Article ระเห็ดเตร็ดเตร่

มัน ๆ กันไปแล้วรอบแรก เตรียมนิมนต์หลวงพี่ Hyuk Oh สำแดงเดชอีกรอบคืนนี้

  • Story and photos by Chavit Mayot

15 กรกฎาคม 2560

img_3806

เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในโชว์ที่น่าจับตามองที่สุดในปีนี้สำหรับคอนเสิร์ตครั้งแรกของสี่หนุ่มอินดี้ร็อกจากเกาหลีใต้อย่างวง Hyuk Oh ที่ฮอตขนาดว่าบัตรรอบวันที่ 15 กรกฏาคม sold out ภายในไม่กี่นาที จนทำให้ทางผู้จัด Seen Scene Space ทนกระแสความร้อนแรงไม่ไหวเปิดรอบสองอีกครั้งในวันที่ 16 กรกฏาคมต่อกันเลย

img_3906

เรามาถึงสถานที่จัดคอนเสิร์ตที่คุ้นเคยอย่าง Voice Space ตั้งแต่ช่วงเย็นแล้วเราก็พบว่า นี่เป็นวันที่คนแน่นอย่างที่ไม่เคยเห็นมานานมาก ๆ บรรดาแฟนคลับต่างพากันมาก่อนถึงเวลาคอนเสิร์ตอย่างหนาแน่น แถมยังแต่งตัวจัดเต็มเป็นอีกสีสันหนึ่งของงานนี้เลยก็ว่าได้ ซึ่งก่อนโชว์จะเริ่มหนุ่ม ๆ Hyuk Oh ทั้งสี่คน ประกอบไปด้วย โอฮยอค อิมดงกอน อิมฮยอนเจ และอีอินอูก็ได้ลงมาที่บูทขายสินค้าที่ระลึก สร้างความตื่นเต้นให้แฟนคลับจำนวนนั้นไม่น้อย (ตัวผู้เขียนเองก็ยังวิ่งไปดูด้วยอีกคน!) ประทับใจสุด ๆ จนแฟนคลับนี่เคลิ้มกรี๊ดกร๊าดกันไปยกใหญ่

img_3846

หลังจากนั้นเวลาหนึ่งทุ่มก็ได้เวลาโชว์ของวงเปิดอย่าง Gym and Swim ที่พวกเราคุ้นเคย ซึ่งแอบได้ยินมาว่าทางวง Hyuk Oh เป็นคนเลือกวงนี้เปิดด้วยนะ โชว์ของพวกเขาก็ไม่ทำให้เราผิดหวังสนุกสนามเปี่ยมไปด้วยพลังงานอย่างเช่นทุกครั้งเป็นการวอร์มอัพที่ดีมาก ๆ ด้วยเพลงฮิตอย่าง Seagal Punch, Throw It Away และ Bunny House แถมยังมีเพลงคัฟเว่อร์อย่างเพลง แม่มด ของแสงระวี อัศวรักษณ์ มาเซอร์ไพรส์กัน และปิดช่วงท้ายของโชว์ด้วยเพลงที่ผู้ชมร้องตามกันได้ลั่นฮอลอย่าง Yuwahuu, Sunrise และ Octopussy ที่แฟนเพลงเต้นตามกันอย่างคึกคัก พร้อมเสียงหัวเราะจากมุกตลกของฟรอนต์แมนอย่างคุณเฉลิมพล

img_3848

และเมื่อถึงเวลาสองทุ่มเศษ ๆ ช่วงเวลาที่ทุกคนรอคอยก็มาถึงเมื่อสมาชิกวง Hyuk Oh เริ่มขึ้นเวทีพร้อมกับชุดสีแดงล้วนที่เราเคยเห็นใน MV เพลง Wanli พอเจอตัวเป็น ๆ แล้วเท่เป็นบ้า คาริสม่าล้นเหลือ เรียกเสียงกรี๊ดจากเหล่าแฟนเพลงด้านล่างอย่างกึกก้อง และตัวผู้เขียนก็ต้องขอเปิดโหมดเป็น “ติ่ง” อย่างเต็มรูปแบบเหมือนกัน โอ๊ย <3

img_3915

เราขอบอกเลยว่างานนี้เขา “เปิดอย่างโหด” ด้วยการเล่นเพลงดังอย่าง Comes and Goes ซิงเกิ้ลสุดฮิตที่ทำให้หลาย ๆ คนได้รู้จักพวกเขามาเป็นเพลงเปิด ทุกคนก็ครึกครื้นขึ้นมาทันที แล้วยังขยี้ต่อไปด้วย Tokyo Inn และ Leather Jacket ที่น่ารักไม่เบาคือโอฮยอกก็มีการพกโพยภาษาไทยขึ้นมาอ่านให้แฟนเพลงชาวไทยได้กรี๊ดกร๊าดกันไป น่ารักจริง ๆ พ่อคุณ ก่อนจะต่อด้วยเพลงอย่าง Panda Bear, 2002WorldCup และ Wonderful Burn ที่ทำเอาเอวเราโยกไม่หยุดชวนคนข้าง ๆ เต้นซะยับ และต่อมานี่แหละหนึ่งในไฮไลต์สำคัญก็มาถึงด้วยเพลงใหม่สุดมันส์อย่าง Wanli ที่เรียกได้ว่ากดยับจริง ๆ โคตรมันโยกกันหัวแทบหลุด ซาวด์ตอนฟังสดนี่ก็เรียกได้ว่าเท่สุด ๆ เอ๊ เอ๊ เอ๊ เอ๊ แล้วก็จัดหนักต่อกันด้วยเพลงมัน ๆ อีกเพลงอย่าง Masitnonsoul ก่อนจะลดลงมาโยกแบบมีเชิงเท่ ๆ กับเพลงอย่าง Jesus Lived in a Motel Room

img_3876

สำหรับพาร์ตต่อมานี่ก็เป็นหนึ่งในอีกช่วงที่น่าประทับใจสำหรับพาร์ตเพลงช้าอย่าง Die Alone และเพลง Gondry ที่เรียกได้ว่าสะกดคนดูทั้งฮอลได้อย่างอยู่หมัด เสียงของฟรอนต์แมนอย่างโอฮยอกเหมือนร่ายมนต์สะกดผู้ฟังไว้ได้อย่างราบคาบ รวมไปถึงเพลง Tomboy และเพลง Mer ที่ผู้ชมร้องตามกันได้ลั่นฮอล 

img_3901

สี่หนุ่มปิดโชว์ด้วยเพลง Reserved Seat ที่ทำเราเซอร์ไพรส์ด้วยท่อน outro ที่ทำเราตกไปในภวังค์ ถีบอารมณ์ขึ้นไปถึงจุดสุดยอดก่อนผ่อนลงมาอย่างสวยงาม และแน่นอนว่าแฟน ๆ ไม่ยอมให้จบเท่านี้หรอก เสียงเรียกอังกอร์ในหลายภาษาถูกตะโกนขึ้นมาดังลั่น นับเป็นภาพอันน่ารักไม่หยอก (ได้ยินทั้งเอาอีก one more song อังกอร์ และ อังกอร์จูเซโย!!) แล้วพวกเราก็ไม่ต้องรอนานหนุ่ม ๆ ก็ขึ้นมาอีกครั้งพร้อมเพลงฮิตอย่าง Wi ing Wi ing ที่ทุกคนร้องได้และ Surf Boy จบโชว์ลงไปแบบโคตรดี

img_3912

ถือว่าเป็นประสบการณ์ทางดนตรีที่น่าจดจำมากเลยทีเดียวสำหรับโชว์ของ Hyuk Ohในครั้งนี้ พวกเขาพิสูจน์ให้พวกเราเห็นแล้วว่าไม่ได้มีดีแค่ลุคที่เท่เป็นเอกลักษณ์เท่านั้นแต่ความสามารถทางดนตรี การดีไซน์ซาวด์ของพวกเขาเรียกได้ว่าเหนือชั้นน่าสนใจ และเล่นสดได้ดีมาก ๆ มีโชว์ที่ครบรส อิ่มเอมและน่าจดจำสุด ๆ ไปเลย เราก็ได้แต่หวังว่าคงจะได้มีโอกาสได้ชมโชว์ของพวกเขาอีกซักครั้งนะ

Facebook Comments

Next: