Article ระเห็ดเตร็ดเตร่

เก็บตก Liam Gallagher Live in Bangkok คอนเสิร์ตระดับโลกงานแรกในปี 2018

  • Story by Gandit Panthong
  • Photos by The Very Company

12 มกราคม 2561

020a0157

แสดงสดเสร็จสิ้นกันไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว สำหรับงานคอนเสิร์ต Liam Gallagher Live In Bangkok คอนเสิร์ตเดี่ยวครั้งแรกในประเทศไทยของ Liam Gallagher วัย 45 ปีบริบูรณ์  Fungjaizine ก็ไม่พลาดที่จะไปเก็บเรื่องราวในคอนเสิร์ตนี้มาให้ทุกท่านได้อ่านกัน ส่วนงานคอนเสิร์ตนี้จะเป็นอย่างไร สนุกสุดร็อกกันขนาดไหน เชิญอ่านกันได้เลยในระเห็ดเตร็ดเตร่ครั้งนี้ครับ

020a0137

020a0151

เวลาประมาณ 17.00 น. เราเดินทางไปถึงฮอลหมายเลข 106 ไบเทค บางนา สถานที่จัดงาน สิ่งแรกที่เห็นเลยได้ชัดในบรรยากาศของช่วงเวลานั้นที่ทำให้รู้สึกตกใจเลยก็คือ จำนวนคนมากมายมหาศาลทั้งที่ต่อแถวซื้อเสื้อของ Liam Gallagher และต่อแถวเข้าฮอลคอนเสิร์ต เราลองเข้าไปสอบถามบางคนได้คำตอบว่า พวกเขามารอกันตั้งแต่บ่าย 3 โมงแล้ว แต่สิ่งที่ตัวผมเองสงสัยอยู่เรื่องนึงก็คือทางทีมงานแจ้งไว้ว่า จะเปิดขายสินค้าเวลา 18.00 น. แต่ปรากฏว่าพอไปถึงสินค้าหมดเรียบร้อยแล้ว อันนี้ฝากทีมงานพิจารณาด้วยนะครับ

020a0431

เวลา 20.05 น. The Whitest Crow วง opening act ของงานนี้ ได้ขึ้นเล่นตามตารางของงานที่วางไว้ แม้ว่าจะเลตเล็กน้อยจากเวลาตามโปสเตอร์ก็ตาม แต่เหล่ากาขาวก็ไม่ทำให้ผิดหวัง เราแอบได้ยินมาว่าการคัดเลือกวงมาเล่นเปิดนี้จะต้องผ่านหูของเลียมมาก่อนถึงจะตกลงให้วงนั้นร่วมเวทีด้วย ซึ่งพวกเขาก็ได้พิสูจน์ตัวเองแล้ว วงหยิบเพลงในอัลบั้มมาบรรเลงอย่างเมามัน ไม่ว่าจะเป็นเพลง Siam Psyche, Can’t Get Any Higher, I.C.S.T.O.Y, Your Soul, Give Up On Love, Follow The Heart, Forever Hide And Seek รวมไปถึงเพลงฮิตอย่าง Be With You วง The Whitest Crow ใช้เวลาในการแสดงไปทั้งหมดประมาณ 40 นาทีเห็นจะได้ ตลอดการโชว์ของพวกเขาในงานครั้งนี้ วงกาขาวสามารถทำผลงานได้ออกมาอย่างดีเยี่ยมสมกับคำว่าตัวแทนประเทศไทยของจริง แม้ว่าช่วงที่โชว์จะมีกลุ่มคนบางประเภทตะโกนพูดคำไม่สุภาพให้กับวงระหว่างการแสดง แต่งานนี้บอกเลยพวกคุณทำอะไรพวกเขาไม่ได้หรอกครับ พวกเขาแข็งแกร่งกว่าที่คุณคิดไว้ โดยก่อนที่วง The Whitest Crow จะจบการแสดงในครั้งนี้ ไตเติ้ล นักร้องนำของวงก็ได้กล่าวประโยคนี้บนเวทีไว้ว่า “การได้มาเล่นเปิดคอนเสิร์ตครั้งนี้เป็นความฝันที่สุดยอดมาก ๆ สำหรับผม มันเป็นสิ่งที่พวกเราจะจดจำไว้ตลอดชีวิต ผมเคยมาดูพี่ชายเขาเล่นที่ไทยแล้วครั้งนึง วันนี้ผมกำลังจะได้ดูน้องชายเขาเล่นบ้าง ฝันของผมอีกอย่างนึงและเชื่อว่าทุกคนก็อยากเห็นเหมือนกันคือ พี่น้องสองคนมาเล่นด้วยกันอีกครั้งที่ประเทศไทย” จากนั้นเสียงเฮคนดูทุกคนก็ดังขึ้นและเป็นอันสิ้นสุดการแสดงของวง

020a0618

และแล้วการแสดงอีกช่วงก็เริ่มขึ้นในเวลา 21.20 น. Liam Gallagher บุคคลที่ทุกคนรอคอยปรากฏตัวขึ้นพร้อมกับเพลง Rock N Roll Star, Morning Glory, Greedy Soul อารมณ์ของผู้ชมในตอนนั้นเรียกได้ว่าฉุดไม่อยู่แล้วทุกคนกระโดดโลดเต้นไปกับเพลงของเลียมอย่างสนุกสนาน พร้อมกับคนดูบางกลุ่มก็ได้เริ่มปาแก้วน้ำกันไปมา เบียร์กระเด็นโดนแทบจะทุกคนที่ยืนดูงานคอนเสิร์ตครั้งนี้ หลังจากที่เลียมขึ้นมาได้สักพักแล้ว ไม่มีการเบรกอารมณ์ใด ๆ ทั้งสิ้น เขายังสานต่อความมันต่อเนื่องกับงานในอัลบั้มล่าสุดด้วยเพลง Wall Of Glass, Paper Crown, Bold, For What it’s Worth ก่อนจะมีเซอร์ไพรส์ในเพลง Soul Love ของวง Beady Eye เพลงที่แฟนเพลงหลายคนก็คิดไม่ถึงว่าเจ้าตัวจะหยิบมาเล่นในงานครั้งนี้

เราก็เดินทางมาถึงครึ่งโชว์กันแล้ว บรรยากาศในงานเริ่มคึกคักขึ้นเรื่อย ๆ เพลง Some Might Say, Side Away, Come Back to me, You Better Run, Be Here Now, Cigarettes & Alcohol ถูกเล่นต่อเนื่องกันอย่างลื่นไหลก่อนที่เพลงชาติของวง Oasis จะดังขึ้นและเลียมได้ปล่อยให้ทุกคนร้องเพลงนี้พร้อมกันกับเพลง Wonderwall จากนั้นเจ้าตัวก็เดินลงเวทีอย่างรวดเร็ว ทิ้งแฟนเพลงให้ยืนงงกันว่าจะมีอังกอร์ในงานคอนเสิร์ตครั้งนี้หรือไม่ และสิ่งที่แฟนเพลงรอคอยก็สิ้นสุดลงไม่มีเพลง Live Forever มีเพียงแต่เสียงบ่นของคนดูรอบ ๆ กายกันว่าทำไมไม่มีอังกอร์ พร้อมกับปิดฉากคอนเสิร์ตกันไปแบบงงงวยตาม ๆ กัน

020a0627

ภาพรวมสำหรับงานคอนเสิร์ตครั้งนี้ของ Liam Gallagher ในไทยถือว่าดี แต่ยังไม่ใช่ยอดเยี่ยมที่สุดในแน่นอนสำหรับแฟนเพลงหลาย ๆ คนที่ไปดูกัน แต่อย่างน้อยการได้ไปยินเสียงสด ๆ ของเขาสักครั้งในชีวิตก็น่าจะทดแทนความรู้สึกเหล่านั้นได้พอสมควร ขอขอบคุณ The Very Company ด้วยนะครับที่จัดคอนเสิร์ตดี ๆ แบบนี้ขึ้นมา ขอเป็นกำลังใจให้ทีมงานจัดงานต่อไปครับ รวมไปถึงขอประนามบุคคลบางกลุ่มที่ดูคอนเสิร์ตครั้งนี้กันอย่างขาดสติและสร้างความเดือดร้อนในงานครั้งนี้ด้วยนะครับ ไม่ว่าจะเป็นการจุดบุหรี่ในฮออล์หรือการปาแก้วเบียร์กันไปมา หวังว่า คอนเสิร์ตศิลปินระดับโลกครั้งต่อไปมันคงจะไม่มีเหตุการณ์แบบนี้อีกนะครับ ขอให้สักวันเราได้มีโอกาสดูวง Oasis ด้วยกันในประเทศไทยนะครับทุกคน แล้วพบกันใหม่คอนเสิร์ตต่อไป สวัสดีครับ

Facebook Comments

Next:


Gandit Panthong

กันดิศ ป้านทอง อดีตนักศึกษาฝึกงานนิตยสาร Hamburger Magazine, ทำงานในกองบรรณาธิการ MiX Magazine และ บก.คนแรกของ Fungjaizine ที่มีความมุ่งมั่นว่าจะตั้งใจสร้างสรรค์วงการเพลงให้เกิดแต่สิ่งดี ๆ ต่อไปอย่างไม่หยุดยั้ง