Vote Dudesweet ปาร์ตี้ก่อนเลือกตั้งสำหรับคนที่รู้สึกว่า ‘แล้วฉันเลือกอะไรได้ไหม’
- Writer: Montipa Virojpan
- Photographer: Tas Suwanasang
ความตื่นเต้นของเราเกิดขึ้นตั้งแต่ที่มี notification เด้งขึ้นมาบนเฟซบุ๊กว่า Dudesweet กำลังจะมีปาร์ตี้ Vote Dudesweet ที่จากชื่อก็รู้แล้วว่าต้องจัดขึ้นเป็นธีมเลือกตั้ง ต้อนรับฤดูกาลเลือกตั้งที่ห่างหายไปจากประวัติศาสตร์การเมืองไทยกว่า 5 ปีหลังรัฐประหาร แต่ที่น่าตื่นเต้นยิ่งกว่าคือไลน์อัพศิลปินและดีเจที่จะตบเท้ามาสร้างความสนุกให้เราในงานนี้คือบุคคลที่เคยเคลื่อนไหวทางการเมืองทั้งสิ้น ยืนหนึ่งมาโดย ดีเจลีน่า กาแล็กซี่ หรือ ลีน่า จัง ผู้คนโดนตัดสิทธิ์การเมือง แต่ไม่โดนตัดสิทธิ์การแด๊นซ์ (คำโปรยในเพจอีเวนต์เขาเด็ดดวงมาก ขอยกมาใช้ทั้งดุ้น) ใครจะไปคิดว่าจะได้ฟังแม่ลีน่าเปิดเพลงให้เต้นกันจริง ๆ หลังจากที่แม่อัดคลิปตัวเองสแครชแผ่นลงแฟนเพจเมื่อหลายวันก่อน ร่วมด้วย ดีเจโต้—สุหฤท สยามวาลาอดีตผู้ลงสมัครผู้ว่า แต่สอบตก ยัง ยังไม่หมด เพราะมี เกื้อ เพียวพังก์ และแร็ปเอก ด้วย โอ้ย ไม่อยากจะจินตนาการเลยว่าจะเป็นยังไง แต่รู้เลยว่าพลาดไม่ได้ ต้องไปเป็นประจักษ์พยานด้วยตัวเองจริง ๆ งานนี้
1 มีนาคม 2562
ประมาณสี่ทุ่ม เรามาถึง Whiteline สีลมซอย 8 และรับริสต์แบนด์พร้อม ‘บัตรเลือกตั้งนายกประเทศดู๊ดสวีท’ ซึ่ง Dudesweet ก็ไม่เคยทำให้เราผิดหวังเมื่อรายชื่อผู้สมัครในกระดาษทุกช่องเป็น ‘พรรคลุงตู่’ และช่องสุดท้ายสำหรับผู้ไม่ประสงค์ลงคะแนน ก็ยังหนีไม่พ้นพรรคลุงตู่ ฮือ
จากนั้นเราก็เดินขึ้นมาชั้นสอง ก็พบกับคูหาเลือกตั้งที่มีคนเข้าไปลงคะแนนจริง ๆ
แต่เสียงเพลงข้างในและเสียงเฮของผู้คนช่างดึงดูดให้เรารีบเจ้าไปแจมแบบด่วน ๆ พอไปถึงก็พบกับคนจำนวนมากกำลังสนุกกับเพลงที่แม่ลีน่าเปิด และมีพี่โน้ต Dudesweet เป็น mc เพลงถูกเปิดไปมิวท์ไปพร้อมกับพูดวน ๆ ว่า ไอ้สัส ไอ้เหี้ย ประยุทธ ออกไป สลับวนไป เรียกเสียงเฮจากคนที่มางานได้เป็นระยะ ๆ ได้ยินว่าก่อนหน้านี้มีเพลง Blackpink, ประเทศกูมี และ หนักแผ่นดิน Dudesweet Mix ด้วยอิฉันแต่เข้ามาไม่ทัน ฮือ (ถ้าใครอยากรู้ว่าเป็นยังไงก็ฟังได้ตรงนี้ค่า)
จากนั้นก็เป็นเพลง ก็เคยสัญญา ของ อัสนี วสันต์ ทำแสบมากกก เพราะมันเคยมีคนที่บอกว่าจะทำตามสัญญาแต่ไม่ทำยังไงเล่าาาา แล้วก็ได้เวลาของแขกรับเชิญพิเศษคนแรก แร็ปเอก ก็ออกมาพร้อมเสียงเฮลั่นของทุกคน เขามาร่วมแจมกับแม่ลีน่าในเพลงสไตล์ oldskool hip hop เปิดมาด้วยไรห์มแร็ปอันโด่งดังของเขา ‘แร็ปเอก ๆ พันธุ์แร็ปหน้าใส แร็ปเอก ๆ พันธุ์แร็ปหน้าใหม่ เปิดตัวเปิดใจมาแล้ว ให้โอกาสผม รับฟังผม’ ที่มีคนร้องตามได้ถ้วนหน้า ส่วนเนื้อหาที่เขาแร็ปอื่น ๆ ก็เกี่ยวกับ การไม่ให้เลื่อนเลือกตั้ง และรณรงค์ให้คนไปใช้สิทธิ์ พอแร็ปเอกก็กลับไปพัก แม่ลีน่าก็แซวแร็ปเอก ด่ากราดชุดใหญ่ (เข้าใจตรงกันว่าเป็นการแสดงจ้า) ก่อนจะเปิดเพลง To Be Number 1 ฉบับรีมิกซ์ มีท่อนเฟดให้เราร้องตามหลาย ๆ ท่อน ซึ่งบางท่อนก็เผลอเงียบขี้เกียจร้องกันไปบ้าง จนตอนจบเพลง แม่ถึงกับถามว่า ‘ไม่ได้เอาปากมาหรอ ไม่รู้หรอว่าชั้นลิปซิงค์’ ฮาครืนเลยข่า เพลงต่อไปก็จัด Music Lover ของแม่มาช่ามาให้สาวกันให้สุด ก่อนจะเป็น Lover Boy ของ Phum Viphurit ในฉบับ Dudesweet Mix สนุกไปอีกแบบ แปลกหูกันไป
ต่อไปก็เป็นคิวโชว์เต็ม ๆ ของแร็ปเอกกันแล้ว การปรากฏตัวของผู้ชายคนนี้เรียกเสียงเฮได้เสมอ ซึ่งเพลงแรกที่เขาร้องคือ Girls Don’t Cry ตามด้วยเพลงใหม่ที่เขาบอกว่าเอาไว้จีบสาว จังหวะเป็นเหมือนเพลงป๊อปแดนซ์ยุคเก่าที่เรามักจะได้ยินในเพลงของ ติ๊ก ชีโร่ พอมีท่อนที่เขาพูดว่า ‘อัยยะ’ คนดูก็สวนกลับอย่างรู้กันว่า ‘ชั่ย ชั่ย’ ท้ายเพลงพี่โน้ตร้องท่อนแรกในเพลง Milkshake ของ Kelis จนเพลงสุดท้ายก็มาถึงนั่นคือเพลง ยาบ้า ที่สุดแล้วนาทีนี้ เอนเตอร์เทนเนอร์ตัวจริง มันมากกก ระหว่างนั้นเราก็เริ่มคิดว่า นี่ปาร์ตี้ปราบปรามยาเสพติดหรือเปล่า เพราะมีทั้งเพลง To Be Number 1 และ ‘ยาบ้า ยาบ้า ยานรก’ แล้วตอนหลังพี่โน้ตก็พูดคั่นรายการว่าถ้าใครต้องการก็มีนะ เม็ดละ 300 (ล้อเล่น)
แล้วแม่ลีน่าก็กลับมาแร็ปดิสสุหฤท ที่จะเป็นคนเปิดเพลงในช่วงต่อไป ดิสแบบไฟแล่บจนเหวอ ก่อนจะเปิดเพลง อย่าเข้าใจฉันผิด ของ Triumphs Kingdom จบเพลงนี้ก็มีการถามว่า ‘จะไปเลือกตั้งไหม อยากให้ใครเป็นนายก’ ทุกคนตอบพร้อมกันว่า ‘ประยุทธ’ โดยไม่ได้นัดหมายจนแม่ลีน่าขำออกมา แล้วให้รอบหน้าเปลี่ยนเป็น ‘ลีน่า กาแล็กซี่’ ซึ่งคนที่งานก็ทำตามแต่โดยดี มีประกาศคั่นเวลาเล็กน้อยว่า ขณะนี้ เกื้อ เพียวพังก์ อยู่ MRT ใกล้จะถึงงานแล้ว ซึ่งเวลาที่เขาต้องขึ้นโชว์คือห้าทุ่มครึ่ง ก่อนจะตัดเข้าเพลง Wrecking Bar (Ra Ra Ra) ของ The Vaccines ตามด้วย Rehab ของ Amy Winehouse และ Love Will Tear Us Apart ของ Joy Division ต่อด้วยเพลงที่ไม่ได้ฟังนานมาก ๆ แล้วอย่าง I Don’t Feel Like Dancin’ จาก Scissor Sisters และ Sabotage ของ Beastie Boys ก่อนจะปิดท้ายด้วย Seven Nation Army จาก The White Stripes
ได้เวลาของ เกื้อ เพียวพังก์ ซึ่งเคยมาพูดในงาน YED Talk ที่จัดโดย Dudesweet ซึ่งวันนี้เขามาพร้อมกับเพลง My Way ของ Frank Sinatra ที่ไม่แน่ใจว่าเนื้อหาที่ร้องตอนนั้นเกี่ยวกับการเมืองหรือเปล่า คือฟังดูจะร้องเป็นภาษาไทยแต่ฟังไม่ถนัด (เพราะต่อคิวเข้าห้องน้ำอยู่จ้า) และเพลง Creep ของ Radiohead ขอเดาว่าคนที่เล่นกีตาร์ให้เขาร้องคือ แดเนียล ดิษยศริน เกื้อบอกว่าซ้อมน้อยหน่อยเพราะมาจากบุรีรัมย์ เพลงต่อไปที่แดนเล่นฟังดูเหมือน Music When The Lights Go Out ของ The Libertines แต่เกื้อร้องไม่ได้เลยขอ บุษบา ของ Moderndog แต่เหมือนแดนจะเล่นไม่ได้ เกื้อเลยเอาไปเล่นและร้องเอง จบแบบมึน ๆ กันไป
เลยดึงกลับเข้าช่วงของดีเจสุหฤทที่แรก ๆ ก็เป็นเพลงแดนซ์ยุคเก่า ๆ จนเริ่มไปเป็นสายบริตป๊อปกันบ้างในเพลง This Charming Man ของ The Smiths แล้วก็มี Speakeasy ของ Shed Seven แล้วพอเป็นเพลง Rebel Rebel พี่โน้ตก็พูดขึ้นว่า ‘(นักร้อง)คนนี้ชื่อ David Bowie…’ เพราะคงเข้าใจว่าคนมางาน Vote Dudesweet น่าจะมีแต่คนอายุต่ำกว่าสามสิบ ‘…Dudesweet เป็นปาร์ตี้ที่อยู่มานานแล้ว ตั้งแต่คนเยอะ จนคนน้อย แล้วตอนนี้ก็มีคนมาสี่สิบกว่าคน’ จนเพลงต่อไปที่ทุกคนดูจะพร้อมใจกันร้องสุด ๆ คือ Bohemian Rhapsody ของ Queen เรียกว่าเป๊ะกันทุกท่อน! แก๊งเพื่อน ๆ เรานี่คือท่าใหญ่กันทุกคน ตามด้วย Marilyn Manson ใน Disposable Teens และ Muse – Uprising สุดยอดความปลุกใจให้ก่อปฏิวัติเลยค้าบ อุ๊ปส
จนเวลาเที่ยงคืนครึ่ง ก็เป็นการประกาศผลเลือกตั้ง ซึ่งผู้ที่ได้เป็นนายกประเทศดู๊ดสวีทก็คือ ลุงตู่ นั่นเองล่ะจ้า (แล้วฉันเลือกอะไรได้หมายยย) ก่อนจะกลับมามันกันต่อกับดีเจสุหฤท ที่ส่งเพลง Pulp – Disco 2000 มาให้ดิ้นกัน แล้วก็เริ่มเกิดความชุลมุนกันกลางฟลอร์เมื่อ Smells Like Teen Spirit ของ Nirvana ดังขึ้น ทุกคนก็พุ่งเข้าแทคเคิลกัน เกิดเป็นวงมอชย่อม ๆ (เพราะหลายคนกลับกันไปแล้ว) ไอ้เราก็ขอเอากับเขาด้วย สนุกดุเดือดมาก ๆ ตามด้วย Highway to Hell ของ AC/DC แล้วก็เปลี่ยนมาที่สายฮิปฮอปกับ Humble ของ Kendrik Lamar พอเหลือบ ๆ ดูก็พบว่าดีเจเปลี่ยนมาเป็น Watwhatt และแดเนียล เป็นที่เรียบร้อย ก่อนกลับไปร็อก ๆ ที่ Rage Against the Machine – Killing in the Name ตามด้วย Song 2 ของ Blur ที่ทุกคนช่วยกันร้อง ‘วู้ฮู่’ อย่างพร้อมเพียง และเป็น Mr. Brightside ของ The Killers กับ Queen of the Stone Age ใน No One Knows และเพลงสุดฮิตของแม่ Grimes ใน Oblivion แล้วเราก็ตัดสินใจแยกย้ายหลัง Lithium ของ Nirvana จบตอนประมาณตีหนึ่งครึ่ง
ไม่เคยผิดหวังจริง ๆ กับปาร์ตี้ที่จัดโดย Dudesweet เพราะเราจะได้ฟังและดูอะไรแบบที่คาดไม่ถึงอยู่เสมอ ๆ ยิ่งคราวนี้คือเข้าใจเลยว่าพวกเขา (และเรา) คงหงุดหงิดกับเรื่องเลือกตั้งและการเมืองไทยอย่างถึงที่สุดแล้วเลยเกิดงานนี้ขึ้นมาให้ทุกคนได้ปลดปล่อยกันให้เต็มที่ พูดถึงงานก่อนหน้านี้เราก็ติดใจมาก ๆ กับงาน Club Culture x Astra Revisit ที่จัดที่ Whiteline เช่นเดียวกัน แอบเสียดายที่เกิดไม่ทันยุคที่พวกเขากำลังรุ่งเรืองกันสุด ๆ แต่อย่างน้อยตอนนี้พี่ ๆ เขาก็ยัง active และเร็ว ๆ นี้ก็น่าจะมีปาร์ตี้มาให้เราได้ไปสนุกอีกนะ
