ตะลุย live house ใหม่ย่านอ่อนนุช กับ Asia Sound Space : Post Today งานดนตรีสาย post สำหรับชาว rock
- Writer: Montipa Virojpan
- Photographer: Numarion Design & Photography
10 มิถุนายน 2560
เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา Fungjaizine ไปบุก live house เล็ก ๆ แห่งใหม่ของ Brownstone เพื่อเป็นพื้นที่รองรับวงดนตรีนอกกระแส โดยงานแรกที่มาประเดิมสถานที่แห่งนี้คืองานที่รวบรวมวงดนตรีแนว post hardcore และ post rock ไว้ด้วยกัน โดยมี ฮอน จาก Hope the Flowers เป็นตัวตั้งตัวตีในการจัดงานครั้งนี้
การเดินทางมายัง Brownstone เราเลือกใช้วิธีนั่ง BTS มาลงที่สถานีอ่อนนุช แล้วต่อมอเตอร์ไซค์รับจ้างอีก 30 บาทเพื่อมาลงที่ ซ.อ่อนนุช 25 (อยู่ติดถนนใหญ่ ไม่ต้องเข้าซอย) พร้อมกับใจที่มุ่งมั่นว่าจะมาดู Jia Pa Bor Sue ให้ได้แม้ฟ้าฝนจะไม่เป็นใจตกก่อนงานเริ่มพอดี แถมแรงซะด้วย แต่ก็ไม่ทำให้เราย่อท้อ ฝ่าฝนเพื่อมาให้ทันวงแรกให้ได้
งานนี้จะมีการสลับโชว์กันระหว่างวง post rock กับ post hardcore เพื่อเป็นการแลกฐานแฟนเพลงกัน และแนะนำวงจากใหม่ ๆ เพื่อให้คนที่ไม่ค่อยได้ฟังเพลงอีกแนวนึงได้เปิดใจรับฟังกัน
เมื่อมาถึงที่ เราไม่รอช้ารีบวิ่งปรี่เข้าไปเพราะ Jia Pa Bor Sue ได้เริ่มบรรเลงแล้ว โดยเริ่มเพลงแรกด้วย Chowsex ตามด้วยเพลงที่เราไม่เคยได้ยินมาก่อน ต่อด้วยซิงเกิ้ลล่าสุด Moon Dog และก็เพลงที่ฮิตในหมู่ชาว post rock อย่าง Rainy Day เป็นเพลงแรกทำให้ใครหลาย ๆ คนรู้จัก Jia Pa Bor Sue และเชื่อว่าหลายคนต้องนึกถึงเพลงนี้ทุกครั้งในช่วงฤดูฝนอย่างนี้ ซึ่งเหมาะกับบรรยากาศวันนั้นมาก ๆ จากการตากฝนตัวเปียก ยืนหนาว มาดื่มด่ำกับความเศร้าหมองในวันที่ใจไม่สู้ดีนัก ก่อนจะปิดท้ายด้วยเพลง From Dusk Till Dawn (part 1) แม้ Jia Pa Bor Sue จะมีผลงานเพลงไม่มาก แต่ก็เป็นวง post rock อีกวงที่มีผลงานออกมาอย่างช้านานและรวมถึงเพลงใหม่ ๆ ก็น่าติดตาม หลังจากเล่นจบเราก็ได้พูดคุยกับวงเล็กน้อย ถามไถ่ทุกข์สุขสารดิบ และส่งแรงใจไปให้ ซึ่งทางวงเองก็ได้แย้บ ๆ มาว่าปีนี้เราน่าจะได้ฟังเพลงใหม่ของ Jia Pa Bor Sue ยังไงแฟนเพลงก็รอติดตามกันได้นะครับ
วงถัดมา คือวง post hardcore ชื่อว่า Kiss & Demise เป็นวงที่เราเคยได้ยินชื่อมานาน แต่พึ่งจะเคยได้ดูโชว์ครั้งแรก แต่ก็เรียกได้ว่ามีลีลาและซาวด์ที่ผสมผสานเสียง electronic synth ไว้ในความหนักหน่วงแบบ post hardcore ได้เป็นอย่างดี Kiss & Demis ขนเพลงฮิตอย่าง เส้นด้าย, ระบาย และ สายลม ที่พึ่งปล่อยไปเมื่อต้นเดือนมาเล่น แล้วยังมีเพลงจาก EP แรก อย่าง Atlantis และ Bermuda อยู่ในเซ็ตลิสต์นี้ด้วย การแสดงโชว์ของพวกเขามีความดุดันและชวนกระโดดอยู่ตลอดเวลา ที่รู้สึกประทับใจอีกอย่างหนึ่งคือการมีส่วนร่วมของคนดู ซึ่งพร้อมที่จะกระโดดโลดเต้นไปพร้อมกับวงที่แสดงสดอยู่เสมอ
วงต่อไปเป็นของฝั่ง post rock ภาคเหนือ Ziriphon Fireking จากค่าย Summer Disc ที่เดินทางมาไกล เป็นหนึ่งในวง post rock ที่ยังคง active มาอย่างต่อเนื่องแม้จะผ่านมาหลายปี มีความรู้สึกว่าวงนี้พัฒนาตัวเองอยู่ตลอดเวลา จนค้นเจอซาวด์ ambient ที่ละมุน แต่ก็ไม่เคยทิ้งความดุดัน แถมมีการปรับโชว์เล็กน้อยเพื่อสร้างประสบการณ์ที่แปลกใหม่ เพลงที่ขนมาเล่นก็ได่แก่ เสียงของความเงียบ, พร้อม (Ready), Well, 201.1 km และที่พิเศษสุดคือเพลงใหม่ ที่รู้สึกว่าจะยังไม่ได้ตั้งชื่อ ทำให้หลาย ๆ คนใน Brownstone กลายเป็นผู้โชคดีที่ได้ฟังกันก่อนใคร
ข้ามมาฝั่ง post hardcore กันบ้างที่เปลี่ยนบรรยากาศให้ Brownstone ร้อนระอุมากขึ้น จากการขึ้นเวทีของ Nobuna ที่มีดีกรีเข้ารอบ Tiger Jams 2 (ขายของเลย แหะ ๆ) วงนี้นอกจากหน้าตาดีแล้ว ยังแต่งตัวเท่ทุกคน ถ้าใครอยากอ่านบทสัมภาษณ์ของเขา สามารถคลิกได้ ที่นี่ โดยในงานนี้เปิดตัวด้วยเพลง Crown of Blood ต่อด้วย Your Masquerade ที่มีแขกรับเชิญพิเศษจากวง Like a Secret Seen ขึ้นมาแจมในช่วงท้ายเพลง The Rise, Gravity และ My Battle Cry ที่มีทั้งความดุดันจากการว้าก และเมโลดี้เพราะ ๆ ที่คอยสอดแทรกตลอดทั้งเพลง ทำให้รู้สึกว่าเพลงหนัก ๆ พวกนี้ฟังง่ายมากขึ้น โดยส่วนตัวชอบ performance ของ Nobuna เป็นพิเศษ เพราะนอกจากจะมีความพิถีพิถันในส่วนของภาคดนตรีแล้ว นักร้องทั้งสองคนยังสามารถเอ็นเตอร์เทนคนดูได้ดีเลยทีเดียว
กลับมาฝั่งของ post rock รุ่นใหญ่กันบ้าง Hope the Flowers ได้ขึ้นเป็นวงสุดท้ายของฝั่ง post rock ซึ่งมาพร้อมซาวด์ที่แน่นปึ้กกว่าเดิมมาก ๆ ครั้งนี้ได้มือกลองจากวง SHE น้องใหม่ในค่าย Newlights Production มาช่วยตีให้ และขนเพลงใหม่ ๆ มาเล่น โดยเปิดฟลอร์ด้วยเพลง Wake Up ที่ปลุกให้ทุกคนมีแรงโยกหัวและต่อด้วย Into the Parallel ที่เล่นได้อลังงานการสร้างกว่าเดิม นอกจากนั้นยังมีเพลงฮิตจากอัลบั้มเก่าอย่าง I’m Sorry to Say, I Can’t be on Earth ก่อนจะปิดด้วยเพลงใหม่ ๆ อย่าง Ether และ Loneliness ในงานครั้งนี้มีหลายเสียงคุยตรงกันว่าเป็น Hope the Flowers เล่นได้แน่นขึ้นกว่าเดิมมาก ซึ่งเราก็รู้สึกเหมือนกัน เนื่องจากได้ดูวงนี้อยู่เรื่อย ๆ และเห็นว่าทางวงพยายามปิดช่องโหว่ที่เคยมีอยู่ ซึ่งก็ทำได้ดีเลยทีเดียว ขอส่งแรงเชียร์ไปให้อีกทอดนะครับ ฮึบ ๆ
เดินทางมาถึงคิววง post hardcore วงสุดท้ายของงาน The Rocket Whale สำหรับเรานี้เป็นครั้งที่สองที่ได้ดูวงนี้ เป็นที่มีซาวด์ความหนักแน่นผสมกับเสียงกีตาร์ที่ใช้ delay เพื่อสร้างเมโลดี้ลอย ๆ ทำให้ไม่รู้สึกว่าเป็นวงที่มีแต่ดนตรีหนัก ๆ เพียงอย่างเดียว แต่แฝงความไพเราะ และจังหวะสนุกสนานปนอยู่ด้วย นอกจากนั้นรู้สึกว่า วงนี้ยังมีอดีตสมาชิกวง screamo รุ่นบุกเบิกอย่าง Housetrap อยู่อีกด้วย The Rocket Whale เริ่มโชว์ด้วยเพลง The Persuader ที่ดึงเอากลุ่มคนฟังร่วมกระโดดกันอีกครั้ง หลังจากล่องลอยกับ Hope the Flowers มาแล้ว ต่อด้วย Relativity และ Avalon ที่แม้จะดึงความดุดันลงมา แต่ยังคงจังหวะที่สนุกสนานชวนเต้นตามอยู่เรื่อย ๆ พร้อมด้วยเพลงใหม่ที่ยังไม่ได้ปล่อยชื่อว่า Jorah ก่อนที่จะอัพดีกรีความเดือดขึ้นมาด้วย Nebula และ Alaskan Trap
สำหรับการ merge แฟนเพลงสาย post rock และ post hardcore ไว้ด้วยกันในงานเดียวของ Asia Sound Space ถือเป็นอีเวนต์ที่แปลกใหม่ใน scene ดนตรี แต่ก็ทำได้ดีและเปิดโลกให้หลาย ๆ คนได้รู้จักกับแนวทางใหม่ ๆ ต้องขอบคุณฮอนจาก Asia Sound Space และ Brownstone มาก ๆ เลยครับ ที่จัดงานดี ๆ ให้เราได้สนุกกัน แม้ฝนจะไม่เป็นใจ แต่รู้สึกดีที่มีหลาย ๆ คนตั้งใจมาเพื่อดูวงดนตรีเหล่านี้ และ support ศิลปินเหล่านี้ให้มีกำลังใจในการสร้างผลงานเพลงต่อไป
ขอบคุณภาพจาก Numarion Design & Photography
