Restart – ROOM 39

สมัยก่อนวงพี่เขาเป็นวง Cover หนูชอบเขาตั้งแต่ Cover เพลง ไม่เคย ของ Synkornize แล้ว เสียงพี่เขาเป็นเอกลักษณ์มาก ๆ แบบฟังแล้วจำได้เลยว่า ต้องเป็นวงนี้ เสียงจะคล้าย ๆ พี่หนึ่ง ETC เพลงนี้ที่เลือกเพราะว่าเพิ่งมีโอกาสได้ฟังเพราะดี แถมพระเอกและนางเอกเอ็มวีก็ดีด้วย (หัวเราะ)

Exclusive Talk

จุดเริ่มต้นในการเข้าวงการบันเทิงที่สุดแสนจะบังเอิญ

เริ่มจากพี่ต๊อบ (เจ้าของเพจถ่ายภาพ F/1352) เขาเป็นรุ่นพี่ในคณะที่กุ๊กเรียนอยู่ พี่เขามาชวนกุ๊กไปถ่ายรูปเพื่อจะเอาไปส่งโปรเจกต์ของเขา เลยได้มีโอกาสไปถ่ายรูปกันซึ่งธีมที่ถ่ายกันตอนนั้นคือกุ๊กเล่นตัดผมกับเพื่อนแล้วก็ตัดผมทรงหัวเห็ดกัน พอรูปออกมาพี่ ๆ เขาก็ดูชอบกัน มันจะดูเป็นเด็กม.ต้นมากตอนนั้น เขาก็เออหน้ามันได้นะ จากนั้นพี่แพท (Co-Founder, Producer, Director ทีม Don’t PANiC) ก็มาชวนกุ๊กไปเล่นเอ็มวีเพลงของวงดนตรีวงนึง ทีนี้พี่เต๋อ (นวพล ธํารงรัตนฤทธิ์) เขาเห็นเราจากเอ็มวีตัวนั้น กุ๊กเลยได้มีโอกาสไปแคสติ้งกับพี่เต๋อ ผลปรากฏว่า หนูได้เล่นเอ็มวีเพลงนั้น ซึ่งก็คือ เพลง นักเลงคีย์บอร์ด ของพี่แสตมป์นั่นเอง หลังจากผลงานนี้ออกมาก็ได้มีโอกาสทำงานทั้งเบื้องหน้าและเบื้องหลังมากขึ้น มันเลยเป็นการต่อยอดเราไปเรื่อย ๆ จนได้มาแสดงซีรีย์กับ GTH ในที่สุดค่ะ

ต้องเรียนแอคติ้งเยอะรึเปล่าสำหรับการเป็นอาชีพนักแสดง

ก่อนหน้านั้นประมาณ 3 ปี กุ๊กอยู่กับพี่โมเดลลิ่งที่เป็นเอเจนซี่โฆษณาค่ะ ซึ่งเขาก็ชวนเราไปแคสโฆษณาอยู่บ่อยเหมือนกัน การแคสโฆษณา ก่อนเราเข้าห้องเขาจะส่งเรื่องราวบทที่ได้รับมาให้อ่านก่อนประมาณ 10 นาที จริง ๆ ตรงนั้นกุ๊กรู้สึกว่ามันเป็นหนึ่งในการฝึกเรื่องการแสดงของเราเลย บางครั้งให้บทมาอ่าน 3 นาทีแล้วเปลี่ยนชุดเข้าไปเลยก็มี ซึ่งเราก็ต้องทำให้ได้ อินกับเรื่องราวของมันให้ได้ จนได้มาเจอพี่ที่ GDH559 เขาก็พาเราไป Workshop ทุกอย่างใหม่หมดเลย มันเป็นศาสตร์การแสดงที่ดีมาก ๆ ครูบิว ครูเงาะ สอนการดึงพลังออกมาจากภายในของตนเองให้กับกุ๊กด้วย เลยรู้สึกว่าตั้งแต่เริ่มแคสงานมาจนถึงตอนนี้เราก็ได้ประสบการณ์ในการแสดงมาเรื่อย ๆ เหมือนเป็นการสะสมมามากกว่านะเลยไม่ได้รู้สึกว่ามันต้องเรียนเพิ่มมากเท่าไร

ผลงานแรกที่ออกสู่สายตาประชาชน ‘เพื่อนเฮี้ยน…โรงเรียนหลอน’

รู้สึกว่าตัวเองเป็นทีมงานคนนึงนะ มันเกิดความกังวลขึ้นมากกว่าด้วยความที่ตัวละครไม่ใช่คน ก็กังวลว่าจะเล่นถูกมั้ย เราพูดไม่ชัดคนจะเข้าใจเรามั้ย เราพูดแข็ง ๆ เพราะอะไร ก็กังวลเหมือนกัน เพราะว่า คนเขามองว่าถ้ามึงเป็นผีก็ไม่เห็นต้องเล่นแข็งแบบนี้มั้ย แต่จริง ๆ เราไม่ได้เล่นเป็นผีไง (หัวเราะ) ก็รู้สึกตื่นเต้นดีตอนผลงานออกไปก็มีกระแสตอบรับมาเยอะ เราก็เข้าไปอ่านหมดนะตอนนั้น

ผลงานต่อมานางเอกซีรีส์ ‘มาลี เพื่อนรัก…พลังพิสดาร’

ตอนนั้นกุ๊กได้มีโอกาสคุยกับพี่ผู้กำกับ เขาเรียกเข้ามาลองแคสติ้งดู เป็นการแคสติ้งไปคุยไปซึ่งกินเวลายาวนานมากประมาณ 3 – 4 ชั่วโมง คุยกันตลอด ไม่ได้ลุกไปไหนเลย ทั้งเรื่องการใช้ชีวิตของเรา ทัศนคติแล้วก็เรื่องที่เราไม่เก่งภาษาอังกฤษ ซึ่งบทเมษาจริง ๆ แล้วมันตรงกับกุ๊กมากตรงที่เราก็ไม่เก่งภาษาอังกฤษเหมือนกัน ให้ไปพูดหน้าชั้นที่แสดงออกไปในซีรีส์คือ ตัวตนจริง ๆ ของกุ๊กเลย หนูอ่านไม่ออกจริง ๆ (หัวเราะ) จะเป็นคนที่เขินกับภาษาอังกฤษมาตลอด ตอนที่มาเป็นนางเอกซีรีส์นี่มันเหนื่อยมากนะ เพราะกุ๊กเจอแต่ฉากร้องไห้เยอะมากแถมเราต้องไปเล่น Hormones วัยว้าวุ่นด้วย ทำให้มันสลับกันไปมาจนเหนื่อยมาก ๆ มีครั้งนึงกุ๊กแค่เห็น breakdown เขียนว่า เมษาร้องไห้ กุ๊กก็สามารถร้องไห้ได้เลยโดยอัตโมัติ ซึ่งจากการแสดงเรื่องนี้ล่ะที่ทำให้เราได้รับอะไรใหม่ ๆ เยอะมาก เป็นประสบการณ์ที่เต็มไปด้วยเรื่องราวที่ดี ถ้าย้อนกลับไปได้ก็จะให้ตัวเองได้เจอช่วงเวลาแบบนั้นเหมือนเดิม เพราะ พอมันข้ามผ่านมาแล้วมันทำให้การควบคุมอารมณ์ของตัวเราเองดีขึ้น ถือว่าเป็นโอกาสที่ดีมากที่ได้เล่นซีรีส์เรื่องนี้ค่ะ

บทบาทของ เยลลี่ ในซีรีย์ Hormones วัยว้าวุ่นเป็นอย่างไร

ดีค่ะดี แต่ปกติคนชอบบอกว่า กุ๊กพูดเบา เพื่อนจะรู้ว่ากุ๊กเป็นคนพูดเสียงเบา ก้อยที่เล่นด้วยกันกับเราก็จะคอยบอกว่า การออกเสียงมันมีวิธีทำให้ไม่แสบคอนะ เขาก็จะสอนเรา ก้อยช่วยเราเยอะมาก บทบาทของเยลลี่มันก็จะต่างกันกับมาลีนะ ตรงเยลลี่เขาดูเป็นคนที่สังคมสนใจเขาเยอะมาก แต่มาลีจะเป็นคนเงียบ ๆ ซึม ๆ หน่อยก็จะต่างกัน อย่างที่กุ๊กบอกคือตอนนั้นถ่ายพร้อมกัน 2 เรื่องเลย มันก็จะมีความเหนื่อยเกิดขึ้น ซึ่งก้อยเขาก็จะอยู่ข้าง ๆ กุ๊กตลอดเลย ก็สนุกนะตอนที่ถ่ายฮอร์โมนเหมือนได้มาปลดปล่อย ดีเหมือนกัน

ก่อกำเนิดกองทัพลูกเจี๊ยบ

ตอนแรกตกใจมาก คือ เราก็เคยเป็นติ่งเกาหลีอย่าง BIGBANG มาก่อน แล้วอยู่มาวันนึงมีแฟนคลับมาถามเราว่าจะชื่อกลุ่มแฟนคลับอะไรดี ซึ่งเราก็ตกใจ เพราะว่ามันต้องตั้งชื่อจริง ๆ เหรอ แปลกดี ขำ เราก็เลยบอกงั้นเป็นลูกเจี๊ยบละกัน กุ๊กเป็นคนมองโลกคล้าย ๆ กับป่า แต่ละคนบนโลกใบนี้จะมีบุคลิกแตกต่างกันออกไป บางครั้งเราก็เหมือนสัตว์ชนิดนึง เราเหมือนเป็นลูกไก่ตัวเล็ก ๆ ทำอะไรไม่ค่อยได้ เลยขอเป็นลูกเจี๊ยบละกัน นี่จึงเป็นที่มาของกองทัพลูกเจี๊ยบค่ะ มันเป็นความรู้สึกที่ดีมาก ๆ นะที่มีแฟนคลับ ชีวิตนี้ไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าจะมีแฟนคลับ อยากขอบคุณทุกคนมาก ๆ ที่ชื่นชอบในตัวกุ๊ก

ตอนนี้ได้เรียนรู้อะไรจากวงการบันเทิงบ้าง

ได้เรียนรู้ทั้งเรื่องของตัวเอง เรื่องของความรู้สึกตัวเองด้วย กุ๊กรู้สึกว่ากุ๊กได้ในจุดนี้เยอะมาก ๆ เราจะอยู่ยังไงให้ตัวเองมีความสุขและอยู่ยังไงที่ไม่ทำให้คนอื่นเดือดร้อน ถือว่าโตขึ้นเรื่อย ๆ ล่ะ มันเป็นงานที่ต้องเจอคนมากหน้าหลายตา แต่ละคนก็ไม่เหมือนกัน เรามีวิธีที่จะปฏิสัมพันธ์กับเขายังไงบ้าง ได้เรียนรู้อะไรเยอะมากนะ

นิสัยที่แท้จริงของกุ๊กไก่

เป็นคนร่าเริงไม่ใช่คนเศร้า (หัวเราะ) แต่มันก็มีมุมเศร้าบ้างบางที เจอกันได้ทักได้สบาย ๆ ยินดีรู้จักทุกคน

ทุกวันนี้แบ่งเวลาเรียนกับการทำงานไว้อย่างไรบ้าง

แอบวุ่น ๆ เหมือนกันนะ แต่ตอนนี้ทุกอย่างก็ผ่านไปได้ด้วยดีแล้วค่ะ เรียนจบเรียบร้อยแล้วเหลือแค่ขั้นตอนกระบวนการสุดท้ายของการเรียนแล้ว คือ การเอาภาพยนตร์ที่เราทำไปฉาย หลังจากนั้นทุกอย่างก็จะเสร็จสิ้นร้อยเปอร์เซ็นต์แล้ว ตอนนี้กุ๊กเองคงรับงานแสดงไปเรื่อย ๆ แอบมีคิด ๆ ไว้ว่าอยากทำธุรกิจเหมือนกันนะ ยังไงต้องรอดูกันต่อไป

กุ๊กไก่คือสปอร์ตเกิร์ล

ทุกวันนี้กุ๊กก็ออกกำลังกายเป็นส่วนนึงของกิจกรรมในชีวิตประจำวันของกุ๊กเลย ไปปีนเขาจำลองบ้าง ไปต่อยมวย เล่นเซิร์ฟบอร์ด ไปวิ่งด้วย ที่เป็นสาวสปอร์ตเกิร์ลเพราะว่า ตอนออกกองถ่ายหนังกุ๊กเละเทะมาก กินดึกกินแหลกเลยทำให้ต้องมาดูแลตัวเองนิดนึงช่วงนี้ นี่ก็ชวนเพื่อน ๆ ยกแก็งไปเล่นฟิตเนสกันสนุกดี หนูได้มีโอกาสเจอคนหลายแบบมากที่ฟิตเนส ได้รู้ว่าคนออกกำลังกายเขาใช้ชีวิตยังไง นับแคลอรี่ยังไง สนุกดีนะ

สเปกหนุ่มของกุ๊กไก่

เป็นคำถามที่กุ๊กตอบไม่ได้เลยสำหรับคำถามนี้ (ยิ้ม) ถ้าจะคบใครสักคนกุ๊กคงดูนิสัยละมั้ง แต่ไม่มีสเปกตายตัวจริง ๆ นะ พอถึงจุดที่เราไปเจอคนเยอะ ๆ ทุกรูปแบบมาหมดแล้ว เราจะรู้ว่าแต่ละคนแต่ละอาชีพเป็นอย่างไร อย่างนักแสดงบางทีเราเจอตอนแคสติ้งงานเป็นแบบนึง เจอตอนหลังแคสต์งานก็เป็นอีกแบบนึงมันเป็นความแอบเอียนนิดนึงนะ เลยรู้สึกว่า มันตอบยากเหมือนกันเรื่องนี้

มีหนุ่ม ๆ มาจีบบ้างไหม

ก็มีนะ คนหล่อ ๆ มาจีบก็มี แต่มันรู้สึกไม่โอเคเท่าไร แค่รู้สึกว่า ตอนนี้เรายังไม่มีแฟนก็ได้ มันยังเหนื่อย ๆ อยู่ กุ๊กขอแค่ผู้ชายนิสัยดี ๆ ก็พอแล้ว ขอคนที่สุดท้ายเขาจะไม่เบื่อเนื้อหนังมังสาเราที่มันจะเหี่ยวไปตามกาลเวลา พอถึงเวลาจริง ๆ มันจะมีเหรอผู้ชายแบบนั้น มันหายากนะ หนูเคยคุยกับพ่อแม่ของเพื่อน สุดท้ายเขาก็บอกว่าอยู่ด้วยกันเพราะลูกนะ อยู่ในฐานะเพื่อนชีวิตที่ดีแต่ไม่ได้รักกันแล้ว แต่ก็โชคดีหน่อยที่พ่อแม่กุ๊กจะสวีทมาก สวีทไปอีก (หัวเราะ) อิจฉาพ่อกับแม่เลยบางที นี่จะย้ายไปอยู่ชานเมืองด้วยกัน 2 คนด้วย จริง ๆ มุมมองด้านนี้ของกุ๊กก็เฉย ๆ นะไม่ว่าจะหน้าตาดี ไม่ดี นิสัยมันต้องดูอีกว่าเข้ากันได้มั้ย พ่อแม่เขาจะรับเราได้มั้ย มันต้องคิดเยอะนะ สุดท้ายแล้วเราจะลงหลักปักฐานกับใครสักคนนึงคำถามเหล่านี้มันจะเกิดขึ้น เราเลยรู้สึกว่า ถ้าเรารวยมากพอที่จะมีความสุขได้ เราก็ไม่ต้องมีแฟน ทำสิ่งที่เราชอบ เรารักต่อไป แม่กุ๊กจะรู้ว่าผู้ชายเดี๋ยวนี้นิสัยเป็นอย่างไร ก็จะบอกเราว่าไม่ต้องมีก็ได้ ตอนนี้เลยยังไม่รีบมีดีกว่า

เคยแฟนคลับมาจีบรึเปล่า

ส่วนใหญ่คนที่ชอบเราจะอยู่ในโหมดแบบมัธยมปลาย เขาจะเรียนจบแล้ว เขาก็ไม่ได้อะไรกับเราหรอก น้องเขาก็แบบขำ ๆ พี่กุ๊กถ่ายรูปหน่อยไรงี้ประมาณนั้น (หัวเราะ) เป็นขวัญใจของเด็ก ๆ ไปดีกว่า ก็จะมีน้อง ๆ มาถามว่า วัยเขาตอนนี้ไม่เรียนได้ไหม เป็นเหมือนหัวหน้าตอบเด็ก ๆ อีกที กุ๊กไม่ชอบให้คนมาจีบแบบเยอะ ๆ นะ เราก็บอกเขาตรง ๆ ก่อนคุยเลยว่า เราจะพูดทัศนคติความรักที่เราคิดให้ฟัง คิดว่าอยู่ได้รึเปล่า ถ้าอยู่ได้ก็ได้ ถ้ารับไม่ได้ก็บาย ไม่ต้องพยายามปรับตัวให้เราชอบคุณ ไปหาผู้หญิงสวย ๆ สมัยนี้ผู้หญิงน่ารักเยอะมากจริง ๆ บางทีเรายังชอบเลย ความรักมันเป็นคำนิยามนะ สุดท้ายความรู้สึกเนี่ยละที่มีส่วนมากกว่าในเรื่องนี้

มีอยากบอกอะไรกองทัพลูกเจี๊ยบไหม

จริง ๆ กุ๊กชอบบอกน้อง ๆ ว่า อยากให้น้องใช้ชีวิตตัวเองให้มีความสุข น้อง ๆ ชอบมาพูดกับเราบ่อยว่าเวลาเขาดู Hormones หรือ มาลี เขามีปัญหากับเพื่อน เขาทะเลาะกับเพื่อนสนิท วิธีแก้ไขควรทำอย่างไร การเจอเพื่อนใหม่ ๆ ย้ายไปโรงเรียนใหม่อยู่ในจุดที่ตัวเองไม่ใช่ ก็อยากบอกน้อง ๆ ว่า เราต้องกลับมาย้อนมองตัวเองว่าอะไรคือสิ่งที่เป็นตัวตนของเรา อย่างกุ๊กพูดได้เต็มปากเลยว่าโตมากับการ์ตูนดิสนีย์นะ กุ๊กสามารถขึ้น Grabbike เพื่อขอให้ดูหนังให้ทันเวลา เราอยากทำอะไรก็ทำ เราเป็นคนแบบนี้ อยากให้น้องหันมามองย้อนตัวเองกันเยอะ ๆ อยู่ยังไงให้มีความสุขไม่ทำให้ใครเดือดร้อน ทำอะไรที่คิดว่าดีก็ทำไปเถอะ ไม่จำเป็นต้องทำตามใคร ลองดูตัวเองดีๆ ว่าเราเติบโตมาในแบบไหน แล้วก็โตไปในทางของน้องต่อไป

ผลงานในอนาคตของกุ๊กไก่

ตอนนี้ก็จะมี Love Song Love Series ตอน เพื่อนสนิทไปเล่นกับน้องนน (ชานน สันตินธรกุล) น้องน่ารัก กุ๊กรู้สึกว่าน้องเป็นนักแสดงที่เข้าใจกระบวนการทำงานของกองถ่ายมาก ๆ เวลาเขาคุยกับเราจะเข้าใจกันง่าย เราชอบการร่วมงานกับน้อง เรามีความรู้สึกว่าน้องเป็นคนมีพลังมาก ๆ ที่สำคัญเลยเดี๋ยวจะมีมาลี เพื่อนรัก…พลังพิศดาร ซีซั่น 2 ด้วยเตรียมได้เลยจะออกช่วงปลายปีนี้

ฝากตัวฝากหัวใจ

ฝากผลงานทั้ง 2 ผลงานของกุ๊กไก่ด้วยนะคะ ส่วนถ้าใครเจอหนูตัวจริงก็ทักทายกันได้เลยไม่ต้องเขินอาย ถ้าบางทีหนูดูมึน ๆ งง ๆ ก็จะบอกว่า ตัวจริงหนูมึนจริง ๆ นะ (หัวเราะ) อยากให้ทุกคนเขามาทักทายกันได้เลย ส่วนช่องทางการติดต่อตอนนี้ก็ได้ทาง IG : Cookcucu รวมไปถึงทาง Ask.fm ด้วยกุ๊กจะชอบเข้าไปตอบคำถามแฟนคลับในนั้น สุดท้ายนี้ขอบคุณมาก ๆ ที่รักกุ๊กค่ะ