News

This lost radio ถ่ายทอดความรู้สึกผ่านแนวดนตรีที่หลากหลาย

  • Writer: Peerapong Kaewthae

ครั้งแรกที่เราได้รู้จัก This lost radio คือเพลง ที่ทะเล ซึ่งเป็นเพลงโฟล์กหม่น ๆ เหงา ๆ ซึ่งทำให้เราตกหลุมรักเขาทันทีเลยเซฟเพลงนี้เก็บไว้ฟังวนไปเรื่อย ๆ จนวันหนึ่งเพลง Let’s Dance ก็ผ่านหูเราเข้ามาซึ่งมันทำให้เราหยุดฟังทันทีกับสไตล์ซินธ์ป็อปหวาน ๆ ที่ใส่บทสนทนาอันไร้ซึ่งที่มาไว้ให้เพลงดูมีมนต์ขลังมากขึ้น แต่พอกลับไปดูก็ อ้าว นี่มันวงที่เรารู้จักแล้วนี่หน่า แต่สไตล์ดนตรีกลับแตกต่างกันแบบไม่น่าเชื่อ ทำให้เราตื่นตากับทุกเพลงของเขามาก เพราะมันมีความวาไรตี้สุด ๆ เมื่อหาข้อมูลดู เรากลับไม่รู้จักเขาเลย รู้แค่เพียงเขาเป็นวง solo จากอำนาจเจริญเท่านั้น

This lost radio

สำหรับเราแล้ว This lost radio เหมือนเป็นคลื่นวิทยุหลังเที่ยงคืน ที่คนนอนไม่หลับกลุ่มหนึ่งจะหมุนหน้าปัดมาหาคลื่นนี้พร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมายและฟังเพลงเหล่านี้อยู่เงียบ ๆ คนเดียวด้วยกัน เพลงของเขาบอกเล่าทุกอารมณ์อย่างซื่อตรงต่อความรู้สึกตัวเอง ดนตรีของเขายังไม่ยึดติดกับรูปแบบใดตายตัว มีตั้งแต่อิเล็กทรอนิกส์ ป็อป ร็อก จนไปถึงโฟล์กเหงา ๆ แต่ทุกเพลงก็ยังมีกลิ่นอายของแนวเพลงอื่น ๆ ผสมลงไปได้อย่างลงตัว ใครอาจมองว่าตัวตนของเขาไม่ชัดเจนเท่าไหร่ แต่เรากลับมองว่าเขามีความสามารถที่หลากหลายและกล้าที่จะทดลองอะไรใหม่ ๆ มากกว่า

โดยเฉพาะอัลบั้มล่าสุดที่ใช้ชื่อว่า Kill THE DJ. ที่ปล่อยบนฟังใจก็ทำให้เราสนุกไปกับทุกเพลงของเขาได้จริง ๆ เพราะแนวดนตรีที่แตกต่างโดยยึดจากอารมณ์ของเพลงเป็นหลัก ทุกเพลงในอัลบั้มจึงมีสไตล์ดนตรีที่แทบจะไม่ซ้ำกันเลย แต่ทุกเพลงก็ยังเชื่อมโยงกันโดยมีเซ้นป็อปที่ชัดเจน ยิ่งการใส่เสียงร้องแบบ lo-fi หรือเอ็กโคหน่อย ๆ ลงไปก็เป็นสไตล์ที่ทำให้น่าสนใจได้เหมือนกัน แต่สิ่งที่ได้ใจเรามากที่สุดน่าจะเป็นเนื้อเพลงที่สละสลวยพอตัว

เพราะเธอได้พังทุกอย่าง กับ รู้สึกยังไง ที่โคตรร็อก กับการถ่ายทอดความโกรธเกรี้ยวออกมาได้อย่างรุนแรง เมื่อความรักมันห่วย สิ่งที่ทำได้คือปลดปล่อยมันออกมาผ่านเนื้อเพลงที่กระแทกกระทั้นกับเสียงกีตาร์เท่ ๆ ในท่อนโซโล่ที่งามหยดย้อย

แต่ชายคนเดียวกันนี้กลับมีมุมเหงา ๆ เคล้าน้ำตาแบบโฟล์กหรือดรีมป็อปหวานหยาดเยิ้มดั่งยาพิษในเพลง ที่ทะเล กับเพลง หยุด อยู่ด้วย แม้พาร์ทดนตรีจะไม่ได้หวือหวาแต่ทำให้ทุกคนตราตรึงใจด้วยเนื้อเพลงที่กินใจมาก ๆ

แต่เขาก็ยังมีด้านที่อินเลิฟในเพลงเหมือนกัน ซึ่งเราเห็นได้ผ่านเพลง Love It Be และ เราต่างรู้ ที่มีความสดใสอยู่ในดนตรีอย่างเห็นได้ชัด ถึงเพลงหลังจะมีจังหวะที่รุนแรงกว่านิดหน่อยแต่มันก็ยังมีความห่วงใยอยู่กับดนตรีป็อปเข้าหูฟังง่าย แต่เนื้อเพลงก็มีจังหวะที่ติดหูอยู่

แต่ที่เราคิดว่าน่าสนใจที่สุดน่าจะเป็น Let’s Dance กับ ‘Ernesto ที่เป็นอิเล็กทรอนิกส์จ๋าไปเลย แต่ This lost radio ก็ยังทำให้คนเก็ตได้ด้วยสไตล์ที่ฟังง่ายไม่ได้หวือหวามาก แต่เน้นไปที่อารมณ์ของเพลงที่มีความหนึบ ๆ ชวนโยกหน่อย ๆ อยู่

This lost radio เป็นศิลปินอีกคนที่ไม่ควรมองข้ามเลย ด้วยสไตล์ดนตรีที่หลากหลายแต่กลับเชื่อมโยงกันด้วยแนวคิดบางอย่างจนทุกเพลงสามารถไปด้วยกันหมดได้ ทำให้อัลบั้ม Kill THE DJ. เป็นอะไรที่น่าตื่นเต้นสำหรับเรามาก ๆ และอยากเฝ้าดูเขาเติบโตต่อไป ลองไปฟังทุกเพลงของเขาได้ >>ที่นี่<< เลย

Facebook Comments

Next:


Peerapong Kaewthae

แม็ค เป็นคนชอบฟังเพลงเพราะเป็นกิจกรรมที่ทำคนเดียวได้ และก็ชอบแนะนำวงดนตรีหรือเพลงใหม่ ๆ ให้คนอื่นรู้จักผ่านตัวอักษรตลอดเวลา