ระเห็ดเตร็ดเตร่

Chladni Chandi Live at Studio Lam

  • Writer: Montipa Virojpan
  • Photographer: Montipa Virojpan

16 ธันวาคม 2559

15232158_1588125331201477_5742076967617309977_n

เราเคยเล่าให้ฟังในบทสัมภาษณ์ของพวกเขาว่า Chladni Chandi เคยเป็นหนึ่งในวงดนตรีที่เราได้ดูพวกเขาเล่นสดอยู่บ่อยครั้ง จนกระทั่งช่วงนึงวงเงียบหายไปเพราะไม่ได้เล่นเท่าไหร่และยังไม่มีงานเพลงใหม่ ๆ ออกมา แต่แล้วเมื่อทางวงประกาศว่าจะกลับมาเล่นอีกครั้งในรอบปี ก็ทำให้บัตรจำนวนจำกัด 70 ใบที่จำหน่ายล่วงหน้าหมดลงในเวลาอันรวดเร็วเพราะแฟน ๆ สายเมาสายหนักเขาตั้งตารอกันมานาน

img_7014

ตามปกติแล้วถ้ามีงานแบบนี้เราจะไปถึงที่งานในช่วงที่วงใกล้เล่น แต่ด้วยความที่เป็นแฟนแนวเพลงประมาณนี้เลยไปถึงงานตรงเวลาสุด ๆ เพื่อฟัง essential collction ของ เจ Strange Brew ผู้รับหน้าที่เป็น DJ เปิดเพลงก่อนเริ่มโชว์ ซึ่งแต่ละเพลง psychedelic ชั้นดีที่เขาคัดสรรมาก็ตอบโจทย์เราเป็นอย่างดีตั้งแต่สายลึกไปจนถึงสายเลื้อยที่คุ้นกัน ทั้ง Mr. Elevator & The Brain HotelDead Meadow, Maston, Morgan Delt, Spacemen 3, The Black Angels, Holy Wave หรือ Mild High Club เรียกว่าแทบจะขอทั้งเพลย์ลิสต์เขามาเลย และตอนนั้นเองเราก็โดนยาดอง ‘สมรักรำพัน’ ของ Studio Lam ทำเอากึ่ม ๆ แล้วประมาณนึงเหมือนกัน โอ้โห พอคนเมามาเจอกับเพลงเมาเท่านั้นล่ะ ลู้เลื่อง

img_7018

จนเวลาสี่ทุ่มนิด ๆ เหล่าผู้ชมก็เริ่มเขยิบกันเข้ามาทำให้พื้นที่ในร้านที่เคยว่างแน่นไปถนัดตา สมาชิกวงก็เข้ามาประจำที่พร้อมกับเสียงเชียร์ของแฟน ๆ ที่แม้ตอนนี้จะยังดูขวยเขินกันบ้างเหมือนไม่ได้เจอกันนาน แต่พอเล่นจบเพลงแรกเสียงเฮและเสียงปรบมือก็ดังขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งเพลงที่พวกเขานำมาเล่นก็เป็นเพลงจากในอัลบั้ม ตรี และเพลงใหม่ที่ไม่ได้รวมอยู่ด้วย ทั้ง วารีมิจฉาฮาเร กฤษณา แค่เพลงแรก วิชวลจาก Yellaban ก็ทำเอาเรางงงวยละลานตา ทะลุขอบจักรวาลกันไปเล้ย แล้วจึงเล่น อนาคตรัศมี เพลงที่เผยด้านสว่างของวงแบบที่ไม่คุ้นชิน แต่ก็เป็นรสชาติใหม่ที่น่าลิ้มลอง ต่อด้วย อุษาเทวี และ นักฝันอหังการ์ เราว่าเพลงนี้เป็นเพลงชวนฝันสมชื่อ ด้วยเปียโนเพลงนี้ละมุนมาก ล่องลอยเหลือเกิน

img_7025

ตามด้วยเพลงขนาดยาว มนุษย์อุปโลกน์ และ พรหมโลกวิษัย ที่คนดูร้องตามกันได้อย่างพร้อมเพรียง แต่เวอร์ชันที่เล่นนี้รู้สึกว่าซอฟต์ลงกว่าในอัลบั้มมาก พอจบเพลงนี้ วงบอกว่าเหลืออีกสองเพลงแล้วก็เริ่มใจคอไม่ดี เหมือนเพิ่งผ่านไปแปปเดียวเองจะจบแล้วหรอ แล้วจึงเป็น โลกาแห่งกรรม และ หมา ไมค์ กีตาร์ ตอนนั้นบรรยากาศในงานดีมาก คนดูพากันโยกหัวไปกับเบสหนัก ๆ น้ำหนักกลองเดือด ๆ แถมร้องตามเมโลดี้ ‘ตื่อดื่อ ตื๊อดือ ตือดื่อดือดื้อ’ คลอไปด้วย ส่วนเราก็งงงวยไปกับวิชวลที่พีคขึ้นเรื่อย ๆ แสงและเสียงช่างพอดีกันเหลือเกิน คือด้วยร้านขนาดกะทัดรัด ตำแหน่งที่ยืนกับเสียงที่ได้ยินมันอัดแน่นแบบกำลังดีในหมู่มวลคนที่ยืนอัดกันประมาณนี้ รู้ตัวอีกทีก็จบคอนเสิร์ตแล้ว คือวงเล่นไปหนึ่งชั่วโมงเต็ม แต่ยังรู้สึกว่าอยากฟังอีกอยู่ดีเพราะรอมานาน คนดูหลายคนก็ร้องอังกอร์เช่นเดียวกับเรา แต่ทางวงเตรียมมาเท่านี้จริง ๆ น่าเสียดายมาก

img_7019

เชี่ย… พอจบงาน นอกจากความหูพร่าตาลายแล้ว ความรู้สึกมันยังอบอวลแบบ… คือถ้าพี่เล่นซ้ำอีกรอบตั้งแต่เพลงแรกยันเพลงสุดท้ายหนูก็ยังโอเคกับมัน วงดนตรีคุณภาพ คนดูคุณภาพ แม้จะมีเสียงตะโกนหยอกล้อกันก็คิดว่าคงเป็นเพื่อน ๆ กันกับทีมงานนั่นแหละ ซึ่งบรรยากาศเป็นมิตรแบบนี้มันหาไม่ได้บ่อย ๆ แล้วในซีนอินดี้สมัยนี้ นึกแล้วก็คิดถึงยุคที่วงใน Panda Records จัดงานถี่ ๆ มันคือ youth culture ของเราในช่วงนึงเลย หลังจากฟินกับความรู้สึกวันวานอันหอมหวนไปแล้วก็คิดว่าสมควรแก่เวลาเพราะต้องไปงานวันเกิดเพื่อนต่อ เราก็ซื้อโปสเตอร์ของงานที่ทำขึ้นเป็นพิเศษกลับมาเป็นที่ระลึกว่าเราได้ดูหนึ่งในโชว์ครั้งที่ดีที่สุดของพวกเขา และเพื่อเป็นเครื่องเตือนเปี่ยมความหวังว่าจะได้ดูได้ฟัง Chladni Chandi กลับมาเล่นด้วยกันอีกครา

img_7022

Facebook Comments

Next:


Montipa Virojpan

อิ๊ก เนิร์ดดนตรีที่เพิ่งกล้าเรียกตัวเองว่าเป็นนักเขียนตอนอายุ 25 ชอบเดินเร็ว นอกจากขนมปังกับกาแฟดำแล้วก็สามารถกินไอศกรีมกับคราฟต์เบียร์แทนมื้อเช้าได้