Between the Lines

ก้าวก่าย โดย Stoondio

  • Writer: ธนาภรณ์ โสภณพัชรคุณ

ก้าวก่าย ‘Stoondio’

Music/Lyric/Arrange: Chotika kamwongpin , Thanradee Chantarawiwat (Stoondio)

คราวนี้ครั้งสุดท้ายแล้ว จะไม่ยุ่งอีกแล้ว !!

คำว่า ก้าวก่าย ตามพจนานุกรมไทย ฉบับราชบัณฑิตยสถาน ได้ให้ความหมายว่า การล่วงล้ำเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับหน้าที่ของผู้อื่น เหลื่อมล้ำไม่เป็นระเบียบ เมื่อฉันได้รู้ความหมายของคำนี้ คิดว่าทุกคนคงไม่อยากมีพฤติกรรมแบบนี้หรอก ในทางกลับกันหากคำว่า ก้าวก่าย อยู่ในบริบทของความรัก หน้าที่ของคนรักที่เคยร่วมปฏิบัติต่อกันได้หายไป ในจุดนั้นคงเป็นเรื่องยากในการฝืนใจไม่ให้เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับคนเคยรักอีก ฉันเชื่อว่าหลาย ๆ คนคงจะเคยไป ก้าวก่าย อดีตคนรักเก่ากันทั้งนั้น และในวันนี้ฉันจะพาไปรู้จักกับเพลงที่มีชื่อเพลงเป็นความหมายที่เกริ่นไว้ทั้งหมด นั่นคือ ก้าวก่าย ของ Stoondio ft. Yanin ความเป็นมาของเพลงจะมีเรื่องราวความรักเป็นเช่นไร คุณตูน โชติกา คำวงศ์ปิน เจ้าของเนื้อเพลงและเสียงร้องในเพลงนี้ จะมาช่วยขยายความให้เราอินไปกับความรู้สึกก้าวก่าย พร้อมไขข้องใจว่าเหตุใดจึงชวนญาณิน นักร้องสาวที่มีเสียงเอกลักษณ์เฉพาะตัวมาร่วมทำงานด้วย

“ไม่มีอะไรซับซ้อนเลยค่ะ แค่เรื่องความรักของเพื่อนเราที่ไม่สมหวังในความรักแค่นั้น เพลงนี้จึงแต่งจากมุมมองของเราที่มองผ่านเพื่อนคนนี้ เป็นเรื่องราวความรักปกติ คนฟังเขาจะอินกันไปเอง เอาไปตีความแบบที่มันเข้ากับชีวิตตัวเอง ทำให้เพลงมันดูแบบมีอะไรเยอะแยะ เอาจริง ๆ นะ ศิลปินไม่ได้คิดอะไรมากหรอก อารมณ์มันคล้ายแบบเราตั้งสเตตัสทางเฟสบุ๊ค อยากโพสเรื่องอะไรเราก็เขียนเพลงนั้นไป บางครั้งสเตตัสพวกนั้นมันไม่ได้มาจากตัวเราโดยตรง เราไปฟังเขามา ไปเห็นเหตุการณ์อะไรบางอย่างมา การโพสสเตตัสเราก็ไม่ได้ไปใส่ใจมันตลอดเวลาไง บางทีเแค่อยากสบถมัน บางทีแค่อยากให้คนมากดไลค์ บางทีเราอยากมีตัวตน บางทีเราแค่อยากบอกอะไรบางอย่าง ซึ่งแท้จริงแล้วมันคือ การสื่อสาร แต่นี่เราสื่อสารผ่านดนตรีผ่านเสียงเพลงไง ส่วนญาณินเราก็แค่ชอบเสียงของเขา เลยลองชักชวนกันทางเฟสบุ๊ค แถมยังบอกไปอีกว่ามาร้องเพลงให้ ไม่เงินให้นะ แต่มีของให้ (หัวเราะ) เพราะเรารู้สึกว่าการให้เงินกัน มันดูห่างเหินกันไปหน่อย จึงให้ mini controller คิดว่ามันน่าจะเอาไปสร้างประโยชน์ได้ต่อ”

สะท้อนทุกความเป็นไป อะไร อย่างไร ในใจนี้
จงรับและรู้มันไป สิ่งใด มากมายในตอนนี้

จุดเริ่มต้นของเพลงอย่างที่คุณตูนกล่าวไว้ข้างต้นว่ามาจากเพื่อนของเขาที่กำลังอกหัก และมีท่าทียึกยัก ๆ กับการอยากจะบอกอะไรบางอย่างแฟนเก่าแต่ไม่กล้าจะบอก ด้วยเหตุผลไม่ได้มีความสัมพันธ์ร่วมกันในฐานะคนรักแล้ว อารมณ์ของเพลงจึงไปในทิศทางเชิงสับสน วุ่นวาย อัดอั้นที่กำลังจะพรั่งพรูให้ฟัง

แค่ขอให้เธอมั่นใจ เมื่อใด ได้ยินข้อความนี้
ว่าฉันรักเธอเท่าไหร่

การปิดท้ายของท่อนนี้เป็นรูปแบบของการขอโทษ เพราะเกรงว่าสิ่งที่บอกต่อไปนี้จะก่อความรำคาญ จึงได้มีการดักคอบอกรักก่อน ในเชิงว่าข้อความต่อไปจากนี้ ถ้ามันก่อเกิดความวุ่นวาย ก็อยากให้รู้นะว่ามันเป็นความรักที่ยังมีให้เธออยู่

พยายามพูดคุยอีกครั้งได้โปรดจงรับฟัง
จากนั้นฉันจะไม่ขอก้าวก่าย

เนื้อเพลงท่อนนี้ก็เล่าเรื่องต่อมา ว่ามีอะไรจะบอก ถึงแม้จะไม่ได้ข้องเกี่ยวกันแล้ว แต่ได้โปรดฟังฉันเถอะ หลังจากนั้นจะไม่ไปยุ่งวุ่นวายแล้ว คุณตูนบอกว่าท่อนนี้เป็นท่อนแรกที่ได้จากการเขียนเพลงนี้ขึ้นมา ด้วยมุมมองที่มองผ่านเพื่อนคนนั้นที่มาระบายให้ฟังบ่อยครั้ง ในทำนองว่าจะไม่ยุ่งแล้ว แต่ก็กลับไปยุ่งกับแฟนเก่าอีก จึงได้ท่อนนี้มาเป็นลำดับแรก

พยายามจะไม่บีบคั้น ให้ถ่วงคืนและวัน
จากนั้น เธอจงช่วยลืมมันง่ายดาย

ต่อเนื่องไปตามเนื้อเพลงเรื่อย ๆ ว่าได้บอกความในใจไปหมดแล้ว อย่างไรก็ตามไม่ได้มีเจตนาที่จะให้กลับมา แค่อยากพูดเรื่องที่ค้างคาใจให้จบ หลังจากนี้สามารถลืมไปได้เลย เพราะถือว่ามีความสบายใจเกิดขึ้นหลังจากความอัดอั้นใจได้ปลดปล่อยออกไป

ฉันจะไม่ขอก้าวก่าย ให้เธอได้ยินจนได้
ฉันจะไม่ขอก้าวก่าย ให้เธอช่วยลืมมันง่ายดาย

จะเห็นได้ว่าท่อนนี้เป็นแค่เพียงการย้ำของท่อนฮุคเท่านั้น มีการใช้ประโยคซ้ำในท่อนที่ว่า ฉันจะไม่ขอก้าวก่าย ตัวฉันเองรู้สึกว่าการซ้ำนี้ทำให้ติดหู แต่ดูไม่เลี่ยนหูเหมือนเพลงในท้องตลาดทั่วไป  อีกทั้งย้ำไปในเชิงความหมายของเนื้อเพลงทั้งหมด เช่นนั้นท่อนนี้จึงคล้ายบทสรุปของเพลงนี้

“เราไม่ชอบเขียนเลย สมุดจดจริงจังก็ไม่มี ชอบจดใส่กระดาษมากกว่า และใช้ความเข้าใจในการจดจำ มันจึงไม่ลืมไง อย่างเขียนเพลงก็จดใส่เศษกระดาษเอา เพราะเราเป็นคนเขียนเพลงเร็ว เขียนทีได้ออกมาพร้อม ๆ กันเลย เวลาเราคิดอะไรก็เขียนเลย เราเรียนสายโฆษณามาด้วย มันคือการสื่อสารไง ต้องมีเนื้อหาที่ชัดเจนในการจะส่งต่อไปให้ผู้อื่น อยากให้คนรับสารเข้าใจได้อย่างไร ส่วนข้อสงสัยที่ว่าทำไมเขียนเพลงสวยจัง การใช้คำอะไรแบบนี้ เอาตรง ๆ เลย แค่เลี่ยงคำที่ใช้ซ้ำกันแค่นั้นเอง ภาษาไทยมันดิ้นได้ คนฟังก็จะรู้สึกว่าแปลกหูมากขึ้น”

จากการอธิบายของคุณตูนสำหรับเพลง ก้าวก่าย ชัดเจนว่าคุณตูนมีพรสวรรค์ทางด้านแต่งเพลง เธอบอกว่าไม่ได้ซับซ้อนไม่ได้มีอะไรเลยจริง ๆ สำหรับเพลงนี้ ยิ่งทำให้ฉันคิดว่าที่ว่าไม่มีอะไรซับซ้อน ควบคู่กับการเขียนเพลงที่ดูแสนง่ายดาย เป็นเพราะคุณตูนไม่สามารถอธิบายความเป็นธรรมชาติของตัวเองได้ และในความคิดของฉันการเขียนเพลงมันยากมากเลยนะ แต่ฟังเธอพูดที แทบจะหยิบปากกาขึ้นมาเขียนเพลงกันเลยทีเดียว ระบบทางความคิดในการแต่งเพลงของเธอทำให้รู้สึกว่าผู้หญิงคนนี้ไม่ธรรมดา และยังมีเพลงอีกมายของ Stoondio ที่พร้อมจะให้คุณรู้สึกถึงความพิเศษของผู้หญิงคนนี้

รับฟังเพลง “ก่าวก่าย” ได้ที่ www.fungjai.com/artist/Stoondio/2151

Facebook Comments

Next:


Montipa Virojpan

อิ๊ก เนิร์ดดนตรีที่เพิ่งกล้าเรียกตัวเองว่าเป็นนักเขียนตอนอายุ 25 ชอบเดินเร็ว นอกจากขนมปังกับกาแฟดำแล้วก็สามารถกินไอศกรีมกับคราฟต์เบียร์แทนมื้อเช้าได้