Abstraction XL สะพานควายทัวร์ ต้นตำรับความดำดิ่ง ล่องลอย เดือดดาล ในวงเดียว
- Story and photos by Montipa Virojpan
2 มิถุนายน 2560
จำไม่ได้ว่าครั้งแรกที่ได้ดู Abstraction XL คือเมื่อไหร่เพราะนานมากแล้ว แต่ที่จำได้แม่นยำคือมีช่วงนึงเราจะฟังเพลงของวงนี้บ่อยมาก เพราะติดใจในความเกรี้ยวกราด ดิบกร้าน และระบายออกซึ่งความคับข้องคับแค้นใจได้อย่างสุดลิ่มทิ่มประตู เมื่อมีชื่อของวงนี้ปรากฎในไลน์อัพงานไหนเราก็จะพยายามจะไปดู แต่ถ้าถามถึงโชว์ที่ยาวนานและประทับใจที่สุดที่เราเคยดูวงนี้เล่น คือที่งาน Psych Out 2 ซึ่งเป็นการกลับมาในรอบหลายเดือนของพวกเขาหลังจากไม่ได้เล่นสดมานาน โดยครั้งนั้นพลังของแฟนเพลงและของวงเองก็พุ่งพล่านสนุกสนานสุด ๆ มีการอังกอร์ขอเพลงกันแบบไม่ลดละ และสำหรับงานที่จัดขึ้นในค่ำคืนนี้ที่ Buffalo Bridge Gallery สะพานควาย ถือว่าเป็นอีกโชว์ที่เต็มอิ่ม ยาวนาน และเป็นโชว์ที่ทำให้เราได้เห็นสีสันใหม่ ๆ ในเพลงของวงอัลเทอร์เนทิฟสายดุดิ่งวงนี้
เรามาถึงงานก่อนเวลาที่แจ้งในโปสเตอร์เล็กน้อย ขณะนั้นก็มีคนดูเข้ามานั่งในงานบ้างแล้ว และมีการฉายวิชวลภาพลวงตาจิตหลุด พร้อมบรรเลงเพลง glitch, minimal r&b, synth wave, ambient สุดเพลิน ซึ่งเป็นอะไรที่แปลกใหม่สำหรับงานที่จัดโดยวงจาก Panda Records โดยเพลงสายทดลองเหล่านั้นถูกเล่นยาวนานกว่าหนึ่งชั่วโมง จนสมาชิกวงเข้ามาประจำที่ที่เซ็ตเวทีตรงมุมห้องของชั้น 5 ของแกเลอรี่ ผู้ชมที่นั่งรอกันก็ทยอยลุกขึ้นยืนและเขยิบเข้ามาใกล้เซ็ตแบบไม่ต้องส่งสัญญาณใด ๆ พวกเขาเริ่มบรรเลงสามเพลงแรกที่ไม่มีเนื้อร้อง เป็นเหมือนบทเพลงที่บอกเล่าความสัมพันธ์ในการเป็นเพื่อนร่วมวงของเบิร์ด ชิ และลี่ โดยกลิ่นอายของเพลงที่ถูกบรรเลงออกมามีทั้งเพลงที่รุนแรงทว่าแฝงด้วยความหม่นหมอง เพลงที่มีโทนสว่าง ได้อิทธิพลจากจังหวะดนตรีพื้นเมืองแอฟริกัน แต่กระนั้นก็ตบกลับมาในท่วงทำนองแบบร็อกแอนด์โรล จากนั้นเบิร์ดก็กล่าวทักทายคนดูและอธิบายที่มาของทั้งสามเพลงนี้ ระหว่างนั้นก็มีคนตะโกนว่า ลี่ ๆๆๆๆ ซึ่งเป็นกิมมิกสนุกสนานของทุกงานที่ลี่ไปปรากฎตัว ก่อนจะเล่นเพลงสุดท้ายที่เป็นดนตรีสโตนเนอร์หน่วงเมา เอกลักษณ์ของวงนี้ที่เราคุ้นเคยกันดี
จากนั้นพวกเขาก็ให้เวลาทั้งตัวเองและคนดูได้พักกันประมาณ 10 นาที พอสามทุ่มสี่สิบ พวกเขาก็กลับมาพร้อมเล่นบทเพลงที่เราคุ้นเคยจากในอัลบั้ม สิ่งที่ทำให้เราชอบวง Abstraction XL มาก ๆ คือการถ่ายทอดอารมณ์เพลงออกมาได้ตรงตามความหมายและทำให้เรารู้สึกถึงคำเหล่านั้นได้ การตะโกนโหวกเหวกแบบไม่ห่วงมาด บ้าคลั่ง และดิบเถื่อน แต่จริงใจทำให้เราชื่นชมพวกเขาอยู่ทุกครั้งไป และก็เป็นอีกครั้งที่พวกเขาได้โชว์เพลงใหม่จากอัลบั้มที่กำลังจะปล่อยออกมาอีกไม่นานนี้ แม้ในช่วงแรกของโชว์จะมีปัญหาทางเทคนิกเกิดขึ้นอยู่ประมาณสองช่วง แต่สังเกตได้ว่าแฟน ๆ ต่างยืนรอเอาใจช่วยให้เครื่องไม้เครื่องมือกลับมาใช้งานได้ตามปกติ เมื่อเสียงกลับมาแล้วทุกคนตบมือเชียร์กันเสียงดัง และพวกเขาก็เล่นเพลง รอ ซึ่งเป็นเพลงใหม่ โดยเบิร์ดโห่ร้องแบบสุดเสียงเมื่อถึงท่อนว้าก คล้ายกับว่าได้ปลดปล่อยความหงุดหงิดใจที่เสียงกีตาร์ไม่ออกแอมป์อยู่หลายครั้ง
จากนั้นจึงกลับมาเล่นเพลงจากอัลบั้มแรก No GPS ที่แฟนเพลงต่างร้องกันได้สุดเสียง และเป็นเพลงโปรดของเราด้วย ตามมากับเพลง มองออกไป ที่แฟน ๆ โห่ร้องกันตั้งแต่อินโทรก่อนจะตามมาด้วยเสียงร้องตามดังสนั่น ลีลาในเพลงนี้ของพวกเขาช่างร้ายกาจ เป็นข้อพิสูจน์ได้ทันทีว่าถ้าพูดไม่ค่อยเก่ง ก็ให้ดนตรีเป็นเครื่องมือสื่อสารแทน และวงนี้ก็ทำได้ดีมาก ตามมาด้วยเพลงล่าสุดที่เพิ่งปล่อยออกมา By Myself อัลเทอร์เนทิฟสดใสมีกลิ่นชูเกซท้ายเพลงที่หลายคนก็ร้องกันได้แล้ว กลุ่มแฟนเขาเหนียวแน่นจริง ๆ ต่อด้วยเพลงร้อน ที่วงก็แสดงออกมาได้ร้อนแรงสมกับชื่อเพลง เดือดไปหมด ก่อนจะเป็นเพลง ท่องไป ที่มีช่วงนึงเป็นห้องที่ให้ลี่เล่นเบสแบบไม่เกาะจังหวะ ก่อนจะกลับมาที่บีทหนักแน่นและให้ลี่โซโล่เบสปิดท้ายในช่วงหลัง
แล้วจึงเป็นเพลง ลาลับ ที่สะท้อนความไม่จีรังของชีวิตที่ทุกคนพร้อมใจกันร้องท่อน กุสลา ธมฺมา กันดังลั่น ทั้งที่เพลงดูจะให้คนปลง แต่กลายเป็นความสะใจส่วนตัวยังไงไม่รู้ที่ได้ร้องท่อนนั้น ตามมาด้วยเพลง ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นเพลงสุดท้าย พวกเขาใส่กันเต็มตั้งแต่ต้นเพลง ผู้ชมเองก็ไม่น้อยหน้าตะโกนกันคอแหบคอแห้ง บางคนก็ผงกหัวอย่างเมามัน ลี่ก็พุ่งตัวไปซบเบิร์ดอยู่หลายที ก่อนจะกลับมาประจำที่แล้วนอนหงายบรรเลงเบสอย่างได้อารมณ์ ส่วนเบิร์ดก็เอาคืนลี่ด้วยการลงไปนอนทับ เป็นภาพที่สนุกและอบอุ่นมาก ซึ่งพวกเขาก็จบเพลงนี้ด้วยการเริ่มบรรเลงอิมโพรไวส์ไปเรื่อย ๆ จนกลายเป็นทำนองเพลง krautrock ได้ไงไม่รู้ แต่เรารู้สึกทึ่งกับการเปลี่ยนผ่านของสุ้มเสียงในช่วงนี้มาก และเมื่อเพลงจบ คนยังไม่จบ ร้องอังกอร์กันอีกครั้งจนพวกเขากลับมาเล่นอีกเพลงเป็นการส่งท้าย
ช่วงหลังมานี้เราเริ่มเห็นหลายวงที่จัดงานดนตรีเป็นของตัวเอง แบบเล่นเองไม่ต้องให้ใครชวน หรือชวนใครมาเล่น เซิร์ฟคนดูที่เป็นแฟนเพลงของวงเพียงกลุ่มเดียว ซึ่งเราว่าเป็นวิธีที่โอเคเหมือนกันนะ เพราะการจัดการไม่ยุ่งยากและศิลปินก็ได้กลุ่มคนดูที่อินกับเพลงของพวกเขาจริง ๆ อีกอย่างที่ชื่นชมเลยคือการจัดงานที่ให้ซื้อก่อนล่วงหน้าและจำกัดจำนวนผู้เข้าชม ทำให้การจัดการง่ายขึ้นและบริเวณงานไม่แออัดจนเกินไป ส่วนงานครั้งนี้เรียกได้ว่าจบไปอย่างประทับใจกันถ้วนหน้า แฟนเพลงได้ฟังหลาย ๆ เพลงจากในอัลบั้มเก่า รวมถึงเพลงใหม่ ๆ ที่น่าจะได้ฟังแบบ audio กันเร็ว ๆ นี้ ยังไงก็รอติดตามพวกเขากันด้วยนะ เป็นอีกวงที่เพลงไม่ธรรมดาเลยจริง ๆ
