Article ระเห็ดเตร็ดเตร่

ได้เวลาจูนสัญญาณกันอีกครั้ง การติดต่อยานแม่ระลอกที่ 5 จาก No Signal Input

  • Story and photos: Montipa Virojpan

25 กุมภาพันธ์ 2560

หลังจากที่รอมานานตั้งแต่ที่พวกเขาปล่อยมิวสิกวิดิโอมาให้ได้ตื่นตาตื่นใจและตื่นหูไปกับเพลงเฟี้ยว ๆ ทั้ง 5 เพลง ในที่สุดเราก็ได้ดูโชว์จากกลุ่มคนดนตรีเมืองเชียงใหม่ที่น่าจับตามอง No Signal Input รุ่นล่าสุด ประกอบไปด้วย สหายเขียว, Sirimongkol, Outlooks, Ask Me About และ Vega พร้อมทั้งแขกรับเชิญพิเศษ Bomb At Track วงร็อกที่เดือดและเกรี้ยวกราดที่สุดของยุค ในฐานะเจ้าบ้านต้อนรับการมาของพวกเขางานนี้

16797932_10155016237678610_8589828574484543410_o

แต่การได้รู้ข่าวที่ No Signal Input 5 จะมาเล่นที่กรุงเทพ ฯ เป็นอะไรที่ค่อนข้างฉุกละหุกและวงแคบเหมือนกัน ถ้าน้องกันย์ มือกีตาร์วง Vega ไม่ได้บอกเราไว้ตอนงาน Cat Expo เราก็จะไม่รู้เลยว่าพวกเขาจะมีงานเล่น ที่ Play Yard เมื่อคืนที่ผ่านมา แถมมีแผ่นมาขายด้วย

img_9161

เรารีบพุ่งตัวมาถึงงานเวลาทุ่มครึ่งตามที่ตารางบอกเวลาขึ้นเล่นของวงแรก ตอนนั้นผู้ชมยังบางตาและส่วนใหญ่ที่เห็นกันคือเพื่อน ๆ จากวงดนตรีด้วยกันเองที่มายืนรออยู่หน้าเวที หลังจากพิธีกรพูดเปิดงานเสร็จ ประมาณ 19.45 สหายเขียวก็เริ่มบรรเลงเพลง เสียงกีตาร์ถูกคลอไปด้วยบทกวีเกี่ยวกับสัจธรรมของมนุษย์ อาวุธปัญญาชนผู้เสียสละ และสีเขียวของธรรมชาติในบทเพลงที่จะนำความชุ่มฉ่ำกลับมาสู่พวกเรา นามปากกา คือเพลงแรกที่พวกเขาแต่ง เกี่ยวกับศิลปะหรืองานนอกกระแสที่ถูกมองข้าม หลายคนสูญเสียความเป็นตัวเองไปหรือตามฟังแต่เพลงที่วิทยุคลื่นดังป้อนให้เพราะค่านิยม และอำนาจทุน สิ่งที่เราชอบของวงสหายเขียวคือเขียนเนื้อหาที่เป็นการตัดพ้ออย่างละมุนละม่อมเหมือนเล่าเรื่องด้วยบทกวี และสไตล์การร้องแบบเพลงเพื่อชีวิต แต่นำมาเล่นแบบร็อกแอนด์โรลมีริฟกีตาร์เท่ ซึ่งท้ายเพลงก็ขยี้ลีดกีตาร์ได้อย่างเกรี้ยวกราด

img_9164

ต่อด้วยเพลงโปรดรู้ เพลงจังหวะกลาง ๆ ล่องลอย กีตาร์เพลิน เมโลดี้เพราะ กับอีกเพลงที่เป็นร็อกแอนด์โรลเพื่อชีวิตจ๋า ๆ เอื้อนเสียงดีมาก ตามมาด้วยเพลงในอัลบั้ม NSI 5 อย่าง มนุษย์เงินเดือน กับท่อนที่ร้องว่า ‘เงินไม่พอใช้ ชีวิตต้องใช้เงิน ต้องหางานหาเงินด้วยตัวเอง’ โห ถึงมาก มีหลายคนร้องตามขนาดนี้เชื่อว่าต้องอินกันเป็นแถบ ๆ ก่อนจะปิดท้ายที่เพลงช้าอย่าง เวลา ที่เราเคยเขียนแนะนำไปในคอลัมน์เห็ดใหม่ ได้มาฟังแบบสด ๆ ครั้งแรก ทำนองช่างละมุนรื่นหู แต่ความหมายรุนแรงมาก ฟังแล้วน้ำตาไหลตั้งแต่ท่อน ‘อยู่กับความจริง ซ่อนเอาไว้เถอะ ความฝัน’ ทั้งเพลงพูดเรื่องกรอบ กฎเกณฑ์ต่าง ๆ ที่ไม่อำนวยให้เราได้ทำในสิ่งที่ฝันไว้ จุกจนอยากไหลไปกับเวลา

img_9168

หลังจากนั้นก็ได้เวลาของ Sirimongkol วงดนตรีที่เราติดตามมาจากเพลง April ที่ฟังกี่ทีก็ต้องฟังวนให้จมดิ่งอยู่อย่างนั้น พวกเขาเรียกตัวเองว่าเป็นร็อกจริงใจ กับอัลเทอร์เนทิฟสไตล์ไทย ๆ ที่คุ้นเคยกันดี จังหวะกลองตะล่อม ๆ ไลน์กีตาร์ลอย โน้ตตัวสวย ๆ แต่ที่เด็ดอีกอย่างคือเสียงร้องที่ทุ้มทรงพลังน่าฟัง อย่างเพลงแรก Loop ทั้งเนื้อเพลงและสัดส่วนจังหวะในเพลงก็เป็นการเล่นซ้ำวนไปมา แต่จะเพิ่มกิมมิกการเปลี่ยนแปลงในแต่ละท่อนที่ค่อย ๆ บิ๊วอารมณ์เพลงได้ดี ทำให้เพลงมีความน่าสนใจและไม่ได้น่าเบื่อเลยแม้แต่น้อย จนพาเราไปที่ท่อนโซโล่สว่าง ๆ และที่พีคสุดในช่วงท้ายเพลงที่เดือดมาก ปั่นกีตาร์ยับ

img_9169

ตามมาด้วย ความทรงจำก่อนฟ้าสาง อินโทรเบสนำมาก่อน เป็นเพลงโหด ๆ ที่นักร้องนำขึ้นพิตช์เสียงสูงได้ถึงแบบเป็นธรรมชาติมาก แล้วจึงเป็นเพลง April แค่ขึ้นเพลงมาก็ซึมละจ้า ไม่รู้จะเศร้าอะไรขนาดนั้น เศร้าตั้งแต่ดนตรีไปยันเนื้อเพลงที่ขยี้กันไปจนสุดขั้วหัวใจ ยิ่งท่อนท้ายก็เหมือนไม้ตายเด็ดของวงเขาล่ะ ใครเฮิร์ทอยู่โดนไปนี่ ยืน ๆ อยู่อาจมีการเข่าอ่อนได้ แล้วก็มาเป็นเพลง บทสุดท้าย ที่เป็นเพลงเดือดสุดของพวกเขา กับ 30 กุมภาพันธ์ ครบกระบวนท่าร็อกไทย ๆ …อธิบายยากจัง คือซาวด์กีตาร์เมโลดิกเกา ๆ ริฟกีตาร์คำร้องที่เป็นป๊อป แล้วจะทิ้งทวนด้วยโซโล่หนักหน่วง อะไรประมาณนี้ล่ะมั้ง

img_9194

แล้วก็ได้เวลาพักครึ่งที่เราออกมาสั่งหมูกรอบกินด้วยความเสี้ยนปาก ก่อนจะกลับเข้าไปดู Bomb at Track นี่เป็นโชว์แรกที่เราได้ดูพวกเขาหลังจากได้ยินเสียงลือเสียงเล่าอ้างมาว่า เด็ดจริง ก็อย่างที่เขาว่า คือเข้าไปข้างในไม่ทันไรก็มีเหล่าสาวกมามอชกันบริเวณหน้าเวทีเรียบร้อย ซึ่งเราก็มีความสนุกกับการได้ดูคนเดือดเขา tackle กัน จากนั้นก็เริ่มจับทางได้ว่าเพลงต่อมาที่พวกเขาเล่นกันคือเพลง อำนาจเจริญ ที่ก่อนจะเล่นก็ได้ชักชวนให้ทุกคนชูนิ้วกลางขึ้นมาเป็นสัญญะส่งให้กับพวกที่มีอำนาจแต่ใช้ไปอย่างไม่เป็นธรรม ความดีงามคือทุกคนร้องตามท่อนแร็พในเพลงได้แบบเป๊ะทุกเม็ด แถมยังโยกกันหัวแทบหลุด

img_9186

แล้วไปต่อกันที่เพลงใหม่ซาวด์แปลกของพวกเขาอย่าง ฆาตกรคีย์บอร์ด ที่พูดถึงการตัดสินคนในสังคมเพียงแค่ปลายนิ้วและทำให้ชีวิตของใครบางคนต้องพังไปชั่วพริบตา สะใจมากกับท่อนที่ร้องว่า ‘เพราะความคิดคนมันห่วยสังคมเลยห่วยแตก’ แล้วยังเพิ่มดีกรีความดุและหงุดหงิดสังคมไทยด้วย โจรในเครื่องแบบ เพลงพูดถึงเหล่าผู้พิทักษ์สันติราชแต่กลับเอาเงินประชาชนเข้ากระเป๋ากันเป็นว่าเล่น เรียกว่าโชว์นี้ได้ปลดปล่อยความอัดอั้นใจกับสังคมไทยกันแบบสุด ๆ ไปเลย

img_9195

ต่อกันที่ Outlooks วงจังหวะดีด ๆ เพลงสนุก สอดแทรกบรรยากาศอวกาศอยู่ในหลาย ๆ เพลง แม้เพลงเปิดตัวเพลงแรกจะเล่นกันล้น เสียงหลงไปบ้าง และดูรีบไปหน่อย แต่ก็กลับมาเข้าที่เข้าทางขึ้นในเพลงที่สอง มีความชูเกซแบบเนิบนาบ ล่องลอย ซึ่งเราค่อนข้างชอบเลยทีเดียว ตามมาด้วยเพลงที่พวกเขาแต่งให้กับ NSI ชื่อเพลง ไม่มีสัญญาณ ให้ความรู้สึกถึงริฟกีตาร์ง้องแง้งสไตล์ Last Dinosaurs ซึ่งเอาจริงว่ามีหลากหลายแนวในหนึ่งเพลง จังหวะวอลต์ซ ก้าว ก้าว ชิด ก้าว ก้าว ชิด ก็มา พร้อมด้วยริฟกีตาร์สดใสแบบ Two Door Cinema Club อัลบั้มแรก คือทีแรกเหมือนจะฟังยาก แต่ถ้าฟังไปเรื่อย ๆ แล้วสนุกมากเพราะเป็นเพลงที่มีการเรียบเรียงน่าสนใจ

img_9196

ต่อมาก็เป็นเพลงที่ชื่อโลกกลม ยังให้ความสนุกกับสไตล์และกลิ่นอายเพลงแบบอินดี้ร็อกยุคเดียวกัน ตามมาด้วยเพลง ปล่อยยาน สละยาน ปล่อยวาง เพลงชื่อเท่ดนตรีแปลกที่เราติดใจมากจากอัลบั้ม NSI 5 ที่ทำให้ร้องตามในท่อนฮุกได้ไม่ยาก ก่อนจะปิดท้ายกับเพลงที่น่าจะชื่อ บริการต่างดาว ที่เอาจังหวะวอลต์ซมาใส่ในเพลงอีกครั้ง ท่าทางจะอินกับวอลต์ซจริง ๆ แต่ก็เป็นเพลงที่ดุเดือดอยู่ไม่น้อย

img_9208

เดินทางมาถึงวงที่ห้ากันแล้ว แต่การขึ้นเล่นของวงนี้กลับทำให้รู้สึกราวกับว่าเครื่องเพิ่งติด Ask Me About กับโพสต์ฮาร์ดคอร์ที่เดือดแบบ ไม่รู้จะเดือดยังไงล้าวววว วงนี้มีนักร้องสองคน คนนึงร้องไลน์หลัก อีกคนร้องนำกับสลับไปสครีโม เป็นครั้งแรกที่เราได้ตั้งใจฟังเพลงพวกเขาอย่างจริงจัง จากทีแรกคิดว่าจะฟังยากและเข้าไม่ถึง กลายเป็นว่าโชว์นี้ทำให้ค้นพบว่าจริง ๆ ตัวเองชอบร็อกหนัก ๆ แบบนี้ (ความจริงก็ชอบตั้งแต่ Bomb at Track เล่นแล้ว ต้องหาเวลาศึกษาแนวนี้บ้างแล้วล่ะ ฮ่า ๆ)

img_9211

เมโลดี้เพราะพริ้งแต่ไม่ทิ้งความดุดันในซาวด์กีตาร์ เบส กลอง ยิ่งได้ดูสดจะยิ่งสัมผัสได้ถึงความหนักหน่วง อะดรีนาลีนพุ่งพล่าน แค่เพลงแรกก็รู้แล้วว่าไม่ธรรมดา เพอร์ฟอร์แมนซ์ของทุกคนเต็มที่มาก ตามมาด้วยเพลงจากอัลบั้ม NSI 5 ที่ชื่อ 37 ต่อด้วยเพลงเดือดโยกหัวหลุดอีกเพลง เหล่าคนดูเริ่มสร้างมอชพิตหน้าเวทีกันอีกครั้ง ก่อนจะปิดท้ายที่เพลง Diana ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากเกม League of Legend คือถ้าไม่บอกก็ไม่รู้ ฮ่า ๆ กระเดื่องคู่ก็มา

img_9214

ปิดท้ายกันด้วยอีกวงน้องใหม่มาแรง กับการเล่นที่กรุงเทพ ฯ เป็นครั้งที่สามของพวกเขา Vega ที่เราติดตามมาตั้งแต่งานฟังใจมันครั้งแรก หนนี้พวกเขากลับมาพร้อมสี่เพลงเต็มเม็ดเต็มหน่วยยิ่งขึ้น และเพอร์ฟอร์แมนซ์ที่เข้าที่เข้าทางกว่าครั้งแรกขึ้นมาก เปิดมาด้วย เคมี เพลงที่ทำให้พวกเขาเป็นที่รู้จักอย่างเป็นทางการกับโปรเจกต์ NSI 5 งานนีโอไซคีเดเลียที่ติดกลิ่นวินเทจแบบวงรุ่นเก่า แต่มีลูกเล่นเฟี้ยวฟ้าวแบบวงร่วมสมัย ตามมาด้วยเพลงที่สองที่พูดถึงเรื่องคนที่ถูกขายฝันหรือโดนหลอกอะไรประมาณนั้น มีหลายช่วงที่ขับให้ลูกกลองที่เป็นลูกส่งสไตล์ไซคีเดลิกโดดเด่นขึ้นมา

img_9216

แล้วจึงเป็นเพลงใหม่ที่เป็นซิงเกิ้ลเดโม่แถมมากับเสื้อสีมัสตาร์ดที่ขายในงาน Cat Expo เป็นเพลงพูดประมาณเรื่อง make love โป๊ ๆ อีโรติกกันไป ก่อนจะปิดท้ายที่เพลง ระบำ แต่เขากลับบอกให้เราร้องว่าระยำ ก็เข้าทางสิคะ จุดนี้คนดูรวมถึงเพื่อน ๆ พี่ ๆ น้อง ๆ วงดนตรีในโปรเจกต์ก็ออกมาโยกย้ายย้วยกันหน้าเวทีอย่างสนุกสนาน ก่อนจะทิ้งท้ายเราไปด้วยเพลงแถมสไตล์ร็อกแอนด์โรลแบบที่เราไม่เคยเห็นพวกเขาเล่นเพลงแนวนี้มาก่อนแน่นอน ซึ่งเพลงนี้มิว นักร้องนำจะหยิบเอากีตาร์กลับมาเล่น แต่เสียงดันไม่ติดแล้วก็เล่นกันดิบ ๆ โล่ง ๆ ไปแบบนั้น จบเพลงก็โยนกีตาร์ทิ้งกันแบบไม่กลัวคอหักเลย แง

เต็มอิ่มมากกับงานนี้ ด้วยโชว์กว่าสี่ชั่วโมงที่อัดแน่นไปด้วยเพลงหลากหลายแนวโดยศิลปินมากฝีมือจากเชียงใหม่ที่รอการค้นพบจากทุกคนอยู่ เขียนมาถึงตรงนี้ บางคนอาจเริ่มสงสัยว่าทำไมเราถึงเชียร์ซีนดนตรีเชียงใหม่นักหนา อาจเพราะเราเชื่อว่าเชียงใหม่คือแหล่งผลิตวงดนตรีที่มีคุณภาพมากที่นึง ความที่เป็นเมืองเงียบและรายล้อมด้วยธรรมชาติ อาจเป็นองค์ประกอบหนึ่งที่ทำให้การสร้างงานสร้างสรรค์มีประสิทธิภาพ ผลงานของหลาย ๆ วงก็ทำออกมาได้แบบใส่ใจรายละเอียด มีคุณภาพ และมีฝีมือ รวมถึงการที่เมืองเล็กอาจทำให้คนที่มีความสนใจใกล้กันรู้จักกันเกือบหมด อย่างสายดนตรี พวกเขามีวิธีผนวกกำลังช่วยเหลือกันอยู่เสมอ No Signal Input เองก็เป็นโมเดลที่ดีในการช่วยขับเคลื่อนสนับสนุน sub-culture ให้กว้างขึ้นและเพิ่มทางเลือกให้กับทั้งคนสร้างงานและคนฟังได้ อย่างหลาย ๆ วงที่เป็นที่รู้จักในกรุงเทพ ฯ ตอนนี้ถ้าสืบดี ๆ ก็มีพื้นเพจากเชียงใหม่กันทั้งนั้น ขอฮาร์ดเซลไว้แค่ตรงนี้ เอาเป็นว่า ใครไม่เคยลองก็ต้องลองฟังกันแล้วแหละ จูนสัญญาณกันไม่นานหรอก แปปเดียวเดี๋ยวก็ติดใจ

Facebook Comments

Next:


Montipa Virojpan

อิ๊ก เนิร์ดดนตรีที่เพิ่งกล้าเรียกตัวเองว่าเป็นนักเขียนตอนอายุ 25 ชอบเดินเร็ว นอกจากขนมปังกับกาแฟดำแล้วก็สามารถกินไอศกรีมกับคราฟต์เบียร์แทนมื้อเช้าได้