Undercimber Fin. อาวองการ์ดไต้หวันจาก CINEMA SESSIONS ที่น่าจับตามอง

  • Writer: Peerapong Kaewthae
  • Photographer: CINEMA SESSIONS
  • Art Director: Karin Lertchaiprasert

Undercimber Fin. เป็นวงดนตรีที่ไม่เหมือนใครในซีนดนตรีของไต้หวัน สไตล์ดนตรียังมีการผสมผสานแบบแปลกใหม่ ทำให้เพลงของพวกเขามีความคุ้นเคยแต่ก็ดูไม่เข้าพวก เหมือนส่วนผสมของเบื้องหลังสมาชิกแต่ละคนในวง “ฉันโตมากับการเรียนดนตรี และตั้งใจจะเข้ามหาลัยให้ได้” Adlian มือคีย์บอร์ดของวงเล่าให้ฟังหลังจากอัด CINEMA SESSIONS เสร็จ บางครั้งเธอก็รับงานเรียบเรียงเพลงให้ละครเวที และในเวลาว่างเธอยังเป็นแฟนตัวยงของ Steve Reich, Radiohead และเพลงแนว J-rock “ฉันคิดว่าดนตรีของฉันใกล้เคียงกับความ minimalism มาก ๆ ก่อนจะเขียนเพลงขึ้นมาซักเพลง ฉันจะมองเห็นไอเดียเป็นภาพหรือเรื่องราวในหัวก่อนเสมอ” แล้ววงถูกตั้งขึ้นมาตอนไหน ตอนแรก Adlian, Kang (ร้องนำ) และ Andy (มือกีตาร์และคอรัส) เจอกันในโรงเรียนและมีโอกาสได้ตั้งวงเล่นด้วยกัน Pin มือเบสที่เคยเล่นแต่เพลงแนวเมทัลกับ Link มือกีตาร์ที่ชื่นชอบโพสต์ร็อกจากเกาะอังกฤษก็ทยอยตามเข้ามา พวกเขาโชว์ด้วยกันมามากกว่า 4 ปีแล้ว Mipu มือกลองก็ตามมาทีหลังเมื่อปีก่อน เขาเป็นน้องชายของ Andy ที่เพิ่งสอบเข้ามหาลัยได้ เขาหลงใหลในดนตรีนอกกระแสตั้งแต่วง No Party For Cao Dong ชนะรางวัลใน Golden … Continued

รสนิยมการฟังเพลงของเรามาจากไหน คำตอบในเชิงวิทยาศาสตร์ว่ายังไงบ้าง

  • Writer: Peerapong Kaewthae
  • Art Director: Tas Suwanasang

รสนิยมการฟังเพลง มาจากไหน สมัยก่อนที่เรายังไม่มีทางเลือกมากนัก ก็อาจต้องเริ่มฟังเพลงตามคุณพ่อบ้าง พอเริ่มโตพอจะได้จับรีโมตทีวีเพื่อเปลี่ยนช่องเองบ้าง ก็อาจทำให้เริ่มฟังอะไรใหม่ ๆ จากรายการทีวีบางช่อง จนตอนเรียนได้รู้จักเพื่อนมากขึ้น มีเงินเริ่มซื้อซีดีเป็นของตัวเอง ก็เพิ่งได้ขยายขอบเขตการฟังของเรามากขึ้นจากการแลกซีดีกัน แต่เด็กสมัยนี้ที่โตมากับยุคสตรีมมิ่ง มีเพลงเป็นล้าน ๆ เพลงให้กดฟังได้บนมือถือเลย แถมโซเชียลก็กว้างขวางทางรสนิยมทางดนตรีมากขึ้น ทั้งได้ฟังเพลงใหม่ ๆ จาก Instagram หรือ TikTok ตลอดเวลา แต่ทำไมเราถึงติดใจกับเพลงบางเพลงมากกว่าเพลงไหน ๆ เพลงบางแนวก็ทำให้เรามีความสุขมากกว่าแนวอื่น ๆ ด้วยเมโลดี้ที่มันแตกต่างโดนใจ เนื้อเพลงที่เหมือนเขียนมาจากชีวิตจริงของเรา หรือเพลงนั้นมันเข้ามาในจังหวะชีวิตที่ต้องการมันพอดีกันแน่ รสนิยมการฟังเพลง ของเรามาจากไหนกันนะ บทความใกล้เคียง ฟังเพลงไม่เหมือนกัน อาจทำให้ความสัมพันธ์ไม่ราบรื่นได้ การฟังเพลงด้วยกัน ทำให้ความสัมพันธ์ของเราผูกพันแน่นแฟ้น ทำไมเราถึงฟังเพลงที่เราชอบซ้ำไปซ้ำมาได้ไม่มีวันเบื่อเลย งานวิจัยมีคำตอบ คนที่จะมาให้คำตอบเราก็คงไม่ใช่ใครนอกจาก Nolan Gasser เขาอาจไม่ได้มีชื่อเสียงในฐานะนักดนตรีนักแต่งเพลงอะไรมากมาย แต่เขาเป็นหนึ่งในผู้ก่อตั้ง Pandora แอพฟังเพลงชื่อดังจากซีกโลกตะวันตก พ่วงด้วยตำแหน่งนักดนตรีวิทยาเจ้าของหนังสือ ‘Why You Like It: The Science and Culture … Continued

เกิดอะไรขึ้นในหูเรา ระหว่างเสียง *วิ้งงงงงงง* หลังคอนเสิร์ตจบ

  • Writer: Peerapong Kaewtae

คอนเสิร์ต คือหนึ่งในกิจกรรมที่ทำให้สมองเราหลั่งโดปามีนหรือสารแห่งความสุขออกมาได้มากที่สุด ทุกคนมาเพื่อปลดปล่อยอารมณ์ร่วมที่ท่วมท้นเต็มเปี่ยม กระโดดไปพร้อมกันในเพลงเดียวกัน ยิ่งเครื่องเสียงดีมากเท่าไหร่ คนดูอย่างเราก็ยิ่งสนุกสุดเหวี่ยงมากขึ้นเท่านั้น แต่หลังจบคอนเสิร์ตเนี่ย สิ่งที่ยังหลงเหลืออยู่ในตัวเรานอกจากความฟินแล้ว ก็มีเสียง *วิ้งงงงง* ที่ดังอยู่ในหูของเราทุกครั้งเนี่ยแหละ ว่าแต่เกิดอะไรกับหูของเราระหว่างที่มัน *วิ้งงงง* แบบนี้กันนะ คำว่า ‘เสียงดัง’ ที่ผู้เชี่ยวชาญพูดถึงก็อยู่ที่ประมาณ 85 เดซิเบล ซึ่งเป็นตัวเลขที่มีความเสี่ยงจะทำให้เราหูหนวกอยู่แล้ว แล้วรู้มั้ยว่าคอนเสิร์ตทั่วไปความดังอยู่ที่ 110-125 เดซิเบลเลยทีเดียว จากตารางข้างบนเราจะเห็นการเปรียบเทียบที่ชัดเจนว่าเสียงกระซิบอยู่ที่ 5-45 เดซิเบลเท่านั้น และเสียงไซเรนรถพยาบาลแม้จะดังถึง 125 เดซิเบลใกล้เคียงกับคอนเสิร์ต แต่เมื่อมันขับผ่านเราไป ทำให้ได้ยินไม่นานเกินไปก็ทำอันตรายกับรูหูเราไม่ได้ แต่กับคอนเสิร์ตที่เราต้องใช้เวลาอยู่ในนั่นเป็นชั่วโมง หูของเราก็อาจจะบาดเจ็บได้ หูชั้นในบริเวณก้นหอยจะมีขนเส้นเล็ก ๆ ที่ทำหน้าที่รับคลื่นเสียงเข้ามาและแปลงสัญญาณเหล่านั้นกลับไปว่าเรากำลังได้ยินเสียงอะไร เสียงที่ดังเกินไปจะทำร้ายเส้นขนเหล่านี้ ซึ่งทำให้เราสูญเสียการได้ยินบางส่วนไป แต่สมองของเราไม่รู้ว่าเส้นขนเหล่านั้นอ่อนแออยู่ จึงชดเชยด้วยการขยายสัญญาณการได้ยินของเราออกไปเพื่อให้เส้นขนที่ยังเหลืออยู่ทำงานได้ดีขึ้น ให้การได้ยินของเรากลับมาปกติที่สุดเท่าที่จะทำได้ เมื่อขนบางจุดไม่สามารถส่งคลื่นเสียงกลับไปได้ สมองจริงแปลงเสียงที่ไม่มีอยู่จริงกลายเป็นเสียง *วิ้งงงงง* ที่ทุกคนน่าจะจำได้ดี โดยทั่วไปเราจะใช้เวลามากสุด 16-48 ชั่วโมงที่การได้ยินของเราจะกลับมาปกติอีกครั้ง แต่บางคนอาจจะนานกว่านั้นตามความบอบช้ำที่เคยเจอมา ยิ่งถ้าต้องเจอเสียงดัง ๆ แบบนี้ซ้ำ ๆ บ่อย ๆ … Continued

Merchandise 2.0 พาไปส่องของประหลาดที่ศิลปินระดับโลกทำขาย ภาคสายดุ

  • Writer: Peerapong Kaewthae
  • Art Director: Tas Suwanasang

Fungjaizine เคยพูดถึงเรื่อง Merchandise สำคัญกับศิลปินยังไง พร้อมพาไปชมตัวอย่าง merch แปลก ๆ ที่หลายคนต้องร้องว้าว ทั้งแหวนจิ๊มิ๊หรือที่สับเนื้อ ทำแบบนี้ก็ขายได้ด้วยหรอ แล้วอีแฟนเพลงก็กล้าซื้อกันด้วย! รอบนี้เราเลยขน merchandise มาอีกชุดหนึ่ง บอกเลยว่าแปลกประหลาดยิ่งกว่าเดิม อยากเห็นหน้าคนซื้อของพวกนี้จริง ๆ เผื่อจะเป็นไอเดียให้ศิลปินไทยด้วยจ้า ว่าจะทำ merch ทั้งที่มันต้องแบบนี้! โทรศัพท์ The Rolling Stones วัยรุ่นตอนดึกทุกคนน่าจะคุ้นเคยกับโลโก้ของวงนี้ดี ริมฝีปากอวบอิ่มกับลิ้นอุ่น ๆ ก็เหมือนจะเป็นไอคอนแห่งยุคนั้นไปแล้ว ในปี 1983 ที่วงปล่อยอัลบั้มที่ไม่น่าจดจำอย่าง Undercover of the Night พวกเขาเลยออกโทรศัพท์ตัวนี้มาเพื่อตอกย้ำความเป็นวงร็อกแถวหน้า กับหูโทรศัพท์ที่เป็นรูปลิ้นและออกแบบมาให้เข้ามือมาก เด็กรุ่นนี้คงนึกไม่ออกแล้วว่าสัมผัสแบบนี้มันเป็นยังไง ผ้าปิดตา Adele หน้าของนักร้องสาวจากอังกฤษคนนี้ก็เป็นเอกลักษร์ที่ใครก็จดจำได้จากปกทั้ง 3 อัลบั้ม แต่ไม่มีใครนึกถึงเหมือนกันว่าหน้าเธอจะกลายมาเป็น merch ได้แบบ ผ้าปิดตาสำหรับนอน ที่มาพร้อมกับขนตางอน ๆ งดงามของเธอด้วย ก็เป็นการรีพรีเซนต์ตัวศิลปินได้อย่างไม่น่าเชื่อเหมือนกัน เทปกาว One … Continued

ทุกคนสามารถเป็นนักร้องได้! ไม่ต้องมีพรสวรรค์ก็ร้องเพลงเพราะได้เหมือนกัน

  • Writer: Peerapong Kaewthae
  • Art Director: Tas Suwanasang

ทุกครั้งที่เราร้องออกมาว่า WE ARE THE CHAMPIONS!! เราก็คงตะโกนออกไปสุดเสียง คงไม่มีใครสามารถเปล่งเสียงได้เทพเหมือน Freddie Mercury ดาวผู้ล่วงลับอีกแล้ว หรือเวลาเห็นใครร้องเพลงได้เพราะมาก ๆ ที่ตามรายการประกวดร้องเพลงเรียกว่า ‘พ่นไฟ’ เราก็คงตื่นเต้นกับพรสวรรค์ที่ชาตินี้เราคงทำตามไม่ได้แน่นอน แต่ความจริงแล้วทุกคนมีความเป็นนักร้องอยู่ในตัว เพียงแค่จะสามารถขุดมันออกมาได้แค่ไหน นักวิทยาศาสตร์ออกมายืนยันแล้วว่า ทุกคนสามารถเป็นนักร้องได้! เราเคยเชื่อว่าคนคนหนึ่งจะร้องเพลงได้เพราะขึ้นอยู่กับพรสวรรค์ที่ติดตัวมาตั้งแต่เกิด แต่ความจริงแล้วมันเป็นสิ่งที่ฝึกกันได้ งานวิจัยเกี่ยวกับการร้องเพลงครั้งหนึ่งพบว่า 35% ของคนที่ร้องเพลงเพี้ยน เพราะไม่รู้คีย์หรือยังไม่มีทักษะทางการร้องเพลงเท่านั้น เสียงจากปากของเราจะก้องกังวานได้ขนาดไหนขึ้นอยู่กับขนาดของเส้นเสียง ความแข็งแรงของกะบังลมและช่องว่างในไซนัส แต่การจะทำให้เสียงของเราไพเราะได้จริง ๆ ก็ต้องฝึกฝนอย่างหนัก เริ่มจากพื้นที่สามารถฮิตโน้ตในหัวได้อย่างถูกต้อง ความแตกต่างระหว่างร้องได้ถูกคีย์กับการมีเสียงที่ไพเราะ ขึ้นอยู่กับการควบคุมกล้ามเนื้อเล็ก ๆ นับพันมัดที่ควบคุมการเดินทางของลมหายใจเพื่อตอบสนองกับความรู้สึกที่เรากำลังร้องออกไป ร่างกายก็คือเครื่องดนตรีชนิดหนึ่งซึ่งสร้างมาไม่เหมือนกันเลย บางคนอาจจะทำได้อย่างมืออาชีพโดยที่ไม่เคยฝึกฝนมาก่อน แต่ไม่ได้หมายความว่าฝึกฝนไปก็ไร้ความหมาย เกิดมามือใหญ่และกว้างก็อาจทำให้เล่นเปียโนได้ง่ายขึ้น แต่จะสามารถเล่นได้อย่างมืออาชีพก็ต้องฝึกฝนอย่างหนักเหมือนกัน งานวิจัยอีกชิ้นหนึ่ง ก็ได้ผลลัพธ์ที่น่าสนใจว่าครึ่งหนึ่งของนักร้องที่ประสบความสำเร็จก็มาจากพรสรรค์ไม่ใช่พรแสวง แต่ความจริงแล้วชีวิตที่อุดมไปด้วยโอกาส การฝึกฝน หรือคนที่มีความสามารถจะทำให้คนที่มีพรสวรรค์ประสบความสำเร็จได้รวดเร็วกว่าคนทั่วไปอีกเท่าหนึ่งเลย แต่พอพูดถึงคนที่มีพรสวรรค์ที่สุดในโลกก็คงหนีไม่พ้น Freddie Mercury คนนี้แน่นอน เพราะมีคนลงไปทำวิจัยเกี่ยวกับเสียงร้องของเขาแล้วพบคำตอบที่ไม่แปลกใจเท่าไหร่ว่าเขาคือนักร้องที่เก่งที่สุดในศตวรรษนี้ โดยการถอดเสียงร้องจากเพลงทุกเพลงที่เขาเคยร้องมาวิเคราะห์ vibrato (ลูกคอ) ของเขา ซึ่งเขามีพรสวรรค์ในการร้องที่น่าทึ่งมาก … Continued

‘ELEVEN’ อัลบั้มพังก์ร็อกที่ Electra Complex ใช้เวลาบ่มเพาะมากว่า 11 ปี

  • Writer: Peerapong Kaewthae
  • Photographer: Tas Suwanasang

Electra Complex น่าจะเป็นวงร็อกที่วนเวียนอยู่ในซีนดนตรีนอกกระแสมานมนาน กับการเดินทางผ่านมาแล้วหลายอีพี จนได้สังกัดค่าย Brand New Me Records ที่เต็มไปด้วยศิลปินมากฝีมือในสายร็อก ในที่สุดพวกเขาก็มีอัลบั้มเต็มอัลบั้มแรกในชื่อ ELEVEN กับ 11 เพลงที่บ่งบอกสไตล์และความเป็นเอกลักษณ์ของพวกเขาได้ชัดเจนที่สุด หลายเพลงอาจจะเป็นเพลงเก่าที่จับมาเรียบเรียงใหม่ให้ชัดเจนในสไตล์ของตัวเองมากขึ้น แต่ก็ยังมีเพลงใหม่ ๆ ที่เท่และฉูดฉาดทางดนตรีไม่แพ้กัน ในอัลบั้มของพวกเขามีตัวละครผู้ชายคนหนึ่งที่เหมือนเป็น persona ของอัลบั้มนี้ มาในชุดดำกับเลข 11 บนหน้าอก แม้จะมีความดุดันในดนตรีและเนื้อเพลง แต่พวกเขายังมีด้านที่สนุกสนานและนุ่มนวลอยู่เหมือนกัน ข้างในเป็นพิมพ์เขียวของตึกที่เหมือนสิ่งที่วงก่อสร้างมากว่า 11 ปี ลองไปฟังว่าดนตรีที่บ่มเพาะมากว่า 11 ปีจะได้ใจเรามากแค่ไหน (comfort zone) ส่วนใหญ่เพลงแรกของอัลบั้มมักจะเป็นอินโทรที่อธิบายสิ่งที่เรากำลังจะฟังต่อ ๆ ไปได้ แต่วงกลับใส่เทปคลาสสิก และปล่อยเสียงคีย์บอร์ดเพราะ ๆ ให้ล่องลอยขึ้นมาแทน อาจจะเป็นอีกด้านหนึ่งของวงที่ไม่เคยเปิดเผยให้ใครรู้ก็ได้ หรือเป็นจุดที่เอาไว้ฟังหูตัวเองตอนฟังอัลบั้มนี้ก็เป็นได้ คำสารภาพ (Love Letter No. 11) Feat. Tle Nobuna ไลน์กีตาร์ที่แพรวพราวของ เติ้ล Nobuna … Continued

Bump ร่ายมนต์ Lo-Fi Pop ผ่านซาวด์ลึกลับแสนอบอุ่นน่าฟังในเพลง ‘เหลือ’

  • Writer: Peerapong Kaewthae

Bump เป็นศิลปินอีกคนหนึ่งบนฟังใจที่น่าจับตามอง จากการเนรมิตซาวด์ดรีมป๊อป lo-fi ที่น่าสนใจอยู่เหมือนกัน พอเจอเพลง เหลือ ที่วางองค์ประกอบได้น่าฟังแถมอบอวลไปด้วยซาวด์สวย ๆ เข้าไปเราก็อดใจไม่เขียนถึงไม่ได้จริง ๆ เสียงกีตาร์อื้อ ๆ เบียดตัวขึ้นมาพร้อมซินธ์หวาน ๆ และกลองตึ้บ ๆ น้ำเสียงหวานชวนคร่ำครวญถึงสิ่งที่เหลืออยู่ตอนนี้หลังจากเธอจากไป เนื้อเพลงเหงา ๆ ลงตัวกับองค์ประกอบทุกอย่างที่วางมาได้อย่างผ่อนคลาย จังหวะกลองเท่ดี มีซินธ์คอยแต่งแต้มอารมณ์หลากหลาย กีตาร์ก็คอยหล่อเลี้ยงจังหวะอยู่ข้างหลัง ช่วงท้ายที่ใส่คอรัสมาด้วยก็เพลินเลย แม้เพลงนี้จะเป็นเพลงที่สองของเขา แต่ก็มีพัฒนาการที่น่าสนใจมาก หวังว่าจะได้ฟังเพลงต่อไปเร็ว ๆ ลองไปฟังเพลงของเขาบนฟังใจได้ ที่นี่ เลย

พูดคุยกับ Plasui Plasui วงดรีมป๊อปอารมณ์ดีที่ทุกคนตกหลุมรัก

  • Writer: Peerapong Kaewthae
  • Photographer: Chavit Mayot

เวลาใครพูดถึงวงดนตรีนอกกระแสดี ๆ ซักวง หรืออยากส่งเพลงที่น่าสนใจให้ใครซักคนที่แอบชอบลองฟังดู หนึ่งในนั้นต้องมีเพลงของ Plasui Plasui อย่างแน่นอน ห้าหนุ่มจากมหาสารคามที่ไม่ได้มีลูกเล่นหวือหวาเหมือนวงไหน ๆ แต่มีภาษาทางดนตรีที่น่าฟัง บวกกับซาวด์อันล่องลอยชวนผ่อนคลาย ทำให้ดรีมป๊อปของพวกเขาเข้าไปอยู่ในเพลย์ลิสต์ประจำตัวของใจวัยรุ่นในยุคนี้กันทุกคน โชคดีของ Fungjaizine ที่วงลงมากรุงเทพ ฯ พอดี จึงเปิดบ้านชวนพวกเขามานั่งเล่นรวมถึงพูดคุยถึงที่มาที่ไปและดนตรีของพวกเขา รวมถึงบ้านเกิดที่อยากให้ซีนดนตรีเติบโตไม่แพ้เมืองหลวงบ้าง มารวมตัวกันได้ยังไง เบ: เราเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่สมัยมัธยมแล้ว ก็อาจจะฟังเพลงบนพื้นฐานของความเป็นป๊อปเหมือนกันแต่อยู่คนละวงกัน ปาร์กอยู่อีกวงหนึ่ง (ปาร์ก: มีวงอยู่อีกโรงเรียนหนึ่ง) ผมก็อยู่กับแก๋งครับ แล้วค่อยมีดิวเข้ามามาด้วย ส่วนทีก็เพิ่งเจอกันตอนมหาลัย เป็นรุ่นน้อง ทำไมถึงตัดสินใจทำดรีมป๊อป เบ: ชอบครับ พวกเราชอบเหมือนกันหมดเลย เราก็อยากหาร้านที่มันเล่นแบบนี้แล้วมันไม่มีเลย พวกเราก็เลยเล่นกันเอง แล้วที่มาของชื่อวงนี่ยังไง ปาร์ก: เป็นภาษาที่เราชอบพูดกัน คุยกันในวงเพื่อน แก๋ง: ชิ๊กกี้ ชะวะฮู่ว เบ: มันเป็นคำที่พวกเราชอบพูดกันอะไรเงี่ย คำที่ไม่มีความหมายอะไร เป็นคำอุทานอะไรเงี้ย ชอบพูดอะไรที่มันแปลก ๆ คำมั่ว ๆ คุยกับปาร์กว่าทำเพลงมาแล้วยังไม่มีชื่อวง เลยถามว่าเอาปลาซุยมั้ย ปาร์กบอกว่าเบิ้ลดีกว่าเป็น … Continued

ชวนเข้าคอร์สสอนทำเพลงแบบเร่งรัด ไม่กี่คลิกก็เก็ตการทำเพลงเลย!

  • Writer: Peerapong Kaewthae
  • Art Director: Karin Lertchaiprasert

เชื่อว่าคนที่ชอบฟังเพลงเนี่ย มันจะต้องมีซักจังหวะนึงแหละที่รู้สึกว่าเราก็อยากลองทำเพลงบ้างเหมือนกัน แต่ไม่ได้เรียนมา อาจจะมีเพื่อนที่เล่นเป็นบ้างแต่ก็อาจจะสอนได้แค่วิธีเล่นแต่ส่งต่อแพชชั่นให้เราไม่ได้ ก็ต้องล้มเลิกไป ไม่รู้จะเริ่มยังไงจริง ๆ เลยมีบริษัทใจดีนามว่า Ableton ซึ่งจริง ๆ ตัวเขาเนี่ยขายโปรแกรมทำเพลง มันก็มีโปรแกรมประมาณนี้มากมายอยู่ในตลาดจนเราเลือกใช้ไม่ถูก แทนที่เขาจะมัวหาวิธีโปรโมตเพื่อแย่งคู่แข่งกับคนอื่น เขาเลยสร้างเว็บ learningmusic.ableton.com ขึ้นมาเพื่อสอนพื้นฐานในการทำดนตรีแแบบฟรี ๆ ให้ทุกคนซะเลย ส่วนหนึ่งเพื่อหาลูกค้าหน้าใหม่ที่จะมาใช้โปรแกรมของเขา แต่ใครจะรู้ว่าศิลปินระดับโลกหน้าใหม่อาจจะเป็นคนที่กำลังอ่านบทความนี้อยู่ก็ได้! เมื่อกดเข้าไปในเว็บ ในบทแรกเราก็จะได้ทำความเข้าใจกับโครงสร้างทางดนตรีแบบง่าย ๆ ว่าเพลง ๆ หนึ่งประกอบไปด้วยเสียงของอะไรบ้าง เมื่อมันเป็นลูปที่พอดี เอามาวางต่อกันยังไงก็เป็นดนตรีที่น่าฟังได้ พร้อมมีตัวอย่างให้เราลองกดเล่นเองด้วย หน้าต่อไปก็จะค่อย ๆ ทำความเข้าใจเกี่ยวกับห้องของดนตรี ว่าดนตรีท่อนหนึ่งประกอบไปด้วยเสียงอะไร กี่จังหวะที่ห้องไหนบ้าง แถมมีตัวอย่างให้เรากดเล่น และหน้าต่อ ๆ ไปก็จะค่อย ๆ ลงลึกขึ้นเรื่อย ๆ ทั้งการเลือกซาวด์ที่แตกต่างกัน จังหวะของเพลง ความต่างและ bpm ของแต่ละแนวเพลง แถมกลางตัวอย่างเพลงดังให้ดูด้วยว่าพวกเขาใช้จังหวะหรือซาวด์ยังไง พร้อมสอนเทคนิคเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่นำไปใช้ได้จริง อย่างที่บอกว่า 10 … Continued

Dept ปล่อยเพลงใหม่ ‘คล้าย’ ซินธ์ป๊อปซึ้ง ๆ ภายใต้บ้านหลังใหม่ Smallroom

  • Writer: Peerapong Kaewthae

หลังจาก Dept ประกาศข่าวดีได้ไม่นาน ว่าได้ค่ายเพลงที่อยากฝากเนื้อฝากใจด้วยแล้วกับ Smallroom Bangkok Pop Music Label ไม่รอช้าก็ปล่อยเพลงใหม่ภายใต้บ้านหลังใหม่ทันทีกับ คล้าย ชัดเจนทางดนตรีและฝีไม้ลายมือที่โตขึ้นเยอะ! เสียงซินธ์เบ่งบานไปทั่วใบหู ร้อยเรียงไปกับเสียงกลองเท่ ๆ และไลน์กีตาร์น่ารัก ๆ ได้เพลินมาก กลายเป็นเพลงบอกรักแบบเขิน ๆ ขอบคุณเธอที่เข้ามาทำให้รู้สึกถึงความรักอีกครั้ง หลังจากดรอปดนตรีช่วงท่อนแรกก็ฟาดกลับเข้ามาด้วยท่อนฮุกที่แน่นและกรีดกรายไปทั้งหูเลย ฮุคสองก็เท่ไม่แพ้กันแถมระบายเมโลดี้ให้โดดเด้งไปมาจนจบเพลงก่อนจะเฟดออกไป เป็นซินธ์ป๊อปหวาน ๆ ที่ฟังเท่าไหร่ก็ไม่เบื่อ ชาวฟังใจขอแแสดงความยินดีกับก้าวสำคัญของ Dept ด้วยจ้า เย้ ยังไงก็ฝากเป็นกำลังใจให้ทั้งสองคนเหมือนเดิมน้า เพลงนี้ก็ฟังบนฟังใจได้แล้วนาจา ที่นี่ เลย

คุยกับ Xueiyuan ผู้ปลุกดนตรี R&B ให้ซู่ซ่าในซีนดนตรีไต้หวัน จนได้อยู่ใน Cinema Sessions

  • Writer: Peerapong Kaewthae
  • Photographer: CINEMA SESSION
  • Art Director: Karin Lertchaiprasert

เสียงเพลงของ David Tao เจ้าพ่อแห่งวงการเพลงป๊อปของไต้หวันเป็นแบ็คกราวด์ในสตูดิโอช่วงบ่ายคล้อยวันนี้ โดยวง Xueiyuan เป็นคนคัดสรรเพลงในวันนี้ด้วยตัวเอง กลิ่นอายของดนตรี r&b แสนโรแมนติกในเพลงนี้เติมบรรยากาศแห่งความผ่อนคลายท่วมใบหู และทำให้นึกถึงงานของพวกเขาที่ปล่อยออกมาเมื่อปีที่แล้ว Wind Blowing ที่สามารถเรียกร้องความสนใจจากทุกคนในซีนดนตรีนอกกระแสได้ทันที น่าเสียดายที่ชื่อวง Xueiyuan ไม่ได้มีที่มาจากนางแบบญี่ปุ่นชื่อดัง Kiko Mizuhara (ในภาษาจีนชื่อของเธอออกเสียงคล้ายกัน) แต่ชื่อวงมาจากชื่อถนนแห่งหนึ่งในไทเปเป็นที่ตั้งสตูดิโอของพวกเขาเอง วงเพิ่งก่อตั้งเพียงปีเดียว ถือว่าเป็นคลื่นลูกใหม่มาก ๆ ในซีนนี้ และยังมีอีกหลายเพลงที่ยังไม่ได้ปล่อย แต่คนรุ่นใหม่ย่อมมาพร้อมพลังที่ทำให้วงการเพลงนอกกระแสสะท้านได้ทุกครั้ง อย่างวงนี้ก็เป็นสมาชิกจากหลาย ๆ วงมารวมตัวกันทั้ง Bacbeth, Wake Up! Explosion และ Boycany แต่ Xueiyuan ก็มีแนวทางดนตรีที่แตกต่างจากวงก่อนหน้านี้อย่างสิ้นเชิง รสนิยมและความคิดสร้างสรรค์ของพวกเขาเกินตัวไปมาก จนทำให้ดนตรีของพวกเขากลายเป็นเทรนด์ใหม่ในไต้หวันทันที “พวกเรามีสตูดิโอบนถนนสุ่ยหยวน พวกเรามันจะไปนั่งเล่นกันที่นั่นต่อให้ทุกคนจะมีวงของตัวเองก็ตาม และรวมกลุ่มกันเล่นดนตรีขำ ๆ เลยทำให้เกิดวง Xueiyuan ขึ้นมา” Howie มือกีตาร์ของวงเหล่าให้เราฟัง เขายังอยู่วง Bacbeth อีกด้วย “พวกเราส่วนใหญ่จะเล่นแนวร็อก พอ … Continued

เพลิดเพลินไปกับจังหวะป๊อปสนุก ๆ ใน ‘Hot Tub’ ซิงเกิลแรกของ Kid Sumo

  • Writer: Peerapong Kaewthae

Kid Sumo คือใครก็ไม่รู้ แถมโผล่มามีอยู่เพลงเดียว แต่ฟังแล้วชุ่มชื่นหัวใจขนาดนี้เราจะไม่พูดถึงได้ยังไง กับ instrument pop หวาน ๆ Hot Tub ดรัมแมชชีนล้อเล่นไปกับกีตาร์ได้เพลิดเพลินมาก สลับจังหวะไปมาได้รื่นรม ช่วงกลาง ๆ ที่กดรีเวิร์บให้กีตาร์หน่อยก็ดูมีชีวิตชีวาขึ้นมาทันที แถมอ่อนช้อยซะจนเราเคลิ้มเลย มีซินธ์เข้ามาระบายอยู่ข้างหลังนิดหน่อยให้ตราตรึงใจ ส่วนกีตาร์ก็ลูบไล้เราเบา ๆ แล้วลอยหายไป อาจจะไม่ได้หวือหวาอะไรมาก แต่สไตล์เพลงแบบนี้และมีลูกเล่นน่าฟังประมาณนี้ไม่ค่อยมีมาเท่าไหร่ เลยอยากให้ทุกคนลองฟังดู เพลงนี้ก็ดันมีอยู่แค่บนฟังใจอีก กดไปฟังได้ ที่นี่ เลยจ้า

’25’ ฉลองเบญจเพสกับอัลบั้มใหม่ของ Youth Brush อารมณ์สามัญธรรมดาของวัยรุ่นคนหนึ่ง

  • Writer: Peerapong Kaewthae

เธอยังเชื่อเรื่อง ‘เบญจเพส’ อยู่มั้ย ที่บอกว่าคนอายุยี่สิบห้าแล้วจะดวงตก ซวยซ้ำซวยซ้อน จะไม่สมหวังในสิ่งใด ๆ เป็นปีที่เราต้องทำใจ ดุ่ย Youth Brush เลยปล่อยเพลงอัลบั้ม 25 ออกมาเพราะกำลังอยู่ในช่วงปีนี้พอดีก็ได้ ส่วนตัวผมไม่เคยเชื่อเรื่องนี้เลย แค่ช่วงอายุเท่านี้มันคือวัยที่เรากำลังเปลี่ยนผ่าน ต้องรับมือกับความเปลี่ยนแปลงมากมายในชีวิต ถูกกดดันให้ต้องเป็นผู้ใหญ่ทั้งที่ยังไม่มีประสบการณ์มากพอ ทำให้เราตัดสินใจเรื่องต่าง ๆ ในชีวิตไม่ดีพอก็ได้ จนทำให้ชีวิตวุ่นวายขนาดนี้ แต่อัลบั้มนี้น่าจะอธิบายสิ่งที่ผมบอกได้เข้าใจง่ายกว่า ทุกคนก็ต้องดำเนินชีวิตต่อไปท่ามกลางความรัก ความผิดหวัง ร้องไห้อย่างโดดเดี่ยว แต่ชีวิตก็จะนำพาเรื่องดี ๆ เข้ามาบ้างเหมือนกัน ไม่มีใครที่จะต้องเสียใจไปตลอดกาล 25 ก็แค่บันทึกเรื่องราวของวัยรุ่นคนหนึ่งเอาไว้ ไม่ว่าใครได้ลองฟังก็ต้องเข้าใจ เธอของเธอ เป็นเพลงที่เราได้ยินในโชว์เขาบ่อยมาก ในที่สุดก็อยู่อัลบั้มเต็มซักที กีตาร์โปร่งกรีดกรายตัวเองออกมาเป็นภาษาที่อ่อนโยน “แข็งแรงคืออะไร ไม่รู้” เสียงดุ่ยก็ปลอบโยนเราอย่างนุ่มนวล อย่าลืมว่ากว่าจะมาถึงวันนี้เราเข้มแข็งแค่ไหนแล้ว จะล้มลงนอนพักผ่อนบ้างก็ไม่เป็นไร เนื้อเพลงยังเต็มไปด้วยคำจี้ใจดำ เป็นคำพูดที่ใส่ใจมากมาย มีกีตาร์คอยเรียบเรียงคำพูดเหล่านั้นให้มันสวยงามมากขึ้น เริ่มหนาว เสียงซินธ์โอบกอดเราไว้ โดยมีกีตาร์สะกิดใจ ก่อนจะครบเครื่องด้วยกลองและเบส ดนตรีก็สนุก ๆ อยู่เหมือนกันแต่มันดันชวนเศร้ายังไงไม่รู้ เนื้อเพลงก็พูดถึงฤดูที่เปลี่ยนไป แต่ความคิดถึงที่เคยมีให้เธอก็ไม่เคยหายไปไหน เสียงร้องพร้อมคอรัสสาวทำให้เพลงดูละมุนขึ้นเป็นกอง … Continued

ฮั่นแน่! ทำไมจอฟ้า ‘Why my pc screen got the blues’ เพลงใหม่กับวันซวย ๆ ของ ชาบลูส์

  • Writer: Peerapong Kaewthae

ชาบลูส์ อาละวาดอีกครั้ง ปล่อยเพลงใหม่แบบสายฟ้าแล่บให้เราได้โยกหัวตามไปกับ Why my pc screen got the blues จอฟ้าได้ไงอะวัยรุ่น เสียงกลองรัวขึ้นมาพร้อมเครื่องเป่าเท่ ๆ เรียกร้องความสนใจเราได้ทันที พร้อมเสียงหล่อ ๆ ของ ฉิม ตกใจมากที่เพลงนี้มาเป็นภาษาอังกฤษ แต่สำเนียงก็ได้อยู่นะ ส่วนอารมณ์นี้มาเต็มเลย จะคลายเครียดกับการเรียนทั้งที่ทำไมคอมต้องจอน้ำเงินด้วยเนี่ย ความหงุดหงิดน่าจะถ่ายทอดออกมาผ่านไลน์กีตาร์ที่โซโล่ได้โดนใจมากแล้ว ยิ่งโซโล่สองคือเฉียบไปเลย แถมยังมีเครื่องเป่าเข้ามาเติมความเซ็กซี่ให้อีก โอ้ย ฟังแล้วใจละลาย จังหวะดนตรีอะไรคือเท่เกินเนื้อเพลงไปมากเลย แต่ยังโชว์สไตล์บลูส์ได้หล่อมาก ทั้งการขยี้คำร้อง ยิ่งตอนท้ายที่ฉิมโชว์น้ำเสียงเข้ม ๆ ทิ้งท้ายก็โคตรดี MV ก็หรูหราขึ้นเยอะ ด้วย CG งาม ๆ ใส่ได้โอเคมากด้วย มีความ vaporwave หน่อย ๆ แต่ยังเล่าเรื่องได้เรียบง่ายเหมือนเดิมสมกับเป็นวงนี้ ถ้าใครเพิ่งรู้จักเขาจากเพลงนี้ บอกเลยว่าเพลงอื่น ๆ ก็เฮี้ยนไม่แพ้กัน ลองไปฟังเพลงของพวกเขาทั้งหมดได้บนฟังใจเลย ที่นี่

Tulyawat Sajja ถ่ายทอดความรู้สึกผ่าน Lo-Fi ที่เนี้ยบเอาเรื่อง ในอัลบั้ม ‘Blind Date’

  • Writer: Peerapong Kaewthae

Tulyawat Sajja คือใครนี่ก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่ครั้งแรกที่ได้ฟัง Sleeping Beauty ก็หยุดความสนใจของเราได้ทันที ไม่ใช่เพราะเสียงร้องทุ้มต่ำที่กลืนไปกับดนตรีจนฟังยาก แต่มันมีลูกเล่นทางดนตรีที่น่าสนใจอยู่ ต่อด้วยเพลง Momentary ที่ถูกจริตเราสุด ๆ และ No Shoes ที่ทำให้เราตกหลุมรักเขาทันที เมื่อถามไถ่เพื่อน ๆ จึงรู้ว่าเขาคือ Midsvase ที่เคยทดลองดนตรีหลากหลายและน่าสนใจมาก ๆ การเปลี่ยนชื่อแบบนี้น่าจะมาพร้อมโปรเจกต์ใหม่ ๆ ที่น่าสนใจกว่าเดิมแน่นอน ดนตรีน้อยชิ้นที่แทบจะมินิมัลมาก ๆ กับเสียงร้องแตกพร่าฟังยากราวกับกำลังสวดอะไรซักอย่าง กลับมีแพตเทิร์นที่จับใจเราได้ หรือการมิกซ์ที่ใส่ความ lo-fi เข้าไปก็ไม่ได้ตามกระแสนิยมอะไร แถมผลักดันให้มันไปไกลกว่าแค่อะคูสติกกีตาร์ กลายเป็นความตั้งใจที่สื่อออกมาด้วยบรรยากาศและภาษาเฉพาะตัว ดนตรีของเขามีมนต์เสน่ห์อัดแน่นอยู่มากมาย อัลบั้ม Blind Date ก็น่าจะอธิบายการที่เราเพิ่งรู้จักอัลบั้มนี้หรือรู้จักเขาได้ดี เพราะต่างคนต่างไม่มีเบื้องหลังของอีกฝ่ายมาก่อน จึงต้องเปิดใจกว้าง ๆ และทำความรู้จักกันอย่างเข้มข้น Blind Date (EP) by Tulyawat Sajja Dreamworld เสียงกีตาร์เกาไปมาอยู่สองสามคอร์ด โดยมีเสียงแอมป์หึ่ง ๆ อยู่ข้างหลัง … Continued