Import

Destroyer เจ้าของเพลง Bangkok กับการมากรุงเทพ ฯ ครั้งแรกของเขา

  • Writer: Sarun Pinyarut and Pitchaya Chonato
  • Photographer: Chavit Mayot

ทีมงานฟังใจตื่นเต้นสุด ๆ กับการมาเยือนไทยแบบไม่ทันได้ตั้งเนื้อตั้งตัวของวงดนตรีจากแคนาดาที่ทำเพลงมากว่า 20 ปีอย่าง Destroyer ที่อีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้าเราจะได้ฟังเขาเล่นสด ๆ ให้เราดูตรงหน้า อย่างไรก็ดีเราได้รับโอกาสพิเศษจากทาง Conflakes ได้เข้ามาพูดคุยกับเขาก่อนเริ่มแสดง เราไปเจอเขาเลยดีกว่า

 

3 คำที่นึกถึงเมื่อพูดถึง Destroyer

ขอโทษนะครับ แต่ผมตอบอะไรแบบนี้ไม่ค่อยได้

ที่ตั้งชื่อวงประมาณนี้เพราะอยากให้ชื่อเหมือนวงร็อกแอนด์โรลใช่ไหม

สมมติว่าผมโดนถามอะไรในปี 2016 ผมต้องใช้ความพยายามอย่างมากเพื่อนึกถึงอะไรที่ผมคิดได้ในปี 1995 ชื่อนี้คิดได้เมื่อ 21 ปีที่แล้วเลยนะ ก็เป็นชื่อที่โผล่มาที่น่าจะเป็นชื่อวงร็อกได้ ชื่อมันเท่งี้

แล้วคิดว่าทุกวันนี้ชื่อที่ใช้อยู่เหมาะกับวงของคุณไหม

เหมาะที่สุดแล้วล่ะครับ อาจจะแค่ตรงที่เพลงของผมไม่ใช่เพลงที่ออกมาในแง่ลบแบบชื่อวงแค่นั้นแหละ (หัวเราะ)

หลาย ๆ คนรู้จักคุณจากเพลง Kaputt แต่ช่วยเลือก 3 เพลงที่จะทำให้เรารู้จักคุณมากขึ้นอีกนิดซิ

Bangkok, Certain Things You Ought To Know แล้วก็ European Oils ดูเหมือนแฟนของ Destroyer จะชอบ 3 เพลงนี้นะ

ส่วนตัวคิดว่า Kaputt เป็นอัลบั้มที่ดังที่สุดของคุณเลยหรือเปล่า

ผมว่ามันดูดีเกินไปกว่าสิ่งที่มันเป็นจริง ๆ นะ เราไม่เคยมีคนดูนอกโซนอเมริกาเหนือเลย แล้วพออัลบั้มนั้นออกมามันก็เลยเหมือนเป็นจุดเปลี่ยนที่ทำให้เราไปทัวร์ยุโรป หรือมาที่นี่

ช่วยบอกสัญลักษณ์ หรือสิ่งที่ปรากฏในมิวสิกวิดีโอเพลงKaputt หน่อย

ผมไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับ mv นี้เลยครับ ผมมีเพื่อนของเพื่อนที่เรียนภาพยนตร์ทำให้ เลยได้ในราคาถูก แล้วนอกจากนั้นผมก็ไม่รู้เรื่องอะไรเกี่ยวกับความหมายใน mv นั้นเลย

เคยอ่านเจอในบทความอันนึง เห็นด้วยไหมว่าคุณเป็นคนที่ให้พลังบวกกับคนที่คิดลบ

ก็น่าจะใช่นะ

แล้วอีกที่ก็บอกว่าคุณไม่ค่อยให้คำแนะนำอะไรกับใคร แต่ในฐานะที่คุณทำเพลงมา 20 กว่าปี เราอยากรู้ว่าคุณผ่านอะไรมาบ้าง เพื่อที่คนที่กำลังพยายามทำฝันให้เป็นจริงได้เอาเป็นแบบอย่าง

ไม่นะ จริง ๆ จะว่าผมไม่ให้คำแนะนำก็ไม่ได้ มันเป็นเพราะไม่ค่อยมีใครมาถามผมมากกว่า

ชอบอะไรในการทำเพลงมากที่สุด

ผมชอบที่จะอยู่ในสตูดิโอมาก แต่เมื่อไม่กี่ปีมานี้ผมเพิ่งจะชอบเวลาขึ้นเวทีแล้วร้องเพลง ไม่ได้สนุกนะ ยังแอบรู้สึกแปลก ๆ ด้วยซ้ำเวลาอยู่ต่อหน้าคนดู แต่ผมชอบการเล่นดนตรีกับวงของผม ซึ่งบางทีมันดีกว่าการนั่งเครียดทำเพลงในสตูดิโอ

แล้วที่ไม่ชอบที่สุดล่ะ

อะไรก็ตามที่ต้องทำแล้วไม่เกี่ยวกับดนตรีเนี่ยแหละ แต่หลาย ๆ อย่างคุณก็ต้องทำเพราะมันเป็นส่วนหนึ่งในงานของคุณแหละนะ

มีหลายเพลงมากที่ตั้งชื่อเป็นสถานที่อย่าง Time Square, Bangkok, China Town แต่เนื้อเพลงไม่มีความเกี่ยวข้องกับสถานที่เหล่านั้นเลย

ไม่รู้สิ เพลง China Town นี่ผมเดินอยู่ในนั้นประมาณ 2 ชั่วโมงแล้วก็เขียนถึงมัน ส่วน Bangkok ผมไม่เคยมากรุงเทพ ฯ นะ แต่ผมก็มีภาพจินตนาการของผมอยู่ ก็เลยไม่มีอะไรเกี่ยวอะไรกับเมืองจริง ๆ ผมว่าหลาย ๆ คนที่อยากลองเขียนอะไรออกมาจากวัน เวลา สถานที่ ก็อยากจะแต่งให้มันได้ธีมนั้น ๆ แหละ จะเอาชื่อของเมือง สวนสาธารณะ มาใช้ให้ดูสวย ๆ หรืออย่างผมนี่ชอบใช้วันที่ เอาชื่อของเดือน หรือปี ไม่ก็เป็นชื่อคน ทุกอย่างในนี้มันได้อิทธิพลมาจากสิ่งที่ปรากฏอยู่จริง แต่อาจจะไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับเพลงเลยก็ได้

แล้วทีนี้พอได้มากรุงเทพ ฯ แล้ว รู้สึกอยากกลับไปแก้เนื้อเพลงตรงไหนในเพลง Bangkok บ้างไหม

คือเนื้อเพลงมันไม่ได้เกี่ยวกับเมืองเพราะผมไม่เคยมา มันเหมือนการเขียนมาจากมุมมองของคาแรกเตอร์ตอนที่ผมเขียน อารมณ์ในเพลงมันเหมือนการสังเกตถึงความหมายของเมืองในเชิงโรแมนติกที่ถูกถ่ายทอดมาจากคนรุ่นก่อน ผมเลยไม่อยากกลับไปแก้อะไรมันเท่าไหร่

แล้วในเพลง Bangkok มีท่อนที่ร้องว่า “black, blue, red, YZ, oh very nice” ทำไมต้องเป็น 3 สีนี้ แล้ว YZ คืออะไร

มันเหมือนเป็นคำที่คนพูดกันอยู่แล้ว ไม่ได้มีความหมายอะไรเป็นพิเศษ

มีหนังสือหรือวงดนตรีไหนเป็นแรงบันดาลใจในการเขียนเนื้อเพลงของคุณไหม

Anne Carson เป็นนักเขียนที่เก่งคนนึงเลยแหละ เป็นคนแคนาดา

เคยฟังเพลงไทยมาก่อนไหม

ก็เคยได้ยินผ่าน ๆ นะ แต่ไม่ได้ฟังของใครหรือเพลงอะไรเฉพาะเจาะจงซะทีเดียว อาจจะเคยฟังเพลงป๊อปไทยยุค 60s 70s ตอนอยู่ที่แคนาดา เหมือนแถบอเมริกาเหนือคนจะสนใจ world music กันเยอะ ส่วนมากก็เป็นเพลงที่ไว้ศึกษาประวัติศาสตร์ดนตรีร็อกหรือป๊อป ก็จะมาจากทางนี้ พวกเพลงปี 50s ก็มี

คุณคิดว่านักดนตรีสามารถทำเป็นอาชีพหลักได้หรือเปล่า

ผมว่ามันยากมากเลยนะ พวกวงเด็ก ๆ เดี๋ยวนี้นี่ต้องออกทัวร์อยู่ตลอด

คิดว่าประเทศที่คุณอยู่มีผลกับเรื่องนี้ไหม เหมือนอย่างอยู่ไทย ทำเพลงที่นี่ก็ได้ หรือต้องไปที่อื่นเพื่อหาแฟนเบส

ผมคิดอยู่ตลอดว่ามันเป็นสิ่งที่ซัพพอร์ตให้คนทำเพลงอยู่ได้นะ การออกไปเล่นที่อื่นเนี่ย แล้วก็จะได้รู้ว่าสังคมการฟังเพลงที่นั่นเป็นแบบไหน ซึ่งผมว่าก็ดีออกที่ได้ไปต่างประเทศ เห็นอะไรใหม่ ๆ แต่ผมไม่คิดว่าคุณอาจจะอยากทำ เพราะสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับผมก็คือการทำเพลงและได้เล่นเนี่ยแหละ ผมรออยู่นานเหมือนกันกว่าจะได้ไปทัวร์กับเขาบ้าง เหมือนว่าต้องทำเพลงไปอีกนานกว่าจะได้ออกไปเล่น

ตอนไปเล่นชอบที่ไหนที่สุด

ไม่รู้สิ แค่รู้สึกว่าทุกที่มันก็น่าตื่นเต้นไปหมด ที่เอเชียนี่ก็ไปเล่น 5 ที่ มีปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้ โซล ไทเป แล้วก็กรุงเทพ ฯ แล้วเดี๋ยวก็กลับบ้านแล้วครับ ผมไม่คิดว่าทุกที่ที่ไปมันจะเจ๋งแบบนี้

คาดหวังอะไรกับโชว์ในคืนนี้

ไม่รู้จะคาดหวังอะไรเลยครับ

เซอร์ไพรส์ไหมที่มีคนไทยชอบคุณเยอะขนาดนี้

มาก ๆ ครับ ช็อกมากเลย

เคยให้สัมภาษณ์แล้วกลับไปอ่านที่คุณตอบบ้างไหม

ไม่เคยครับ มันเจ็บปวดเกินไป ผมรู้สึกว่าผมไม่เห็นด้วยเกือบทุกอย่างที่ผมให้สัมภาษณ์ไป เหมือนว่าพอพูดไปแล้ว หนึ่ง หรือสองชั่วโมงต่อมา ผมก็จะไม่ตอบแบบนั้นแล้ว

มีอะไรฝากถึงแฟนชาวไทยไหม

ผมตอบอะไรพวกนี้ไม่เก่งน่ะครับ พอขึ้นเวทีนี่ผมจะเล่นอย่างเดียวเลย

 

ไว้มาติดตามกันว่าในอนาคตอันใกล้ Conflakes จะพาวงอะไรมาให้พวกเราได้ดูกันอีก ต้องรอลุ้นกัน หรือเข้าไปที่ official fanpage เพื่อติดตามอัพเดตข่าวสารได้เลย

Facebook Comments

Next:


Sarun Pinyarat

ท้อป ศรัณย์ ภิญญรัตน์ เคย: เรียนออกแบบที่ไทยและฟินแลนด์ / ทำงานที่ Startup ใน Sillicon Valley ชอบ: ฟังเพลง / ดูหนัง / อ่าน / การเล่าเรื่อง / บูมบูม เป็น: ผู้ก่อตั้งฟังใจ / นักออกแบบ / คนคิด / คนเจรจา / คนลงมือทำ / นักเขียนจำเป็น