Florence Foster Jenkins

Article Story

Florence Foster Jenkins หญิงสาวผู้ถูกขนานนามว่าเป็น ‘นักร้องที่ห่วยที่สุดในโลก’

  • Writer: Peerapong Kaewthae
  • Art Director: Tas Suwanasang

เวลาเราพูดถึงศิลปินระดับตำนานซักคน เรามักพูดถึงความสามารถอันล้นเหลือหรือผลงานอมตะตลอดกาล เทิดทูนความเก่งกาจที่น่าจดจำของเขา ตัดพ้อถึงวันนี้ที่ไม่มีทางได้สัมผัสอัจฉริยภาพแบบนั้นอีกแล้วชั่วชีวิตนี้ เป็นเรื่องธรรมดาที่โลกมักจดจำแต่คนที่เป็นอันดับหนึ่งเท่านั้น จะมีซักกี่คนที่ลองตั้งคำถามว่า ‘แล้วคนที่ห่วยที่สุดล่ะ?’ เรากำลังพูดถึงหญิงสาวคนหนึ่งที่เป็นตำนานแห่งวงการดนตรีร้อยปีที่แล้ว ว่าเป็นนักร้องที่ห่วยที่สุดในโลก ชื่อของเธอก็คือ Florence Foster Jenkins

Florence Foster Jenkins

ในศตวรรษที่ 20 นอกจากเธอจะเป็นเศรษฐีนีผู้ใจบุญและเป็นคนดังในแวดวงสังคมชั้นสูงแล้ว เธอยังบอกใครต่อใครว่าเธอคือนักร้องโซปราโนตัวแม่ โดยที่ไม่รู้เลยว่าตัวเองร้องเพลงได้เลวร้ายเหมือนไจแอนท์แค่ไหน แต่ความรักในเสียงดนตรีของเธอนั้นออกมาจากก้นบึ้งหัวใจ จนความพยายามที่จะทำในสิ่งที่เธอรัก สร้างความประทับใจให้ใครหลายคน ด้วยการปิดคาร์เนกี้ฮอลล์ (ฮอลเดียวกับที่มีคนบอกว่าต้องซ้อม ซ้อม ซ้อม แล้วก็ซ้อมนั่นแหละ) เพื่อเปิดโชว์การกุศลที่กวาดรายได้ไปหลายล้านจนถูกบันทึกในประวัติศาสตร์แห่งเสียงดนตรี เพราะเธอไม่เคยสนใจเสียงหัวเราะเยาะมากมายตามรายทางที่เดินผ่านมา เพื่อรออาบเสียงปรบมืออันท่วมท้นในท้ายที่สุด

ทุกคนอาจจะเห็นตรงกันว่าเธอคือนักร้องที่ห่วยที่สุดในโลก มันเลยน่าทึ่งที่เธอไม่เคยรู้ตัวเลยตลอดชีวิต ภาพของการเป็นนักร้องเสียงไพเราะถูกดำรงไว้ด้วยการสนับสนุนจากสามีที่รักเธอหมดหัวใจอย่าง St. Clair Bayfield ที่ทำให้เธอรักในสิ่งที่เธอกำลังทำอยู่ และเชื่ออยู่เสมอว่าเธอกำลังสร้างความสุขให้กับผู้ชมทุกคนที่ได้ยิน

แน่นอน เรื่องราวชีวิตของเธอถูกนำไปสร้างเป็นละครบรอดเวย์ที่กวาดรางวัลไปมากมายหลายเวที แถมยังกลายเป็นหนังสืออีกหลายเล่มและถูกแปลอีกหลายภาษา Darryl W Bullock คือหนึ่งในนักเขียนที่บันทึกอัตชีวประวัติของเธอ ไม่แปลกใจเลยที่เขาจะพูดว่าเธอคือนักร้องยอดแย่คนโปรดของเขา เธอคือตัวอย่างที่ยิ่งใหญ่เกินกว่าจะเห็นได้ตามรายการทีวีเรียลลิตี้โชว์ในยุคนี้ “หลายคนมาดูโชว์ก็เพื่อหัวเราะเยาะเธอ สุดท้ายพวกเขาก็ต้องแพ้ใจให้กับเสน่ห์และความสนุกที่เธอได้รับจากการทำสิ่งที่เธอรัก Florence รักเสียงดนตรีมากและอยากให้ทุกคนรักมันเหมือนเธอ เธอเป็นคนที่จริงใจมาก ๆ ค่อนไปทางโลกสวย เธอไม่เคยพูดถึงใครในทางที่ไม่ดีเลย”

Bullock เสริมอีกว่า “เรื่องราวของ Florence เกี่ยวกับการเชื่อมั่นในตนเอง มันคือแนวคิดที่ว่าทุกคนจะบรรลุถึงเป้าหมายได้แน่นอนตราบใดที่ยังเชื่อมั่นในตัวเอง เธออาจะร่ำรวยอย่างมหาศาลเป็นทุนเดิมแต่มันก็ไม่ใช่ทุกอย่างสำหรับเธอ เธอดื่มด่ำกับงานศิลปะไม่ใช่เพราะชื่อเสียงหน้าตาในสังคม แต่เสียงดนตรีร่ำร้องหาเธอเอง เธอเลยฝึกฝนตัวเองเหมือนกับศิลปินทุกคน เป็นใครก็ต้องหัวเราะเยาะยายแก่พิลึกพิลั่นที่แต่งตัวน่าขันที่ร้องเพลงได้น่าสยดสยองอยู่แล้ว แต่เราจะเห็นความสุขที่เธอมอบให้และได้รับจากการร้องเพลงอย่างชัดเจน”

ผู้ชมของเธอมักถูกแยกเป็นสองประเภทชัดเจน คือคนที่ห่วงใยเธอจากใจจริง และให้อภัยในความสามารถของเธอ กับคนที่มาเพื่อหัวเราะในความไร้เหตุผลของโชว์ตรงหน้าพวกเขา แต่ต้องเข้าใจว่าคนกลุ่มหลังก็ไม่ได้มีเจตนาร้ายอะไร ทุกคนเพียงมาเพื่อความสนุกสนานเหมือนกัน โดยเฉพาะโชว์ที่คาร์เนกี้ฮอลล์ในปี 1944 ที่อยู่ระหว่างสงคราม เมื่อผู้คนสิ้นหวังจากความน่ากลัวของชีวิตจริงและหาเหตุผลที่จะหัวเราะไม่ได้เลย

ชีวิตของเธอยังได้โลดแล่นไปมาบนจอภาพยนตร์โดยใช้ชื่อหนังตามชื่อของเธอเลยว่า ‘Florence Foster Jenkins’ ผู้กำกับเพียงให้เหตุผลว่าเรื่องราวของเธอมันน่าหฤหรรษ์และน่าประทับใจไปพร้อมกัน หนังยังได้ดารารุ่นใหญ่มากฝีมืออย่าง Meryl Streep มารับบทเป็นนักร้องที่ห่วยที่สุดในโลกคนนี้ เธอจำกัดความ Florence ว่า “บันดาลใจและน่าสยดสยองไปพร้อมกัน แต่ยังเร้าใจและน่าขบขันเพราะเธอจริงใจสุด ๆ แม้จะทำได้ไม่ดีก็ตาม” ซึ่งหนังเรื่องนี้ก็ชวนพิสูจน์สิ่งที่เธอเคยพยายามทำมาตลอดให้คนรุ่นนี้ได้เห็น

เธอชอบและหลงใหลในเสียงดนตรีอย่างแท้จริง “แนวคิดที่คอยมองหาความสนุกจากสิ่งที่กำลังทำ ทุกคนก็ต้องเข้าใจแน่ ๆ” Streep พูดขึ้นมา เพราะว่าเรื่องราวของเธอตั้งคำถามที่สะท้อนถึงทุกคนที่ฝึกฝนอะไรก็ตามอย่างหนักหน่วงเพื่อสิ่งที่เรารัก พยายามทุกวิถีทางเพื่อเป็นใครซักคน เพื่อไปให้ถึงจุดที่เราต้องการโดยไม่คำนึงถึงความสามารถของตัวเองเลย มันสำคัญตรงนี้

“เธอสร้างแรงบันดาลใจได้จริง ๆ” Darryl W Bullock ยอมรับ “เธอรักสิ่งที่เธอทำมาก เธอเป็นแบบอย่างของศิลปินที่ชอบสร้างสรรค์และต้องสร้างสรรค์ต่อไปแม้จะโดนวิจารณ์ เธอรู้ว่าตัวเองต้องการอะไรและต้องทำยังไงถึงจะได้มันมา แถมไม่ยอมให้ใครมาขวางทางเธอด้วย เด็ดเดี่ยว แน่วแน่ เต็มที่กับทุกสิ่งไม่ว่าจะโดนกระทำยังไงก็ตาม เธอตระหนักถึงคำวิจารณ์ทั้งหลายและเอาชนะมันให้ได้”

แม้แต่คนที่ไม่รู้จักเธอเป็นการส่วนตัวเลยอย่าง David Bowie นักร้องผู้ล่วงลับขวัญใจวัยรุ่น ก็ยังซาบซึ้งต่อผลงานของเธออย่างคาดไม่ถึง เขาเคยให้สัมภาษณ์ในช่วงหลัง ๆ ของชีวิตว่า EP ชื่อเดียวกับชื่อของเธออย่าง Florence Foster Jenkins ที่ออกในปี 1962 คือหนึ่งในอัลบั้มที่เขาชอบที่สุดตลอดกาล “มันเปลี่ยนชีวิตผมไปเลย” เขาพูดถึงงานของนักร้องที่ห่วยที่สุดในโลกไว้สั้น ๆ แค่นี้ ลองฟังเพลงที่ผมชอบ(?)ที่สุดจากอัลบั้มดังกล่าวข้างล่างนี้ และตัดสินด้วยตัวเองดีกว่า

อ้างอิง
Celebrity fan club: the stars who loved the world’s worst singer
Meryl Streep on how singing off-pitch in Florence Foster Jenkins took its toll
Facebook Comments

Next:


Peerapong Kaewthae

แม็ค เป็นคนชอบฟังเพลงเพราะเป็นกิจกรรมที่ทำคนเดียวได้ และก็ชอบแนะนำวงดนตรีหรือเพลงใหม่ ๆ ให้คนอื่นรู้จักผ่านตัวอักษรตลอดเวลา