เยื้องย่างไปกับบทเพลงสุดโรแมนติกใน Singha Light Live Series Vol 2.3 Cigarettes After Sex
- Story and photos by Montipa Virojpan
19 พฤษภาคม 2560
คอนเสิร์ตครั้งนี้อาจเป็นงานที่หลายคนรอคอย กับการที่จะได้ฟังเพลงสุดละมุน Nothing’s Gonna Hurt You Baby หรือ Affection จากวงดนตรี ambient pop ที่มาไกลจากสหรัฐอเมริกาอย่าง Cigarette After Sex ตอนนี้ก็ได้เวลาที่เราจะมาเล่าประสบการณ์การชมคอนเสิร์ต Singha Light Live Series 2.3 – Cigarette After Sex ให้ทุกคนได้อ่านกันอย่างเช่นเคย
หลังจากที่ตะบี้ตะบันปั่นบทสัมภาษณ์ Greg Gonzalez หรือ Cigarette After Sex เสร็จและโพสต์ลงเพจเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เรากลับพบว่า อิเห้ สองทุ่มครึ่งแล้วนี่หว่า นั่งแท็กซี่จากออฟฟิศที่ว่าใกล้ Voice Space แล้วก็ยังรถติด ก็ฝนตกด้วยอะเนาะ สรุปคือไปไม่ทันดู อาจารย์ต้อม อัศจรรย์จักรวาล หรือ Thom AJ Madson นะคะ ซึ่งบอกตรงนี้เลยว่าเสียใจมากเพราะนอกจากเฟสติวัลทางเลือกแล้ว นาน ๆ ก็จะได้ดูเขาในเมืองสักหน เพลงของเขาจะเป็นประมาณ ambient experimental ที่มีความลุ่มลึก อ่อนโยน และแข็งกร้าวอยู่ในคราวเดียว แต่ไม่รู้ว่าเซ็ตนี้แกเล่นออกมาประมาณไหน ซึ่งก็นั่นแหละค่ะ พยายามเบียดตัวฝ่าฝูงชนเข้าฮอลได้สำเร็จก็เห็นคนนั่งพื้นตบมือแปะ ๆ เป็นทีว่าอาจารย์ต้อมเล่นจบแล้ว แง
หลังจากนั่งหงอยได้แปปนึง ภูมิ วิภูริศ ก็ขึ้นเล่น เราไม่ค่อยได้ดู full show ของภูมิเท่าใดนักจนตอนนี้ก็ถือว่าเป็นโอกาสดีมาก ๆ ที่จะลองตั้งใจฟังเขาเล่นแบบสด ๆ ตรงหน้า หลังจากตั้งสติได้จากความเฟลเมื่อครู่ของตัวเองแล้วก็พบว่า เวทีตกแต่งได้สวยงามมาก เป็นผ้าแก้วหลายเลเยอร์ห้อยลงมาจากข้างบน ขลับกับแสงที่สะท้อนจากลูกบอลดิสโก้และสปอตไลต์ระยิบระยับอร่ามตา อบอุ่นมาก คือคาดหวังแล้วว่าโชว์นี้ต้องฟีลดีแน่นอน ซึ่งภูมิก็ขึ้นเวทีมาพร้อมกับเพื่อน ๆ นักดนตรี หนึ่งในนั้นมี ปอม แห่งวง Part Time Musicians มายืนตำแหน่งเบสด้วย เมื่อเล่นเพลงแรก Run ซิงเกิ้ลที่สามอัลเทอร์เนทิฟโฟล์กสว่าง ๆ จบ ภูมิก็ทักทายผู้ชมอย่างนอบน้อม ต่อด้วยเพลง Paper Throne เพลงที่จังหวะสนุกขึ้นมาหน่อย ซึ่งยอมรับเลยว่าโซโล่ของเพลงนี้สะกดเราไม่น้อย
จากนั้นก็เป็นเพลงช้าสุดเพราะอย่าง Trial and Error ที่ฟังแล้วเหงาจับใจ และเซอร์ไพรส์มากที่เล่นคัฟเวอร์เพลง Redbone ของ Childish Gambino ที่เพื่อนมือกีตาร์ของภูมิเก็บโน้ตจำมาทุกเม็ด เปรี้ยวจริง ๆ ต่อด้วย Beg เพลงที่ภูมิบอกว่าแต่งเป็นเพลงแรกตอนอายุ 18 และเล่นครั้งแรกตอนเรียนอยู่นิวซีแลนด์ ซึ่งเป็นเพลงเฮิร์ท ๆ ที่ทำนองสดใส และเราชอบมากเป็นพิเศษ ตามมาด้วย Strangers in a Dream ป๊อปที่มีกลิ่นอัลเทอร์เนทิฟสุดเท่และฟังก์เบา ๆ ในช่วงท้าย สำหรับเราแล้ว เพลงของภูมิไม่ได้เป็นโฟล์กจ๋า ๆ อย่างที่หลายคนเข้าใจ แต่ในอัลบั้ม Manchild นี้รวมไปด้วยเพลงที่มีสีสันหลากหลาย ได้อิทธิพลจากแนวเพลงต่าง ๆ ทำให้เพลงมีความโดดเด่นต่างกันไป แต่มีจุดร่วมคือสำเนียงกีตาร์และเสียงร้องของภูมิที่เราอยากให้ทุกคนได้ลองฟัง ก่อนจะปิดท้ายที่เพลง Adore ที่นำมา re-arrange ใหม่ได้ละมุนละไมเป็นช่วงที่เหมาะจะส่งเข้าโชว์ของวงต่อไปได้เป็นอย่างดี
เวลาสี่ทุ่มครึ่งตามที่ตารางบอกแบบเป๊ะ ๆ ไฟบนเวทีก็หรี่ลง ทำให้เห็นเพียงวิชวลแนวดิ่งคล้ายปกซิงเกิ้ล Apocalypse แต่เป็นสีพาสเทลผสมกัน พร้อมด้วยไฟส้มสลัว ๆ ที่ฉายขึ้นมาในเวลาเดียวกับเพลง easy listening ที่ถูกเล่นจนจบ ก่อนจะตัดมาเป็นเสียงผู้ประกาศในวิทยุและการเปิดตัวของสมาชิกวง Cigarette After Sex ที่ขึ้นมายืนประจำที่พร้อมเสียงกรี๊ดเนืองแน่นจากแฟนเพลง และเพลงแรกที่พวกเขาบรรเลงคือ K. ซิงเกิ้ลแรกที่ปล่อยออกมาจากอัลบั้ม self-titled ที่คนดูสามารถร้องตามกันได้แล้ว จากนั้นก็เป็นเพลง Starry Eyes กับเนื้อร้องที่จำง่ายแบบทุกคนร้องพร้อมกันได้ไม่ยาก ซึ่งพอจบเพลงนี้ เกร้กก็เดินไปดื่มน้ำ ระหว่างนั้นเองก็มีคนตะโกนขึ้นมาโดดเด่นเสียงเดียวว่า ‘I love you!’ ทีแรกเรานึกว่าเกร้กจะไม่เล่นด้วย แต่พอเดินกลับมาที่ไมค์พี่แกก็ตอบว่า ‘I love you, too’ อ้ะ ๆ ยาหอมเรียกเสียงกรี๊ดกันไปจ้ะ
แล้วพวกเขาก็บอกว่าจะเล่นเพลงที่ทำออกมาเป็นเพลงแรกสุดซึ่งก็คือ I’m a Firefighter เพลงเศร้าสุดหม่นที่เราเลิฟสุดจาก EP I แบบไม่คิดว่าจะสรรหาเมโลดี้และท่วงทำนองที่เศร้าบาดพอ ๆ กับเนื้อร้องได้อีกแล้ว แต่บรรยากาศรอบ ๆ ตัวเราบางอย่างทำให้ความที่ควรจะร้องไห้อินไปกับเพลงนี้กลับร้องไม่ออกแม้แต่น้อย นั่นคือ มีคนพูดว่า ‘กูจะหลับแล้ว ขอหมอนหน่อย’ และหัวเราะคิกคัก ๆ กับกลุ่มเพื่อน เราก็ได้แต่ถอนหายใจส่ายหัวเบา ๆ แล้วย้ายที่ยืนเอาล่ะเนาะ แล้วพวกเขาก็หยิบเพลงจากอัลบั้มใหม่ที่ชื่อ Sunsetz มาเล่นให้เราฟังเรียกน้ำย่อยก่อนจะออกมาให้ฟังเต็ม ๆ ในเร็ววันนี้
ต่อกันที่ Dreaming of You เพลงสุดหวานสะกดอารมณ์ และเพลงหม่นล่าสุดที่เพิ่งปล่อยมาให้ฟังใน YouTube เมื่อไม่กี่วันก่อนอย่าง Each Time You Fall In Love ก่อนที่จะเป็นเพลงดังที่ทำให้หลายคนรู้จักพวกเขาใน Nothing’s Gonna Hurt You Baby ต่อด้วย Keep On Loving You แล้วเขาก็ขอบคุณแฟนเพลงชาวไทยที่มาชมคอนเสิร์ตในค่ำคืนนี้ เกร้กบอกว่าเพลงต่อไปคือเพลงที่มอบให้กับคนเมาและกำลังต้องการให้คนที่รักมาอยู่ใกล้ ๆ พออินโทรเพลง Affection ขึ้นเท่านั้นล่ะ เสียงกรี๊ดก็กระหึ่มอีกรอบ และคนดูก็ร้องตามได้แบบให้คะแนน 10/10 และต่อด้วยอีกเพลงจากอัลบั้มใหม่อย่าง Apocalypse ก่อนจะเป็นอังกอร์ที่เลือกปิดท้ายกันด้วยเพลง Young & Dumb อย่างอบอุ่นสวยงาม
สิ่งที่เราประทับใจไม่แพ้เพลงคงจะเป็นวิชวล ไลทฺติ้ง และการตกแต่งเวทีอย่างที่เคยชมไปในย่อหน้าบน ๆ แต่สำหรับโชว์นี้จากที่สังเกต ไฟบนเวทีจะค่อย ๆ เพิ่มความสว่างขึ้นเรื่อย ๆ จากเพลงแรกจนเพลงสุดท้าย และเฉดสี ชมพู ส้ม นวลที่สลับกันไปทำให้บรรยากาศดูโรแมนติกและอบอุ่นเข้ากับเพลงของพวกเขามาก ทว่าน่าเสียดายที่ความมีอารมณ์ร่วมของเรากับเพลง Cigarette After Sex แทบเป็นศูนย์เพราะคนดูที่คุยกันตลอดเวลา ไม่ว่าจะย้ายหนีไปจุดไหนก็มีคนคุยเสียงดังแข่งกับเพลง เพลงเขาเบาอยู่แล้วเนาะ ถ้าจะกรุณาเงียบฟังจะเป็นพระคุณมาก และเรื่องขยะที่น่าปวดหัวมาก เราเห็นผู้จัดโพสต์แปะในอีเวนต์เพจว่าให้ช่วยกันรักษาความสะอาดด้วย แต่ผลสุดท้ายก็ออกมาอย่างภาพที่เพื่อน ๆ หลายคนแชร์ในนิวส์ฟี้ดล่ะ สองเรื่องนี้เป็นเรื่องน่าหนักใจไม่แพ้คนถ่ายไลฟ์วิดิโอตลอดเวลาจริง ๆ ก็อยากให้ช่วยกันคนละไม้คนละมือให้สังคมการดูคอนเสิร์ตของเราน่ารัก น่าชักชวนให้เพื่อน ๆ มาดู อย่างน้อย ๆ ไม่เห็นแก่ผู้เขียนก็เห็นแก่มารยาทส่วนรวมก็ดีเนอะ