เมื่อเพลงของ Crystal Castles ทำให้ฮอลลุกเป็นไฟจนต้องจัดสงกรานต์ย่อม ๆ ใน Live RCA
- Story and photos by Montipa Virojpan
20 พฤษภาคม 2560
Crystal Castles คืออิเล็กโทรพังก์ดุเดือดกับโชว์คลั่งไม่แคร์สื่อที่แฟนเพลงชาวไทยเฝ้ารอให้มาเล่นที่บ้านเราตั้งแต่นมนานมา จนตอนนี้ชาว Medium Rare Live ก็ชวนพวกเขาก็มาเล่นให้ประจักษ์แค่หูและลูกตาเราเป็นที่เรียบร้อยเมื่อวานนี้ที่ Live RCA
ก่อนหน้านี้เรามีโอกาสไปดู Crystal Castles มาแล้วที่งาน Neon Lights สิงคโปร์ปีก่อน แต่ก็เป็นช่วงที่วงได้เปลี่ยนนักร้องนำ จาก Alice Glass ที่หลายคนติดใจในน้ำเสียงและเสน่ห์การแสดงสดของเธอ (ซึ่งเราไม่เคยดูสมัยอลิซเล่นหรอก แต่เห็นมาในคลิปไลฟ์แล้วเธอน่าหลงใหลจริง ๆ) เป็น Edith Frances ที่หลายคนกลัวว่าวงจะไม่เหมือนเดิม ซึ่งมันก็ไม่เหมือนเดิมหรอกเพราะนักร้องคนละคน เสียงร้องที่ออกมาก็ทำให้มิติของเพลงแตกต่างกันไปเป็นธรรมดา ซึ่งการแสดงของเซ็ตนี้ก็เดือดใช้ได้ ขนาดตอนนั้นเรายืนดูไกล ๆ ยังสัมผัสได้ถึงความพุ่งพล่านของเธอ แต่เมื่อคืนนี้สถานที่จะเป็นแบบคลับปิดต่างจากงานก่อนที่เป็น festival ในพาร์ค ก็คาดหวังพอสมควรที่จะได้รับพลังงานจากเพลงและองค์ประกอบอย่างวิชวลไลท์ติ้งจะส่งให้ความเป็นเพลงอิเล็กทรอนิกมันถึงจุดที่ควรจะเป็น คือสนุก เมา และเต้นจนหมดแรง มาดูกันว่าคืนนี้พวกเขาจะทำได้หรือเปล่า
เวลาห้าทุ่มตามตารางที่วงควรจะขึ้น เรากลับได้ยินเสียงเพลงของ Joy Division บรรเลงคลอไปกับสโม้กที่พวยพุ่งออกมาอย่างไม่หยุดยั้ง และแสงเลเซอร์ที่ยิงออกมาเป็นระยะ ๆ เมื่อทุกอย่างมืดลง ทำให้คนดูเริ่มส่งเสียงร้องบิ๊วกันอย่างยาวนาน จนกระทั่งเพลงที่เปิดเป็นแบคกราวด์เงียบ การปรากฎตัวของ Ethan Kath และ Edith Frances ทำให้เสียงเฮจากคนดูดังขึ้นอีกระลอกใหญ่ แสงไฟรุนแรงสาดแสงลงบนเวทีและเล่นล้อไปกับเสียงเพลงของ Crystal Castles
เพลงที่พวกเขาหยิบยกมาเล่นในโชว์นี้มีทั้งเพลงเด็ด ๆ อย่าง Not In Love, Crimwave, Concrete, Baptism, Kept ซึ่งพอเป็นเพลงชาติของใครเมื่อไหร่เสียงกรี๊ดก็จะลั่นเป็นพิเศษ แต่ที่ดีสุด ๆ ไปเลยคือทุกคนพร้อมใจกันกระโดดและเต้นไปกับอิเล็กทรอนิกดิบกร้านที่ให้ความรู้สึกถึงบีทแบบเก่า ซาวด์แตกพร่า รวมถึงเสียงเอดิธที่เหมือนโวยวายมากกว่าร้อง แหลมสูงปานจะทะลวงแก้วหูของเราแบบไม่รู้เหนื่อย เอาจริงว่าถึงแม้น้ำเสียงของเธอจะไม่ได้เสนาะหูแบบอลิส (เชื่อว่าคงมีคนเปรียบเทียบเธอกับนักร้องเก่าจนเธอหายนอยไปแล้ว) แต่พลังการแสดงของเธอก็มีอย่างล้นหลาม พันสายไมค์สุดระโยงระยางอย่างออกรส กระโดดปีนป่ายขึ้นลงมอนิเตอร์ แบบบ้าคลั่ง และสรงน้ำให้คนดูจนน่าจะหมดไปสิบขวด อิฉันนี่ชุ่มฉ่ำประหนึ่งเล่นสงกรานต์ใน RCA คนดูที่เมาแล้วอย่างเราก็แบบ เอามาอีก ปล่อยพลังมาให้หมดเลย!
ช่วงใกล้ ๆ จะจบโชว์ก่อนอังกอร์ มีการเอาพรอพกระจกจิ๋วและลิปสติกขึ้นมาละเลงปากตัวเองอย่างเมามัน แบบนี้ไม่ต้องใช้กระจกก็ได้แล้วแม่!!! แต่เชื่อไหมว่าภายใต้เมคอัพหนานั้น ช่วงท้ายเพลงเธอยิ้มออกมากว้างมากและกระโดดอย่างร่าเริง เรานี่ยิ้มตามและโดดตามเลย บรรยากาศตอนนั้นเดือดไลค์อะไฟเยอร์มาก ด้วยความเป็นที่ปิดมันยิ่งทำให้มวลของโชว์อัดแน่นกว่าที่เคยดูที่สิงคโปร์ด้วย ถึงเรื่องเครื่องเสียงคนละเรื่องก็จริง ๆ แต่อิเล็กโทรพังก์ถ้าจะดิบ เอาให้ดิบกันให้สุดก็ไม่ว่ากัน ก่อนจะปิดท้ายกันที่เพลง Wrath of God ที่ยับทั้งวงทั้งคนดู อะไรมันจะมันขนาดนั้นเด้ออออ
จบลงไปแล้วกับงานสุดเดือดอีกงานของปีนี้ สรุปว่าพวกเขาทำได้ค่ะ เป็นครั้งแรกในชีวิตที่เข้าใจว่าเข้าผับแล้วเต้นเบียด ๆ กันน่ะมันเป็นยังไง นี่ขยับตัวอยากมาก ได้แต่โดดเหยง ๆ อยู่กับที่ เพราะซ้ายขวาหน้าหลังโดนบล็อกไปหมดเลย ฮ่า ๆๆๆ ถึงจะเบียดแต่สนุกจริ๊ง พอเมาแล้วจบครับงานแบบนี้ ไม่ต้องห่วงสวยใด ๆ ขอแค่เต้นให้แรงสุด สนุกไปกับเพลง แต่ไม่เผลอไปเหยียบเท้าใครก็พอ