Daniel Didyasarin เด็กหนุ่มที่อยากให้คุณ ‘คอยดู’ การเติบโตของเขา

  • Writer: Montipa Virojpan
  • Photographer: Pradthana Chaijaroensuksakul

ชาว ฟังใจ และ Fungjaizine อาจจะรู้จักกับวงดนตรีที่ชื่อว่า Penny Time หรือ City Plant มาบ้างแล้ว แต่ตอนนี้ นักร้องนำของทั้งสองวงอย่าง Daniel Didyasarin (แดเนียล ดิษยะศริน) กำลังมีโปรเจกต์เดี่ยวชื่อเดียวกับตัวเอง และปล่อยเพลง คอยดู โฟล์กภาษาไทยเพลงแรกในชีวิต มาให้เราได้ดูได้ฟังกันไปแล้ว ตอนนี้ก็ได้เวลามาทำความรู้จักอีกแง่มุมของเขากันเลย ที่มาของเพลง คอยดู ทำไมถึงทำเป็นโฟล์ก ภาษาไทย คอยดู เป็นเพลงที่แต่งขึ้นมาตอนกำลังคล้าย ๆ เจอวิกฤติในชีวิตครับ เป็นช่วงที่ชีวิตไม่ค่อยลงตัวเท่าไหร่ เหมือนเราใกล้ ๆ จะเลิกกับแฟน ก็เลยออกมาเป็นเพลงนี้ เป็นครั้งแรกที่เราเขียนเพลงไทย แล้วก็เป็นครั้งแรกที่มีคลังของคำพูดที่เป็นภาษาไทยเข้ามาในหัวที่เรารู้สึกว่า เราสะดวกใจกับมันเป็นครั้งแรก เป็นเพลงแรกจริง ๆ เลยแหละครับเพราะก่อนหน้านี้เขียนเป็นภาษาอังกฤษมาโดยตลอด แล้วที่เป็นโฟล์กก็เพราะจริง ๆ แล้วต่อให้แต่งเพลงวงหรือเพลงตัวเอง มันก็เกิดจากการนั่งอยู่กับอะคูสติกกีตาร์อยู่แล้ว แต่อันนี้คุณภาพเพลงมันก็ค่อนข้างจะเดโม่หน่อย ซึ่งเราก็ตั้งใจให้มันออกมาแบบนั้น ไม่มีการคัดกรองอะไร มันก็คือผมในเวอร์ชันที่มานั่งร้องเพลงให้คุณฟังต่อหน้า ก็ตั้งใจจะให้มันอยู่ในโปรเจกต์เดี่ยวที่เป็นเพลงไทย เพราะวง (Penny Time) ก็ตั้งใจมาตั้งแต่แรกแล้วว่าคงไม่มีเพลงภาษาไทย แล้วก็ไม่ได้คิดจะเปลี่ยนมันเร็ว ๆ นี้ … Continued

Suuns วง Experimental Rock จากแคนาดา กับเพลงหนักหน่วง ดำดิ่ง ไร้ที่สิ้นสุด

  • Writer: Montipa Virojpan
  • Photos: Secretly Canadian

พรุ่งนี้แล้วที่เราจะได้ไปสนุกกับดนตรีแปลกใหม่ที่เดือดดาล ดำมืด จากการผสานเอาความหนักแน่นของเพลงร็อก กับความลื่นไหลชวนโยกไม่หยุดของอิเล็กทรอนิกมาไว้ด้วยกัน กับวงจากแคนาดาที่มีชื่อว่า Suuns ใครยังไม่รู้จักพวกเขา เราขอชวนให้มาอ่านบทสัมภาษณ์นี้ หลายคนเคยเรียกวงของคุณว่า ‘ซันส์’ แต่จริง ๆ แล้วมันอ่านว่า ‘ศูนย์’ ในภาษาไทย ทำไมถึงตั้งชื่อเป็นคำนี้ ตอนแรกเลยวงเราชื่อ ‘Zeroes’ ครับ แต่พอเริ่มตั้งใจทำให้มันจริงจังขึ้นก็คิดว่าต้องเปลี่ยนชื่อเพราะมีหลายวงใช้ชื่อนี้ไปแล้ว เดี๋ยวซ้ำกันฮะ แล้วเราก็คิดว่าถ้าชื่อ SUUNS ก็คงจะเท่ดี ทั้งการเขียน การออกเสียง แล้วมันก็มีความหมายเดียวกับชื่อเดิมของวงเราด้วย เคยมาประเทศไทยมาก่อนไหม คุณว่าประเทศนี้จะเป็นยังไงในความคิดคุณ ไม่เคยมาเลยครับ แต่ตื่นเต้นมากที่จะได้มา ได้ยินว่าอาหารอร่อยแล้วก็มีผู้คนเจ๋ง ๆ เยอะมาก ผมเลยจินตนาการว่าที่นี่ต้องเป็นประเทศที่มีสีสันและมหัศจรรย์แน่ ๆ หลาย ๆ วงเริ่มทำเพลงจากป๊อปหรือร็อกมาก่อน อะไรทำให้คุณเลือกที่จะสร้างสรรค์สิ่งใหม่ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวขนาดนี้ จริง ๆ ก็เหมือนกันนะครับ มันไม่มีสูตรตายตัวหรอก เวลาคุณแจมกับเพื่อนในห้องซ้อมแล้วลองหาไอเดียใหม่ ๆ ใส่เข้าไป ผมว่ามันคือการที่ต้องฟังเพลงให้เยอะเข้าไว้ จะได้รู้ว่าพวกวัตถุดิบเหล่านั้นมาจากไหน และเราจะเอามันไปใช้ยังไงมากกว่า แล้วทำไมถึงเอาอิเล็กทรอนิกมาใส่กับความเป็นวงร็อก เราชอบทั้งร็อกแอนด์โรล แล้วก็เพลงอิเล็กทรอนิกครับ มันเหมือนจะไม่ค่อยเข้ากันเท่าไหร่แต่มันก็มีความสมดุลกันบางอย่างในทั้งสองแขนงดนตรีที่เราเอามารวมกันได้ครับ คนส่วนมากชอบฟังอะไรที่ซาวด์สะอาด ๆ ชัด … Continued

Devendra Banhart ชายเจ้าของบทเพลงกล่อมนอน ที่จะทำให้คุณมีฝันประหลาด

  • Writer: Montipa Virojpan
  • Photographer: Saind Pradthana

คนที่ได้ไปดู HYH Live! presents Devendra Banhart เมื่อคืนนี้ คงยังอิน มีความสุข และอิ่มเอมกับโชว์ของเขาอยู่แน่ ๆ วันนี้เราเลยส่งบทสัมภาษณ์ของเขามาให้ได้อ่านเสริมสร้างความฟินกันอีกระลอก ขอสปอยล์ว่า ถึงบทสัมภาษณ์นี้จะสั้น แต่ก็ทำให้ได้รู้ความคิดที่น่าสนใจของผู้ชายคนนี้หลายแง่มุมทีเดียว อะไรทำให้โครงสร้างเพลงโฟล์กของคุณมีความโดดเด่นกว่าศิลปินคนอื่น ๆ ผมไม่คิดว่าโครงสร้างเพลงของผมต่างหรือโดดเด่นจากใครเขานะ ผมพยายามที่จะวางสิ่งที่ผมอยากได้ลงไปในเพลง มีทั้งเพลงบราซิลเลียน หรือบางทีผมกูเกิ้ลหา ‘ริฟฟ์แจ๊สที่หวานเลี่ยนที่สุด’ ว่ามันคือเพลงอะไร เพราะผมอยากให้ในเพลงของผมมีสิ่งนั้น เหมือนเป็นการรวมกันของอะไรตลก ๆ อย่างละนิดอย่างละหน่อย แต่จริง ๆ มันคือการสร้างพื้นที่ที่เหมาะสมให้กับงานเขียนหรือกวีของผม ถ้าให้อธิบายให้เห็นภาพง่ายที่สุด มันน่าจะเหมือนกับที่หนังสือพิมพ์จีนเคยเขียนเกี่ยวกับเพลงของผมว่ามันเหมือนกับ ‘เพลงที่ฟังแล้วหลับ จากนั้นก็มีฝันประหลาด’ เป็นอะไรที่ผมชอบที่สุดที่เคยได้ยินมาเลยครับ ทำไมดนตรีในอัลบั้มล่าสุด Ape in Pink Marble ถึงให้ความรู้สึกแง่บวก ผ่อนคลาย แต่เนื้อหาค่อนข้างพูดถึงเรื่องความเหงา ความไม่สมหวัง เพราะงานก่อน ๆ มันเคยมีความเป็นดนตรีด้านลบและเกรี้ยวกราดมาแล้วมั้งครับ แต่เนื้อหากลับเป็นเรื่องที่ตรงกันข้ามเลย เนี่ย พอชุดใหม่ผมเลยลองพยายามที่จะทำดนตรีให้มันดูแง่บวก อ่อนโยนมากขึ้น แต่เป็นการถ่ายทอดความเศร้าของผมเอง ซึ่งจริง ๆ มันก็ไม่ได้เศร้าทั้งหมดหรอกนะ แต่ทำไมภาพบนปกอัลบั้มที่คุณออกแบบเองถึงไม่มีทั้งลิง แล้วก็ไม่ใช่สีชมพูด้วย … Continued

“กูไม่ได้อยากเป็นแร็ปเปอร์ กูอยากเป็นโยโกะโอโนะ!” ชีวิตสุดปั๊วะปังของ Mykki Blanco

  • Writer: Peerapong Kaewthae
  • Art Director: Thanaporn Sookthavorn

กระแสฮิปฮอปเข้ามาครองพื้นที่สังคมในเมืองไทยได้เป็นที่เรียบร้อยจากรายการประกวดแร็ปชื่อดังสองรายการที่ออกอากาศอยู่ตอนนี้ ก็เป็นข้อดีที่ทำให้เราได้เห็นความหลากหลายในตัวแร็ปเปอร์ทั้งแร็ปเปอร์ผู้หญิง หรือแร็ปเปอร์ผู้ชายอ้วนน่ารัก ไม่ได้หล่อตามค่านิยม ตามมาด้วยสไตล์การแร็ปที่แตกต่างกันหรือการใช้น้ำเสียง และภาษาถิ่นในการแร็ปได้น่าสนใจ ทำลายภาพจำของแร็ปเปอร์แบบเก่า ๆ ไปหมด เวลาใครพูดถึงแร็ปเปอร์ซักคนหนึ่ง ในจินตนาการของเราอาจคิดถึงแร็ปเปอร์มาดดุ น่าเกรงขามสไตล์แก็งสเตอร์ แต่งองค์ทรงเครื่องสไตล์ฮิปฮอปโอเวอร์ไซส์ที่พร้อมจะใช้ฝีปากฟาดทุกอย่างที่ขวางหน้าให้พังทลาย หรืออาจนึกถึงแร็ปเปอร์เท่ ๆ ที่แต่งตัวเนี้ยบ ๆ ดูมีรสนิยม ห่มด้วยแบรนด์เนมทั้งตัว แต่เราอยากให้โลกรู้จักแร็ปเปอร์อีกคนที่ก้าวข้ามกำแพงของเพศสภาพและท้าทายทุกกรอบความคิด ฉีกทุกคำจำกัดความและมายาคติในโลกฮิปฮอปทิ้งให้หมด เบ่งบานจนตัวของเขากลายเป็นศิลปะ ขอเชิญพบกับ Mykki Blanco Michael David Quattlebaum Jr คือตัวตนจริงของเขาซึ่งฉายแววอัจฉริยะตั้งแต่วัยรุ่นในฐานะเกย์ผิวดำที่ตอนอายุ 15 งานแสดงครั้งแรกของเขาได้รับรางวัล หลังจากนั้นเขาหนีออกจากบ้านเพื่อมาทำตามความฝันในการสร้างศิลปะอะไรซักอย่างในเมืองใหญ่ ก่อนจะยอมกลับไปเรียนที่โรงเรียนศิลปะตามคำสั่งแม่แต่ก็เรียนไม่จบอยู่ดี จนพบว่าการเขียนกวีคือการสื่อสารสิ่งที่อยู่ในใจได้ง่ายที่สุด คำแนะนำที่ดีที่สุดที่เขาได้รับในตอนนั้นคือ “นายไม่ต้องดูเป็นคนที่ติสต์ที่สุดในห้องนี้ก็ได้ เพราะนายสามารถเป็นศิลปินได้” เขาจึงใช้เวลาหกปีไปกับการเขียนกวีและกลับมาตีพิมพ์บทกวีของเขาในชื่อ ‘From the Silence of Duchamp to the Noise of Boys’ ที่นิวยอร์กและได้รับความสนใจไปทั่วอเมริกา ไม่นานเขาก็เปิดเผยอีกหนึ่งตัวตนหนึ่งในใจของเขาอย่าง Mykki Blanco บน YouTube ในฐานะวัยรุ่นสาวคนหนึ่งที่อยากเป็นแร็ปเปอร์เพื่อทำงานดนตรีและงานแสดงอีกรูปแบบที่ซับซ้อนและสื่อสารสิ่งที่อยู่ในใจของเขามากขึ้น ซึ่งใช้กวีในหนังสือของเขามาเป็นวัตถุดิบในการทำเพลงแร็ป เขาได้แรงบันดาลใจจากศิลปินมากมายทั้ง Lil’ … Continued

(1,300 ปีสีชา) คอนเสิร์ตใหญ่ครบรอบ 13 ปี ของศรีราชาร็อคเกอร์

  • Writer: Panchika Kittipalo and Warut Duangkaewkart
  • Photographer: Srirajah Rockers

2 มิถุนายน 2561 ด้วยสถานที่ที่ไม่คุ้นเคยบวกกับฝนตกและรถติด ทำให้เราเดินทางมาถึงงานประมาณสามทุ่มเศษ (จริง ๆ แล้วโชว์เริ่มตั้งแต่ประมาณสองทุ่ม) Nakarin Space ตั้งอยู่ริมถนนศรีนครินทร์ หากเดินทางมาด้วยรถส่วนตัวก็สะดวกดีแต่ที่จอดมีจำกัด ถ้าหากมาโดยสารสาธารณะก็นั่ง airport link มาลงสถานีหัวหมาก แล้วต่อแท็กซี่มาอีกประมาณห้าสิบบาท พอถึงหน้างาน เราเดินย่ำพื้นกระทบกับน้ำฝนที่เพิ่งจะตกลงมา เห็นคนยืนสูบบุหรี่กันจำนวนหนึ่งจนใจแป้ว พอให้เราเข้าใจว่า หรือเรามาช้าไปจนงานจบไปแล้ว แต่ไม่หรอก ไหน ๆ เราตั้งใจมากันขนาดนี้ละ ลองเข้าไปดูก่อน เสียงเพลง ธุลีดิน ทำให้เรารีบบึ่งเข้าไปหาแหล่งหลักปักฐาน ดีไซน์ของเวทีเด่นชัด สวยงาม ด้วยผ้าสีขาวผืนใหญ่ 6 ผืน ไขว้สานกัน รอแสงไฟเข้ามากระทบ กลายเปนฉากที่สวยงามมาก ๆ เบื้องหน้าบนเวทีพี่ ๆ สีชา กำลังเล่นเพลง ธุลีดิน อยู่ ต่อหน้าผู้คนในฮอลประมาณ 500-700 คน พอจบเพลงปุ๊บ พี่ ๆ แจ้งว่า พาร์ตแรกได้จบไปแล้ว จนถึงตอนนี้เลยสบายใจขึ้นหน่อย ว่าเรายังมาทันในช่วงเวลาที่เหลือ … Continued

ประเดิมเทศกาลดนตรีบาร์เซโลน่า Belle and Sebastian ที่ Primavera Sound ตอนที่ 1

  • Writer: Montipa Virojpan
  • Photographer: Dani Canto, Pablo Luna Chao

กลับมาแล้วววว ถึงเวลาที่จะมาเล่าประสบการณ์มิวสิกเฟสติวัลในยุโรปครั้งแรกในชีวิตให้ได้อ่านกัน ซึ่งงานที่เราได้ไปครั้งนี้ก็คือ Primavera Sound Festival จัดขึ้นระหว่างวันที่ 31-2 พฤษภาคม ที่ผ่านมา ณ เมืองบาร์เซโลน่า ประเทศสเปน นั่นเองแหละจ้า Primavera Sound เป็นเทศกาลดนตรีที่แทบจะใหญ่ที่สุดในบาร์เซโลน่าเลยก็ว่าได้ เพราะงานเขาจัดกินเนื้อที่ทั้ง Parc del Forum ประมาณเมืองทองธานี (นึกภาพอิมแพค+ชาเลนเจอร์ฮอล+ธันเดอร์โดม+ริมทะเลสาบ) คือเป็นเวนิวที่ใหญ่แบบ มาก ติดทั้งในตัวเมืองและชายหาด มีทั้งศูนย์การประชุม ลานกว้าง สนามหญ้า ชายหาด ท่าเรือ มีสะพานข้ามฟากจากสเปซนึงไปอีกเกาะนึง มีเวทีอยู่ทุกที่ที่กล่าวมาแบบเป็นทุกอย่างให้เธอแล้วที่แท้จริง นอกนี้ก็ยังมีสถานที่อื่นในตัวเมืองอย่าง Centre de Cultura Contemporània de Barcelona (CCCB) ประมาณหอศิลป์กรุงเทพ ฯ แต่สเปซของเขาเก๋มาก มีใต้ดินบนดินซึ่งปกติจะเป็นที่แสดงนิทรรศการศิลปวัฒนธรรมต่าง ๆ ที่ช่วงเทศกาลเขาก็เอาไว้จัดงานเสวนา Primavera Pro ระหว่างวันที่ 30 พ.ค. – 1 มิ.ย. … Continued

ทำไมการจากไปของศิลปินที่เรารักถึงสะเทือนใจเราขนาดนี้

  • Writer: Peerapong Kaewthae
  • Art Director: Thanaporn Sookthavorn

ใครรู้สึกว่าการจากไปของ David Bowie สะเทือนจิตใจมาก ๆ ขอให้ยกมือขึ้น ผมเองก็เช่นกัน ถ้าคุณนึกไม่ออกว่า David Bowie ทำให้คุณรู้สึกสะเทือนใจยังไง อาจจะนึกถึง Chester Bennington หรือใกล้ตัวหน่อยก็ สิงห์ Sqweez Animal ก็ได้ วินาทีที่เราได้รู้ว่าศิลปินที่เรารักได้จากไปแล้วผ่านไทม์ไลน์บนทวิตเตอร์หรือหน้าฟีดในเฟซบุ๊ก เชื่อว่าคงมีหลายอารมณ์ประเดประดังเข้ามาพร้อมกันในหัว และเริ่มแสดงความเสียใจกันผ่านโซเชียลเน็ตเวิร์กของตัวเองในทันทีที่ทำได้ แต่มีบางคนเหมือนกันที่สะเทือนใจมาก ๆ จนร้องไห้ออกมาหรือจิตตกจนต้องเก็บตัวเงียบ ๆ ไปซักพักหนึ่งเลย เราดูหนังพวกเขา เราฟังเพลงพวกเขาในชีวิตประจำวันจนเรารู้จักพวกเขามากขึ้น เหมือนพวกเขาคือหนึ่งในครอบครัวของเรา เมื่อพวกเขาจากไปก็เหมือนเราสูญเสียสมาชิกในครอบครัวเหมือนกัน ใครบางคนที่เรารู้สึกว่าผูกพันกับเขา ผมจำความรู้สึกแย่ ๆ เหล่านี้ได้ เพราะมันเกิดขึ้นกับผมจริง ๆ ตอนที่ได้รู้ว่า Robin Williams นักแสดงตลกอารมณ์ดีที่เสียชีวิตไปแบบกะทันหันมาก ๆ อารมณ์ผมดิ่งลงทันทีและคิดถึงหนังหลาย ๆ เรื่องที่เขาแสดง ผมกลับไปไล่ดูหนังพวกนั้นอีกครั้งและน้ำตาคลอทุกครั้งเมื่อถึงฉากที่ลุงแกยิ้ม มันทำให้ผมรู้สึกได้เลยว่าแม้แต่คนที่น่าจะมีความสุขที่สุดในโลกยังตัดสินใจด่วนจากโลกนี้ไป บางคนอาจจะบอกว่าคนพวกนี้ ‘โอเวอร์’ กันเกินไปรึเปล่า หลายคนที่ตกอยู่ในภวังค์แห่งความเสียใจนี้ก็อาจจะสงสัยเหมือนกันว่าทำไมพวกเราต้องเศร้าขนาดนี้ ทั้งที่เราอาจจะไม่รู้อะไรเกี่ยวกับเขามากนัก พวกเราแค่รักเขาในฐานะศิลปินที่สร้างความสุขให้เรามาตลอดคนหนึ่ง David Kaplan … Continued

‘West of East’ พวกเราคือวงดนตรีโฟล์กร็อกจากมีนบุรีที่อยากให้คุณรู้จัก

  • Writer: Gandit Panthong
  • Photographer: Chavit Mayot

มีนบุรี คือเขตหนึ่งในกรุงเทพมหานคร ซึ่งหลายคนก็ไม่รู้หรอกว่าย่านนี้เขามีอะไรเป็น OTOP แต่เมื่อไม่นานมานี้ตัวผมเองเพิ่งได้มีโอกาสทำความรู้จักวงดนตรีที่มักจะบอกเสมอว่าพวกเขามาจากมีนบุรี แถมยังพกรางวัลศิลปินกลุ่มหน้าใหม่แห่งปีจากเวทีสีสันอะวอร์ดส์มาอีกด้วย เรียกว่าไม่ธรรมดามาก ๆ ทำให้ผมอดใจไม่ไหวรีบนัดคิววงดนตรีท้องที่มีนบุรีมาคุยกันให้รู้เรื่องไปเลยว่าของเขาดีขนาดไหน เชิญพบกับ West of East ครับ จุดเริ่มต้นการเดินทางของวง West of East เตอร์: ผม เอ็ม และปาร์ค อยู่โรงเรียนเดียวกันตั้งแต่สมัยมัธยมเลยครับ ส่วนไกด์เขาจะอยู่คนละโรงเรียนกัน แต่บ้านพวกเราอยู่โซนมีนบุรีกันหมดทุกคน ตอนนั้นไกด์กับเอ็มเคยทำวงดนตรีด้วยกัน ปาร์คกับผมก็อยู่อีกวงนึง ช่วงสมัยเรียนเราก็จะได้เจอกันบ่อยตามงานประกวดดนตรีครับ ปาร์ค: เหมือนช่วงเวลานั้นทุกคนจะเล่นเวทีประกวดด้วยกันมาตลอด เป็นสายอินดี้เหมือนกัน เห็นหน้ากันบ่อย อย่างวงอื่นที่เขาขึ้นไป เขาจะเล่นเพลงแมส ๆ เลย วงของพวกเราทั้งสองวงจะมีความแปลกแยกอยู่ จนเมื่อเรียนจบ ม.6 ไปทุกคนก็แยกย้ายกันไปตามหนทางของตัวเอง (หัวเราะ) ไกด์เขาก็ไปทำดนตรีแนวโพสต์ร็อก ผมกับเตอร์ก็ไปทำวง Celebities Owls ซึ่งสุดท้ายทุกคนก็แยกย้ายกันอีกรอบ ทีนี้เราเลยเริ่มทำวงดนตรีเล่นกลางคืนขึ้นมาโดยมีสมาชิกสามคนเป็นผม เตอร์และไกด์ครับ ตรงนี้มันจึงเป็นจุดเริ่มของ West of East  เตอร์: แต่ตอนนั้นชื่อวง JerMhee Rockband เราก็เล่นดนตรีกลางคืนมาเรื่อย ๆ จนมาเจอโปรเจกต์ประกวด Converse Rubber Tracks จึงตัดสินใจทำเพลงตัวเองขึ้นมาจริง … Continued

Paylin ไม่อยากฟาวล์ จงฟังเพลงพวกเขา

  • Writer: Gandit Panthong

Paylin แนะนำตัวสมาชิก มาริว (ร้องนำ) ปาล์ม (คีย์บอร์ด) นัน (เบส) ฟลุ๊ค (กลอง) คิว (กีตาร์) ต่อหน้าท่านผู้อ่านขณะนี้ นี่เป็นอีกหนึ่งครั้งที่ผมเองได้มีโอกาสพบกับวงดนตรีหน้าใหม่ ๆ เรียกว่า ใหม่กันแบบถอดด้ามเลยทีเดียว (ขออนุญาตใช้ศัพท์วัยรุ่นให้ตามคอนเซปต์ของวงหน่อยนะครับ) พวกเขาคือวงดนตรีที่มีชื่อว่า Paylin วงดนตรีป๊อปไฟแรงกับเนื้อหาสุดเฟี้ยว ซึ่งในครั้งนี้พวกเขาจะมาฝากเนื้อฝากตัวและฝากเพลงใหม่ที่มีชื่อว่า ฟาวล์ ให้ทุกคนได้รู้จักกัน ส่วนจะพูดคุยกันสนุกขนาดไหน เชิญมาทำความรู้จักพวกเขาไปพร้อม ๆ กันครับ     ที่มาของชื่อวง มาริว: Paylin คำนี้มันมาจากคำว่า เพลิน ครับ แต่เราเอามาเล่นคำเขียนเป็นภาษาอังกฤษว่า Paylin ซึ่งจริง ๆ แล้วถ้าเป็นภาษาไทยมันก็มาจากคำว่า เพลิน (เพ-ลิน) เนี่ยละครับ ถ้าตัดขีดตรงนั้นไปก็จะอ่านว่า เพลิน ครับ มารวมตัวทำวงดนตรีกันได้อย่างไร มาริว: เริ่มจากผมเล่นละครเวทีกับปาล์ม มือคีย์บอร์ดครับ แล้วเรา 2 คนมีแผนว่าจะทำเพลงด้วยกัน แต่ด้วยความที่มันติดอะไรหลาย ๆ … Continued

เพราะพวกเราเล่นด้วยหัวใจเสมอมา : Cocktail

  • Writer: Gandit Panthong
  • Photographer: Chavit Mayot

17 พฤษภาคม 2561 “คอนเสิร์ตนี้เป็นคอนเสิร์ตที่ไม่บอกอะไรคนดูเลย เราอยากให้พวกคุณมารับรู้เอง” ประโยคนี้คือ 1 ในประโยคเด็ดที่เกิดขึ้นจากการสัมภาษณ์ครั้งนี้ของผมและวง Cocktail ซึ่งเป็นการสัมภาษณ์วงดนตรีวงนี้ครั้งแรกของผมซะด้วย แน่นอนความตื่นเต้นยังคงเกิดขึ้นทุกครั้งกับการเจอวงดนตรีวงใดสักวงนึงที่เราชื่นชอบ ครั้งนี้ผมได้รับหมายสารมาว่า อยากถามอะไรวงนี้ก็สามารถถามได้เลย ซึ่ง ณ ขณะที่ได้เจอกัน ตัวผมเองยังไม่ทราบรายละเอียดใด ๆ เกี่ยวกับงานคอนเสิร์ตใหญ่ของพวกเขาเลย ทราบแค่เพียงผมต้องการเจอพวกเขาเพื่อถามคำถามกับสิ่งที่เกิดขึ้นจากการเคลื่อนไหวของพวกเขา ทั้งภาพดำ ๆ บนเพจวงก็ดี ทั้งตัวเลขมากมายที่ต้องการจะสื่อสารอะไรบางอย่างกับแฟนเพลง และทันใดที่สมาชิกทั้ง 4 คนมาครบ บทสนทนานี้จึงเกิดขึ้นและเรื่องราวทั้งหมดของคอนเสิร์ตใหญ่ครั้งนี้จะเป็นเช่นไร มาลุ้นไปพร้อม ๆ กันครับ ภาพสีดำในเพจ Cocktail ทั้งหมด สิ่งนี้มันคืออะไร โอม: มันเป็นการสื่อสารจากพวกเราให้แฟนเพลงเห็น เป็นการปิดการรับรู้รวมไปสู่การรับรู้เรื่องเดียว คือ คอนเสิร์ตใหญ่ในรอบ 3 ปีของ Cocktail ครับ โดยเราจะจัดที่ IMPACT Arena เมืองทองธานีครับ ทำไมถึงเลือกจัดที่ IMPACT Arena โอม: มันว่างพอดีครับ (หัวเราะ) ตอบตามความจริงเลยนะครับ … Continued

เพลงไหนใครแปลง รวมเพลงไทยที่ได้เค้าโครงต้นฉบับมาจากเพลงฝรั่ง

  • Writer: Montipa Virojpan

เป็นที่รู้กันว่าเพลงไทยสมัยก่อนมักจะมีการหยิบยืมทำนอง รวมไปถึงเนื้อร้อง มาทำใหม่ในเวอร์ชันที่บางทีก็รีอะเรนจ์ดนตรีใหม่ไปเลย หรือบางเพลงก็แค่แปลเป็นภาษาไทยเฉย ๆ ซึ่งเราก็ได้รวบรวมมาให้ลองฟังกันทั้งเวอร์ชันออริจินัลและเวอร์ชันศิลปินไทย ต้องบอกว่ามีความไพเราะไม่แพ้กัน ยิ่งภาษาไทยสมัยก่อนเรียกได้ว่าเป็นการเลือกใช้คำมาใช้อย่างสละสลวย บางเพลงนี่ฟังแล้วร้าวรานเข้มข้นในความรู้สึกยิ่งกว่าต้นฉบับ สวลี ผกาพันธ์ุ – คืนนี้ จาก West Side Story – Tonight จากมิวสิคัลเรื่องเยี่ยมแห่งบรอดเวย์ สู่ผลงานของ สวลี ผกาพันธุ์ นักร้องเสียงทองในอดีตที่ในเพลงนี้เธอใช้เทคนิคเอื้อนและทอดเสียงสูงที่อีกนิดก็จะเป็นโอเปร่าแล้ว สกิลเทียบชั้นได้ยากจริง ๆ รวมถึงดนตรีก็ใช้สำเนียงฟังก์ร็อกที่กำลังเป็นที่นิยมในสมัยนั้นผ่านการเรียบเรียงใหม่ของ ประสาน สุทัศน์ ณ อยุธยา และบรรเลงโดยวง ดิ อิมพอสซิเบิ้ล ที่ขึ้นชื่อเรื่องเพลงแปลงอีกเช่นเดียวกัน สวลี ผกาพันธ์ุ – สิ้นรักสิ้นโลก จาก Skeeter Davis – The End of the World ต่อเนื่องจากเพลงแรกในอัลบั้มชุดเดียวกัน ซึ่งที่ขอหยิบยกเพลงนี้มาเพราะคงไม่มีใครไม่รู้จักแน่กับเพลงดังอย่าง The End of the World แต่ที่หลายคนอาจจะไม่รู้ก็คือเพลงนี้ถูกทำเป็นเพลงแปลงด้วยเหมือนกัน ซึ่งเดิมทีน้ำเสียงของ Skeeter Davis ก็ว่าเหงา … Continued

ลุยวันที่สอง Thailand Cultural Music Festival สนุกกับความเป็นไทยผ่านดนตรีประยุกต์

  • Writer: Peerapong Kaewthae

26 พฤษภาคม 2561 มาถึงวันที่สองแล้วกับเทศกาลดนตรีที่ควบรวมระหว่างดนตรีอันหลากหลายเข้ากับวัฒนธรรมไทยที่น่าสนใจมาไว้ในงานเดียวกันกับ Thailand Cultural Music Festival ติดริมทะเลแหลมบาลีฮาย พัทยา โดยผู้ใหญ่ใจดี ททท. และเทศบาลเมืองพัทยาร่วมมือกันสร้างสรรค์เฟสติวัลของไทยให้ยิ่งใหญ่ไปถึงระดับประเทศ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจการท่องเที่ยวและเชิญชวนให้ชาวต่างชาติมาซึมซับกับวัฒนธรรมอันสวยงามของคนไทย ถ้าใครยังไม่ได้อ่านระเห็ดเทศกาลดนตรีในวันแรกที่มีทั้ง Mocca Garden, บุรินทร์ Groove Rider, Rasmee และ Ga-Pi ก็คลิก >ที่นี่< เลย ก่อนจะไปมันกันต่อกับไลน์อัพเจ๋ง ๆ ของวันนี้กับ The Paradise Bangkok Molam International Band, UrBoyTJ, เดย์ ไทเทเนียม และศิลปินอีกมากมาย เรียกได้ว่าเป็นคอนเสิร์ตที่เฮี้ยนเหมือนกัน กับการนำวัฒนธรรมแต่ละแขนงมาอัดแน่นอยู่ในวันเดียวกันแบบนี้ หนึ่งทุ่มปุ๊บ เราไม่รอช้ารีบวิ่งเข้ามาบริเวณหน้าเวที เพราะวันนี้มีศิลปินที่น่าสนใจอีกคนที่เราอยากชมมากเลยคือ ลานนา คัมมินส์ ที่เหมือนเธอจะห่างหายจากการโชว์ไปนาน ก่อนลานนาจะขึ้นเวทีก็มีโชว์ตีกลองจากภาคเหนือได้น่าตื่นตามาก พร้อมกับโชว์วัฒนธรรมที่อัดแน่นเต็มเวที ทั้งร่มและการฟ้อนรำล้านนา ไม่ช้าก็มาพร้อมกับเสียงหวาน ๆ ของลานนาในเพลง สวัสดีเจ้า ที่มีดีเจมาช่วยมิกซ์ให้เพลงสนุกยิ่งขึ้น … Continued

ลุยวันแรกกับ Thailand Cultural Music Festival เทศกาลดนตรีที่สะท้อนความเป็นไทยผ่านเสียงเพลง

  • Writer: Peerapong Kaewthae

25 พฤษภาคม 2561 พัทยาเป็นอีกเมืองหนึ่งที่มีการจัดเทศกาลดนตรีบ่อยมาก ด้วยบรรยากาศของเมืองท่องเที่ยวที่อยู่ติดทะเล และวัฒนธรรมอันหลากหลายที่มารวมตัวกันอยู่ที่นี่ ทำให้มันเหมาะที่จะจัดเฟสติวัลดี ๆ ได้ไม่ยาก แต่คงไม่มีเฟสติวัลครั้งไหนยิ่งใหญ่เหมือนงานนี้อีกแล้ว กับงาน Thailand Cultural Music Festival ที่รวบรวมศิลปินไทยชื่อดังที่เป็นตัวแทนของวัฒนธรรมไทยทั้งในระดับภูมิภาคและระดับโลกไว้มากที่สุดครั้งหนึ่งของประเทศไทย เต็มอิ่มไปกับเสียงดนตรีถึงสองวันเต็ม โดยมีศิลปินชูโรงอย่าง Rasmee และ The Paradise Bangkok Molam International Band แถมยังจัดอยู่ที่แหลมบาลีฮายสุดชิล เป็นเทศกาลดนตรีที่ไม่ควรพลาด ซึ่งผู้สนับสนุนหลักของเราก็คือ ททท. และเทศบาลเมืองพัทยานั่นเอง งานนี้เลยเข้าฟรี!! นอกจากจะกระตุ้นการท่องเที่ยวภายในประเทศ พวกเขายังอยากเห็นซีนดนตรีในไทยพัฒนาขึ้นไปอีกขั้น ผ่านศิลปินมากความสามารถเหล่านี้ ฟังใจเลยแอบไประเห็ดงานมาทั้งสองวันเต็มว่าจะมันขนาดไหน งานค่อนข้างสังเกตได้ง่ายจากแบ็คดรอปน่ารัก ๆ อันบะเริ่มสีเหลืองสดใส หรือถ้าใครนั่งรถตู้มาก็หาเจอทันทีเพราะจัดอยู่ข้างท่าเรือไปเกาะล้านเลย ด้วยระบบรักษาความปลอดภัยก็เข้มงวดมาก น่าจะปลอดภัยหายห่วง ในงานยังมีกิจกรรมเพ้นท์ตัวฟรีด้วยให้เข้ากับเทศกาล มีลายให้เลือกมากมาย เพ้นท์ได้ทุกส่วน ก็สนุกไปอีกแบบ ในงานมีร้านอาหารชื่อดังจากเมืองพัทยามาตั้งเต็นท์เรียงรายกันเป็นตับ เรียกว่าอิ่มตลอดทั้งงานแน่นอน แถมยังมีบูธแนะนำการท่องเที่ยวในเมืองพัทยาคอยอำนวยความสะดวกให้นักท่องเที่ยวทุกด้านอีกด้วย เครื่องเสียงและแสงสีก็ยังอัดแน่นสมกับเป็นเทศกาลดนตรี ไลน์อัพของวันนี้มีศิลปินที่น่าสนใจทั้ง Rasmee, Ga-pi โปรเจคเดี่ยวของ แก็บ … Continued

Daphne Oram อดีตพนักงาน BBC สู่ตัวแม่แห่งดนตรีอิเล็กทรอนิกยุควินเทจ

  • Writer: Montipa Virojpan

It’s a sort of modern magic. We think there’s something in it. Some musicians believe it may become an art form in its own right. — Daphne Oram อันที่จริงแล้วดนตรีอิเล็กทรอนิกไม่ได้เพิ่งมามีบทบาทเอาตอนปลายยุค 60s หรือดังเปรี้ยงในยุค 80s อย่างที่รู้กันโดยทั่วไป เพราะก่อนหน้านี้ในจักรวาล retro futuristic ที่เทคโนโลยียังไม่ได้ก้าวไกลนักทำให้เป็นจุดเริ่มต้นของหลายสิ่งอย่าง เมื่อผู้คนมีความสนใจใคร่รู้ที่จะออกสำรวจดวงดาวและอวกาศอันไกลโพ้น หรือฝันที่จะมีหุ่นยนต์เป็นเพื่อนในทุกขณะชีวิต  ทำให้คนมีความสนใจที่จะพัฒนาเทคโนโลยีต่าง ๆ มากขึ้น รวมถึงนักดนตรีหัวก้าวหน้าบางกลุ่มเองที่ก็จินตนาการถึงดนตรีการบรรเลงดนตรีที่ไม่ต้องใช้มนุษย์หรือเครื่องดนตรี ว่าจะสามารถทำให้เกิดเสียงที่ไพเราะได้ด้วยวิธีไหนบ้าง ณ เวลานั้นก็มีผู้หญิงตัวเล็ก ๆ ที่ชื่อ Daphne Oram กลายมาเป็นผู้บุกเบิกดนตรีอิเล็กทรอนิกทั้งหมดทั้งมวลที่เกิดขึ้นในโลกใบนี้ วันส่งท้ายปี 1925 ตอนนั้นคงยังไม่มีใครรู้ว่าวงการดนตรีกำลังจะได้รับของขวัญชิ้นล้ำค่าที่เปลี่ยนประวัติศาสตร์ไปตลอดกาลจากเด็กหญิง แดฟนี โอแรม ผู้ที่เพิ่งจะลืมตาดูโลก และต้องขอบคุณที่ครอบครัวของเธอส่งให้เรียนในโรงเรียนหญิงล้วนที่มีการสอนเปียโน ออร์แกน และการประพันธ์เพลง จึงทำให้เธอมีความสนใจในศาสตร์ทางนี้ … Continued

ทำไม Michael Jackson ถึงไม่เคยตายไปจากความทรงจำของเรา

  • Writer: Piyakul Phusri

ถ้าจะพูดถึงศิลปินที่เป็นปรากฏการณ์ของความเป็น ‘ที่สุด’ ในทุกด้านในยุคสมัยของเรา ไม่ว่าจะเป็นความสามารถในการร้อง การเต้น การแต่งเพลง การแสดงที่มีมนต์สะกดและตื่นตาตื่นใจ เครื่องแต่งกายที่โดดเด่นไม่เหมือนใคร ชีวิตส่วนตัวที่มีทั้งด้านดีในระดับที่เปลี่ยนโลกได้ และด้านที่ฉาวโฉ่จนต้องขึ้นโรงขึ้นศาล พฤติกรรมส่วนตัวที่แปลกประหลาด แต่ก็สร้างความสนใจใคร่รู้ให้กับสาธารณชนได้เสมอ เราคงต้องยกตำแหน่งนี้ให้กับ Michael Jackson หนึ่งเดียวคนนี้เท่านั้นจริง ๆ แม้แต่ความตายของเขาในปี 2552 ก็ยังเป็นที่สุด เพราะนอกจากจะเป็นคดีความที่ค่อนข้างซับซ้อนและยืดยาวซึ่งนำพาไปสู่ทฤษฎีสมคบคิดมากมาย ในสัปดาห์แรกของการเสียชีวิตของราชาเพลงป๊อป มีแฟนเพลงของเขาฆ่าตัวตาย หรือพยายามฆ่าตัวตายตามศิลปินที่รักถึง 12 คน และในพิธีศพของเขาที่จัดขึ้นที่ Staples Center มีผู้ลงทะเบียนแสดงความต้องการเข้าร่วมพิธีกว่า 1.6 ล้านคน! เรียกได้ว่า MJ เป็นศิลปินที่มีแฟนเพลงเหนียวแน่น และอุทิศชีวิตให้อย่างยอมตาย เหมือนเป็นพระเจ้าสำหรับกลุ่มแฟนก็คงจะว่าได้ทีเดียว ลองดูคลิปการแสดงเพลง Man in the Mirror ต่อหน้าผู้ชม 90,000 คน ในคอนเสิร์ต ‘Dangerous Tour’ ที่กรุงบูคาเรสต์ ประเทศโรมาเนีย ปี 1992 แล้วจะเข้าใจว่า คำว่า ‘กรี๊ดสลบ’ ไม่ได้เป็นแค่คำเปรียบเปรย … Continued