เห็ดหูหนู

Jennie Panhan Playlist

สายตาของเราจับจ้องไปยังหญิงสาวชุดขาว ปากแดง ผมม้า ที่กำลังเดินตรงมาทางเรา เธอโบกมือทักทายทุกคนที่รู้จัก เสียงเรียกขานและการขอแชะภาพคู่กับเธอตลอดทางตั้งแต่ล็อบบี้จนถึงห้องรับรองชั้น 30 ของตึก GMM ทำให้ทีมฟังใจซีนรับรู้ได้ถึงความฮอตปรอทแตกไม่แพ้อากาศบ้านเรา ณ ขณะนี้

กว่าหนึ่งชั่วโมงที่ได้พูดคุยกับ เจนนี่ ปาหนัน ตัวตนอีกด้านหนึ่งกลับไม่ใช่ภาพความตลกที่เราเห็นจนชินตา แต่นั่นทำให้เราคลายข้อสงสัยได้ว่าเหตุใดใคร ๆ ก็รักเธอ

Jenny’s Playlist

static1-squarespace

“เราเป็นคนชอบฟังเพลง จะฟังหลากหลายแนวมาก เราเลือกฟังเพลงตามอารมณ์ที่เกิดขึ้น ณ เวลานั้น ๆ สมมติช่วงนั้นกำลังมีความรักก็จะฟังเพลงรักกุ๊กกิ๊ก โอ๊ย เขินจัง” เธอกล่าวพร้อมท่าทีขวยเขินและบิดตัวไปมา ภาพตรงหน้าทำให้เราได้เห็นเจนนี่ในอีกแง่มุมหนึ่งนอกเหนือจากมุมตลกโปกฮาที่เราคุ้นชิน ถ้าให้แนะนำเพลงที่ชอบฟังในช่วงนี้ เผอิญเป็นช่วงไม่มีแฟน วัน ๆ ทำแต่งาน ก็จะมีหลายเพลงหลายอารมณ์หน่อยนะ”

All I ask – Adele

เราเป็นแฟนเพลงของ Adele ชอบเขามาก ปล่อยเพลงใหม่ทีไรโดนใจทุกครั้ง เพลงอกหัก แอบรัก โดนหมด แล้วอย่างเพลงนี้ก็เป็นเพลงเศร้า ฉันขอได้ไหมก่อนที่เธอจะจากไป ช่วยรักฉันหน่อย ดูเศร้ามาก ส่วนตัวเราถ้าว่างปุ๊บจะเริ่มดราม่าปั๊บ หาเพลงเศร้าฟัง สำหรับเพลงนี้ก็จะเป็นเพลงที่เราเลือกฟังบ่อย ๆ เพื่อสร้างความดราม่าให้ตัวเอง (หัวเราะ)

Love Yourself – Justin Bieber

ตอนแรกเราไม่ชอบเพลงนี้เลย ส่วนหนึ่งเพราะเราไม่ชอบศิลปินคนนี้ด้วยแหละ แต่พอฟังบ่อย ๆ กลายเป็นชอบเฉยเลย เราไม่ชอบจัสตินเพราะดูเป็นเด็กไม่น่ารัก น่าตบหัวมาก ไม่ชอบเด็กคนนี้เลย (หัวเราะ) สำหรับเพลงนี้ฟังแล้วรู้สึกว่าเรามีกำลังใจ แล้วโยกตามได้ด้วย เพราะส่วนมากเพลงให้กำลังใจจะเป็นเพลงช้า เพลงซึ้ง ต้องสงสารตัวเองก่อนแล้วค่อยลุกขึ้น แต่เพลงนี้จะรู้สึกว่า ช่างมัน ฉันสวย เราจะชอบเปิดฟังบนรถไฟฟ้า

Like OOH-AHH – TWICE

เป็นเพลงเกาหลี เราแปลไม่ออกเลย เพลงนี้เป็นเพลงที่ฟังแล้วรู้สึกถึงความน่ารักสดใสวัยกระโปรงบานขาสั้น เห็นภาพสาวน้อยวัยมัธยมผมเปียเดินออกจากบ้านด้วยท่าทางลิงโลด เราฟังทำนองแล้วรู้สึกว่าอยากทำตัวน่ารัก สะบัดผมเปียข้างซ้ายให้ไปโดนหางตาขวา อะไรแบบนี้ เป็นเพลงที่เราเลือกฟังเวลาเครียด ๆ และต้องการกำลังใจ เราเป็นคนทำงานเยอะ ไม่ค่อยมีเวลาพักผ่อนเลย พอฟังเพลงนี้เราจะรู้สึกดีขึ้น

แค่ได้คิดถึง – ญารินดา

เพลงนี้เป็นเพลงที่ชอบมากอยู่แล้ว และยิ่งชอบมากขึ้นไปอีกเมื่อถูกนำมาเป็นเพลงประกอบภาพยนตร์เรื่อง “หนีตามกาลิเลโอ” เพลงนี้เรารู้สึกว่ามันโดน มันใช่ เห็นอะไรก็คิดถึงเธอ พอมาประกอบกับภาพยนตร์เรื่องนี้ ยิ่งทวีความเหงา ความคิดถึงเข้าไปอีก เราเป็นคนชอบความรู้สึกหม่น ๆ เหงา คิดถึง ทำให้เพลงนี้กลายเป็นอีกหนึ่งเพลงโปรดในใจของเรา

อยากให้รู้ว่ารักเธอ – Joni Anwar

ตอนนั้นเราชอบ D2B ติดตามผลงานของพี่ ๆ เขาตลอด เพลงนี้เป็นเพลงประกอบภาพยนตร์เรื่อง “Sex Phone คลื่นเหงาสาวข้างบ้าน” พี่บีมเป็นพระเอก เราชอบทุกอย่างเลยทั้งนักแสดง หนัง เพลง ทุกอย่างดูลงตัวไปหมด ส่วนตัวเราก็เป็นคนเหงา ๆ ที่ชอบตั้งสเตตัสเรียกไลก์ (หัวเราะ) เพลงนี้เราชอบมาก แค่อินโทรขึ้นก็เหงาแล้วอะ

Photograph – Ed Sheeran

Ed เขาเป็นคนที่ทำเพลงออกมาทีไรก็เพราะทุกเพลงเลย ฟังได้ตลอดเวลา รู้สึกว่าเพลงของเขาถูกจริตเรา (หัวเราะ) เพลงนี้เคยตรงกับเราในช่วงหนึ่ง ตอนนั้นเราเป็นฝ่ายแอบชอบเขา พอเขามีคนที่ชอบแล้ว จากที่เคยสนิทกันเราก็ต้องถอยออกมา ขอเวลารักษาแผลใจหน่อยนะ ถ้าดีแล้วฉันจะกลับไป พอเราโอเคขึ้นแล้วเจอเขาก็จะรู้สึกว่า ตอนนั้นฉันชอบเธอนะ แต่ตอนนี้ทุกอย่างมันโอเคแล้ว โดนมากสำหรับเพลงนี้

ยิ่งถูกทิ้ง ยิ่งต้องสวย – กระแต อาร์ สยาม 

ส่วนตัวแล้วเราว่ากระแตเต้นแก่งมาก สำหรับกะเทยถ้ายอมรับใครจะยกให้เป็นแม่ เรายกให้นางเป็นแม่เลยนะ เพราะเขาเต้นสวยและแข็งแรงมาก สังเกตว่าเวลาเพลงของเขาออกมาทีไรท่าเต้นจะไม่ค่อยซ้ำกันเลย

ทบทวน – Moderndog

เราเลือกฟังเพลง ทบทวน บ่อยมากในช่วงนี้ เพราะอยู่ในช่วงที่ต้องตัดสินใจเรื่องงานที่กำลังจะผันตัวเองมาทำงานเบื้องหน้าแบบเต็มตัว แล้วเพลงนี้ก็สามารถตีความได้หลายแบบ ไม่ใช่เฉพาะเรื่องรัก ทุกเรื่องในชีวิตเราก็ต้องคิด ต้องทบทวนหลาย ๆ อย่างก่อนตัดสินใจ อีกอย่างเราก็ชอบพี่ป๊อดด้วย เพลงนี้ก็เป็นอีกเพลงหนึ่งที่เราเลือกเปิดฟังบ่อย ๆ

กันและกัน – Flure

เพลงประกอบภาพยนตร์ “รักแห่งสยาม” กันและกัน เป็นเพลงที่เราฟังแล้วนึกถึงตอนมีความรักในสมัยเรียน เป็นเพลงที่เพราะและอบอุ่น เพลงนี้กำลังมาในช่วงที่เราอยู่มหาวิทยาลัยพอดี พอกลับมาฟังตอนนี้แล้วเราจะนึกถึงความทรงจำในช่วงนั้น โอ๊ย บ้าจริง ฟังเพลงเพราะผู้ชายอย่างเดียวเลยเหรอนี่ (หัวเราะ)

Toxic – Britney Spears

เป็นเพลงที่ฟังแล้วเหมือนได้เติมความมั่นใจ สวยเบอร์ห้าแต่มั่นหน้าล้านแปด เพลงนี้ฟังแล้วอยากเดินบิดเอวเอสอะแก ไม่รู้เป็นอะไร เวลาฟังเพลงนี้แล้วเราต้องเข็นอะไรสักอย่าง ทำตัวประหนึ่งแอร์โฮสเตส แค่ฟังก็รู้สึกว่าตัวเองสวยแล้วอะ เลยเลือกฟัง Toxic เพื่อให้รู้สึกมั่นใจ (หัวเราะ)

Exclusive Talk

static1-squarespace-1

ที่มาของชื่อ เจนนี่ ปาหนัน ณ หาดใหญ่แดนไก่ทอด

ชื่อเจนนี่มาจากภาพยนตร์เรื่อง “เจนนี่ กลางวันครับ กลางคืนค่ะ” พระเอกต้องปลอมตัวเป็นหญิงเพื่อเข้าไปหอหญิง แล้วคุณครูประจำชั้นสมัย ป.4 เอามาเรียกเราซึ่งเป็นกะเทยคนเดียวในห้อง พอคุณครูเรียกเจนนี่ ทุกคนก็เรียกตามกัน แม้แต่พ่อก็ยังเรียกด้วย กลายมาเป็นเจนนี่ในทุกวันนี้ ส่วนชื่อเล่นจริง ๆ ของเราคือ ปอ คุณพ่อตั้งให้ เราไปเปลี่ยนซะเสียเลย ตอนนั้นพ่ออยากให้เรายิ่งใหญ่เหมือนจอมพล ป. ที่ไหนได้ โตมาเรากลายเป็นนางพญาค่ะ (หัวเราะ) ส่วนปาหนันได้มาจากการไปเล่มเกมคล้าย ๆ โต้วาทีของรายการ Chanel V พอเขาถามชื่อสมมติ ทุกคนล้วนขึ้นต้นด้วย ป.ปลากันหมด แล้วอยู่ ๆ คำว่า ปาหนัน ก็เป็นคำแรกที่ผุดขึ้นมาในหัว ก็เลยเลือกชื่อนี้เพราะดูแหลมมลายูดีอะ จนหลายคนเข้าใจว่า เจนนี่ ปาหนัน เป็นชื่อและนามสกุลจริงไปแล้ว ส่วน ณ หาดใหญ่แดนไก่ทอด ได้มาจากตอนถ่ายรายการ พี่ ๆ เขาอยากให้เราเติมชื่อเพื่อเพิ่มความวิลิศมาหรา ตอนแรกจะใช้ ณ หาดใหญ่เฉย ๆ เพราะเห็นนามสกุล ณ ทั้งหลายดูเก๋มาก แต่เราก็อยากเติมอะไรอีกหน่อยก็เป็น แดนไก่ทอดแล้วกัน ตอนนี้ไม่กล้าบอกใครว่า ณ หาดใหญ่แดนไก่ทอดแล้วนะ อายมาก (หัวเราะ)

ถ้าไปหาดใหญ่ นอกจากไก่ทอดแล้วมีอะไรแนะนำบ้าง

หลายคนรู้ว่าภาคใต้จะมีร้านน้ำชาเยอะ รองมาจากร้านไก่ทอดเลยนะ เราเข้าร้านน้ำชาตั้งแต่เด็กเลย ทุกเย็นหลังเลิกเรียนก็จะชวนเพื่อน ๆ มานั่งดื่มชากัน มีหลายอย่างให้เลือก ที่ขึ้นชื่อคงเป็นชาชัก ถ้ามีโอกาสได้ไปก็ลองแวะชิมดูนะ

ทำไมตอนนั้นถึงเลือกเรียนโบราณคดี

เพราะความดอกหญ้าในป่าปูน (หัวเราะ) ตอนนั้นเราตั้งใจว่าต้องเรียนในกรุงเทพฯ เท่านั้น เพราะเรารู้สึกว่ากรุงเทพฯ มีโอกาสหลาย ๆ อย่างมากกว่าต่างจังหวัด ไม่เด่นไม่ดังจะไม่หันหลังกลับไป เพลงพุ่มพวงก็มา ความตั้งใจแรกเราอยากเรียนนิเทศศาสตร์ ตอนนั้นคะแนนไม่ถึง เป็นคนเจียมตัว So cool ด้วยความที่เราเรียนสายศิลป์ฝรั่งเศสมา เลยต้องเลือกคณะที่ใช้คะแนนฝรั่งเศส ก็จะมีคณะมนุษยศาสตร์ ม.เกษตร โบราณคดีฝรั่งเศส ม.ศิลปากร แล้วช่วงนั้นเราไปบนกับพระพิฆเนศวร์ว่าขอให้ติดศิลปากร พอติดแล้วก็เพิ่งรู้ว่า ม.ศิลปากรมีตราสัญลักษณ์เป็นพระพิฆเนศวร์ อันนี้อาจจะเพราะเทพช่วย (หัวเราะ) แล้วกระแสเด็กแนวกำลังมาในตอนนั้น เดินไปทางไหนก็เจอผู้ชายแต่งตัวติสท์ ๆ น่ารักมาก

จุดเริ่มต้นของการทำแทรชเชอร์

เริ่มมากจากพี่โจ้ ซึ่งเป็นพี่ที่คณะ เราสนิทกัน ฟังเพลงแนวเดียวกันและมีความชอบหลาย ๆ อย่างคล้ายคลึงกัน รวมถึงปาร์ตี้ด้วย จึงเกิดไอเดียว่าเรามาจัดปาร์ตี้กันเองไหม เป็นเฮ้าส์ปาร์ตี้เล็ก ๆ แต่เปลี่ยนจากจัดในห้องเป็นจัดในผับจึงเกิดเป็นแทรชเชอร์ขึ้นมา

กระแสตอบรับแทรชเชอร์จากวันนั้นถึงวันนี้

แทรชเชอร์ปีนี้เป็นปีที่ 8 เราเริ่มจัดครั้งแรกเมื่อปี 2008 หากถามว่ากระแสตอบรับดีไหมก็ดีขึ้นเรื่อย ๆ นะ ครั้งแรกที่เริ่มจัด เป็นการชวนเหล่าเพื่อนสนิทมาร่วมสนุกกัน ซึ่งตอนนั้นมี 50 คน เพราะเราบังคับเขามา (หัวเราะ) ตอนนี้มีคนร่วมงานถึงหลักพันแล้ว

ทำไมหลาย ๆ คลิปของแทรชเชอร์เลือกที่จะล้อเลียนศิลปิน

ที่ทำ Parody ศิลปินก็เพราะว่าเรากับเพื่อน ๆ ชอบอัดคลิปตลกไว้ดูเล่นกันอยู่แล้ว บวกกับตอนนั้นกระแส Parody กำลังดัง เราเห็นฝั่งเอเชียมีกะเทยฟิลิปปินส์คนหนึ่งเริ่มทำแล้ว เอาล่ะ เธอทำได้ ฉันก็ต้องทำได้บ้างสิ (หัวเราะ) ตอนนั้นคิดจะทำแค่ให้ตัวเองรู้ว่าฉันก็ทำได้นะ แต่กลายเป็นว่าทำออกมาเรื่อย ๆ ส่วนการเลือกศิลปินที่จะล้อเลียน เราจะเลือกคนที่กำลังมาแรงในขณะนั้นและพยายามใส่อะไรบางอย่างลงไปเพื่อให้รู้ว่าเป็น Bangkok Version

เวลาจัดปาร์ตี้แทรชเชอร์มีการเลือกเพลงยังไง

ส่วนมากจะเลือกเพลงป๊อบในยุค 90 เพราะเราโตมากับยุคนี้ แต่ก็จะปรับเปลี่ยนบ้างตามยุคสมัย เพราะคนที่มาในงานบางคนเขาเป็นแฟนคลับ Taylor Swift, Katy Perry เราก็จะเพิ่มเพลงสมัยปัจจุบันเข้าไป แต่ยังคงความเป็นมะจังเอาไว้ คอนเซปต์ของเพลงก็ขึ้นอยู่กับธีมของงาน ล่าสุดธีม Now That’s What I Call Bad Music จะเปิดเพลงที่เราเรียกว่าเพลงเสื่อม หรือ Bad Taste พอได้ธีมแล้ว เราก็มาเลือกเพลงว่าจะเอาเพลงอะไรเปิดบ้าง เช่น อาเซเดเฮ (The Ketchup Song – Las Ketchup), เพลงของ Miley Cyrus สมัยยังไม่โหนตุ้ม ตอนแรกจะจัดปาร์ตี้เพลงยุค 90 แต่ครั้งที่แล้วเราประสบความสำเร็จกับการจัด Bad Taste ไป ก็เลยคิดว่าเราน่าจะเอาเพลงป๊อบผสมเพลงเสื่อมตั้งแต่ยุค 90 กลับมา

เมื่อคนเบื้องหลังผันตัวเองมาทำเบื้องหน้า

ที่ได้มาทำงานเบื้องหน้าในรายการเทยเที่ยวไทยเป็นเพราะนโยบายของทางผู้บริหารว่าอยากให้เราเข้ามาเป็นพิธีกรคนที่ 4 ด้วย แต่จริง ๆ แล้วเราชอบงานเบื้องหลังมากกว่า เพราะเทยเที่ยวไทยเป็นรายการที่มีภาพจำไปแล้วว่าเป็น 3 เทย และเป็นรายการท่องเที่ยวที่หลายคนรู้จัก สำหรับตัวเราเอง คิดว่าเป็นเรื่องยากที่จะทำให้ได้เท่าพี่ ๆ เขา แฟนรายการก็มีภาพจำว่าเราเป็นครีเอทีฟ คนจะจำเราได้จากการที่เราออกมาบ้างในบางตอน แล้วพอมาทำเบื้องหน้าความคาดหวังก็เยอะขึ้น ทำมาสองเดือนแล้วแต่ก็ยังต้องปรับตัวอีกหลายอย่าง เพราะเราติดความเป็นครีเอทีฟที่มีหน้าที่ฟังและจด พอมาเป็นหนึ่งในผู้ดำเนินรายการ เขาพูดกันบางทีเราก็เผลอฟังเขาอย่างเดียว ลืมพูด ลืมต่อมุกกับเขา ขอเวลาปรับตัวหน่อยอย่าเพิ่งด่ากันนะ (หัวเราะ)

static1-squarespace-2

ระหว่างงานเบื้องหน้ากับเบื้องหลังชอบอะไรมากกว่ากัน

งานครีเอทีฟเป็นความฝันในวัยเด็กของเราเลยนะ เมื่อก่อนเราฝันอยากเป็นดีเจกับครีเอทีฟ ซึ่งเราไม่ได้เป็นดีเจแต่ได้มาเป็นพิธีกร ถือว่าเป็นงานที่ต้องพูดเหมือนกัน ตอนนี้เราก็ได้ทำสิ่งที่ชอบทั้งสองอย่าง แต่เราเริ่มจากครีเอทีฟมาก่อนจึงปรับตัวเข้ากับความฝันนี้ได้ก่อน ทำให้ต้องปรับตัวกับงานด้านพิธีกรอีกเยอะ

สำหรับงานครีเอทีฟ คุณหาแรงบันดาลใจจากไหนบ้าง

ส่วนตัวเราเป็นคนที่ผูกพันกับการล้อเลียนมาตั้งแต่เด็ก เราถนัดเรื่องการเอาสิ่งอื่นมาล้อเลียน แต่การล้อเลียนไม่ได้หมายความว่าลอกมาทั้งหมด ต้องมีการคิดสิ่งใหม่เขาไป ซึ่งเราถนัดการดัดแปลงมากกว่า Creative คือความสร้างสรรค์ หลายคนเข้าใจว่าจะต้องเป็นการคิดสิ่งใหม่อยู่เสมอ จริง ๆ แล้วการดัดแปลงถือว่าเป็นความสร้างสรรค์ เป็น Creative เหมือนกัน เพราะเป็นการนำสิ่งเก่ามาสร้างสรรค์ให้กลายเป็นสิ่งใหม่ ซึ่งต้องคิดใหม่ทั้งหมดเพื่อล้อเลียนของเก่า

พิธีกร ครีเอทีฟ หรือจัดปาร์ตี้ งานไหนที่บ่งบอกตัวตนของคุณได้มากที่สุด

เมื่อก่อนก็ปาร์ตี้หนักเหมือนกัน เราทำงานเสร็จกลับบ้าน เหงา อยู่คนเดียว เป็นดอกหญ้าในป่าปูน มีชีวิตอยู่กับเสียงเพลงในวิทยุ ชีวิตเศร้าจัง (หัวเราะ) เราจึงชอบออกไปปาร์ตี้เพื่อที่จะได้เจอเพื่อน ๆ การทำงานในส่วนปาร์ตี้แทรชเชอร์เป็นสิ่งที่แสดงตัวตนของเรามากที่สุด เพราะเราชอบการพูดคุย พบปะสังสรรค์ งานเฉลิมฉลอง และเป็นงานที่ทำให้เราได้แสดงความสามารถในด้านการ Entertain ในงานสังสรรค์ ส่วนงานพิธีกรก็จะเป็นการ Entertain อีกแบบหนึ่ง

เจนนี่เริ่มแต่งหญิงตั้งแต่ตอนไหน

ตั้งแต่ตอนอยู่มหาวิทยาลัย พอผมยาวก็เริ่มแต่งเลย แต่เราไม่ได้ทานฮอร์โมนหรือทำอะไรกับร่างกายเลยนะ

เคยคิดจะทำศัลยกรรมบ้างไหม

แอบคิดเหมือนกันนะ แต่ไม่เอาดีกว่า เรากลัวเจ็บ แค่ไปทำเลเซอร์ยังแทบทนไม่ได้เลย แสบไปหมด ไม่ไปแล้ว ยิ่งถ้าศัลยกรรมคงเจ็บมากแน่ ๆ เคยมีคลินิกมาเสนอเหมือนกัน แต่เราบอกเขาไปว่าไม่พร้อมจะทำ ไม่ดีกว่า (หัวเราะ)

บริหารจัดการเวลาอย่างไรบ้าง

เรื่องการทำงานจะทำอะไรหลายอย่างพร้อมกันไม่ได้ ชอบทำให้เสร็จไปทีละอย่าง ถ้าสิ่งนี้ยังไม่เสร็จแล้วไปเริ่มทำสิ่งใหม่เราก็จะรู้สึกว่าไม่ใช่ ไม่สบายใจอย่างบอกไม่ถูก จะชอบเขียนรายการไว้ว่าในแต่ละวันจะต้องทำอะไรบ้าง ถ้าอันไหนยังไม่ได้ติ๊กถูก เราก็ไม่สามารถเริ่มงานต่อไปได้ ส่วนใหญ่จะไม่รับงานวันละสองสามที่นะ เราไม่อยากวิ่งรอก รู้สึกเหนื่อย วุ่นวาย (หัวเราะ)

บทบาทของเพศที่สามในมุมมองของเจนนี่

โชคดีที่เพศที่สามรุ่นก่อนเขาปูทางมาดี สร้างสรรค์สิ่งต่าง ๆ ให้เป็นที่ยอมรับมากขึ้น ที่ใช้คำว่ามากขึ้นเพราะสำหรับเราคิดว่าเพศที่สามก็ยังไม่ได้รับการยอมรับอย่างเต็มที่ร้อยเปอร์เซ็นต์นะ แม้จะให้มีรายการ ซีรีส์ หรือภาพยนตร์ที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับเพศที่สาม แต่ก็ยังไม่ถึงขั้นที่กะเทยสามารถเปลี่ยนเป็นนางสาว หรือคนเพศเดียวกันสามารถจดทะเบียนสมรสได้ คงต้องใช้เวลาอีกสักระยะ แต่ทุกวันนี้ก็ถือว่าโอเคนะ ยิ่งตอนนี้สังคมเปิดกว้าง มีเสรีภาพในการแสดงออกมากขึ้น อีกมุมหนึ่งเรามองว่ามันเป็นดาบสองคม เราเคยเห็นหลายตัวอย่างที่เขาแสดงออกเกินขอบเขตและเป็นไปในทางที่ไม่เหมาะสม และนั่นอาจทำให้ความเชื่อถือที่มีถูกลดทอนลงไป อีกกรณีหนึ่งคือเรื่องห้องน้ำ บางทีกะเทยก็เลือกเข้าห้องน้ำเพื่อความสบายใจของเพื่อนชะนี พอไปเข้าห้องน้ำผู้ชายก็จะถูกมองแปลก ๆ ตรงนี้เราไม่ได้อยากเรียกร้องว่าต้องมีห้องน้ำเพิ่มขึ้นมานะ แต่อยากให้เข้าใจและยอมรับเราได้มากขึ้นก็พอ

วันหนึ่งหากได้เป็นนายกฯ คุณจะทำอะไรบ้าง

อาจเพราะเราเป็นคนหัวโบราณนะ สิ่งแรกที่อยากจัดการเห็นจะเป็นเรื่องโซเชียลมีเดีย โดยเฉพาะมารยาทในการแสดงความคิดเห็นบนโลกออนไลน์ บางคนอาจคิดว่าโลกออนไลน์ไม่ได้แสดงตัวตนจริง ๆ ดังนั้นจะเขียนแสดงความคิดเห็นรุนแรงแค่ไหนก็ย่อมได้ เราว่ามันไม่ใช่นะ อยากให้มีระบบคัดกรองสักนิด ยิ่งเวลาเห็นการแสดงความคิดเห็นหยาบคายรุนแรงเราก็รู้สึกแย่แล้ว อีกกรณีคือคนที่แชร์ภาพเก่า ข่าวเก่ามาตั้งแต่ปีมะโว้ อยากสะกิดมาก เธอจ๊ะ เข้าไปอ่านดูก่อนไหม กับเรื่องโซเชียลมีเดียนี่ล่ะที่เราคิดว่าต้องทำอะไรสักอย่าง

คิดยังไงกับอากาศร้อนในประเทศไทย

ร้อนมาก ร้อนเกินไปจนอยากจะหนีไปให้พ้น ลำบากเวลาไปไหนมาไหนต้องพกที่หนีบผมตลอดเวลา เพราะหน้าม้าฉันแตก ไม่ชอบเลย ถ้าเป็นคนรู้จักนี่จะยกพวกไปตบแล้ว (หัวเราะ)

ตัวตนจริง ๆ ของเจนนี่ ปาหนัน

เราคิดว่าหลายคนจะมีสองด้านในตัวเอง สำหรับเราด้านหนึ่งจะเป็นคนสนุกสนาน เฮฮา ส่วนหนึ่งเพราะว่าเราเป็นกะเทยก็ยังไม่ถือว่าเป็นที่ยอมรับเท่าไร เลยเลือกที่จะทำตนให้เป็นคนน่าอยู่ด้วย (หัวเราะ) แต่กะเทยที่ไม่ตลกก็มีนะ ส่วนอีกด้านหนึ่งเรากลับเป็นคนขี้อาย มุ้งมิ้ง มีโลกสีชมพู ชอบเพ้อ ชอบมโน และต้องบอกก่อนว่าเราไม่เคยมีแฟนเลย ซึ่งดูขัดกับภาพลักษณ์ภายนอกที่ดูแรง ๆ เต้นบนโต๊ะ แล้วตัดภาพมาที่เรานั่งอ่านนิยายอยู่ในห้อง นั่งดูโอปป้าแล้วเขินจนตัวบิด โอ๊ย บ้าจัง

นิยายในดวงใจของเจนนี่

เรื่องระเบียงรักนักศึกษา เป็นฟิคชั่นที่เราชอบมาก เขินจัง (บิดตัว) แต่ตอนนี้ชอบ Love Sick ปลื้มน้องกัปตันมาก ลองคิดภาพตามนะ กะเทยตัวดำ ๆ แต่งตัวแรง ๆ ไปวิ่งตามน้องกัปตัน (หัวเราะ) ให้ไปเป็นพิธีกร fan meet เราก็ไปให้ฟรีเลยค่ะ ไม่คิดเงิน แต่เดี๋ยวนี้ไม่ค่อยมีเวลาอ่านนิยายเท่าไรแล้ว จะชอบจินตนาการเอง คิดเอง ก่อนนอน 5 นาทีแล้วก็หลับ ชอบมโน

ถ้าให้เขียนนิยายเรื่องหนึ่งจะให้พระเอกเป็นแบบไหน

แนวนี้อาจจะเก่าไปแล้วแต่เราก็ยังชอบอยู่ เราชอบผู้ชายญี่ปุ่นผิวเหลือง ๆ คล้ายยามะพี เพราะรู้สึกว่าคนญี่ปุ่นหน้าตาน่ารัก มองแล้วไม่เบื่อ ชอบคนน่ารักมากกว่าคนหล่อ บางคนถามว่าทำไมเราไม่หาแฟนฝรั่ง โอ๊ย มันไม่ใช่ คุยกันยาก ชอบคนเอเชียมากกว่าเพราะวัฒนธรรมใกล้เคียงกัน ชอบประเทศเขาด้วย ไม่รู้ว่าเรามากับ จังหวะร็อกดนตรีรัก หรือเปล่า เป็นนิยายสมัยก่อนที่เราชอบอ่านมาก พระเอกเป็นผู้ชายญี่ปุ่นผิวแทน โอ๊ย น่ารัก (บิดตัว)

รักครั้งแรกของเจนนี่ ปาหนัน

เขินจัง (บิดตัว) เราไม่เคยมีแฟนมาก่อนเลย สมัยเรียนก็จะเป็นเด็กที่ทั้งเรียนทั้งกิจกรรม ไม่ได้สนใจความรักอะไรเลย พอเข้ามหาวิทยาลัย โอ๊ย เขินอะ (หัวเราะ) เราก็แอบชอบเขา เป็นรุ่นน้อง แต่ก็เป็นฝ่ายแอบชอบ เป็นที่ปรึกษา เป็นพดด้วง ความรักของเราส่วนใหญ่เป็นแค่ที่ปรึกษาหรือเพื่อนคุย แต่มีครั้งหนึ่งที่เขาบอกว่ารู้สึกดีกับเรานะ เขินจัง (บิดตัว)

เคยมีคนเข้ามาจีบไหม

มีคนเข้ามาคุยนะ แต่เราอาจจะมองโลกในแง่ร้ายเกินไปเลยเลือกที่จะไม่คุย เพราะเขาเข้ามาในช่วงที่เราเป็นที่รู้จักแล้ว เลยคิดว่าเขาเข้ามาเพราะอะไรหรือเปล่า อีกอย่างไม่ใช่สเปกเราด้วย เห็นแบบนี้เลือกเยอะนะ เรื่องมากด้วย เราชอบคนหน้าตาดี เช่น มาริโอ้ (หัวเราะ) เรามีความรู้สึกว่าชะนีไม่สวยแต่แฟนหล่อเยอะแยะไป ทำไมฉันจะชอบคนหล่อบ้างไม่ได้รึไง ชอบคนหน้าตาดี น่ารัก พอคนที่เข้ามาไม่ถึงระดับมาริโอ้ฉันก็ไม่รับ ล้อเล่นนะ จริง ๆ เราไม่รู้ว่าเขาคนเป็นยังไง ความรู้สึกก็ยังไม่ใช่ ส่วนมากที่เข้ามาจะเป็นเกย์ แต่เราชอบผู้ชายไง เรากลัวว่าเขาจะมาเต้นแข่งกับเราไหม วันหนึ่งเกิดเขาหยิบวิกมาใส่จะเราจะทำยังไง (หัวเราะ)

เป็นคนมองความรักในด้านบวก

ใช่ ๆ มุมมองความรักของเราจะไม่ใช่เพลงของปาน ธนพร นะ (หัวเราะ) สำหรับเราแล้วความรักมีสองด้าน ถ้าไม่เศร้า เหงา หม่น แอบรัก ก็จะเป็นแนวสดใส Puppy Love ไปเลย วัยคอซองผมเปีย กระโปรงบานขาสั้นไปเลย

หลายคนยกให้คุณเป็นไอดอล

โห อย่าเลย ถ้ายกให้เราเป็นไอดอลแล้วมาจับจ้องชีวิตตลอดก็คงไม่สนุกนะ เราไม่ได้เป็นคนดีขนาดนั้น (หัวเราะ) เรามีทั้งด้านดีและไม่ดี ถ้าชื่นชอบเราก็โปรดเลือกเฉพาะบางอย่างของเราไปปรับใช้ ปรับเปลี่ยน ไม่ใช่ว่าจะต้องทำเหมือนเราทั้งหมด ขอบคุณที่ชื่นชอบเรา แต่ก็อยากให้คิด วิเคราะห์ แยกแยะก่อนนำไปปรับใช้ก็แล้วกันค่ะ

ตามอ่านฟีดแบ็คของคุณในสื่อโซเชียลบ้างไหม

เราว่าการแสดงความคิดเห็นบนสื่อออนไลน์มีความเสรีมาก หลายสิ่งเรารู้สึกว่ามันบั่นทอนกำลังใจและหลัง ๆ มานี้เราไม่ดูผลงานตัวเองเลย แรก ๆ จะดูบ่อย ดูไปนั่งยิ้มไป หลัง ๆ มานี้เราเลือกที่จะไม่ดูเพราะรู้สึกเขิน อายตัวเอง เราทำอะไรลงไปก็ไม่รู้ (หัวเราะ)

อยากฝากอะไรถึงคนอ่าน

อากาศร้อนเกินไป ใจก็อย่าร้อนตาม มีสติในการใช้สื่อโซเชียลกันนิดนึง หากกระทบกระทั่งอะไรควรหันมาคุยกันดี ๆ รู้จักให้อภัยกัน ฟังเพลง อ่านฟังใจซีนดีกว่าเนอะ (ยิ้ม)

static1-squarespace-3

 

Facebook Comments

Next:


Sarun Pinyarat

ท้อป ศรัณย์ ภิญญรัตน์ เคย: เรียนออกแบบที่ไทยและฟินแลนด์ / ทำงานที่ Startup ใน Sillicon Valley ชอบ: ฟังเพลง / ดูหนัง / อ่าน / การเล่าเรื่อง / บูมบูม เป็น: ผู้ก่อตั้งฟังใจ / นักออกแบบ / คนคิด / คนเจรจา / คนลงมือทำ / นักเขียนจำเป็น