Article ระเห็ดเตร็ดเตร่

ปลุกความสดสัยวัยมัธยมในตัวคุณขึ้นมากับ Singha Light Live Series Vol 2.4 – Phoenix

  • Story by Montipa Virojpan
  • Photos by StoppKitsch, McKee, Afatcatatearat

18 สิงหาคม 2560

img_3052

เมื่อคืนนี้เป็นอีกงานที่พวกเรารอคอยให้มาถึงอยู่นานสองนาน หลังจากที่พากันแห่กดบัตรจน sold out ในระยะเวลาอันสั้น และวันนั้นก็ได้มาถึงแล้วกับ Singha Light Live Series Vol 2.4 ที่แฟนชาวไทยจะได้ดู Phoenix กันแบบสด ตัวเป็น สักที ก่อนหน้านี้ไม่กี่วันเราได้ยินเสียงลือเสียงเล่าอ้างมาจากกลุ่มเพื่อนที่ได้ไปประเดิมโชว์ของพวกเขามาก่อนแล้วที่ Good Vibes Festival ประเทศมาเลเซีย แบบที่ทุกคนบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า Phoenix คือโชว์ที่ดีที่สุดที่เคยดูมาในชีวิต ตอนนี้ก็ถึงคิวที่พวกเราจะได้พิสูจน์กันแล้วว่าจริงอย่างที่เพื่อน บอกหรือเปล่า

img_3047

เรามาถึงสถานที่เล่นก่อนเวลาเริ่มแสดงหลายชั่วโมงเพราะมีนัดสัมภาษณ์กับวงก่อน (รออ่านกันด้วยนะ) ซึ่งก็ดีเหมือนกันเพราะคิดว่าการเดินทางในวันนี้จะสาหัสอยู่พอควร ไหนจะฝนตก และรถติดย่านลาดพร้าวอันเลื่องชื่ออีก แต่พอเราสัมภาษณ์วงเสร็จแล้วก็ออกมาเห็นผู้ชมเริ่มทยอยกันมาที่ Moonstar studio 8 กันพอสมควรแล้ว เพราะเขาคงจะคิดเหมือนเรา ระหว่างที่รอวงแรกขึ้นเล่นไม่รู้จะไปทำอะไรเลยหาของกินในงาน และวันนี้ก็ยังคงมี Alice Pizza มาให้บริการเช่นเดียวกับอีกหลาย งานของ Have You Heard? แต่วันนี้เป็นวันแรกที่ได้ลองกินก็อยากบอกเลยว่าแป้งพิซซ่าดีมาก กรอบ บาง หอม ส่วนตัวหน้าก็รสชาติเข้มข้นจัดจ้านกับหน้าฟิวชันหลายหน้าเลย

ใกล้ กับที่แสกน QR code เพื่อรับบัตรเข้างานก็มีโต๊ะขายของที่ระลึกของทัวร์ครั้งนี้ นั่นก็คือเสื้อที่เป็นโลโก้ของปกอัลบั้ม Ti Amo สีดำกับสีเทา และโปสเตอร์ทัวร์ ความหน้ามืดของเราเลยทำให้กดเสื้อมาตัวนึง รู้สึกว่ากระเป๋าตังค์โหวง ไปเล็กน้อย และตอนนั้นเองที่ฝนก็เทลงมาอย่างหนักหน่วง ทุกคนเลยพากันแห่เข้ามายืนในเต๊นท์โซนอาหารกันอย่างเนืองแน่นเพราะโต๊ะเองก็ไม่พอนั่งแล้ว

img_3033

ประมาณทุ่มครึ่ง ทีมงานประกาศว่าประตูเปิดให้เข้าไปในฮอลได้แล้ว หลายคนก็ค่อย ตบเท้าเข้าไปในงาน ซึ่งรอบนี้เขาไม่อนุญาตให้เอากล้องที่เกินกว่ากล้องมือถือเข้าไปในงานทั้งหมด จากคราวก่อนที่มีคนแอบถ่ายวิดิโอ Cigarette After Sex ทั้งโชว์ซึ่งละเมิดลิขสิทธิ์และผิดกฎหมายเลยต้องตัดไฟแต่ต้นลม ส่วนร่มก็เอาเข้าไม่ได้ต้องฝากกันไว้หน้างาน เรานี่มีทั้งกล้องทั้งร่มก็ต้องรีบออกจากแถวเอาของไปเก็บในรถกันล่ะค่ะ

img_3038

และในที่สุดหลังจากการผ่านด่านตรวจสัมภาระมาแล้ว เราก็เข้ามาอยู่ในฮอลเป็นที่เรียบร้อย ช่วงนี้คนยังค่อนข้างบางตาเพราะ Polycat จะขึ้นเล่นตอนสองทุ่มครึ่ง ซึ่งเราก็เข้าไปรอไม่นานนัก คนก็เริ่มเข้ามาหนาตาขึ้น วงดนตรีพร้อมแล้วบนเวทีและเริ่มบรรเลงเพลงดังของพวกเขา แต่ความพิเศษคือเป็นโชว์ที่มีการ arrange เพลงใหม่เกือบทั้งหมด อย่างเพลงแรกก็เป็น ภักดี ในเวอร์ชันละมุนละม่อม ชวนเลื้อย จากนั้นก็เป็นเพลง พบกันใหม่ ที่พอเป็นดนตรีมินิมัลแบบนี้แล้วความทำลายล้างทางอารมณ์ก็ถูกลดทอนไปเยอะเหมือนกัน (คิดถึงไลน์กีตาร์โซโล่หนัก ๆ แบบ 80s อันเป็นเอกลักษณ์ของเพลงเซ็ตนี้) แต่ต้องยอมรับว่าคุณนะเขาเป็นเอนเตอร์เทนเนอร์ที่ดีทีเดียว ไหนจะโดดเด่นในเสื้อเนื้อซาตินสีชมพูและท่วงท่าลีลาของเขา จากนั้นก็เป็นเพลง เวลาเธอยิ้ม กับ เพื่อนไม่จริง ที่เริ่มกลับมาเป็นเวอร์ชันปกติ จากนั้นก็เป็นช่วง interlude ที่เล่นเพลงบรรเลงกลิ่น 80s เท่รุนแรงแบบที่เราไม่เคยได้ฟังมาก่อน แล้วต่อด้วย เพื่อนพระเอก และเพลงภาษาญี่ปุ่นที่เพิ่งปล่อยมาให้ได้ฟัง The Flowers และอีกเพลงใหม่ใน EP ภาษาญี่ปุ่นที่ซาวด์จะดูเป็นหนังวัยรุ่นญี่ปุ่นแมน ขึ้นหน่อย จากนั้นก็เป็นเพลงจังหวะช้า อย่าง เป็นเพราะฝน ตามด้วย มันเป็นใคร และปิดท้ายกันที่ ซิ่ง เป็นการอุ่นเครื่องสำหรับโชว์ต่อไปแบบกำลังดี

img_3057

จนกระทั่งเวลาสี่ทุ่มตรง คนดูขยับขยายจับจองพื้นที่กันจนแน่นฮอล จนวงขึ้นมาบนเวทีพร้อมกับเพลงเปิดอัลบั้มชุดล่าสุด Ti Amo อย่าง J-Boy ที่ทุกคนร้องได้ แค่วินาทีแรกของเพลงที่จังหวะกลองสาดลงไปก็รู้เลยว่านี่จะต้องเป็นคอนเสิร์ตที่พลังพุ่งพล่านและสนุกมากแน่ คืออัดเต็มตั้งแต่เพลง ไฟ และวิชวลข้างหลัง เล่นแน่น เล่นน้อย แต่เทสต์ดี สีงามมาก เอาเป็นว่าคนโดดกันตั้งแต่เพลงแรก จากนั้นก็เป็นเพลง Lasso ในอัลบั้ม Wolfgang Amadeus Phoenix ที่คนดูก็ยังร้องเพลงตามไม่หยุดปาก

img_3070

ตามมาด้วยอีกเพลงดังอย่าง Entertainment จากอัลบั้ม Bankrupt! กับซาวด์จีนติดหูและภาพวิชวลน้ำตกที่เหมือนโปสเตอร์แปะในห้องน้ำร้านอาหารญี่ปุ่น เห็นแล้วช็อกเบา แต่เป็นความคาดไม่ถึงที่ดีนะที่เขาเอามาเบลนด์กับเพลงและโชว์แบบนี้ ต่อกันติด แบบไม่ให้หยุดหายใจด้วยอีกเพลงดัง Lisztomania และ Trying to be Cool กับ Drakkar Noir ที่ตอนนี้เท้าเราแทบจะไม่ติดพื้นแล้วจริง เต้นยับมาก แบบ โอ๊ยยยยย ขนเพลงฮิตมาเล่นหมดเลยว้อยยยย ไม่ไหวแล้วววว

20819341_1290210354421958_5672552281054027379_o

จากนั้นก็เป็นช่วงที่นำเข้าสู่พาร์ตอัลบั้ม Ti Amo กับเพลงซาวด์น่ารักอย่าง Lovelife ที่ไฟสวยมากกกกก เล่นสีไล่ไปสดใสซาบซ่าน ตามด้วย Role Model ที่กรูฟหนึบหนับชวนโยกมาก และย้อนกลับไปที่เพลงอัลบั้มเก่า Girlfriend ที่คนร้องกันในท่อน “Farewell well well well well well, till you know me well” กันลั่นฮอล แล้วเป็น Love Like a Sunset ทั้ง part I และ II ที่เป็นเพลงบรรเลงหนักหน่วงยาวนาน บิ๊วสุดใส่สุดแบบไม่ยอมลดลาวาศอกกันเลย เดือดมากกกกกก แล้วเป็นช่วงที่มีท่อนร้องให้ความรู้สึกอบอุ่นหัวใจ

img_3084

ในที่สุดก็ถึงเพลงชาติประจำตัวของเราเอง กรี๊ดแตกมากตั้งแต่อินโทร ก็ตะโกนคอแตกไปกับเพลง Long Distance Call วัยรุ่นมาก ตามมาติด กับเพลงที่ยังอัพบีทจากชุดใหม่อย่าง Ti Amo อยากเต้นซุมบ้าเลยค่า และย้อนกลับไป Wolfgang ในเพลง Armistice กับ Rome และ If I Ever Feel Better จากชุดแรก สองเพลงหลังนี่แหกปากกันไปเลยจ้า จัดหนักจัดเต็มจริง แล้วท้ายเพลงมีแซม ท่อนนึงของ Funky Squaredance เข้ามาด้วย

e04dd719-2fc2-49e0-8295-fc8bb34211c8

เข้าสู่พาร์ตอังกอร์ที่พูดได้เลยว่า เพลงจบอารมณ์ไม่จบจริง คนดูตบมือส่งเสียงร้องแบบไม่หยุดปาก เพราะตลอดเวลาที่วงเล่นมานี่พวกเขาได้ให้ความสนุกกับเราแบบ non-stop จริง และเมื่อพวกเขากลับขึ้นมาบนเวที ดนตรีอะคูสติกบรรเลงเพลง Countdown ที่ทุกคนร้องตามกันอย่างอบอุ่น ทาง Thomas Mars นักร้องนำเองเขยิบลงมาล่างเวทีจนใกล้ชิดกับแฟน มากขึ้น จากนั้นก็เป็นเพลง Goodbye Soleil และ Fior di Latte จากชุดใหม่ และปิดท้ายกันที่อีกเพลงฮิต 1901 ที่ทำให้ใครหลายคนได้รู้จักกับพวกเขา

cd754007-a90a-4b0d-b3b2-8bcb26c9090d

ทว่า คอนเสิร์ตยังไม่จบเพียงเท่านี้ เมื่อโธมัสเดินมาอยู่ท่ามกลางฝูงชนและมีคนให้เขาขึ้นไปยืนบนไหล่ พร้อมกับเพลง Ti Amo บรรเลงขึ้นอีกครั้ง คนดูทุกคนหันไปทางเขาเป็นสายตาเดียวกันและยกมือถือขึ้นมาบันทึกภาพความประทับใจนี้ เป็นโอกาสสุดท้ายที่เราจะได้สนุกไปกับเพลงของพวกเขากันแล้ว ทุกคนจึงเต้นกันแบบลืมว่าวันพรุ่งนี้จะต้องตื่นแต่เช้าไปทำงานกันต่อ แล้วส่งให้โธมัสว่ายข้ามฝูงชน (ว่ายจริง ) กลับขึ้นไปบนเวที จบฉากโชว์แรกในประเทศไทยของ Phoenix ที่พวกเขารอคอยมากว่า 18 ปีลงไปอย่างสวยงาม

img_3112

จากความสนุกเมื่อคืนนี้เองก็ได้พิสูจน์แล้วว่าคอนเสิร์ตของ Phoenix เป็นโชว์ที่ดีที่สุดโชว์นึงในชีวิตการดูคอนเสิร์ตจริง เพราะการแสดงที่เต็มอิ่มทั้งตัวเพลงที่บาลานซ์กันได้ดีระหว่างเพลงฮิตและเพลงใหม่ รวมถึงคุณภาพของการแสดงสดที่พวกเขาใส่แบบไม่ยั้ง ไม่หลุดซักเม็ด นักดนตรีแบ็คอัพก็โหดขิง ตั้งใจเรียงเพลงมาก แถมใส่ใจรายละเอียดต่าง นอกเหนือจาก performance คือวิชวล ไฟ อย่างที่บอกไปตอนต้นว่าเล่นน้อยแต่ได้มาก แล้วเป็นสีสันที่สวยที่สุดงานนึงที่เราเคยดูมา โดยรวมแล้วคือมันชิบหาย สนุกตลอดทั้งโชว์ กลมกล่อม อบอุ่น ย้อนวัย ไม่ผิดหวังเลยจริง ที่คาดหวังว่าจะมาปลุกไฟวัยรุ่นในตัวจากโชว์ของวงนี้ มีพี่คนนึงอัพสเตตัสประมาณว่า “Phoenix brings live music great again” เราว่าไม่มีอะไรจริงไปกว่าคำนี้อีกแล้ว

Facebook Comments

Next:


Montipa Virojpan

อิ๊ก เนิร์ดดนตรีที่เพิ่งกล้าเรียกตัวเองว่าเป็นนักเขียนตอนอายุ 25 ชอบเดินเร็ว นอกจากขนมปังกับกาแฟดำแล้วก็สามารถกินไอศกรีมกับคราฟต์เบียร์แทนมื้อเช้าได้