The ███████ สังเคราะห์ความเศร้าเป็นภาษาดิจิทัลในอัลบั้มเต็ม Boring Original Nonsense

Published

  • Writer: Peerapong Kaewthae
  • Photographer: Chavit Mayot

หลังจากสร้างปริศนาทางรูหูให้นักฟังเพลงบน YouTube มาเนิ่นนานด้วยชื่อที่แสนพิศวง กับแนวเพลงที่แตกต่างและมีเอกลักษณ์ The ███████ (The Black Codes) ก็ออกอัลบั้มเต็มอัลบั้มแรกของตัวเองซักที จากงานดนตรีทดลองสู่การผจญภัยไปในดินแดนของเสียงอันไร้พรมแดน เมื่อระบบดิจิทัลไม่อาจปิดกั้นความคิดสร้างสรรค์และช่วยทำลายขนบธรรมเนียมในการทำเพลงอันคร่ำครึที่ทำตาม ๆ กันมาให้กลายเป็นการต่อยอดความหมายของคำว่า ‘เสียง’ ออกไปอย่างไร้ขีดจำกัด ทั้งหมดเกิดจากการรังสรรค์ของ จิม – กานต์ปพนธ์ บุญพุฒ จากแต่ก่อนที่ยึดติดกับเพียงเสียงที่สร้างขึ้นมาจากเครื่องดนตรีที่จับต้องได้เท่านั้น แต่ประสบการณ์ช่วยหล่อหลอมให้เขามองในมุมที่แตกต่างและเห็นถึงความสวยงามของเสียงสังเคราะห์ เขาจึงเริ่มหัดเล่นแร่แปรเสียงทั้งหมดโดยไม่ให้กรอบได้ ๆ มาปิดกั้นเขาไว้ แถมยังพลิกแพลงความสามารถอันหลากหลายของตัวเองออกมาเป็นคลื่นเสียง ทั้งความสามารถในการเขียนโค้ดหรือการออกแบบ ช่วยให้เขาค้นพบเสียงที่ไม่เคยมีอยู่บนโลกอีกมากมายที่อยากเรียบเรียงมันออกมาเป็นเพลงให้ทุกคนสัมผัส และเข้าใจโลกดิจิทัลอันอ้างว้างซึ่งมีเพียงเสียงสังเคราะห์เท่านั้นว่าสามารถให้ความอบอุ่นกับเราได้เช่นกัน จนเกิดเป็นอัลบั้ม Boring Original Nonsense ที่ประกอบด้วยดนตรีเชิงทดลองอันน่าพิศวง รวบรวมไว้ซึ้งอารมณ์อันสามัญและน่าเบื่อแต่สามารถบอกเล่าด้วยแนวทางแบบใหม่จนน่าสนใจได้ ซึ่งทุกกระบวนการตั้งแต่แต่ง อัด มาสเตอร์ริงก็มีจิมอยู่ในทุกกระบวนการ จนเราเชื่อใจได้เลยว่ามันต้องสมบูรณ์แบบมากแน่นอน อัลบั้มนี้ เป็นซีดีที่บรรจุอยู่ในแพ็กเกจที่มาในไซส์ของแผ่นเสียงพร้อมกับปกสีขาวสะอาดที่เต็มไปด้วยแถบสีดำเหมือนเป็นคำพยากรณ์ถึงโลกอนาคตอันยากจะคาดเดา ใส่ซองพลาสติกอย่างดีพร้อมสติ๊กเกอร์ชื่ออัลบั้มสะท้อนแสงสีเงินเหมือนยืนยันว่าอัลบั้มนี้มาจากอนาคตจริง ๆ เมื่อหยิบแจ็กเก็ตสีขาวนั้นออกมาดูจะพบว่าข้างหน้าถูกจารึกด้วยโค้ดที่คนธรรมดายากจะเข้าใจ แต่มันคือ JavaScript ที่ร้อยเรียงขึ้นมาเป็นหน้าปกของอัลบั้มนี้นั้นเอง เมื่อพลิกกลับหลังก็เต็มไปด้วยเนื้อเพลงทุกเพลงในอัลบั้ม พร้อมอาร์ตเวิร์กน่ารัก ๆ ของแต่ละเพลงที่เคยปล่อยออกมา ด้วยความพิถีพิถันของเขาทำให้ทุกเพลงมีปกอัลบั้มที่สื่อถึงอารมณ์ของเพลงนั้น ๆ อยู่ด้วย เมื่อดึงแผ่นออกมา ซีดีก็ถูกยึดอยู่กับแผ่นเสียงโบราณ ๆ เหมือนเป็นการล้อเลียนว่าซีดีแผ่นนี้เติบโตคือสิ่งใหม่ที่เติบโตขึ้นมาจากสิ่งเก่า ๆ หรือยุคอนาล็อกนั่นเอง ไม่รอช้าก็แกะมันออกมาแล้วเอาใส่เครื่องเล่นซีดีกันเลยเถอะ Forever Login … Continued

บ้าจริง ! วงร็อกไทยสุดพีคที่เราเกิดไม่ทันดูสด

Published

  • Writer: Wathanyu Suriyawong

ในช่วงยุคนี้ มีคอนเสิร์ตทั้งน้อยใหญ่มากมาย จนต้องวางแผนการเงินอย่างรอบครอบ ไม่งั้นอาจจนกรอบ เงินไม่พอสิ้นเดือนแน่ ๆ แม้ตัดใจเลือกที่จะไม่ไปด้วยฐานะการเงินไม่อำนวย แต่ก็ยังพอติดตามจากคลิปที่ทางบ้านถ่ายแบ่งปันกันชมบนโซเชียลมีเดียได้อยู่ ต่างกับสมัยก่อนการที่จะได้ชมได้ดูวงดนตรีสักวง อาจจะไม่ยากมากมาย แต่คงไม่สะดวกสบายเหมือนยุคนี้แน่ ๆ เลยทำให้นึกถึงวงเก่า ๆ ที่คิดถึง และอยากย้อนเวลากลับไปรับชมกันอีกครั้ง ฟังใจ ได้ทำโพสต์ ถามความเห็นเพื่อน ๆ บนเพจ ว่า ‘วงไทยวงไหน ที่เราเสียดายไม่ได้ดูเล่นสด’ ก็ได้คำตอบจากเพื่อน ๆ มากมาย จนอยากหยิบบางส่วนมานำเสนอให้กับคนยุคใหม่ได้รู้จักกัน ซึ่งเป็นการนำเสนอจากความเห็นของผู้ที่มาคอมเมนต์ ถึงความเสียดายที่ไม่มีโอกาสได้ชมเท่านั้น มิได้เป็นการเปรียบเทียบยุคก่อนยุคหลังแต่อย่างใด และจะมีวงอะไรบ้าง ลองมาอ่านกันครับ   LOSO ( ยุค เสก รัฐ ใหญ่ ) วงร็อก 3 ชิ้นระดับตำนาน ก่อร่างสร้างตัวขึ้นมาในปี 2539 สมาชิกยุคดั้งเดิมคือ เสก, รัฐ, ใหญ่ ประสบความสำเร็จตั้งแต่อัลบั้มแรก เคยได้ทำอัลบั้มประกอบภาพยนตร์ ‘จักรยานสีแดง’ และมีเพลงฮิตที่มีชื่อเดียวกับหนัง ก็ดังติดหูคนทั่วประเทศทุกเพศทุกวัย พอมาถึงอัลบั้มที่ 2 … Continued

19 ปีที่รอ ‘หนุ่ม กะลา’ ปิดธันเดอร์โดม จัดคอนเสิร์ตใหญ่ 2 รอบ 19-20 พ.ค. นี้

Published

  • Writer: Gandit Panthong

กว่า 19 ปีที่โลดแล่นอยู่ในเส้นทางสายดนตรี ผ่านร้อนผ่านหนาวมาทุกรูปแบบ แต่ ณพสิน แสงสุวรรณ หรือ “หนุ่ม  กะลา” เจ้าของเพลงฮิตที่ใครก็ร้องได้ อย่าง ขอเป็นตัวเลือก / รอ / บอกสักคำ / เธอเป็นแฟนฉันแล้ว / ไม่มาก็คิดถึง / ปล่อยมือฉัน ฯลฯ ยังไม่เคยมีคอนเสิร์ตใหญ่เลย เพราะฉะนั้นแล้วถึงเวลาของเขาแล้วปีนี้ค่าย genie records (จีนี่ เร็คคอร์ดส) จัดให้แฟนเพลงได้รู้จักเจ้าของเสียงแหบเสน่ห์คนนี้ยิ่งขึ้นในคอนเสิร์ตครั้งนี้กับ “Chang Music Connection presents MY NAME is NUM KALA  Concert 19 ปีที่รอ #ไม่มาก็คิดถึง” (ช้าง มิวสิก คอนเนคชั่น พรีเซ็นท์ส มาย เนม อีส หนุ่ม กะลา คอนเสิร์ต 19 ปีที่รอ #ไม่มาก็คิดถึง) … Continued

เปิดตัว lensod.com เว็บไซต์ค้นหาวงดนตรีสดรูปแบบใหม่สำหรับงานแต่ง

Published

  การจัดงานแต่งงานให้น่าประทับใจ มีสิ่งหนึ่งที่จะช่วยเติมเต็มบรรยากาศให้ออกมาสมบูรณ์ยิ่งขึ้นนั่นก็คือดนตรีสด หลายคนอาจจะเกิดความสงสัยว่าจะเริ่มต้นหาวงดนตรีสดอย่างไรดี เราขอแนะนำให้รู้จัก LENSOD.com เว็บไซต์ที่รวบรวมวงดนตรีงานแต่งงานไว้อย่างหลากหลาย ครบถ้วนด้วยรายละเอียดต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นตัวอย่างคลิปวิดีโอผลงานของแต่ละวงรวมถึงแพคเกจงานแต่ง ให้คุณได้ตัดสินใจได้สะดวกมากยิ่งขึ้น     ในงานแต่งงานไม่ว่าจะยุคไหน ๆ โดยเฉพาะในยุคปัจจุบัน ที่นอกจากงานพิธีการแล้ว ทุกคนก็ยังให้ความสำคัญกับงาน After Party ดนตรีสดก็ยังคงเป็นเสมือนสิ่งเติมเต็มที่สำคัญที่นอกจากจะช่วยให้บรรยากาศภายในงานมีความกลมกล่อมละมุนละไมและสนุกสนานแล้วยังสามารถบ่งบอกตัวตนของเจ้าบ่าว เจ้าสาว แถมยังเป็นการแบ่งปันความสุขไปสู่แขกที่มาร่วมอวยพรอีกด้วย แน่นอนว่าในงานแต่งงานจะต้องมีกิจกรรมต่าง ๆ เกิดขึ้นในช่วงพิธีการ ซึ่งถ้าในระหว่างนั้นมีเสียงดนตรีสดบรรเลงประกอบ ก็จะช่วยให้คู่บ่าวสาวรวมไปถึงผู้ร่วมงานทุกคนได้รู้สึกอินไปกับกิจกรรมต่าง ๆ ได้ดียิ่งขึ้น และอีกหนึ่งอย่างที่ลืมไม่ได้ งานแต่งงานเป็นงานที่เป็นเสมือนการรวบรวมเพื่อนเก่าและเพื่อนคนสำคัญทุก ๆ คนมารวมกัน จะดีแค่ไหนถ้าคุณได้เต้นอย่างเมามันส์ ย้อนบรรยากาศวันวานที่สนุกสุดเหวี่ยงไปกับเพื่อน ๆ ของคุณ LENSOD.com ก็เป็นเหมือนสื่อกลางชั้นดี ที่จะพาทุกคู่รักไปร่วมค้นหาวงดนตรีมืออาชีพที่ตรงตามความชอบคอนเซ็ปต์งาน และงบประมาณมากที่สุด     สำหรับแพคเกจวงดนตรีงานแต่งบนเว็บไซต์ LENSOD.com เรามีให้เลือกทั้งแบบ อะคูสติกหรือสตริง สำหรับงานพิธีการ และ ฟูลแบนด์หรือ DJ สำหรับงานอาฟเตอร์ ปาร์ตี้ โดยทุกประเภทวงดนตรี … Continued

ฝากรัก(?)เอาไว้ในเพลงสักคำ… บางบทเพลงที่มีเสียงของกิจกรรมทางเพศแฝงอยู่

Published

  • Writer: Piyakul Phusri

เสียงบางเสียงที่มนุษย์สร้างขึ้น เป็นสิ่งที่มีความหมายในตัวเอง โดยไม่จำเป็นต้องอธิบายขยายความให้ยืดยาว เสียงกัดฟังกรอด ๆ อาจจะเป็นได้ทั้งเสียงแห่งความโกรธ หรือความอดทนต่อการถูกกระทำอย่างรุนแรง เสียงถอนหายใจ อาจจะเป็นได้ทั้งเสียงแห่งความสบายใจ เปลี่ยวเหงา หรือ สิ้นหวัง เสียงกรีดร้อง อาจจะเป็นได้ทั้งเสียงที่สื่อถึงความกลัวอย่างสุดขีด หรือสนุกอย่างสุดเหวี่ยง แล้วถ้าเป็นเสียงคราง ‘อา……’ ล่ะ คุณนึกถึงอารมณ์อะไร?   หนึ่งในเสียงที่เรียกได้ว่าอื้อฉาวที่สุด หมิ่นเหม่ต่อการละเมิดหลักการทางศาสนาและกฎหมายที่สุด และทำให้เพลงเพลงหนึ่งโดนแบนบ่อยที่สุดก็คือ ‘เสียงของการประกอบกิจกรรมทางเพศ’ ไม่ว่าจะเป็นเสียงขณะร่วมเพศ เสียงขณะช่วยตัวเอง หรือเสียงครวญครางที่สื่อให้รับรู้ถึงกิจกรรมทางเพศ หรือแสดงออกถึงนัยยะทางเพศอย่างรุนแรง ถึงแม้ว่าวงการเพลงไทยจะยังไม่ค่อยมีเพลงที่มีเสียงอะไรแบบนี้ซ่อนอยู่ (อย่างเพลง คืนนี้ (Not Yet) ของ The Parkinson) แต่ในโลกตะวันตก เสียงที่สื่อถึงกิจกรรมทางเพศมีให้ได้ยินในเพลงตั้งแต่ก่อนยุค 1930s เช่น เพลง Moanin’ The Blues ของ Victoria Spivey ที่มีเนื้อหาพูดถึง black snake juice (น้ำหวานจากงูสีดำ อึม…จะให้นึกถึงอะไรดีล่ะ) และจงใจลากเสียงร้องท่อน ‘Aaaaaall…day long’ … Continued

Dimming Air เสียงกระซิบผ่านอากาศในเพลง Good Morning ที่ทำให้รู้ว่ายามเช้าสดใสเพียงไร

Published

  • Writer: Montipa Virojpan

Dimming Air จะเป็นเหมือนเสียงของสหาย ที่จะคอยตอกย้ำ ปลอบประโลม ยืนยันความทรงจำ และให้พื้นที่กับทุกคน เพื่อบอกเล่าเสียงหัวเราะจากวันวานที่มีผลกับเราในวันนี้ คลับคล้าย pure diary ของ ยูกิ สุวรรณโสภา และเมื่อท่านอ่านถึงตรงนี้แล้ว จะพบว่าการเขียนต่อไปให้ยืดยาวเกี่ยวกับเรื่องส่วนตัวของศิลปินนั้นมิได้ช่วยเพิ่มความเข้าใจต่อเจตนาของ DimmingAir เท่ากับการรับฟังเสียงของมันอย่างตั้งใจ คลายฐิติ และสลับให้ความรู้สึกมาเป็นตัวชักนำความคิดของเราแทน ทำได้เช่นนั้นแล้ว จะพบว่า DimmingAir ไม่ใช่เพลงของคนใดคนหนึ่ง หากแต่เป็นมวลอากาศ ที่จะเกิดขึ้น และมีผลกับความรู้สึกของใคร ที่ไหน เมื่อไหร่ก็ได้ นี่คือสิ่งที่เขียนอยู่ในหน้า bio ของศิลปินที่มีนามว่า Dimming Air ซึ่งคือผลงานเดี่ยวของ ยูกิ อดีตมือกีตาร์วง Fwends หลังจากที่เราได้รับฟังเพลง Good Morning แล้วก็รู้สึกว่าเป็นอย่างที่เขียนไว้จริง ๆ การขึ้นต้นของเพลงให้ความรู้สึกเหมือนช่วงเวลาที่เราเพิ่งตื่นนอนใหม่ ๆ ตอนที่สติสัมปชัญญะที่หลับใหลหลังนิทรากำลังจะเริ่มแจ่มชัด คล้ายเสียงบรรยากาศในยามเช้าที่ค่อย ๆ ดังขึ้นมา หู ตา จมูก สัมผัสได้ถึงสิ่งรอบตัว พร้อมกับได้ยินเสียงนกร้องคลอไปกับเมโลดี้สดใส  และเสียงฮัมทำนองอันผ่อนคลาย เราจะได้ยินเสียงพร่าของอากาศแทรกตัวอยู่ตามช่องว่างในเพลงเพราะน่าจะเป็นเอฟเฟกต์คล้ายการยิงเข้า reel tape เพื่อให้เกิดความเป็น lo-fi เราจะไม่ทันรู้สึกเลยว่าเสียงกีตาร์ กลอง เบส เพอร์คัสชันต่าง ๆ … Continued

คอนเสิร์ตปิดอัลบั้ม S.O.L.E. กับเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้นในคืนนั้นจัดได้ว่า สนุกสุด ๆ

Published

  • Writer: Gandit Panthong, Malaivee Swangpol, Chavit Mayou, Wathanyu Suriyawong
  • Photo: Insane.

7 เมษายน 2560  เนื่องด้วยคอนเสิร์ตปิดอัลบั้ม S.O.L.E – Bangkok Teenage Renaissance เป็นอะไรที่สนุกสุด ๆ สนุกจนกดเหล้าเบียร์กันเพลิน สนุกจนจำอะไรไม่ได้ เราจึงขอรวบรวมความทรงจำอันกระจัดกระจายคนละนิดคนละหน่อยของพยานผู้อยู่ในเหตุการณ์มาปะติดปะต่อเป็นเรื่องราวดังต่อไปนี้ การให้ปากคำจากพยานพบเห็นที่ 1  เรื่องราวที่ถูกเขียนขึ้นในครั้งนี้เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงจากพวกเราทีมงานฟังใจที่ได้มีโอกาสไปงานปาร์ตี้ปิดอัลบั้ม S.O.L.E – Bangkok Teenage Renaissance ของวง S.O.L.E. โปรเจกต์ของ ไตเติ้ล The Whitest Crow ที่มีเพื่อนฝูงมารวมตัวราวกับการรวบรวมดราก้อนบอลมาไว้ในงานเดียวกัน ขณะนี้เราย่างกรายเข้าสู่ร้าน Play Yard เป็นที่เรียบร้อยแล้ว เวลา 3 ทุ่มโดยประมาณ วง In This Peace ได้ขึ้นสู่เวทีเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โชว์ครั้งนี้ของพวกเขาทำได้ดีเชียวล่ะ ภาพรวมที่ได้เห็นพวกเขาเติบโตขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ความนิ่งในการเล่นดนตรี รวมไปถึงการสื่อสารกับคนดูวงนี้เป็นอีกวงที่น่าจับตามองดูมาก ๆ ส่วนที่หลาย ๆ คนอาจจะสงสัยว่าทำไมผมไม่มี song list ของพวกเขา จะบอกให้ก็ได้ว่าตอนนี้ด้วยฤทธิ์ของแอกอลฮอลล์ผสมกับความทรงจำอันน้อยนิดทำให้ตัวผมเองนั้นเริ่มจำเรื่องราวในงานนี้ไม่ได้มากนัก การระเห็ดเตร็ดเตร่ครั้งนี้เลยจะไม่มีผมคนเดียวมาเล่าเรื่องราวให้ทุกคนฟังแน่ ๆ งานนี้เราจะมีอีกหลายคนที่จะเล่าให้คุณฟังในรูปแบบที่แตกต่างกันออกไป มาลองจินตนาการกันดูนะครับว่า คอนเสิร์ตนี้มันเป็นยังไงแน่ โอเค … Continued

Joe Hisaishi เบื้องหลังตัวโน้ตที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวาของ Studio Ghibli

Published

  • Writer: Geeraphat Yodnil

เชื่อว่าใครที่เป็นแฟนตัวยงของการ์ตูนภาพเคลื่อนไหวแล้วละก็ เป็นไปไม่ได้เลยที่จะไม่รู้จักกับภาพฝันที่ถูกฉาบด้วยพื้นหญ้าเขียวชะอุ่ม ท้องฟ้าสีคราม เครื่องบิน แม่มด ปีศาจ สัตว์ประหลาดน่ารัก ๆ และความรักในมนุษย์ของค่ายจากแดนอาทิตย์อุทัยอย่าง Studio Ghibli ที่ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 1985 โดย Hayao Miyazaki สตูดิโอที่สมบูรณ์แบบในทุก ๆ ด้านไม่เว้นแม้แต่ดนตรีประกอบ ซึ่ง Joe Hisaishi คือบุคคลเบื้องหลังคนสำคัญของหลาย ๆ ตัวโน้ตอันแสนวิจิตรเหล่านั้น   เขาคือหนึ่งในคอมโพสเซอร์คนสำคัญแห่งวงการภาพยนตร์และอนิเมะในช่วง 80s ของญี่ปุ่น มีเครดิตการทำดนตรีและเพลงประกอบกว่า 100 เรื่อง ความสามารถของโจถูกเปรียบเทียบในระดับเดียวกับ John Williams แห่ง Star Wars อยู่บ่อยครั้ง ถ้าคำถามของคุณคือ ‘ทำไม ?’ เราจะขออาสาเป็นคอนดักเตอร์จำเป็น (ถึงแม้ว่าจะไม่มีความสามารถด้านนี้เลย) โบกบาตองไปหาชายคนนี้ เพื่อให้เขาบรรเลงเรื่องราวชีวิตอันเต็มไปด้วยตัวโน้ตสนุก ๆ ให้ทุกคนได้รู้จักกันใน 3 2 1 … ปรบมือ ! Chapter 01 … Continued

‘ถึงจะไม่ทำเงิน แต่ Dub หล่อเลี้ยงจิตใจ’ ฟังเหตุผลที่ แก๊ป T-Bone ยังไม่หยุดทำ GA-PI ในงาน จับหูชนปาก 8

Published

  • Story and photos by Montipa Virojpan

7 เมษายน 2561 Jubhuuchonpak จับหูชนปาก งานเสวนาดนตรีดี ๆ และดนตรีสดจากศิลปินหาตัวจับยาก GA-PI ที่จะมาแบ่งปันคอลเล็กชันแผ่นเสียงส่วนตัวให้พวกเราได้ฟัง โดยจัดขึ้นมาเป็นครั้งที่ 8 แล้ว นี่เป็นครั้งแรกที่เราได้มาเยือนบ้าน Nitt Press ด้วยตัวเอง พบว่าสถานที่เป็นห้องแถวหนึ่งคูหาซ่อนตัวอยู่บนถนนพรานนก และถูกฉาบไปด้วยไฟนีออนสีแดงฉาน มีโปสเตอร์หนังยุคเก่าอัดเฟรมวางเรียงราย ข้างผนังแปะโปสเตอร์คอนเสิร์ตที่จัดโดยกลุ่ม The World May Never Know ซึ่งคืออีกหนึ่งผู้ร่วมจัดงานจับหูชนปาก บริเวณทางที่จะไปสู่หลังบ้านเป็นที่ตั้งของ turntable พร้อมแผ่นเสียงมากมาย และ ‘dubwise’ อีกอุปกรณ์ที่ขาดไม่ได้ที่ทักทายผู้ร่วมงานตั้งแต่เปิดประตูเข้ามา เพราะหนนี้ก็มี แก๊ป—เจษฎา ธีระภินันท์ หรือที่เรารู้จักกันดีในชื่อ แก๊ป T-Bone จะมาพูดคุยกันแบบใกล้ชิดกับแฟนเพลงตั้งแต่สองทุ่มถึงเที่ยงคืน เกี่ยวกับโปรเจกต์เดี่ยวของเขาในชื่อ GA-PI พร้อมด้วยวง Rootsman Creation, Fyah Burning และ Pinn Ball ที่จะมาแจมใน live session ค่ำคืนนี้กันด้วย เวลาสองทุ่มนิด ๆ หลังจากเราจัดหาแก้วเครื่องดื่มประจำตัวได้แล้ว … Continued

‘ให้ความรักเป็นหนังสือ เพียงแค่เธอค่อย ๆ อ่าน’ เรื่องราวชีวิตจริงของผู้ชายชื่อ ‘หนุ่ม กะลา’

Published

  • Writer: Gandit Panthong
  • Photographer: Chavit Mayot

“ว่าไปแล้วกว่าจะมาถึง 19 ปี ผมผ่านอะไรมาเยอะเหมือนกันนะ” หนุ่ม—ณพสิน แสงสุวรรณ หรือ หนุ่ม กะลา ที่หลาย ๆ คนรู้จักกล่าวกับผมไว้ก่อนที่จะเข้าสู่ช่วงการสัมภาษณ์ เรานัดกันเพื่อที่จะคุยว่าจากจุดเริ่มต้นในการเล่นดนตรีมันเกิดขึ้นตอนไหน ไปจนถึงเรื่องราวความผิดหวังที่เกือบทำให้เขาสูญเสียความเป็นตัวเองไปตลอดชีวิต อะไรทำให้ผู้ชายคนนี้ยืนขึ้นอีกครั้ง การเดินทางที่ผ่านมาตลอดระยะเวลา 19 ปีกว่าจะได้มีคอนเสิร์ตใหญ่ครั้งแรกในชีวิตของตัวเองเป็นอย่างไร เขาพร้อมแล้วที่จะเล่าพวกเราฟัง ณ บัดนี้  อะไรทำให้เด็กผู้ชายชื่อ หนุ่ม อยากเป็นนักร้อง ผมเองก็จำไม่ได้หรอกนะว่าชอบร้องเพลงเมื่อไร แต่มันจะมีรูปภาพรูปนึงที่แม่เอาให้ผมดู ภาพนั้นเป็นภาพผมถือไมโครโฟนตอนอายุ 2 ขวบครึ่ง ผมร้องเพลง บัวลอย ของวง คาราบาว ผมคิดว่านั้นน่าจะเป็นจุดเริ่มต้นกับการหมกหมุ่นในการเล่นดนตรี เพราะแม่บอกว่า ผมจะต่างจากเด็กคนอื่น ผมชอบฮัมเพลงและมีพวกกีตาร์เด็กเล่นอยู่กับตัวตลอดเวลา ชอบตีกลอง หาของมาเคาะ คือทุกเรื่องราวของผมมันเกี่ยวกับดนตรีมาตลอด หลังจากนั้นพอขึ้น ป.3 ก็เริ่มอยู่วงโยธวาทิตแล้ว เป่าทรัมเป็ตมาตั้งแต่ตอนนั้น Hotwave Music Awards เวทีขาสั้นที่ต้องลองสักครั้งในชีวิต  จุดที่ทำให้มาประกวดเนี่ยมันเป็นเรื่องบังเอิญมาก ๆ มันเริ่มจากผมชอบตามดูคอนเสิร์ตของคลื่นเขา สมัยก่อนเขาจะมีจัดทุกวันเสาร์ มีนักร้องเยอะแยะมาออกรายการนี้เต็มไปหมด เราเองก็ได้มีโอกาสเจอรุ่นพี่คนนึงเขาบอก ‘เฮ้ยมันมีการประกวดวงดนตรีด้วยนะ น้องลองไปลงสิ’ … Continued

Radiolab 4 วงดนตรีชื่อคุ้น กับโชว์ที่คาดไม่ถึงจนเราอยากให้คุณหมุนคลื่นให้เจอ

Published

  • Story and photos by Montipa Virojpan

5 เมษายน 2561 เมื่อวันพฤหัสที่ผ่านมา เราพุ่งตัวไปที่ De Commune ทันทีที่เลิกงาน เพราะเขามีงาน Radiolab คอนเสิร์ตที่รวบรวมวงน้ำดีแต่เราอาจไม่เคยลองดูหรือฟังพวกเขาเล่นสดในรูปแบบนี้ที่ไหนมาก่อน เพราะทุกวงก็เป็นที่คุ้นชื่อกันทั้งสิ้น นำทีมโดย Summer Dress ที่ชวน Zweed n’ Roll, Two Pills After Meal และน้องใหม่แต่หน้าไม่ค่อยใหม่แล้วอย่าง Mole the Explosion มาบรรเลงเสียงสังเคราะห์ที่ประกอบไปด้วยสารตั้งต้นที่แปลกใหม่ให้เราร่วมทดลองไปพร้อม ๆ กัน เวลาสามทุ่มก็ได้เวลาเริ่มโชว์ของ Mole the Explosion วงดนตรี ambient experimental ที่ได้ element ของเพลงแจ๊ส ร็อก อิเล็กทรอนิก มาอัดแน่นไว้ในเพลงของพวกเขา ซึ่งก่อนหน้าพวกเขาก็คือวงที่ชื่อ Soar Flit แล้วก็ได้พักวงไปเพราะมีการเปลี่ยนแปลงสมาชิก จนกระทั่งผุดมาเป็นโปรเจกต์ชื่อใหม่แต่แนวเพลงยังเป็นสไตล์ที่เราเคยฟังจากงานก่อน โดยเพลงแรกที่พวกเขาเล่นคือ ชายคนแรกผู้มอบดอกไม้ให้เธอ กับท่วงทำนองที่ล่องลอยชวนฝัน ฟังดูโรแมนติก พาเราเคลิบเคลิ้มไปได้พักนึง จนเพลงที่สอง เพลงนี้ได้ ปิ๊ก … Continued

Tuan Thailand ก้าวใหม่ครั้งสำคัญของ ทวน Day Tripper ที่จะทำให้ร็อกไทยไปเวทีโลก

Published

  • Writer: Montipa Virojpan

เราอาจรู้จัก ทวนทอง นิยมชาติ ในฐานะของมือกีตาร์วง Day Tripper และ Futon แต่อันที่จริงแล้วเขาเองก็มีผลงานเดี่ยวที่ใช้ชื่อว่า Tuan Thailand กับแนวเพลงฮาร์ดคอร์ นอยซ์ร็อก ที่ไปโด่งดังในประเทศญี่ปุ่นและมีแฟนคลับต่างชาติมากมายให้การสนับสนุนเขาและสินค้าที่อยู่ภายใต้ชื่อเขาไม่ว่าจะเป็นกีตาร์หรือเอฟเฟกต์ และในเดือนที่ผ่านมาเขาก็ได้ปล่อยงานชุด Land of Smile นับเป็น 6 ปีให้หลังจากอัลบั้มเดี่ยวชุดแรก Black Painting พร้อมซิงเกิ้ลเปิดตัว พันไมล์ (1,000 miles) วันนี้ขณะที่กำลังจะได้รับชมคอนเสิร์ต ‘The Last Seven Days’ ที่เขาและ จี—จีระศักดิ์ ภักดีโต มือเบสของวง ร่วมกันจัดงานครั้งนี้เพื่อระลึกถึง อู—วาสิต มุกดาวิจิตร เพื่อนร่วมวงที่ล่วงลับไป เราจึงชวนเขาและจี รวมถึง ป๊อก Stylish Nonsense ที่นั่งอยู่ด้วยกันกับพวกเขา มาพูดคุยถึงเรื่องราวของ Day Tripper ในอดีต และก้าวต่อไปของร็อกไทยที่จะไปโด่งดังในซีนโลก จากฝีมือของ Tuan Thailand พอ Day Tripper ออกอัลบั้มแรกมาแล้วพี่จีก็ไปเมืองนอกเลย หลังจากนั้นวงทำยังไง … Continued

6 หนังเก่าน่าดู แถมมีเพลงฮิตติดหูจนเราต้องเปิดเพลงมาฟังซ้ำ

Published

  • Writer: Peerapong Kaewthae
  • Art Director: Thanaporn Sookthavorn

ก่อนหน้านี้ผมได้อ่านบทความอันหนึ่ง ชื่อว่า ‘Perspective: Millennials seem to have little use for old movies‘ ซึ่งคนเขียนให้ความเห็นว่าเด็กรุ่นใหม่หรือที่เราเรียกว่า Millennials อันหมายรวมถึงคนที่อายุยังไม่ถึง 30 เนี่ย ไม่ค่อยให้ความสำคัญหรือไม่ดูหนังเก่ากันแล้ว เพราะพวกเขามองว่าหนังคือแฟชันอย่างหนึ่งที่ต้องใหม่และยังตอบสนองสิ่งที่พวกเขาต้องการได้ ซึ่งหนึ่งในตัวอย่างที่เขายกมาคือหนังเรื่อง ‘Spider-Man’ ที่บอกว่าการรีเมกหนังเรื่องนี้คือการหักหลังเหล่าวัยรุ่นที่ชื่นชอบหนังเรื่องนี้ ถ้าเทียบกันระหว่างเวอร์ชันแรกที่ Tobey Maguire กับเวอร์ชันที่ Andrew Garfield เล่น ก็พอเห็นความแตกต่างได้นะ เพราะประเด็นสำคัญในหนัง Spider-Man คือตัวเอกที่เป็นเพียงวัยรุ่นแต่ต้องแบกรับพลังเหนือมนุษย์กับความรับผิดชอบอันใหญ่ยิ่ง ที่ต้องบาลานซ์ระหว่างชีวิตส่วนตัวและชีวิตฮีโร่ให้สมดุล ถ้าพลาดไปเพียงนิดเดียวก็อาจทำให้ชีวิตวอดวายได้ แต่เวอร์ชันรีเมกกลับตัดทอนส่วนนี้ลงและให้ความสำคัญกับฉากบู๊มากกว่า ทำให้เขามองว่าเด็กรุ่นใหม่นี่ไม่ได้สนใจศิลปะของหนังเลย ต่อให้เราเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยกับประเด็นนี้ เราก็อยากให้เด็กรุ่นใหม่หันมาดูหนังเก่ากันมากขึ้น เพราะมีหนังดี ๆ มากมายไม่ได้ถูกพูดถึงเพราะตัวเองเกิดไม่ทัน แต่ถ้าเราได้ศึกษาหนังเก่า ๆ ก็อาจทำให้เราดูหนังยุคใหม่ได้เข้าใจมากขึ้นก็ได้ เพราะแรงบันดาลใจมันก็ส่งต่อกันมาเรื่อย ๆ แหละ เพลงก็เป็นอีกหนึ่งส่วนประกอบที่เราควรศึกษากันไว้ หนังเก่าหลายเรื่องก็มีเพลงประกอบที่ดีมาก ๆ ทั้งช่วยส่งให้หนังเข้าไปหนังอยู่ในใจพวกเราได้ง่ายขึ้น และผลักดันให้ตัวเองเข้าถึงหูคนฟังในวงกว้างมากขึ้น เราเลยอยากลิสต์หนังเก่าที่มีเพลงประกอบเด่น ๆ ให้ทุกคนลองดู เผื่อได้ฟังเพลงแล้วจะอยากดูหนังมากขึ้น มีเรื่องอะไรบ้างลองไปดูกัน She’s All That วัยรุ่นทุกคนน่าจะต้องเคยได้ยินเพลง … Continued

แด่ทุกความทรงจำในวัยเยาว์กับ Ready Player One

Published

  • Writer: Gandit Panthong

เรื่องราวความทรงจำในวัยเด็กมักหอมหวานอยู่เสมอ และบางครั้งการเติบโตก็ทำให้เราพบกับประสบการณ์ใหม่ ๆ ที่เข้ามาบดบังภาพจำในอดีตให้เลือนหายไปตามกาลเวลา ซึ่งแม้ตัวเราเองก็ไม่รู้ตัวว่าเรื่องราวเหล่านั้นมันหายไปตอนไหน ภาพยนตร์ที่เราจะหยิบมาแนะนำให้ทุกคนได้รู้จักกันในครั้งนี้คือ Ready Player One หรือชื่อภาษาไทยว่า ‘สงครามเกมคนอัจฉริยะ’ ที่จะหยิบทุกความทรงจำในวัยเด็กของคุณให้กลับมามีชีวิตอีกครั้งโดยทั้งเรื่องจะถูกเดินเรื่องด้วย ‘เกม’ ส่วนเรื่องราวจะเป็นเช่นไร ขอเชิญทุกท่านมาร่วมหาคำตอบไปพร้อม ๆ กันครับ Ready Player One จะเล่าถึงเรื่องราวของโลกสมัยใหม่ในยุคคริสต์ศักราช 2045ที่วิวัฒนาการก้าวล้ำทันสมัย มีการแบ่งชนชั้นการใช้ชีวิตอย่างเห็นได้ชัด คนรวยเป็นใหญ่ คนไร้ที่อยู่อาศัยต้องอยู่รวมกันในสถานที่ที่ไม่มีแม้แต่พื้นที่ที่จะหายใจ แต่ในความเลื่อมล้ำทางสังคมนี้เอง สิ่งที่เดียวจะประสานทุกชนชั้นไว้ด้วยกันกลับเป็นเกมรูปแบบใหม่ที่ถูกสร้างโดยผู้สร้างชายที่มีชื่อว่า Haliday และ Ogden ซึ่งตัวเกมจะเป็นรูปแบบของการจำลองโลกในรูปแบบเสมือนจริงเพียงแค่คุณสวมอุปกรณ์แว่นตาลงไปคุณก็จะได้เข้าไปสู่โลกของเกมที่เรียกตัวเองว่า OASIS โลกที่คุณจะเป็นใครก็ได้ จะเล่นเกมแบบไหนก็ได้ดั่งที่ใจคุณต้องการ จะจีบสาว จะเล่นคาสิโนหรือแม้กระทั่งเช่าโรงแรมม่านรูดเพื่อนอนหลับคุณก็สามารถทำสิ่งนั้นได้ เกมนี้เป็นเกมที่ยึดเหนี่ยวใจประชากรยุค 2045 ได้เป็นอย่างดี จนกระทั่งวันนึง Haliday ได้เสียชีวิตลงพร้อมกับประกาศไว้ว่า หากใครตามหากุญแจ 3 ดอกที่เขาซ่อนไว้อยู่ในเกมนี้ได้ครบ คุณจะได้เป็นเจ้าของบริษัทเกมนี้โดยทันที เอาล่ะครับเมื่อเรื่องเงินเข้ามามีเอี่ยวในเรื่องราวเหล่านี้มีหรือประชาชนทั่วไปที่เล่นเกมนี้จะไม่สนใจ ทุกคนภายในเกมร่วมกันตามหา easter egg นี้อย่างเอาเป็นเอาตายบางครั้งถึงขนาดเข้าไปนั่งอยู่ในสถานที่บันทึกความทรงจำของ Haliday อยู่เป็นปี ๆ เพื่อที่จะได้พบกับกุญแจทั้ง 3 ดอก แต่หารู้ไม่ว่ามันไม่ได้มีแค่คนทั่วไปที่เล่นเกมนี้สิครับ … Continued

ระลึกถึง Jóhann Jóhannsson นักประพันธ์ดนตรีประกอบหนังที่เราคิดถึง

Published

  • Writer: Peerapong Kaewthae
  • Art Director: Thanaporn Sookthavorn

หลายคนอาจรู้จัก ‘Arrival’ ในฐานะหนังมนุษย์ต่างดาวแสนพิศวงว่า ไอ้ยานรูปมันฝรั่งมันจะเอาอะไรกับมนุษย์ หรือรู้จัก ‘Sicario’ คือหนังแอ็คชั่นสุดมันที่ตามติดการเอาชีวิตรอดของ FBI หญิงจากเมืองแห่งอาชญากรรมอย่างเม็กซิโก และรู้จัก ‘The Theory of Everything’ ว่าเป็นหนังโรแมนติกสุดดราม่าที่สร้างจากชีวประวัติของ สตีเฟน ฮอว์กิง นักฟิสิกส์ทฤษฎีและนักจักรวาลวิทยาระดับโลก แม้หนังทั้งสามเรื่องจะมีโทนหนังและอารมณ์ที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง แต่มีคนคนเดียวกันอยู่เบื้องหลังในการสร้างสรรค์บรรยากาศของหนังผ่านเสียงเพลง เติมเต็มความหวังในฉากแสนสุข หรือเติมเต็มความทุกข์ในฉากที่แสนเศร้า บีบคั้นความกลัวของเราด้วยตัวโน๊ตไม่กี่ตัว มีอัจฉริยะที่ได้รับการยอมรับในสากลโลกไม่กี่คนที่ทำได้แบบนั้น หนึ่งในนั้นก็คือ Jóhann Jóhannsson ถ้าใครเป็นแฟนเพลงประกอบหนังน่าจะต้องรู้ข่าวคราวการจากไปของดาวดวงนี้ เพราะ Jóhann Jóhannsson เสียชีวิตด้วยวัยเพียง 48 ปีเท่านั้น แม้จะยังไม่มีสาเหตุการตายออกมาให้กระจ่างชัด แต่ก็ไม่ช่วยคลายความเศร้าที่เราต้องสูญเสียอัจฉริยภาพคนหนึ่งไปอย่างน่าเสียดาย Jóhannsson เป็นที่รู้จักในวงกว้างตั้งแต่ได้รับรางวัลลูกโลกทองคำสาขาเพลงประกอบยอดเยี่ยมจากการทำดนตรีประกอบให้กับหนังเรื่อง ‘The Theory of Everything’ แถมยังได้เสนอเข้าชิงอีกหลายรางวัลจากสกอร์สุดหลอนจากหนัง ‘Sicario’ และ ‘Arrival’ เรียกได้ว่าเป็นคอมโพสเซอร์คู่บุญของผู้กำกับชื่อดังของหนังทั้งสองเรื่องอย่าง Denis Villeneuve เลยทีเดียว ในการร่วมงานกันครั้งแรกกับหนัง ‘Prisoner’ ก็สร้างความประทับใจให้คนรักหนังได้ทันที หนังเกี่ยวกับพ่อผู้ตามหาลูกสาวที่หายไปด้วยวิธีการที่ป่าเถื่อนผิดมนุษย์ และเล่าเรื่องด้วยภาพเป็นหลักแต่กลับได้ดนตรีประกอบมาทำให้หนังน่าอึดอันขึ้นอย่างน่าอัศจรรย์ จากการนำเอาเสียงดนตรีแห่งพิธีกรรมอันน่าขนลุกมาผนวกเข้ากับเสียงครวญครางอันน่ากลัวของดิจิทัล กระตุ้นความกดดันผลักให้คนดูตกอยู่ในห่วงฝันร้ายอันไร้ทางออก บังคับให้เราต้องวิ่งพล่านไปกับจินตนาการอันเลวร้าย Jóhann Jóhannsson ยังถูกยกยอว่าเป็นคนที่เปลี่ยนมุมมองที่คนในวงการหนังมีต่อดนตรีประกอบหนังไปอย่างสิ้นเชิง … Continued