Article ระเห็ดเตร็ดเตร่

Foo Fighters คอนเสิร์ตที่เรายกให้เป็น The best! The best! The best!

  • Story and photos by Montipa Virojpan

24 สิงหาคม 2560

img_3275

ครั้งแรกที่ Foo Fighters มาเยือนไทยคือเมื่อปี 1996… เกือบเท่ากับอายุพวกเรา ซึ่งแน่นอนว่าเราไม่ทันได้ไปร่วมเป็นสักขีพยานในคอนเสิร์ตครั้งนั้น โดยพวกเขาออกอัลบั้มมา 1 ชุด มีสิบเพลง แต่ก็ไม่สามารถเล่นเพลงของตัวเองได้ทั้งหมดเช่นกัน

21 ปีต่อมา เรามุ่งหน้าขึ้นทางด่วนฝ่าการจราจรในเวลาสามทุ่มมายืนที่ซีกซ้ายของชาเลนเจอร์ ฮอล 2 ได้ทันเวลาแบบฉิวเฉียด (ตารางบอกวงจะขึ้น 21.15 เราเข้าฮอลมาเวลานั้นพอดี) เสียงโห่ร้องของแฟน ๆ Foo Fighters คลอไปกับเพลงที่เปิดในฮอลเป็นระยะ ๆ เหมือนกำลังปลุกความฮึกเหิมในตัวจนเวลาสามทุ่มครึ่งนิด ๆ ไฟเฮาส์ดับลง ไฟบนเวทีแจ่มชัดขึ้น สมาชิกวงที่ทุกคนรอคอยตบเท้ากันไปประจำตำแหน่งพร้อมเสียงเฮของเหล่าคนดู เพียงแค่ท่อนอินโทรขึ้น เหล่าแฟนเดนตายก็รู้ทันทีว่านั่นคือเพลง Everlong ทุกคนพากันโดดตั้งแต่ในเพลงแรก ตามมาด้วย Monkey Wrench ที่ก่อนจะถึงท่อนแหกปาก Dave Grohl ฟรอนต์แมนของวงก็บอกว่าชอบแหกปากกันใช่ไหม ผมก็ชอบเหมือนกัน จากนั้นเขาก็สาดพายุใส่ไมค์อย่างคุ้มคลั่ง เล่นเอาคนดูโยกหัวหลุดกันตั้งแต่เพลงสอง พี่ ๆ แกใส่อย่างกับเล่นเป็นเพลงสุดท้าย

img_3278

ต่อกันทันทีที่เพลง Learn to Fly ที่ทุกคนพากันร้องตามตั้งแต่ต้นเพลง แล้วเป็น Something From Nothing กับท่อนสับกีตาร์ที่ดุเดือดเอาเรื่องมาก ดิ้นจนปวดตัว และไม่ทันไร อินโทรเพลง The Pretender ก็ถูกบรรเลง เดฟบอกให้พวกเราช่วยกันตบมือในช่วงเวิร์ส ก่อนจะเข้าสู่โซโล่ที่เขาถามพวกเราว่า “Do you wanna dance and rock n roll?” อยู่หลายหน จนเมื่อถึงเวลา ดนตรีแบบร็อคแอนด์โรลหนักหน่วงก็พาให้เราเต้นทวิสต์กันราวกับเป็นวัยรุ่นฝรั่งร็อคคาบิลลี

img_3281

ช่วงนี้เองที่วงได้ทักทายแฟนเพลงอย่างเป็นทางการ เดฟบอกว่าตอนเขามารอบแรกเมื่อปี 1996 เล่นได้ไม่กี่เพลง แต่ตอนนี้มีกว่า 150 เพลงแล้ว ให้เราเลือกว่าจะฟัง 150 เพลงแล้วเล่นถึง 7 โมงเช้าไหม แต่เขาอาจจะไม่กลับมาอีก หรือเล่นแบบพอประมาณแล้วไว้เจอกันรอบหน้า คนดูเจ้ากรรมบอกขอแบบแรกจนเดฟทำหน้าเหยเก เขาเลยบอกว่า งั้นเดี๋ยวจะเล่นให้ได้มากที่สุดแล้วกัน เป็นโมเมนต์ที่น่ารักมาก

img_3286

ก่อนจะเล่นเพลงต่อไป เดฟบอกเขาจะเล่นเพลงที่เก่ามาก ๆ เพลงนั้นชื่อ Big Me แต่มันจะฟังดูดีกว่าสมัยนั้นด้วย คนดูฟังจบก็เฮกันใหญ่และคงรู้สึกรักวงขึ้นอีกหลายเท่า ซึ่งคนดูก็ร้องตามและโดดยับกันตลอดเพลง จนกระทั่งเขาบอกว่าจะเล่นเพลงใหม่จากอัลบั้มล่าสุด Concrete and Gold อย่าง Run คนดูนี่เฮลั่นเพราะมันเป็นงานใหม่ที่เดือดดาล มีสีสัแปลกใหม่ และไม่คิดว่าวงจะคิดลูกกลองกับสัดส่วนเพลงได้ล้ำแต่เดือดได้เท่ขนาดนี้ พอท่อนจังหวะขัด ๆ นั่นมาถึง ไอ้คนดูอย่างพวกเราก็โดดยับจนเบียร์หกพื้นเหนียวไปหมดเลยจ้า แถมวงยังเล่นดึงยาว ๆ ไม่ยอมจบ ไม่อยากคิดเลยว่าจบเพลงคอจะเคล็ดขนาดไหน และต่อด้วยเพลง This is a Call

img_3288

จบเพลงแล้วก็ได้เวลาพูดคุยกับแฟน ๆ อีกครั้ง เดฟพูดว่า ถามจริง ๆ นะ ขอแบบซื่อสัตย์ ใครมาดูพวกเขาเมื่อ 20 ปีก่อนบ้าง โห มีแฟนคลับรุ่นพี่ยกมือกันหลายคนในฮอลเหมือนกัน แล้วถามว่าใครมาดูเป็นหนแรก แน่นอนว่ายกกันทั้งฮอล จากนั้นเขาก็เริ่มแนะนำสมาชิกวง มือกีตาร์ Chris Shiflett โชว์โซโล่สวย ๆ ให้ฟังหนึ่งรอบ ต่อด้วย Nate Mendell มือเบส Rami Jaffee มือคีย์บอร์ดสมาชิกใหม่ที่หน้าตาหล่อเหลาร้ายกาจ เดฟบอกว่าตานี่สามารถใช้หน้าทำเสียงได้ แต่รามี่ดันแลบลิ้นรัวออกมาเรียกเสียงกรี๊ดจากทั้งสาว ๆ และชายฉกรรจ์กันเสียงหลง ต่อด้วย Pat Smear อีกหนึ่งยอดฝีมือที่ทำเอาหลายคนหลงรักไปแล้วในคอนเสิร์ตครั้งนี้ ปิดท้ายด้วย Taylor Hawkins มือกลองสุดกวนที่ก่อนจะแนะนำ เดฟบอกว่า อย่าเพิ่งส่งเสียงให้พ่อรูปหล่อคนนี้ เพราะเขาจะทำให้งานโกลาหลมาก ๆ จากนั้นเทย์เลอร์ก็วอร์มเสียงให้คนดู improvise ตาม แหม ร้องมาแต่โน้ตยาก ๆ ก่อนจะเข้าสู่เพลง Cold Day in the Sun ที่เทย์เลอร์เป็นคนร้อง ตามมาด้วย Congregation

img_3290

เพลงต่อมาคือ Walk คนดูร้องตามกันตั้งแต่ท่อนแรก นี่เป็นครั้งแรกที่เราตั้งใจฟังความหมายของเพลงนี้จริง ๆ ใครจะไปคิดว่าเราจะร้องไห้ออกมาในคอนเสิร์ตเพลงร็อกที่เมามันชนาดนี้ เพราะเมโลดี้เพลงนี้งดงามมาก แล้วดันตรงกับชีวิตช่วงนี้อีก เปลี่ยนอารมณ์กับมากระโดดในท่อนท้ายแทบไม่ทัน

Do you remember the days
We built these paper mountains
And sat and watched them burn?

I’m learning to walk again
I believe I’ve waited long enough
Where do I begin?

img_3287

จากนั้นก็ปรับอารมณ์ให้เดือดขึ้นอีกในเพลง Rope กับท่อน ตือดือดือดื่อดือ ที่คนโยกตามจังหวะกีตาร์อย่างบ้าคลั่ง ต่อทันทีกับอีกหนึ่งเพลงดัง My Hero ที่คนพร้อมใจกันร้องจนเราสัมผัสถึง good vibes รอบ ๆ ตัวที่เด่นชัดมากในเพลงนี้แบบอธิบายไม่ได้ จากนั้นเป็นเพลง These Days แล้วดรอปจังหวะลงมาให้เต้นย่อง ๆ กันใน Skins and Bones ตามมาด้วย All My Life, Times Like These, Generator และ Wheels แล้ววงก็พักพูดคุยกับคนดูอีกครั้ง เขาบอกว่าคราวนี้จะเล่นเพลงที่เล่นเมื่อยี่สิบปีที่แล้วที่นี่ พอดนตรีขึ้นแล้วรู้ว่าเป็น I’ll Stick Around ก็ถึงกับเฮลั่น จากนั้นก็เป็นเพลง Sunday Rain จากอัลบั้มชุดใหม่ที่เทย์เลอร์ร้อง ซึ่งในเวอร์ชันสตูดิโอก็ได้ Paul McCartney แห่ง The Beatles มาตีกลองให้ /อย่าเพิ่งงง พอลเล่นเบสในวงแต่จริง ๆ ก็เล่นได้ทุกอย่างแหละ

img_3292

ขณะนี้วงก็พักและบอกกับคนดูว่าปกติพวกเขาจะไม่มีอังกอร์ ขึ้นเวที เล่น ๆๆๆ แล้วเดินลงเวทีเลย ซึ่งเขาไม่รู้ว่าจะถึงเวลาเล่นเพลงที่เหลือแล้วหรือยัง มาเซอร์ไพรส์กันดีกว่า และเพลงที่เขาเล่นคือ Breakout กับท่อนร้องที่ถูกเปลี่ยนเป็น You make me dizzy for fucking 20 years ago แล้วคนดูก็เฮลั่นและร้องตามดังมากกับท่อน Make me breakout. I don’t wanna look like that ตามด้วยเพลงเพลงใหม่ที่เพิ่งปล่อยวันนี้อย่าง Sky is a Neighborhood กับความร็อกแอนด์โรลหนักหน่วง ท่อนจำติดหูทำให้พวกเราที่เพิ่งได้ฟังครั้งแรกก็ร้องตามกันได้แล้ว

img_3290

จบจากเพลงนี้เดฟบอกว่า รอบหน้าถ้าได้มาอีกคงไม่ต้องรอ 20 ปีแล้วนะ ขอบคุณคนที่เคยมาดู ดีใจที่ได้เจออีก ส่วนเพื่อนใหม่ก็ยินดีที่ได้รู้จักนะ คนดูก็เฮกันลั่น เราเหลือบมองนาฬิกาก็พบว่าเวลาล่วงเลยมากว่าสองชั่วโมงครึ่งแล้ว วงก็ยังแรงไม่ตก เราก็ยังเต้นไม่เหนื่อย คือมันสนุกมาก ปลุกพลังในตัวสุด ๆ จนกระทั่งเพลงสุดท้ายที่หลายคนรอคอยมาถึง นั่นคือ Best of You ซึ่งท่อน The best แน่นอนว่าทุกคนตะโกนกันคอแตก แต่ที่ประทับใจสุด ๆ คือท่อนเบรคดาวน์คนก็ร้อง โว้โอโอ่ กันอย่างต่อเนื่อง การที่ดนตรีเล่นเบา ๆ แต่มีเสียงคนดูฮึกเหิมเป็นอะไรที่ขลังมาก ทำให้เราอดดีใจแทนวงไม่ได้ที่มีแฟนคลับที่คลั่งไคล้พวกเขามากขนาดนี้ เสียงโห่ร้องดำเนินไปอย่างยาวนานพร้อมกับกล้องที่จับภาพสมาชิกที่มองคนดูของพวกเขาด้วยสายตาที่อิ่มเอมและรอยยิ้มจาง ๆ มันคือความสงบนิ่งที่พิสูจน์ว่าพวกเขาเชื่อในแฟนเพลงไม่ต่างจากที่แฟนเพลงเชื่อในพวกเขา จนดนตรีกลับมาเร้าอารมณ์อีกครั้งไปจนถึงช่วงสุดท้าย เพลง Best of You จบลง คนดูโห่ร้องและตบมืออย่างชื่นมื่น สมาชิกวงออกมาขอบคุณที่ขอบเวทีทั้งยังโบกมือให้พวกเราก่อนหายลับสายตาของเราไป

img_3295

เราเดินออกมาจากฮอลโดยที่ไม่รู้สึกอ่อนล้า ทั้งที่ออกแรงเต้นจนน่าจะเหนื่อยแต่รู้สึกดีกับโชว์และกลุ่มคนดูมาก ๆ ขนาดตอนเดินอยู่นี้ก็ยังมีคนร้องโห่ท่อนเบรคดาวน์กันอยู่ไม่ขาด เชื่อว่ามันคือความประทับใจที่ยังตกค้างอยู่แบบที่ทุกคนก็สัมผัสได้ จนถึง ณ ขณะที่เรากำลังพิมพ์อยู่นี้เราก็ยังรู้สึกอินไม่หาย อยากเอาตัวเองกลับไปอยู่ในคอนเสิร์ตนั้นอีกครั้งด้วยความรู้สึกที่ว่า ไม่ได้ไปคอนเสิร์ตที่จุดไฟในตัวให้ลุกโชนขึ้นมาแบบนี้นานแค่ไหนกันแล้วนะ

Facebook Comments

Next:


Montipa Virojpan

อิ๊ก เนิร์ดดนตรีที่เพิ่งกล้าเรียกตัวเองว่าเป็นนักเขียนตอนอายุ 25 ชอบเดินเร็ว นอกจากขนมปังกับกาแฟดำแล้วก็สามารถกินไอศกรีมกับคราฟต์เบียร์แทนมื้อเช้าได้