Between the Lines Uncategorized

สิ่งที่อยู่นอกใจ โดย Apartment Khunpa

  • Writer: Parichat Kamwas
  • Photographer: Thanawat Petchan

อพาร์ตเมนต์คุณป้า
‘สิ่งที่อยู่นอกใจ’

คำร้อง: ตุล ไวฑูลเกียรติ
ทำนอง: ตุล ไวฑูลเกียรติ
เรียบเรียง: อพาร์ตเมนต์คุณป้า

หลายคนอาจจะไม่เคยลิ้มรสการนั่งฟังทั้งอัลบั้มเรียงจากเพลงที่ 1 ไปจนจบ แล้ววนมากลับมาเพลงที่ 1 ใหม่เป็นอย่างนี้ไปเรื่อยๆ

คุณเคยฟังเพลงจนจบถึงเพลงสุดท้ายในอัลบั้มไหม ? 

เคยสงสัยไหมว่ามีวิธีการเรียงเพลงยังไง ทำไมเพลงนี้ถึงได้มาอยู่หน้า B หรือ เพลงฮิตๆ ต้องอยู่ในหน้า A เท่านั้น?

คำว่า ‘สุดท้าย’ เป็นคำที่สื่อความหมายไปในทางค่อนข้างลบ ที่ใครๆ คงไม่อยากได้รับ และดูเหมือนความสำคัญมันช่างน้อยกว่า คำว่า ‘เริ่มต้น’ โดยสิ้นเชิง ฉันเป็นคนหนึ่งที่ชอบฟังเพลงสุดท้ายในอัลบั้มก่อน ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน อาจจะเพราะฉันอยากให้มันได้รับความสำคัญเหมือนเพลงแรกที่ยังไงก็ต้องเปิดฟังก่อน เพลงสุดท้ายในความสงสัยของฉันตอนนี้ คือเพลง “สิ่งที่อยู่นอกใจ” ของอพาร์ตเมนต์คุณป้า จากอัลบั้มสมรสและภาระ ทำไมเขาถึงเอาเพลงนี้มาไว้ลำดับสุดท้ายของอัลบั้มกันนะ

“ถ้าลองฟังทั้งอัลบั้มจะรู้ว่า อารมณ์ของแต่ละเพลงต่อกัน อย่างเพลงแรก “ดึกแล้วคุณขา”กับเพลงสุดท้ายอย่าง “สิ่งที่อยู่นอกใจ” มันเชื่อมโยงกัน ผมชอบให้จบเพลงสุดท้ายแล้วมันต้องวนเป็นวงกลม กลับมาต่อเพลงแรกได้ ซึ่งเป็นเสน่ห์ของการฟังเพลงเป็นอัลบั้ม ที่อยากให้คนฟังเอาซีดีเพลงใส่ในรถแล้วสามารถฟังวนไปได้เรื่อยๆ” นี่คือคำตอบของ’พี่ตุล ไวทูรย์เกียรติ’ ผู้แต่งเนื้อและทำนองของเพลงนี้

คนสมัยนี้ได้เปลี่ยนผ่านการฟังเพลงจากเทปคาสเซ็ทหรือซีดีทั้งอัลบั้ม มาเป็นยุคของดิจิทัลดาวน์โหลด ต้องพยักหน้าเห็นด้วยแรงๆ สักสองสามที หลายคนอาจจะไม่เคยลิ้มรสการนั่งฟังทั้งอัลบั้มเรียงจากเพลงที่ 1 ไปจนจบ แล้ววนมากลับมาเพลงที่ 1 ใหม่เป็นอย่างนี้ไปเรื่อยๆ ฉันเป็นคนหนึ่งที่เคยทำแบบนั้น และตอนนี้ก็เป็นอีกหนึ่งคนที่เริ่มเปลี่ยนมาเป็นการฟังเพลงแบบเป็นเพลย์ลิสต์เสียแล้ว

“ผมจะเป็นคนที่ถ้าได้นั่งอยู่เฉยๆ หรือตอนเล่นเปียโน มักได้ยินเนื้อร้องและทำนองหลุดมาพร้อม ๆ กันในหัว แล้วต้องรีบหากระดาษมาจดไว้ แล้วนำมาเล่าต่อ”

หลังจากบทสนทนาแรกไขข้อสงสัยให้ฉันได้แล้ว บทสนทนาต่อไปตุลจึงเล่าถึงลักษณะการแต่งเพลงให้ฟัง ด้วยความที่เขาเป็นคนที่ชอบทำงานแบบไม่ต้องมีกฎเกณฑ์หรือมีกรอบบังคับ เพลงนี้จึงบังเอิญเกิดขึ้นตอนหลังจากแต่งหลังจากเพลงดึกแล้วคุณขาเสร็จ ไม่กี่ชั่วโมง เสียงเมโลดีที่ดังอยู่ในหัว เรียกร้องให้เขาจรดปากกาและบรรเลงทำนองด้วยเปียโนที่เจ้าตัวบอกว่า กำลังเห่อมากเพราะเพิ่งซื้อมาใหม่ บวกกับช่วงนั้นประเทศไทยมีปัญหาเรื่องการเมือง ทำให้อัลบั้มนี้มีเพลงดุดันน้อย เน้นหนักไปสื่อสารทางอารมณ์มากกว่า

piano

“ตอนนั้นคุณสันติ แต้พานิช เขาจะทำหนังเรื่องดึกแล้วคุณขา ผมเลยแต่งเพลงชื่อเดียวกันนี้ให้เขา ซึ่งตลกมากเลยก็คือ ผมต้องแต่งทั้งๆ ที่ยังไม่เคยดูหนังเขา จนปัจจุบันนี้ก็ยังไม่มีโอกาสได้ดู และในวันเดียวกันนี่แหละครับ ผมก็แต่งเพลงสิ่งที่อยู่นอกใจ”

สิ่งที่ทำให้ฉันทึ่งในตัวพี่ตุล แบบที่ต้องขอนิยามด้วยความยกย่องว่าเป็นอินดี้รุ่นใหญ่เลย ก็คือ ความศรัทธาในความคิดของตัวเอง เขาจะไม่ค่อยแก้เพลงตัวเอง โดยทุกเพลงส่วนมาก 99 % จะไม่มีการเปลี่ยนคำให้สวยขึ้น จะคงเนื้อเพลงแรกที่แต่งเอาไว้ เพราะเชื่อสัญชาตญาณตอนนั้น ซึ่งเหมือนว่าเขาได้รับการส่งมอบเนื้อเพลงจากอารมณ์ตอนนั้นมาอีกที ด้วยลีลาภาษาที่ใช้ที่ไม่เหมือนกับเพลงทั่วๆไป ซึ่งตรงนี้ก็เป็นสไตล์เฉพาะตัว ส่วนมากมักเป็นการนำสิ่งต่างๆ ที่อยู่ใกล้ตัวมาเป็นสัญลักษณ์เปรียบเปรย

มีเพลงอีกนึงที่บันทึกได้ตอนเดินเอ็มโพเรียม ต้องรีบเข้าห้องนํ้าไปอัดในโทรศัพท์ จะร้องตอนนั้นเลยก็อาย

“บางทีเรียกว่าแต่งเพลงยังยากเลย มันเรียกว่า การหยิบคำมาใส่กระดาษให้เร็วที่สุดมากกว่า เพราะคำมันมาแล้ว ผมจะใช้สัญชาตญาณล้วนๆ คือถ้าเพลงมันจะมามันก็ออกมาเลย แต่ถ้ามันไม่ออกก็คือไม่ออก เวลาออกมาแล้วจับไม่ทันก็มี เคยมีออกมาตอนขับรถ ก็พยายามร้องไว้ ร้องไปเรื่อยๆ แต่โทรศัพท์ดันเข้า จบเลย (หัวเราะ) หลายเพลงที่มันมาผิดที่ผิดทางมันก็จะบันทึกไม่ทัน มีเพลงอีกนึงที่บันทึกได้ตอนเดินเอ็มโพเรียม ต้องรีบเข้าห้องน้ำไปอัดในโทรศัพท์ จะร้องตอนนั้นเลยก็อาย” เขาเล่าพลางกลั้วหัวเราะ ด้วยความเขินอายในวิธีการทำงานที่แสนจะแปลกของเขา และยังมีอีกหนึ่งความแปลกของเขาคือ พี่ตุลจะมีกีตาร์ตัวแรกในชีวิตที่พกมาจากอเมริกา และต้องใช้แต่งเพลงเสมอ ซึ่งถ้าไม่ได้แต่งจากกีตาร์คู่ใจตัวนั้น จะเขียนเพลงไม่ออก

เนื้อหาของเพลง “สิ่งที่อยู่นอกใจ” พูดถึงการเปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่น คือความทุกข์ คนเราส่วนใหญ่เป็นทุกข์เพราะไม่ได้มองในสิ่งที่เรามี มัวไปมองว่าทำไมคนอื่นมีอย่างโน้นอย่างนี้ทำไมเราไม่เป็นแบบเขาหรือไม่มีโอกาสในชีวิตเท่าคนอื่นบ้าง นั่นเป็นเพราะคนเราทุกคนย่อมมีความแตกต่าง เลยทำให้ยิ่งตอกย้ำว่าโลกนี้มันสวยงามเพราะว่า ชีวิตคนทุกคนมันไม่เหมือนกัน ถ้าทุกคนเหมือนกันหมด ทุกอย่างบนโลกใบนี้คงดูน่าเบื่อ แล้วโลกจะหมุนต่อไปเพื่ออะไร?

คนเราส่วนใหญ่เป็นทุกข์เพราะไม่ได้มองในสิ่งที่เรามี มัวไปมองว่าทำไมคนอื่นมีอย่างโน้นอย่างนี้ทำไมเราไม่เป็นแบบเขา หรือไม่มีโอกาสในชีวิตเท่าคนอื่นบ้าง นั่นเป็นเพราะคนเราทุกคนย่อมมีความแตกต่าง

นางนวลหนึ่งตัว ท่ามกลางความหวาดกลัว ที่ตัวมันได้สร้างเอาไว้ บินข้ามคลื่นลม บินข้ามเมฆฝน พายุใหญ่

เนื้อเพลงพูดถึงการเดินทาง โดยใช้นกเป็นสัญลักษณ์ของการเดินทาง อิสระภาพ คนทุกคนมีความช่างฝันอยู่ในตัวและมักมีจินตนาการว่าตัวเองอยากโบยบินไปสู่จุดหมายนั้น แต่เมื่อเราคาดฝันไปแล้ว สิ่งที่ต้องเจอก็คือ ‘ความกลัว’ กลัวที่จะไม่เป็นดังหวัง เหมือนเวลาที่นกที่มันโผบิน มันก็กลัวที่จะตกลงมาตาย หรือไปเจออุปสรรค แต่เราก็ต้องข้ามผ่านมันไปให้ได้

ชายชราหนึ่งคน นั่งดื่มกับความสับสนที่ประสบการณ์ได้สร้างเอาไว้ เขาอินไปกลับเพลง เมามายให้ตัวเองหายไป

เมื่อกลับมามองในชีวิตคนเราแล้ว แม้กระทั่งคนมีอายุ มีประสบการณ์ในชีวิตแล้ว คงก้าวข้ามผ่านความกลัวหรือความอยากได้อยากมีเหล่านั้นได้ไม่ยาก แต่อายุกลับไม่ได้ช่วยให้คนมีกิเลสน้อยลง ยังมีคนแก่หลายคนที่เป็นทุกข์อยู่ หรืออาจจะใกล้ตายแล้วแต่ก็ยังยึดติดอยู่กับเรื่องเดิมๆ ในอดีต มองเห็นความไม่พอใจในอดีตของตัวเองที่ผ่านมา ยังเอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับคนอื่นให้เป็นทุกข์อยู่ดี

คนเราที่แท้มีความต่าง ทุกชีวิตจึงดูน่าสนใจและในความใกล้ชิดมีความห่าง ระยะทางที่เราสร้างเอาไว้ เพื่อให้เราได้ลืมว่าเราเป็นใคร

แต่ทุกสิ่งทุกอย่างในโลก ทุกชีวิตย่อมมีความแตกต่างกัน ถ้าเราเคารพในความแตกต่างจากคนอื่นได้ ชีวิตก็จะเจอจุดสมดุล เริ่มปรับเปรียบจากความคิดข้างในใจของเรา ชีวิตก็จะง่ายขึ้น แต่มันทำยาก เพราะคนส่วนใหญ่ก็เลือกที่จะไปมองออกไปข้างนอกอยู่ดี เช่นทำไมเราไม่ไปยืนอยู่ในจุดที่คนอื่นอยู่บ้าง แทนที่จะคิดว่าเราก็มีชีวิตของเรา

download-1

“คนเราที่แท้มีความต่าง ทุกชีวิตจึงดูน่าสนใจ”

ท่อนนี้อาจจะมีการกระทบเสียดสีเรื่องการเมืองด้วยเหมือนกัน ซึ่งในช่วงนั้นคนเริ่มมีการแตกคอกัน แบ่งฝักแบ่งฝ่าย ทำให้ต้องสนับสนุนการเคารพความแตกต่างในความคิด ความเชื่อ ซึ่งถ้าเราไม่เคารพตรงนี้ เราคงอยู่ด้วยกันยาก “แม้คนในครอบครัว หรือคนที่รักกันก็ตามยังคิดไม่เหมือนกันได้ เราต้องพยายามมองเห็นความงดงามในอีกความคิดนึง ต่างคนต่างชอบอะไรคนละอย่าง มันเลยเกิดความสมดุล”

กุหลาบอยู่ในสวน ท่ามกลางหมู่มวลแมลงที่ล้อมรุมมันไว้ หากคนว่าไม่งามแล้วมันยังต้องการหนามอยู่ไหม

หรือถ้าเรายังรับความแตกต่างไม่ได้ ยังมองไม่เห็นความงามในความแตกต่าง ก็จะกลายเป็นว่าเราต้องทำตามความคิดของคนอื่นที่ว่าดี เช่นเดียวกับ ถ้าคนบอกว่าหนามของกุหลาบไม่สวย มันก็อาจจะไม่ต้องการมีหนามก็ได้ ซึ่งจริงๆ แล้วเราก็ไม่รู้หรอกว่ามันต้องมีหนาม ไว้ป้องกันตัวเอง

เช่นฉันกับบทเพลงเรื่องราวของฉันเองไม่เกี่ยวกับผู้คนอื่นไหน มันเป็นแค่เพลง สะท้อนความวังเวงไม่ได้ยิ่งใหญ่

แม้ไม่ได้ทำในสิ่งที่ทันสมัย เล่าเรื่องในแบบเดิมๆ ทำให้เพลงนี้เป็นร็อคที่ค่อนข้างเรียบง่าย แนว Ballad แบบ Old fashion ตามสไตล์ของวงอพาร์ตเมนต์คุณป้า การใส่ดนตรีจึงมีดีไซน์น้อย Arrangement ของเพลงง่ายๆ ไม่ซับซ้อน คือหลังจากที่ได้ทำนองจากเปียโนแล้ว ในระหว่างซ้อมเหล่าสมาชิก ก็จะคิดกันว่าจะใส่เครื่องดนตรี กีตาร์กลอง เบส ตรงไหน ทำให้เพลงนี้ ไม่ได้เป็นเพลงที่หวือหวา เน้นไปด้วยการสาดอารมณ์ซื่อๆ เล่าเรื่องที่อยู่ไม่ใกลตัวเท่าไหร่มากกว่า

แม้คนในครอบครัว หรือคนที่รักกันก็ตามยังคิดไม่เหมือนกันได้ เราต้องพยายามมองเห็นความงดงามในอีกความคิดนึง ต่างคนต่างชอบอะไรคนละอย่าง มันเลยเกิดความสมดุล

เพราะว่าเรามักมองแต่สิ่งที่อยู่นอกใจ

ก่อนที่บทสนทนาจะจบลง เราพูดคุยกันถึงเพลงสุดท้ายอีกครั้ง

“ลองสังเกตดูเพลงสุดท้ายในหลายๆ อัลบั้มมันมีเสน่ห์มาก ผมมักจะชอบจำเพลงสุดท้ายได้” พี่ตุลเล่าถึงเพลงสุดท้ายที่เขาแสนประทับใจในความเท่ อย่างเพลง “หมดเวลา” ของโมเดิร์นด็อก อัลบั้มแรกชุดเสริมสุขภาพ เป็นเพลงที่พูดถึงจุดจบของทุกอย่าง แม้จะผ่านไปกว่า 20 ปี แต่ยังทำให้เขาคิดถึงเพลงนั้นได้จนถึงทุกวันนี้

 “หมดเวลาแล้ว หมดเวลาสุข หยุดความทุกไว้เพียงเท่านี้” เสียงพี่ตุลคลอเพลงให้ฟังเบาๆ พร้อมกล่าวทิ้งท้ายกับฉันว่า

“เพลงสุดท้ายของอัลบั้ม มันก็จะเหมือนเพลงไตเติ้ลจบของหนัง มันจะจำและติดอยู่ในหัว แต่ว่าคนยุคใหม่คงมีกิจกรรมนี้น้อยลงแล้วที่จะฟังเพลงเป็นอัลบั้ม สังเกตได้จากทุกวันนี้คนจะฟังเพลงเป็นเพลย์ลิตส์ที่คละเคล้ากันไป อาจจะเพราะมันออกมาทีละซิงเกิลให้โหลด พฤติกรรม และเทคโนโลยีที่เปลี่ยนไป ทำให้คนซื้อซีดีน้อยลง”

ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม การฟังเพลงก็เป็นอีกหนึ่งความแตกต่างทางความคิด ความชอบในใจของแต่ละคนที่เราต้องยอมรับ และหัดมองเข้าไปในสิ่งที่อยู่ในใจ เช่นเดียวกัน และขอแอบกระซิบนิดนึงว่า อีกสองสามเดือนจะได้ยินเพลงใหม่ของอพาร์ตเมนต์คุณป้า ชื่อเพลง “รักในมหานคร” และอีกหลายๆเพลง ทยอยออกมาก่อนจะมีอัลบั้มเต็มให้ฝากติดตามกันด้วย

ลองฟังเพลงอื่นๆ ของ อพาร์ตเมนต์คุณป้า ได้ที่ http://www.fungjai.com/artist/ApartmentKhunpa

เพลงสุดท้ายของอัลบั้ม มันก็จะเหมือนเพลงไตเติ้ลจบของหนัง มันจะจำและติดอยู่ในหัว แต่ว่าคนยุคใหม่คงมีกิจกรรมนี้น้อยลงแล้วที่จะฟังเพลงเป็นอัลบั้ม สังเกตได้จากทุกวันนี้คนจะฟังเพลงเป็นเพลย์ลิสต์ที่คละเคล้ากันไป อาจจะเพราะมันออกมาทีละซิงเกิลให้โหลด พฤติกรรม และเทคโนโลยีที่เปลี่ยนไป ทำให้คนซื้อซีดีน้อยลง

 

Facebook Comments

Next: