Vega เขาการันตีมาแล้วว่า ดนตรี กับ เคมี ทำให้เราเมาแน่ ๆ

Published August 8, 2016

Writer: Montipa Virojpan
Photographer: Neungburuj

Vega สมาชิก
มิว ร้องนำ กีตาร์
โย เบส
เฟี้ยว กลอง
กัน กีตาร์ คีย์บอร์ด
เจมส์ คีย์บอร์ด ซินธิไซเซอร์

การรวมตัวของนักศึกษาเอกดุริยางค์สากล มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ ที่มีความชื่นชอบหลงใหลในดนตรีหลากหลายแนว แต่ไป ๆ มา ๆ ก็มาลงตัวกันที่แนว neo-psychedelia ซึ่งได้อิทธิพลจากวงต้นแบบอย่าง Pink Floyd และ Tame Impala จนเป็นผลงานชื่อ เคมี ที่ออกมาให้เราร้องวนกันจนขึ้นใจ ซึ่งแต่เดิม วงนี้ก็เป็นอีกวงที่เล่นคัฟเวอร์ตามร้านทั่วไป จน เมธ – สุเมธ ยอดแก้ว แห่ง Minimal Records มาเจอของดีเข้าให้ และชวนพวกเขาไปร่วมโปรเจกต์ No Signal Input 5 จากการได้รับโอกาสนี้ พวกเขาจึงตั้งปณิธานว่าจะต้องขยันสร้างผลงานเรื่อย ๆ เพื่อเป็นแรงผลักดันให้พวกเขาเดินบนเส้นทางสายนี้กันต่อ

สำหรับเพลง เคมี นี้ บางคนอาจคิดไปว่ามันคือเพลงที่พูดถึงสารเสพติดสองแง่สองง่ามหรือเปล่า ด้วยการร้องที่ใช้เนื้อเสียงตามสไตล์เพลงเพื่อชีวิต ไม่เน้นความสละสลวยแต่ร้องเพื่อการปลดปล่อยอารมณ์ รวมถึงซาวด์ดนตรีที่ชวนเมามัวเสียเหลือเกิน แต่อันที่จริงเพลงนี้พวกเขาต้องการพูดถึง “เคมี” ที่ประกอบขึ้นเป็นสิ่งที่อยู่รอบตัวเราและมีความสัมพันธ์กัน ทั้งที่มีประโยชน์และโทษ เพียงแต่คุณอาจจะมองข้ามข้อดีของสารเคมีนั้นไป อย่างสงครามสามารถยุติได้ด้วยสารเคมี เช่นพวกแก๊สน้ำตา หรือสารเคมีก็ใช้เป็นยารักษาโรคก็ได้ และยังไม่ลืมที่จะสอดแทรกเนื้อหาเกี่ยวกับดนตรีที่ทำให้ทุกคนมีความสุขได้ไม่ต่างจากสารเคมีเหล่านั้น แรกเริ่มเดิมที เพลงนี้เป็นเดโม่ในการาจแบนด์ที่พวกเขาเขียนดนตรีไว้ประมาณ 8 ห้อง เป็นแค่สองคอร์ด แล้วช่วงที่ กัน มิว และเพื่อนอีกคน กำลังกินเบียร์ก็นั่งทำเพลงกันไปด้วยเลย จนแล้วเสร็จในคืนนั้นทั้งเนื้อร้องและทำนอง ส่วนการทำดนตรีก็เก็บไปเข้าห้องซ้อมในวันรุ่งขึ้นทันที

แต่ก่อนที่พวกเขาจะมาตกลงปลงใจกันทำเพลงแนวนี้ได้ก็ต้องหาจุดกึ่งกลางประมาณนึงอยู่เหมือนกัน

มิว: ผมชอบ The Black Keys, Hugo กับ Boy Imagine การเรียบเรียงคำกับการเรียบเรียงดนตรีส่วนนึงก็ได้มาจากศิลปินคนนี้ หลัก ๆ มีผม กัน แล้วก็เจมส์จะช่วย ๆ กันแต่งเนื้อร้อง แล้วให้เพื่อน ๆ มาช่วยกันตัดแต่ง ดนตรีก็ช่วย ๆ กัน

เฟี้ยว: ของผม Kings of Leon กับ Muse ครับ จริง ๆ ผมชอบทุกแนวครับ ฟังได้หมด

กัน: ผมชอบ Tame Impala กับ Radiohead ครับ Yellow Fang กับHariguem Zaboy ก็ชอบ จริง ๆ มีหลายวงแต่นึกไม่ออก

โย: ชอบ Red Hot Chili Peppers, Nirvana กับ Moderndog ครับ

เจมส์: ผมชอบไม่เหมือนคนอื่นครับ จะชอบดนตรคนผิวสี พวก blues, soul, disco, funk, jazz, latin แรก ๆ วงพี่เขาต้องการมือคีย์บอร์ด แต่ผมปฏิเสธไปแล้วนะ ก็พยายามหาคนมาเล่นคีย์บอร์ดให้เขา จนสุดท้ายหาไม่ได้ก็ลองมาเล่นดู ก็ยากนะครับเรื่องปรับตัวและลองฟังเพลงที่ในวงชอบฟังกัน ตอนแรก ๆ นี่แทบจะไม่อยากแกะเพลงเลย ฟังไม่จบเพลงก็จะไม่เอาแล้ว แต่เอาเข้าจริงบางครั้งเราก็ไม่ต้องเล่นแบบวงนั้นเป๊ะ ๆ ก็ได้ ก็ใส่ความเป็นตัวเราเข้าไป ยิ่งเวลาผ่านไปดนตรีมันก็ยิ่งมีการผสมผสานกันมากขึ้น

ซึ่งหลังจากที่เพลง เคมี เป็นที่รู้จัก หลายคนก็เริ่มให้ความสนใจกับ Vegaในงานเปิดตัวโปรเจกต์ No Signal Input 5 ครั้งแรกที่ร้าน Nabe เชียงใหม่ ก็มีคนให้การตอบรับอย่างเนืองแน่น แต่แน่นอน การปล่อยผลงานชิ้นหนึ่งย่อมมีทั้งเสียงตอบรับที่ดีและไม่ดี

มิว: แรก ๆ ก็นิ่งนะครับ แต่พอปล่อยเข้าฟังใจ อะไรหลาย ๆ อย่างก็พุ่งนะ มันเข้ามาไม่รู้ตัว มีเมสเสจทักมาว่าชอบเพลง เป็นแรงผลักดันครับ

กัน: feedback ลบก็มี บอกว่าเพลงเราคล้าย Solitude Is Bliss แต่เราไม่ได้ฟังเพลงของเขา และพวกเราทำเพลงกันเอง แต่พวกเขาเป็นรุ่นพี่ที่อยู่ในชีวิตประจำวันของเราทุกคน เล่นดนตรีร้านเดียวกัน เรียนสาขาเดียวกัน

มิว: มันอาจจะมีเหตุผลจากตรงนี้ครับ คือเราได้มือเบส Solitude Is Blissมาโปรดิวซ์ให้ มาช่วยดู ช่วยแนะนำมากกว่า ส่วนงานดนตรีอื่น ๆ พี่เขาไม่มีส่วนเกี่ยวเลย อันที่จริงเพลงเคมีเริ่มทำมาประมาณปีกว่าแล้ว เพิ่งมามาสเตอร์เสร็จไม่กี่เดือนนี้เอง แล้วหลัก ๆ คือมันก็เป็นทำนองกับเมโลดี้ที่คิดได้จากปีก่อน เพลงเคมีที่ปล่อยไปเลยมีกลิ่นของเมื่อปีก่อนอยู่ แต่ตอนนี้เราก็มีพัฒนาการอย่างต่อเนื่อง เพลงอื่นของเราที่ทำออกมาตอนนี้ก็จะเป็นอะไรที่ต่างออกไปเพราะเราก็เริ่มรู้จักตัวเองมากขึ้นแล้ว ถ้าจะวิจารณ์วงผมขอให้ดูเล่นสดนะครับ รอให้เวลาพิสูจน์ดีกว่า

หลังจากนี้ พวกเขาจะมีงานเล่นในเชียงใหม่ร่วมกับอีกสี่วงในโปรเจกต์ No Signal Input 5 ทั้งหมด 9 ครั้ง ทุกเดือน และจะมีคอนเสิร์ตใหญ่ประมาณเดือนกุมภาพันธ์ปีหน้า สำหรับจังหวัดอื่น ๆ ต้องอดใจรอไปก่อน และเร็ว ๆ นี้เตรียมตัวฟังเพลงของพวกเขาและวงอื่น ๆ ในโปรเจกต์ที่จะมาในรูปแบบซีดี compilation วงละ 2 เพลง หรือเข้าไปดูมิวสิกวิดิโอกันก่อนได้ใน YouTube Channel ของ No Signal Input สำหรับ EP ของวงก็ได้ฟังไม่เกินกลางปีหน้า เพราะตอนนี้พวกเขากำลังจะเข้าสตูดิโอทำเพลงกันอย่างจริงจัง อีกข่าวที่ทางวงแอบกระซิบมาว่าใครอยากได้ merchandise ของวง สามารถ pre-order มาในแฟนเพจ แต่ต้องรอดูกันอีกนิดว่าพวกเขาจะทำอะไรออกมาให้เราได้สะสม

ตอนนี้เรามาฟังความในใจของพวกเขากันก่อนที่พวกเขาจะขึ้นเวที

ตอนมีคนชวนมาเล่นที่งาน ฟังใจมัน รู้สึกยังไงบ้าง

มิว: ก็ ดีใจครับ ขอบคุณมาก ๆ ชวนมาเล่น ตอนนั้นเพลงปล่อยไปได้ไม่ถึงเดือน ช็อกเหมือนกัน ครั้งแรกคือพี่เมธแกพูดเกริ่น ๆ ไว้ เราเองก็รู้ว่าวงพวกผมอาจจะยังไม่ค่อยพร้อม จนมาย้ำอีกทีตอนก่อนวันหยุดยาว เราก็ซ้อมกันเอาเป็นเอาตายสิบวัน ได้เพลงใหม่มาหนึ่งเพลง ยังไม่ได้เล่นที่ไหนเลย จะเล่นที่งานนี้ที่แรก

อยากร่วมงานกับศิลปินคนไหนมากที่สุด

มิว: เยอะครับ พูดถึงเทศกาลดนตรีดีกว่า อยากไปเล่นที่ Stone Free หรือ Keep on the Grass ก็ได้ ฝากถึงผู้จัด ขอบคุณมากครับที่จะชวนผมไป (หัวเราะ) ถ้าจัดงานแล้วชวนเราไปด้วยครับ

กัน: งานใหญ่ฟังใจก็น่าไปเล่น เห็ดสด น่ะ หรือ Cat Festival ก็ได้ครับ ส่วนที่ถามว่าอยากร่วมงานกับใคร Pink Floyd (หัวเราะ) เขายุบวงไปแล้ว