Plasui Plasui cover

Interview

พูดคุยกับ Plasui Plasui วงดรีมป๊อปอารมณ์ดีที่ทุกคนตกหลุมรัก

  • Writer: Peerapong Kaewthae
  • Photographer: Chavit Mayot

เวลาใครพูดถึงวงดนตรีนอกกระแสดี ๆ ซักวง หรืออยากส่งเพลงที่น่าสนใจให้ใครซักคนที่แอบชอบลองฟังดู หนึ่งในนั้นต้องมีเพลงของ Plasui Plasui อย่างแน่นอน ห้าหนุ่มจากมหาสารคามที่ไม่ได้มีลูกเล่นหวือหวาเหมือนวงไหน ๆ แต่มีภาษาทางดนตรีที่น่าฟัง บวกกับซาวด์อันล่องลอยชวนผ่อนคลาย ทำให้ดรีมป๊อปของพวกเขาเข้าไปอยู่ในเพลย์ลิสต์ประจำตัวของใจวัยรุ่นในยุคนี้กันทุกคน โชคดีของ Fungjaizine ที่วงลงมากรุงเทพ ฯ พอดี จึงเปิดบ้านชวนพวกเขามานั่งเล่นรวมถึงพูดคุยถึงที่มาที่ไปและดนตรีของพวกเขา รวมถึงบ้านเกิดที่อยากให้ซีนดนตรีเติบโตไม่แพ้เมืองหลวงบ้าง

Plasui Plasui 01

มารวมตัวกันได้ยังไง

เบ: เราเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่สมัยมัธยมแล้ว ก็อาจจะฟังเพลงบนพื้นฐานของความเป็นป๊อปเหมือนกันแต่อยู่คนละวงกัน ปาร์กอยู่อีกวงหนึ่ง (ปาร์ก: มีวงอยู่อีกโรงเรียนหนึ่ง) ผมก็อยู่กับแก๋งครับ แล้วค่อยมีดิวเข้ามามาด้วย ส่วนทีก็เพิ่งเจอกันตอนมหาลัย เป็นรุ่นน้อง

ทำไมถึงตัดสินใจทำดรีมป๊อป

เบ: ชอบครับ พวกเราชอบเหมือนกันหมดเลย เราก็อยากหาร้านที่มันเล่นแบบนี้แล้วมันไม่มีเลย พวกเราก็เลยเล่นกันเอง

แล้วที่มาของชื่อวงนี่ยังไง

ปาร์ก: เป็นภาษาที่เราชอบพูดกัน คุยกันในวงเพื่อน

แก๋ง: ชิ๊กกี้ ชะวะฮู่ว

เบ: มันเป็นคำที่พวกเราชอบพูดกันอะไรเงี่ย คำที่ไม่มีความหมายอะไร เป็นคำอุทานอะไรเงี้ย ชอบพูดอะไรที่มันแปลก ๆ คำมั่ว ๆ คุยกับปาร์กว่าทำเพลงมาแล้วยังไม่มีชื่อวง เลยถามว่าเอาปลาซุยมั้ย ปาร์กบอกว่าเบิ้ลดีกว่าเป็น Plasui Plasui ไม่ได้มีความหมายอะไร วงปลาซุยก็ไม่มีอะไร (หัวเราะ)

เฮ้ย ปลาซุยมีแฟนคลับเยอะจะตาย

ปาร์ก: จริงหรอครับ (หัวเราะ) เวลาเราปล่อย mv ไปอาจจะไม่ค่อยมีหน้าเรา

แก๋ง: คนอาจจะจำหน้าเราไม่ได้ มันมีอยู่แหละ เหมือนเราไม่ค่อยได้เจอแฟนคลับเท่าไหร่ด้วยครับ คนที่ฟังส่วนมากก็ไม่ใช่คนที่อยู่บ้านเรา

ดิว: ที่บ้านพวกผมก็ไม่มีใครรู้จักพวกผมเลยครับ (ทุกคนหัวเราะ)

ปาร์ก: พวกผมเคยเล่นประจำที่มหานิยมอยู่แล้ว

เบ: เราก็เล่นแบบที่เราอยากเล่นจนร้านพี่เบนเกือบเจ๊ง (หัวเราะ) เราก็เลยขอออกเอง ถ้าใครมาวันนั้นแล้วจำได้ว่าผมเล่นวันไหน เขาก็จะไม่มาวันนั้นอีกเลย (หัวเราะ)

แก๋ง: แต่คนที่ชอบเขาก็จะมาทุกวันที่เราเล่นครับ ก็จะมีโต๊ะเดียวคนเดียว (หัวเราะ)

Plasui Plasui 02

ตอนนั้นในมหาสารคามเขาฟังอะไรกัน แล้วพวกเราฟังอะไรกัน

แก๋ง: ผมก็ไม่รู้เหมือนกันครับ (หัวเราะ)

เบ: อย่างตอนนั้นพวกเราก็ฟัง Beach Fossils กับ Mac Demarco อะไรเงี้ยครับ ไม่รู้เหมือนกันคนอื่นฟังอะไรกัน

อัลบั้ม Sakura นี่พวกเราก็ทำกันเองหมดเลย

เบ: ผมจะไกด์เพลงมาก่อนเป็นโครงทั้งเนื้อกับเมโลดี้ แล้วให้ปาร์กดูเรื่องดนตรีอีกที แล้วคนอื่นค่อยเข้ามารุมกัน ถ้ามาเจอกันแล้วคิดตอนนั้นมันจะไม่เกิด แต่ไม่จำเป็นต้องเป็นผมคนเดียวก็ได้ ใครส่งก็ได้

แก๋ง: ทำเองทุกอย่างเลยครับ ทุกอย่างจริง ๆ ก่อนหน้านี้ยังมีเพลงที่ปาร์กส่งให้คนอื่นมิกซ์ให้แต่ก็เอากลับมาแก้อยู่ดี บางเพลงที่อยู่ในยูทูปจะไม่เหมือนที่อยู่ในอัลบั้ม เพราะเราเอามาทำใหม่อีกที เหมือนตอนทำเราก็เรียนรู้ไปด้วย

ดิว: เราก็มั่วไปเรื่อยน่ะครับ ลองผิดลองถูกไปเรื่อย ๆ

มีเพลงไหนที่เราใช้เวลากับนานที่สุด

ปาร์ก: จริง ๆ เบแต่งเพลงมาไม่นานครับ มันจะมานานตรงทำดนตรีทำแก้อะครับ น่าจะเป็นเพลง Where You Go ซึ่งไม่มีใน YouTube แต่มีบนสตรีมมิ่งกับอัลบั้ม จริง ๆ เฉลี่ยแล้วทุกเพลงก็ไม่นานกันมากครับ อยู่ที่ว่าเราจะชอบรึเปล่า

ล่าสุดเพิ่งปล่อย Chocolate ออกมาด้วย แรงบันดาลใจมันมาจากไหน

เบ: ผมชอบดูหนังอะไรที่มัน loser หน่อย พระเอกแพ้ ๆ น่าสงสารจากความรัก ตัวเองด้วยมั้ง (หัวเราะ) ตอนนี้ก็ยังมีกลิ่นของมันอยู่

ผมเปรียบช็อกโกแลตเหมือนกับความรักที่มันมีความสุขก็ตอนได้กิน ลิ้มรสมัน พอเรากลืนลงไปก็เหมือนความรักที่จะโรยราหายไปแล้ว ผมก็หยิบตอนกลางคืนใกล้จะนอนมาเล่า น่าจะเค้นความรู้สึกคิดถึงออกมาได้มากที่สุด มาตีความให้มันอยู่ในภวังค์ของความคิดถึงให้ได้มากที่สุด ถึงแม้จะไม่ได้เจอกันแล้วก็อยากเก็บความรู้สึก เหมือนเก็บกลิ่นเก็บสัมผัสที่เจอกันไว้ในช็อกโกแลต แล้วหยิบไปแช่ตู้เย็นเพื่อเก็บรักษาวันไว้ให้นานที่สุด มันบูดอยู่แล้วแหละแต่อยากอยู่กับมันให้นานที่สุดเท่าที่จะอยู่ได้

โอ้โห โคตรโรแมนติก

เบ: ช่วงหนึ่งผมดูซีรีส์เรื่อง Hannibal ที่มันชอบหั่นศพไปเก็บไว้ในตู้เย็น ก็อาจจะเป็นแรงบันดาลใจจากอันนี้เหมือนกัน (หัวเราะ) ตรงนี้ตัดออกก็ได้ครับ (FJZ: ไม่โรแมนติกละ (หัวเราะ)) เหมือนเพลง Shoes อะครับ ผมเอาแรงบันดาลใจมาจากเรื่อง ‘แฝด’ ที่ตัวเอกจะมีรอยเท้าเดินตามตลอด อยู่ในเนื้อเพลงท่อนหนึ่งด้วยที่ร้องว่า “อยู่เคียงข้างรอยเท้าของเธอ” ผมเลยเอามาเปรียบเป็นมุมมองของความรักดู มันน่าจะอบอุ่นน่าดูที่มีคนอยู่ใกล้เราตลอดเวลา

ดิว: แต่แรงบันดาลใจมาจากหนังผี (หัวเราะ)

แก๋ง: คนกลับไปฟังอีกทีแล้วอาจจะตีความได้อีกแบบหนึ่ง

Plasui Plasui 03

ทำไมวงชอบทำ mv surreal มาก ๆ ตายแล้วไปเกิดเป็นปลา อันเชิญผีเพื่อนมา

ปาร์ก: ผู้กำกับที่ได้ทำ mv แต่ละตัวเขาได้ฟังเพลงเราแล้วเขาตีความไปแบบนั้นครับ

แก๋ง: เราไม่ได้ลงไปยุ่งกับเขาขนาดนั้น แต่ละคนเขาทำแบบนั้นเอง

เบ: อาจจะด้วยเมโลดี้กีตาร์ที่มันพิศวงมั้งครับ พวกซาวด์

อย่าง Vagina Film นี่ไปร่วมงานกันได้ยังไง

ดิว: ผมเคยไปฝึกงานน่ะครับ พอฝึกเสร็จก็แยกย้ายกันไปทำงานจนแกชวนไปทำ mv หนึ่ง ก็เลยได้งานแลกงานครับ พี่เขาเลยทำ mv ให้เราตัวหนึ่ง ตอนนั้นแกปริ้นเอกสารมา 300 กว่าหน้าอะครับ เหมือนหนังเรื่องหนึ่งเลย แต่ถ่ายไม่หมดนะครับ ต้องขอบคุณพี่เฟมกับ Vagina Film ตรงนี้ด้วยนะครับ

แล้วมีโปรเจกต์งานศิลปะกับเขาด้วย

เบ: พี่เฟมก็ลองชวนพวกผมไปทำครับ (ปาร์ก: จริง ๆ เขาหาใครไม่ได้มั้ง (หัวเราะ)) พี่เฟมเขาลองไปให้ผมเขียนคอนเทนต์ดูผมเลยส่งไปสามเรื่อง พี่เขาชอบเรื่องความอิสระ นกที่อยู่ในกรงกับนกที่อยู่นอกกรงอะไรเงี้ย พี่เลยเอาไปสานต่อ เราก็เรียบเรียงดนตรี

แก๋ง: เขาก็เอาไปตีความใหม่ให้เป็นหนัง แล้วเราทำดนตรีมาเล่นประกอบกัน เล่นพร้อมกับภาพที่ฉายเลย

ปาร์ก: ผมรู้สึกดีมากเลยนะครับที่ได้ไปเล่นงานนี้ คนละอารมณ์กับเล่นโชว์เลย ปกติจะมองหน้าคนดู แต่งานนี้ต้องหันหน้าเข้าจอเพื่อดูภาพกับจังหวะ เน้นสื่ออารมณ์มากกว่า เหมือนเราก็เป็นคนดูคนหนึ่งเหมือนกัน แล้วก็มีคนอีกหลายคนข้างหลัง

แก๋ง: 2 คนครับ (หัวเราะ)

ดิว: ไอ้สัส เท่ามหานิยมเลย (หัวเราะ)

ทำวงมา 2 ปีแล้ว จากวงมีแค่สามคนจนตอนนี้มีห้าคนละ รู้สึกตัวเองเปลี่ยนไปบ้างไหม

ปาร์ก: โตขึ้นครับ แนวเพลงเราก็ฟังเยอะขึ้นด้วย เราก็ไม่อยากทำอะไรซ้ำ ๆ แบบเดิม ต้องฟังเยอะขึ้นด้วย ไปฟัง math เข้ามาเพื่อเอามาผสมในอัลบั้มที่ 2 ที่เรากำลังทำอยู่ครับ เพลงแรกก็ Chocolate เนี่ยแหละ

เบ: อัลบั้มแรกเราจะทำเพลงที่มันเนิ่บ ๆ แล้ว อัลบั้มสองมันจะเนิ่บกว่าเดิม (หัวเราะ) คุยกันอยู่เหมือนกันครับว่าอยากจะหนีคนอื่นเหมือนกัน แต่ยังอยู่บนพื้นฐานของดรีมป๊อปแน่นอน แค่จะหาอะไรใหม่ ๆ เข้ามาเพิ่มครับ

ดิว: มันอาจจะมีวงที่ทำแนวนี้เยอะแล้ว แต่คงไม่หนีกันเยอะหรอก เพราะเราก็ชอบแนวเพลงนี้อยู่แล้ว

Plasui Plasui 04

ไม่คิดจะหาค่ายอยู่หรอ

แก๋ง: เคยคิดจะอยู่ครับ แต่ตอนนี้คงไม่แล้ว เราก็อยู่มหาสารคามด้วยถ้ามีค่ายอยู่นู่นอาจจะเข้า เราก็มีโจทย์ของเราอยู่เหมือนกัน

ปาร์ก: เคยเสนอไปแล้วเขาให้เหตุผลว่าเราอยู่ไกลอะไรเงี่ยครับ

วันก่อนมีคนบ่นบนโซเชียลว่าเพลงไทยสมัยนี้ไม่น่าฟัง ทั้งที่เขายังไม่รู้จัก Plasui Plasui หรือวงอื่น ๆ เลย คิดว่าเป็นเพราะอะไร

แก๋ง: ตอบยากนะครับ ผมว่าสื่อมันไม่จำกัดแล้วคนเลือกเสพได้อิสระ เข้าถึงง่าย เขาอาจไม่ได้เข้ามาเอง หรือไม่ได้ลองเปิดใจฟัง พูดตรง ๆ เพลงไทยผมยังฟังไม่หมดเลย มันเยอะ อย่างวงเรายังมีคนบังเอิญมาเจอบ้าง เขาอาจยังไม่เจอวงที่เข้าชอบเฉย ๆ แต่มันต้องมีแน่ ๆ อาจจะไม่ใช่วงเราก็ได้

อย่างเรามีแฟนต่างชาติบ้างไหม

แก๋ง: มีครับ มีคอมเมนต์มีแชร์บ้าง มีคนไทเปมาสั่งเสื้อ วุ่นวายเลยตอนนั้น แล้วเขาเปลี่ยนที่อยู่อีก ต้องส่งกลับมาแล้วส่งกลับไปอีก (หัวเราะ)

แล้วปลาซุยมีวิธีโปรโมตวงของตัวเองยังไง

ปาร์ก: เอาจริง ๆ ไม่ได้ทำอะไรเลยครับ (แก๋ง: ทำเพลงอย่างเดียว) ช่วงแรก ๆ ถ้ามีงานอะไรเราก็รับหมด แต่ช่วงนี้ไม่ไหวแล้วครับ (หัวเราะ)

ตอนนี้มันก็มีกระแสหวงเพลงกัน ในฐานะศิลปินรู้สึกยังไง

ปาร์ก: ผมว่าน่ารักดีนะ (หัวเราะ) เขาคงห่วงจริง ๆ อะ ก็ต้องขอบคุณที่ทุกคนชอบฟังเพลงพวกผมด้วย

เบ: เขาอาจจะพิมพ์น่ารักเฉย ๆ ก็ได้ แต่ถ้าจริงจัง … (หัวเราะ) ผมก็ไม่รู้จะทำยังไง แต่ไม่ได้คิดอะไร

ถ้ามีคนเอาเพลงไปทำเวอร์ชั่นสามช่าจะโกรธไหม

แก๋ง: ผมคงเปิดฟังเลยครับ ไม่โกรธหรอก สงกรานต์ปีใหม่ผมจะได้มีเพลงไว้เปิดฟัง ผมขอแบ่งยอดวิวกับค่าโฆษณาด้วย

เบ: นี่คือประชดใช่มั้ย (หัวเราะ) (ร้องจังหวะสามช่า)

ดิว: เออชอบ ผมรออยู่ (หัวเราะ) เอามาเลย ดีครับ

Plasui Plasui 05

ในมหาสารคามเนี่ย เพลงนอกกระแสมันเฟื่องฟูจริง ๆ ไหม

แก๋ง: ก็ ไม่โตเท่าไหร่นะผมคิดว่า ตลาดเพลงอื่นก็โตเหมือนกัน มันต้องแข่งกัน คนฟังอินดี้มันมีอยู่แล้วแต่อาจจะน้อยผมก็ตอบไม่ได้เหมือนกัน

ปาร์ก: คนจากทั้งภาคก็มาเรียนที่มหาวิทยาลัยมหาสารคาม มันจะมีช่วงที่กระแสอินดี้บูมมาก แต่ช่วงหลัง ๆ มาเขาก็หายไปเรียนจบไปก็กลับบ้าน แล้วก็จะมีรุ่นใหม่มาอีก

ที่นั่นก็ไม่มีสื่อหรือกลุ่มคนที่ผลักดันเรื่องดนตรีนอกกระแสเลยหรอ

แก๋ง: ไม่มีเลยครับ นิตยสาร free copy ยังไม่มีเลยมั้งครับ

ดิว: ก็มีนิตยสารของนักศึกษาน่ะครับ แต่ก็เป็นคอลัมน์เล็ก ๆ แต่ศูนย์กลางของคนชอบเสพดนตรีก็น่าจะเป็นมหานิยมแหละครับ ที่เขาพยายามทำ แค่นั้น

แก๋ง: ก็เลยจัดอีเวนต์บ่อย ๆ แต่เขาก็จะมีแค่เรื่องดนตรีแต่ไม่ได้รวมศิลปะอย่างอื่น

ปาร์ก: มันก็จะมีเด็กปีหนึ่งที่เข้ามาลองฟังเพลงใหม่ ๆ แล้วชอบ ยิ่งโตก็ยิ่งชอบขึ้นเรื่อย ๆ แล้วก็จบออกไปเขาก็กลับบ้าน แล้วก็มีเด็กใหม่เข้ามาหัดฟัง มันก็ยังมีแต่น้อยลงเรื่อย ๆ มหาสารคามก็ภาคอีสานน่ะครับ เขาก็ฟังหมอลำลูกทุ่งซะส่วนใหญ่ ยากที่เขาจะเปลี่ยนมาฟัง

เบ: ยุคที่ผมเรียนคนฟังเพลงเยอะกว่าตอนนี้มาก รุ่นใหม่เข้ามาก็กำลังตามหาตัวเองตามเพลงที่จะชอบอยู่ ซึ่งน้อยกว่าเดิมมาก

เราอยากให้เมืองของเรามันเปลี่ยนแปลงไปในทางไหนบ้าง

ปาร์ก: ถ้าเป็นอย่างเชียงใหม่ได้บ้างก็ดีเนอะ พวกผมเคยจัดงานกันเองเหมือนกันนะครับที่มหาสารคาม เอาวงน้อง ๆ มาเล่น ถ้าเรามีกำลังมากกว่านี้ มีทุนเยอะกว่านี้ก็คงดี มันก็มีงานที่เด็กจัดกันเองเยอะมากครับ แต่คนไม่ค่อยไป เคยมีเทศกาลหนังมาจัดที่มหานิยมเหมือนกัน แต่เขาจะเปิดตอนสี่โมงถึงหกโมงเอง

ดิว: ชื่อ Back To The Wave ครับ งานผม ก็พยายามจะป้อนจะแสดงออกเหมือนกันว่าตรงนี้ก็มีงานนะ เปิดเพลง ทำเป็นคอมมิวนิตี้ ก็ยังรู้สึกดี

กำลังจะมีงานเร็ว ๆ นี้ไหม

ดิว: กำลังจะมี … มั้ยวะ (หัวเราะ)

ปาร์ก: ปีหน้าครับ ๆ

ดิว: เคยจัดกับ Conflakes ไปแล้วรอบหนึ่งครับ

มีวงจากมหาสารคามแนะนำอีกไหม

ปาร์ก: Soiju ครับ เป็นรุ่นน้อง บ้านอยู่ชัยภูมิ แต่มาเรียนที่มหาสารคามครับ

เบ: Isanjah เขาก็ดังเกินเราไปละ

แก๋ง: JL Vaivai, The Uglyduckling แล้วก็วง Door Plant ของทีที่ยังไม่ได้ปล่อยเพลงครับ

เป้าหมายต่อไปของวง

แก๋ง: กลับบ้าน (หัวเราะ)

เบ: อัลบั้มสองเนี่ยแหละครับ ทำกันอยู่ บางเพลงก็อัดเสร็จแล้วเหลือแต่มิกซ์

ปาร์ก: จริง ๆ มีสามสิบสี่สิบเพลงแล้วก็รอมานั่งเลือกกัน

แก๋ง: (หัวเราะ) กูไม่รู้แล้วเนี่ยอันไหนจริงไม่จริงคือไม่รู้แล้วเนี่ย

ปาร์ก: ก็ทำมาเรื่อย ๆ แหละครับ เพลงน่าจะปล่อยมาเรื่อย ๆ ครับ อัลบั้มน่าจะปลายปีหน้า ไม่อยากเร่งตัวเอง แต่เป้าหมายที่จริงของกูเนี่ย คืออัลบั้มสาม (ทุกคนหัวเราะ) ตั้งใจว่าจะทำให้หลุดไปเลย

แก๋ง: จริงปะเนี่ย (หัวเราะ) พอวางแผนระยะยาวก็จะเป็นแบบนี้แหละครับ เอาอัลบั้มสองก่อนมั้ย

ฝากอะไรถึงแฟนเพลงปลาซุยหน่อย

เบ: ก็ ตื้นตันมากเลยครับ ตอนแรกที่เราทำก็ไม่ได้คาดหวังอะไรเลย เราชอบแล้วเราก็ทำออกมา ผมแค่อยากเล่นเพลงที่ผมอยากดู คุยกันตั้งแต่ตอนนั้น เราก็ทำเต็มที่แต่ก็ไม่อยากคาดหวัง เพราะกลัวจะผิดหวัง (หัวเราะ) ผมเลยดีใจมากที่มีคนมาฟัง ไม่คิดเลยว่าจะมาถึงจุดนี้

ปาร์ก: ตอนแรกผมขอแค่หนึ่งพันวิวก็พอแล้วเพลง Time ดีมากเลยเนอะที่มีคนมาฟัง ขอบคุณทุกคนที่ติดตามครับ จากทำเพลงมาฟังกันเองจนมีคนฟังกันเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ถ้าเจอกันก็เข้ามาทักทายได้นะครับ

ดิว: ขอบคุณสื่อทุกคนด้วยนะครับที่เข้ามาซัพพอร์ต เราจะทำเพลงให้ดีเหมือนเดิมต่อไปเรื่อย ๆ เพื่อตอบแทนบุญคุณของทุกคน (หัวเราะ)

ติดตามข่าวสาร เพลงใหม่ ๆ ซื้อซีดีและซัพพอร์ตวงได้ที่เพจ PLASUI PLASUI

Plasui Plasui 07

Facebook Comments

Next:


Peerapong Kaewthae

แม็ค เป็นคนชอบฟังเพลงเพราะเป็นกิจกรรมที่ทำคนเดียวได้ และก็ชอบแนะนำวงดนตรีหรือเพลงใหม่ ๆ ให้คนอื่นรู้จักผ่านตัวอักษรตลอดเวลา