเสี้ยนแบบตรงไปตรงมา ดังเช่นในเพลงชื่อหอมหวานน่ารักอย่าง … Continued

อิ่มอร่อยกับ Cake ของ นะ Polycat ที่แยกร่างมาทำเพลง 8 Bit ในชื่อ SLEEPTWICE

  • Writer: Montipa Virojpan

ต้องยอมให้กับความคิดสร้างสรรค์ที่พุ่งพล่านฉุดไม่อยู่ของ นะ—รัตน จันทร์ประสิทธิ์ ฟรอนต์แมนแห่งวง Polycat ที่ทำให้เราเชื่อว่าเขาเป็นนักสะสมวัตถุดิบทางเสียงที่แปลกใหม่มากที่สุดคนนึงของวงการ นอกจากว่าเขาจะเป็นผู้อยู่เบื้องหลังงานเจ๋ง ๆ ของศิลปินหลายคนในบ้านเราแล้ว ทั้ง แสตมป์ อภิวัชร์, Petite หรือแม้แต่ซูเปอร์สตาร์ค้างฟ้า เบิร์ด ธงไชย เขาก็ยังสามารถทำให้เพลงของวงตัวเองเป็นที่พูดถึงกับโครงสร้างของเนื้อร้องสุดพิลึกพิลั่นใน ถ้าเธอคิดจะลืมเขา จากอัลบั้มแรกหลังจากที่เคยเป็น Skarangers กันมาในยุคก่อนนั้น และกลับมาเป็น talk of the town สร้างแรงสั่นสะเทือนบนคลื่นวิทยุอีกครั้งในสามซิงเกิ้ลแรกที่เอาฟุตเทจจากภาพยนตร์ ‘พริกขี้หนูกับหมูแฮม’ มาเป็นมิวสิกวิดิโอ ส่งผลให้การเดินทางต่อของเพลงที่เหลือในอัลบั้ม 80 Kisses ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี ถือเป็นการทำให้ดนตรีซินธ์ป๊อปยุค 80s กลับมามีชีวิตอีกครั้งเมื่อศิลปินวงอื่น ๆ ก็หันมานำเสนอเพลงสไตล์นี้กันมากขึ้น จนเมื่อเดือนที่แล้วพวกเขาก็ไม่หยุดอยู่แค่สีสันของหลอดไฟนีออน ดิสโก้บอล และเสียงอนาล็อก หากแต่กลับมาพร้อมเพลง อาวรณ์ กับดนตรียุคที่เชื่อมต่อกันด้วยซินธิไซเซอร์และดรัมแมชชีนฟุ้ง ๆ แต่ได้รับอิทธิพลจากดนตรีและวิธีการร้องแบบ r&b ยุคดั้งเดิม รวมถึงการเล่นคำระหว่าง ‘อาวรณ์’ และ ‘I want you’ ไม่เพียงแค่นี้ มิวสิกวิดิโอก็เป็นอะไรที่ขับเน้นความชัดในความ 90s African-American culture ที่ทุกคนดูแล้วก็บอกว่า ‘ทำถึง’ … Continued

Beat and Beyond #5 : KLLO ลุ่มลึกในบีต r&b ที่ทำเราหลงเสน่ห์แบบหัวปักหัวปำ

  • Story and photos by Nattapat Suthapornpat

1 กันยายน 2561 ในคืนวันแรกของเดือนกันยายน พบกันอีกครั้งกับงาน Beat and Beyond by Asahi ครั้งที่ห้าของ HUH? หรือก็คือโปรเจกต์ใหม่ที่เน้นไปทางซีนดนตรีอิเล็กทรอนิกของโปรโมเตอร์ Have You Heard? ซึ่งศิลปินที่จะมาเล่นในงานวันนี้ก็คือ KLLO r&b อิเล็กทรอนิกดูโอ้จากเมลเบิร์น ที่สมาชิกประกอบด้วยศิลปินลูกพี่ลูกน้อง Chloe Kaul และ Simon Lam งานในวันนี้จัดขึ้นที่ De Commune ย่านทองหล่อ พร้อมเปิดด้วยดีเจ NK Chan ที่มากับเซ็ตเพลง house/nu-disco จังหวะสนุก ๆ ปรับมู้ดชวนให้คนดูขยับแข้งขยับขากันเบา ๆ ก่อนจะมาสนุกกันต่อด้วยจังหวะเพลงที่ดุดันขึ้นตามสไตล์ดนตรี techno/ industrial/ experimental ของดีเจ ตั้มโมโนโทน ที่หาโอกาสดูได้ยากในขณะนี้ เวลาประมาณห้าทุ่มกว่า ๆ คนดูเริ่มหนาแน่นมากขึ้น ก็มาถึงคิวของดูโอ KLLO พร้อมเปิดโชว์ด้วย Downfall แทร็คเปิดอัลบั้มเดบิวต์อย่าง Backwater จากนั้นพาคนดูไปล่องลอยกันต่อด้วย Making … Continued

A Brief History of Beatboxing ประวัติศาสตร์อย่างย่อของบีตบ็อกซ์

  • Writer: Piyakul Phusri

ผู้สันทัดกรณีในวงการฮิปฮอปกล่าวไว้ว่า องค์ประกอบของดนตรีฮิปฮอปประกอบไปด้วย MC DJ การเต้นเบรกแดนซ์ และกราฟิตี้ เหมือนหัวใจมีสี่ห้องยังไงยังงั้น แต่ยังมีอีกสิ่งหนึ่งที่ถือว่าเป็นองค์ประกอบที่ห้าของดนตรีฮิปฮอป นั่นก็คือ ‘beatboxing’ หรือการใช้ปาก คอ จมูก ทำเสียงเลียนแบบเครื่องดนตรีต่าง ๆ ปัจจุบันบีตบ็อกซ์ไม่ถือว่าเป็นเรื่องใหม่ เพราะเราสามารถเห็นการแสดงบีตบ็อกซ์ได้ทั่วไปตั้งแต่การแสดงของนักดนตรีข้างถนน ไปจนถึงรายการประกวดความสามารถทางโทรทัศน์ นักบีตบอกซ์พัฒนาความซับซ้อนของเสียง ความเร็ว และ เทคนิคใหม่ ๆ ที่ทำให้การแสดงบีตบ็อกซ์มีความน่าสนใจ และตื่นตาตื่นใจมากขึ้นเรื่อย ๆ แต่กว่าที่จะเป็นบีตบ็อกซ์อย่างที่เห็นในทุกวันนี้ มันเป็นศิลปะที่มีพัฒนาการ และความเป็นมาที่น่าสนใจเลยทีเดียว ———- ก่อนที่สิ่งที่จะเรียกว่าเป็น บีตบ็อกซ์ จะเกิดขึ้น เทคนิคการใช้กลุ่มอวัยวะในการเปล่งเสียงอย่าง ปาก คอ จมูก เพื่อการทำเสียงเลียนแบบเครื่องดนตรีอยู่ในดนตรีอเมริกันมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 19 โดยอยู่ในเพลงพื้นบ้านทั้งของคนผิวขาวและผิวดำ เพลงทางศาสนา เพลงบลูส์ เพลง ragtime (แนวเพลงเต้นรำยุคปี 1900 ที่ส่งอิทธิพลต่อมาถึงเพลงบลูส์และแจ๊ส) การแสดงละครเบ็ดเตล็ดที่รวมการร้องและเต้นรำเข้าด้วยกัน (vaudeville) และเพลง hokum (เพลงบลูส์แขนงหนึ่งที่มีเนื้อหาตลกโปกฮา) ขณะเดียวกัน สิ่งที่น่าจะส่งอิทธิพลต่อการกำเนิดขึ้นของบีตบ็อกซ์ก็คืออิทธิพลจากดนตรีพื้นเมืองแอฟริกัน ที่นิยมใช้อวัยวะส่วนต่าง … Continued