Article ระเห็ดเตร็ดเตร่

ผนวกกำลังดนตรีสุดมันจาก ไทย-ญี่ปุ่น ใน Space Shower Retsuden 2017

  • Story and photos: Montipa Virojpan

14 มีนาคม 2560

img_9578

ก่อนอื่นต้องขอยอมรับกันตรงนี้ว่าเราไม่ได้ติดตามงานของวงดนตรีญี่ปุ่นเท่าไหร่นัก ซึ่งค่อนข้างแปลกใจที่จู่ ๆ ก็จะมีวงญี่ปุ่นหน้าใหม่ที่ไม่คุ้นชื่อมาให้เราได้ดูถึงสามวงด้วยกัน และบัตรก็ถูกมาก ๆ ด้วย

Space Shower Retsuden ASIA TOUR 2017 powered by MCIP คืองานดนตรีงานแรกของ ฟังใจ ที่ได้ร่วมกับช่อง Space Shower ของญี่ปุ่น ขนศิลปินคุณภาพจากแดนอาทิตย์อุทัยทั้ง 04 Limited Sazabys, Frederic และ The Oral Cigarettes มาร่วมแสดงกับวงดนตรีฝีมือไม่ธรรมดาของบ้านเราทั้ง electric.neon.lamp, Gym and Swim และ Desktop Error ยาวนานต่อเนื่องกัน 5 ชั่วโมงกันเลย

img_9572

อย่างที่รู้กันว่าการจราจรในกรุงเทพ ฯ ช่วงเย็นมันโหดร้ายขนาดไหน แม้เรารีบให้ตายก็ยังเลท คือไปถึงที่งานประมาณทุ่มสิบนาทีแต่งานนี้เขาจัดตรงเวลามากจริง ๆ เลยทำให้เราพลาด electric.neon.lamp ไปหนึ่งเพลงครึ่ง ก็เลยมาทันในเพลง นิมมานเหมินทร์ ตามด้วยเพลงซาวด์เท่อย่างนางรอง แล้วเร่งจังหวะกันขึ้นมาอีกนิดในเพลง รถไฟแห่งความฝัน กับ อวกาศ และปิดท้ายกันที่โทรจิต แม้ว่ากับโชว์นี้ ถึงแม้พลังจะตก ๆ ไปหน่อย แต่ก็ยังประคองโชว์และสร้างความสนุกให้ผู้ชมได้อยู่ตลอด

img_9569

ที่ชอบมากเลยคือคนดูให้ความร่วมมือดี บอกให้ชูมือและตบมือตามจังหวะก็ทำ แถมยังเต้นกันด้วย ดูทุกคน enjoy กับโชว์กันตั้งแต่วงแรก ทำให้บรรยากาศเริ่มต้นได้อย่างคึกครื้น และยังเพิ่มความน่าสนใจจากการได้มือคีย์บอร์ด/ซินธ์ มาเพิ่มซาวด์แปลกใหม่ให้กับโชว์นี้ด้วย ไม่แน่ว่างานชุดใหม่ของพวกเขาอาจจะมีอะไรมาเซอร์ไพรส์พวกเราก็ได้ เท่าที่สังเกต โชว์ช่วงนี้ของณีอรจะกลับมาหยิบเพลง side B ที่ไม่ค่อยได้เล่นมาเล่นให้เราได้ฟังกันบ่อยขึ้น ซึ่งเป็นเพลงเด็ดทั้งนั้น หากใครไม่เคยฟังลองกลับไปที่อัลบั้ม Bright Side กันดู  

img_9581

จากนั้นก็เป็นคิวของวงญี่ปุ่นวงแรก 04 Limited Sazabys ที่ตอนก่อนจะขึ้นโชว์ ก็จะมี vtr เปิดตัวศิลปินก่อนด้วย (ซึ่งวงก่อนหน้านี้ก็น่าจะมีเหมือนกัน) เมื่อภาพสมาชิกวงปรากฎขึ้นบนจอ เราก็ได้ยินเสียงกรี๊ดจากเหล่าแฟนคลับอย่างล้นหลาม ตามมาด้วยการมาถึงของศิลปินบนเวที ซึ่งออร่าของพวกเขาก็มีความเป็นบอยแบนด์แบบสุด ๆ คือพอขึ้นมาก็เล่นหูเล่นตา ชวนเหล่าแม่ยกปรบมืออะไรอย่างนี้ บอกเลยว่าไม่ชินสุด ๆ แต่หลังจากลัลล้ากันได้ไม่นาน ทุกคนก็เข้าประจำที่ และทันทีที่มือกลองหวดไม้ลงไปอย่างหนักหน่วงเท่านั้นแหละ โอย เดือดโว้ย นี่เป็นครั้งแรกที่ได้ดูวง skate punk ญี่ปุ่น หน้าใสแต่ฝีมือไม่ธรรมดาเลยจริง ๆ เล่นกันว่องไวไฟแล่บไม่หยุดหย่อน เอะอะก็จะปีนขึ้นมอนิเตอร์อย่างเดียว ไอ่เราก็โยกหัว กระโดดกับเพลงพี่แกแบบหายใจไม่ทันเหมือนกัน

img_9584

ซึ่งเพลงแรกคือ Swim ต่อด้วย Fiction กับอีกเพลงที่นึกใจว่า นี่กะเล่นเหมือนวงปิดเลยใช่มะ จนจบเพลงสามถึงได้มาพักคุยกันกับคนดูเนี่ยแหละ แล้วชอบจังตอนที่วงพ่นภาษาญี่ปุ่นมาแล้วแฟนเพลงขานรับตอบกันได้เสียงดังฟังชัด ก่อนจะเล่นต่อด้วยเพลง Warp ที่เป็น pop punk ลดดีกรีความเดือดลงมาหน่อย แล้วเป็น Climb กับอีกเพลงที่เราชอบมาก ๆ อย่าง Horizon รู้สึกว่าเป็นเพลงที่เอาเมโลดี้ป๊อปแบบญี่ปุ่นมาใส่ดนตรีพังก์ได้เข้ากันดีมาก (มือกลองโหดมาก ยอมแล้ว) ก่อนจะปิดท้ายด้วยเพลง Swim อีกครั้ง ที่บอกเลยว่าคนดูทั้งชายและหญิงโยกกันยับมาก ๆ เรียกว่าทำเอาเหงื่อชุ่มกันเลย

img_9590

หลังจากที่วงแรกจบไปก็เป็นตาของ Frederic ที่ดูท่าแฟนเพลงของวงนี้จะเยอะใช้ได้ แม้การเปิดตัวจะไม่ออร่าความสดใสพุ่งแบบวงแรกแต่ก็เรียกเสียงกรี๊ดได้ไม่เบากับเพลง Rererepeat มาแบบนุ่ม ๆ กันก่อน ต่อด้วยเพลงสองที่เล่นกันมัน ๆ แว้น ๆ แต่มีท่อน breakdown ที่เพราะพริ้ง เพลงส่วนใหญ่ของพวกเขาจะเป็นร็อกที่มีความเป็นดิสโก้ ฟังก์ ป๊อปแบบญี่ปุ่นสมัยก่อนที่เอามาทำให้ล้ำขึ้น ซาวด์จะพุ่ง ๆ ดีดดิ้นเต้นสนุก บางเพลงก็เพี้ยนไปเลย

img_9587

พอจบเพลงสามอย่าง Uwasa no Kemuri no Onnanoko ก็พักทักทายคนดูเหมือนกัน มีประโยคนึงจำได้ พูดเป็นภาษาไทยค่ะ บอกว่า ‘เราเป็นวงที่เจ๋งที่สุดในญี่ปุ่น’ เอ้ออออ เอากับเขาสิ แล้วก็เล่นเพลง Night Step จากนั้นก็ถึงเวลาที่แฟนเพลงรอคอยที่พวกเขาเล่นเพลงดังอย่าง Oddloop ที่ในเพลงจะมีท่าเต้นให้เต้นตามกันได้ แล้วก็มีคนเต้นตามกันจริง ๆ เป็นภาพที่น่ารักดี ก่อนจะปิดท้ายด้วยเพลง Onlywonder ที่ก็มีท่าเต้นอีกเหมือนกัน เป็นภาพที่แปลกตาเราทีเดียว

img_9597

ต่อไปก็กลับมาเป็นคิวของวงเจ้าบ้านอย่าง Gym and Swim ซึ่งเราว่าหนนี้พวกเขาทำโชว์ได้สนุกกว่าครั้งไหน ๆ โดยเปิดตัวมากับเพลง Bunny House ในฟีล tropical pop แล้วจึงทักทายคนดูเป็นภาษาอังกฤษรัว ๆ บอกว่าตัวเองมาจากสำโรง ก็เรียกเสียงฮากันไป ตอนนี้ก็มีการแซวเล่นกันว่าคุณเฉลิมไม่พูดภาษาไทยเลยนะ แล้วถามว่าใครเป็นศิลปินที่ชอบ คำตอบก็ไปลงที่ AKB48 ทาร์เก็ตของพี่เขาแน่นอนจริง ๆ

img_9602

จากนั้นก็เล่นเพลง Sunrise ที่เราว่าซาวด์ดนตรีดีมากจริง ๆ จากการที่เราเคยฟังเพลงของพวกเขามาเรามอบให้โชว์นี้คือที่สุด ด้วยเครื่องเสียง ด้วย performance ไม่ธรรมดา สร้างความสนุกให้เราได้ตลอดโชว์ จากนั้นก็เป็นเพลง What Time is it There? แล้วก็เป็น Yuuwahuu ที่เราได้ยินคนร้องตามกันเยอะเลย มีช่วงที่เซอร์วิส (?) ให้แฟนเพลงด้วยการแนบชิดทำหวานกันระหว่างมือกีตาร์และมือเบสด้วย ต่อด้วยเพลง Octopussy คุณเฉลิมก็มีแกล้งจะโยนผ้าขนหนูให้คนดูอยู่หลายรอบ จนสุดท้ายก็โยนจริง ๆ ก่อนจะปิดท้ายด้วย Iron Man ได้อย่างเมามันเลยล่ะ

img_9620

แล้วก็ได้เวลาของวงญี่ปุ่นวงสุดท้ายของงาน The Oral Cigarettes ที่ก่อนมางานเราได้ลองฟังเพลงของพวกเขาไปนิดนึง และคาดหวังกับโชว์ของพวกเขามากเพราะเพลงพี่แกเป็นร็อกที่โหด ล้ำ สกิลละเอียดมาก แต่จุดนี้คนดูเริ่มบางตาลงนิดนึงแล้วด้วยอะไรก็ไม่ทราบ แต่พอ vtr พร้อมเพลง drum & bass ที่ใช้เปิดตัวประหนึ่งมวยปล้ำจบลงไป สมาชิกวงก็พุ่งตัวขึ้นมาบนเวที ออร่าศาสดาก็พุ่งขึ้นมาอีกครั้ง หลายคนกรูไปยืนรวมตัวกันบริเวณกลางและหน้าเวทีเพื่อรับอานิสงส์จากนักร้องนำที่ยืนอยู่บนแท่นหน้าเวที ทั้งการเหวี่ยงสายไมค์ ท่วงท่าประกอบเพลงที่สร้างพลังขึ้นได้เยอะมากในเพลงแรก ต่อด้วยเพลง DIP-BAP ที่ท่อน โวะ โอ โวะ โอ่ โอ๊ เขาบอกให้เราร้องตามพร้อมชูมือ ตอนนั้นทุกคนก็ร้องและทำตามศาสดาแบบไม่อิดออด

img_9615

เพลงที่สามแค่ขึ้น intro มาละบอกให้ jump! ในเพลง Kantan na Koto ทุกคนก็โดดกันยับ ก่อนจะมาทักทายกันตามสูตร แต่หนนี้เขาหยิบโพยขึ้นมาพูดเลยจ้า บอกว่าเคยอยู่ไทยมา 3 ปีก็เรียกเสียงฮือฮาจากผู้ชมเชียวล่ะ Kyoran Hey Kids!! ไลน์กีตาร์ปิศาจมาก กับอีกเพลงที่ breakdown เพราะอีกแล้ว ก่อนจะปิดท้ายกันที่เพลง 5150 เขาก็บอกว่าอยากจะกลับมาเล่นโชว์ของวงตัวเองเดี่ยว ๆ อีกครั้งนึง เขาประทับใจบ้านเรามาก (ขอให้กลับมาเหอะ จะไปดู!) ก่อนจะเริ่มเล่นเพลงสุดท้ายนี้ โน้ตแรกขึ้นเท่านั้นแหละ โอ๊ย กีตาร์จะพุ่งไปไหน พลังพี่เยอะมาก ทั้งนักร้อง มือกีตาร์ มือเบส มือกลอง บ้าไปแล้ว โยกหัวกันคอเคล็ดไปเล้ย

img_9619

ส่งท้ายคอนเสิร์ตคำคืนนี้ด้วยอีกวงที่เรารอคอย Desktop Error ที่แม้อารมณ์เพลงจะไม่ได้เดือดดาลเท่าวงก่อนหน้า แต่ความนิ่ง ดุ เจนสังเวียนก็ทำให้พวกเขาถ่ายทอดเพลงออกมาได้อย่างน่าประทับใจทุกเพลงจริง ๆ และความที่เครื่องเสียงดีแบบสุด ๆ ทำให้เราเซอร์ไพรส์มาก คือตั้งแต่มาดูงานที่ venue นี้ น้อยมากที่จะได้ฟังซาวด์ที่อยู่ในขั้นโอเค แต่หนนี้มันคือดีจัดเลยไง แล้วนึกภาพเพลงของ DE ได้ส่งผ่านแอมป์ดี ๆ แบบนี้แล้วก็เกินบรรยายล่ะฮะ เริ่มกันที่เพลง Ticket to Home ที่ค่อย ๆ นำเข้าโชว์อย่างนุ่มนวล ก่อนจะส่งไปยังท่อนท้ายเพลงที่เครื่องดนตรีทุกชิ้นโหมกระหน่ำเสียงเข้าหากันทำเอาขนลุกกันเลยล่ะ

img_9650

ต่อกันที่เพลง Instinct เป็นงานที่ช่วงท้าย ๆ เราจะได้ฟังย่านเบสอันหนักหน่วง กีตาร์กับกลองดุดัน และยาวนาน น่าสนใจที่พวกเขาหยิบเพลงจากใน EP มาเล่น น่าจะเป็นผลพวงจากงานคอนเสิร์ต 10 ปีครั้งที่ผ่านมา ตามมาด้วย ปัจจุบันนา ที่บิลด์อารมณ์ดาร์กกันต่อจากเพลงที่แล้วในช่วง intro แต่ก็ตัด outro ขลัง ๆ ออกไปเยอะอยู่ ต่อด้วยน้ำค้าง ต่างด้าว ที่เราและทีมงานฟังใจบางส่วนเต้นและร้องแหกปากเป็นคนบ้ากันไปแล้ว ก่อนจะเป็นเพลง Mind เพลงบรรเลงสุดไพเราะที่ทำให้เราขนลุกจนต้องยืนนิ่ง และร้องไห้ออกมาเพราะความรู้สึกที่เสียงดนตรีในฮอลกำลังโอบอุ้มเรา เมื่อจบเพลง พวกเรารู้สึกว่ายังอยากดูพวกเขาอีก จึงตบมือและขออังกอร์กันอยู่พักนึง ซึ่งวงก็ไม่ปล่อยให้เรารอนานมาก กลับขึ้นมาเล่นเพลง ทุกทุกวัน ปิดท้ายโชว์กันไปอย่างสวยงาม

img_9657

เป็นห้าชั่วโมงที่ยาวนานแต่คุ้มค่าประสบการณ์การชมคอนเสิร์ตมากจริง ๆ ด้วยการที่ส่วนตัวก็มีความคาดหวังประมาณหนึ่งจากที่หลายคนเคยบอกมาว่าวงนั้นดีวงนี้ดี แล้วพอเอาเข้าจริง หลาย ๆ วงก็มี performance ที่ดีกว่าที่เราคาดคิดไว้ วงที่เคยดูก็เล่นดีมาก ๆ ในครั้งนี้ รวมไปถึงระบบเสียงที่ดีงามแบบที่เราต้องกราบผู้จัดจริง ๆ กับความใส่ใจในเรื่องเสียงของเขา มันทำให้เราสามารถพูดได้เต็มปากเลยว่า นี่เป็นคอนเสิร์ตแรกของปีที่ทำให้เราประทับใจที่สุด และเต้นกันหัวหลุดไปกับวงที่ไม่เคยรู้จักมาก่อนด้วยซ้ำ ตื่นมานี่ปวดคอเลย หรือแม้แต่สภาพแวดล้อมที่เต็มไปด้วยกลุ่มคนดูที่เราไม่คุ้นชินมาก่อน แต่พวกเขามีวัฒนธรรมการดูคอนเสิร์ตที่น่าสนใจ คืออินกับศิลปินมาก นี่จึงเป็นอีกส่วนทำให้คอนเสิร์ตครั้งนี้มีชีวิตชีวาแบบสุด ๆ และอีกอย่างนึงก็คือ นี่เป็นข้อพิสูจน์ของการไปดูคอนเสิร์ตของวงที่ไม่รู้จัก แต่ได้เสียงการันตีมาว่าดีก็น่าลองไปดูกันสักตั้ง

img_9651

อย่างตอนนี้ทีมงานฟังใจหลายคนกลายเป็นแฟนคลับของ 04 Limited Sazabys, Frederic และ The Oral Cigarettes ไปแล้วทั้งที่ปกติก็ไม่ฟังแนวนี้เลย เอาเป็นว่า งานหน้าของ ฟังใจ จะมี Borderless ที่พร้อมนำเสนอวงที่คุณไม่คุ้นทั้ง Riot !n Magenta, Matajiwa, Diaries หรือที่พอคุ้นบ้างแล้วอย่าง Safeplanet และ De Flamingo แต่ทุกวงคือวงที่ทีมงานคัดสรรมาอย่างดี ลองเปิดใจแล้วมาฟังกันดูนะ

Facebook Comments

Next:


Montipa Virojpan

อิ๊ก เนิร์ดดนตรีที่เพิ่งกล้าเรียกตัวเองว่าเป็นนักเขียนตอนอายุ 25 ชอบเดินเร็ว นอกจากขนมปังกับกาแฟดำแล้วก็สามารถกินไอศกรีมกับคราฟต์เบียร์แทนมื้อเช้าได้