การ์ตูน รวม manga สายดนตรี

Quick Read Snacks

6 การ์ตูนญี่ปุ่นสายดนตรีที่คุณอาจไม่รู้จัก และคนรักเสียงเพลงไม่ควรพลาด!

  • Writer: Peerapong Kaewthae
  • Art Director: Karin Lertchaiprasert

เมื่อพูดถึงการ์ตูนเกี่ยวกับดนตรี ทุกคนจะนึกถึงเรื่องอะไรเป็นเรื่องแรกบ้าง ? บางคนอาจคิดถึงการ์ตูนในตำนาน ที่สร้างแรงบันดาลใจให้ใครหลายคนอยากมาเรียนคณะดนตรีอย่าง ‘Nodame Cantabile’ หรือถ้าเป็นคนชอบดูการ์ตูนมาก ๆ ก็อาจจะนึกถึง ‘K-ON!’ ก่อนใคร ด้วยเอกลักษณ์ของตัวละครที่สดใสน่ารักและพูดถึงพาร์ตดนตรีอย่างจริงจัง แต่คนที่ชอบความเป็นวงดนตรีมาก ๆ ก็อาจโตมากับ ‘Beck’ ถึงบอกเล่าการไล่ล่าความฝันในสายดนตรีอย่างเข้มข้นปนความจริงอันโหดร้าย และไม่ไกลเกินที่คนอ่านจะหวังตามไปด้วย บางคนอาจจะคิดถึง ‘Kids on the Slope’ ก่อนใครเพราะชอบแจ๊ส หรือ ‘Detroit Metal City’ เพราะชอบเดธเมทัลและความตลกโปกฮาของมัน หรือต่อให้ไม่อินดนตรีเท่าไหร่ แต่เรื่องราวของสองสาวที่ต่างกันสุดขั้วใน ‘Nana’ ก็กินใจซะเหลือเกิน

แอบรู้สึกว่าเราโชคดีมากที่ได้โตมากับการ์ตูนจากญี่ปุ่น นอกจากวัฒนธรรมที่เขาพยายามส่งออกมันยังมาพร้อมความหลากหลายของแนวการ์ตูน ทำให้เราได้ซึมซับเรื่องราวเหนือจินตนาการมากมายจนต่อยอดความคิดและความฝันของเราไปได้ไกลขึ้น ยิ่งดนตรีเหมือนเป็นภาษาสากลที่คนทุกชาติสามารถจูนเข้าหากันได้ ทำให้เราอินกับมันแม้จะไม่มีเสียงอะไรบนหน้ากระดาษเลยก็ตาม หลายเรื่องที่เราจั่วหัวไปนอกจากจะสนุกแล้ว เรายังได้เห็นโลกอีกใบหนึ่งที่เราอาจไม่เคยนึกถึงมาก่อน เชื่อว่าทุกคนต้องเคยอ่านมาบ้างแล้วแหละและการแนะนำการ์ตูนซ้ำกับคนอื่นก็คงน่าเบื่อเกินไป วันนี้เลยอยากแนะนำการ์ตูนอีก 6 เรื่องที่เราชอบมากแต่คิดว่าอีกหลายคนอาจจะยังไม่รู้จัก แล้วจะรู้ว่าโลกการ์ตูนนี่มันน่าหลงใหลจริง ๆ

BLUE GIANT

Blue Giant

ได เด็กหนุ่มมอปลายที่ใกล้จะเรียนจบและยังไม่รู้จะเอายังไงกับชีวิต เกิดตกหลุมรักเพลงแจ๊สหลังจากไปดูคอนเสิร์ตโดยบังเอิญ ทำให้เขาบอกกับตัวเองเลยว่า “ฉันจะต้องเป็นนักเป่าแซ็กโซโฟนที่เก่งที่สุดในโลกให้ได้” แม้แต่พี่ของเขายังรู้สึกได้ถึงแรงผลักดันอันแรงกล้านี้จนยอมซื้อแซ็กโซโฟนให้ ทำให้วันเดือนปีหลังจากนี้คือการฝึกซ้อมเพื่อบรรลุตามฝันของเขาให้ได้

มันคือการ์ตูนบันทึกชีวิตของไดในการฝึกฝนแซ็กโซโฟน เครื่องดนตรีชิ้นแรกในชีวิตของเขา ทุกตอนคือชีวิตประจำวันที่เขาเจียดเวลาฝึกมันโดยอ่านตัวโน้ตก็ไม่เป็น ไม่รู้จักทฤษฎีดนตรีเลยด้วยซ้ำ แต่ด้วยความรักที่มีต่อดนตรีของไดก็ถ่ายทอดออกมาได้อย่างหนักแน่นจนนักอ่านต้องประทับใจ เพราะมันเล่าเรื่องแซ็กโซโฟนและแจ๊สในมุมที่ลึกและไม่เหมือนใคร แต่ผมคิดว่ามันเป็นการ์ตูนที่ถ้าใครชอบก็จะรักมาก ๆ ไปเลย แต่ถ้าไม่ชอบก็จะเบื่อไปเลย แต่มันก็ได้รับการการันตีด้วยรางวัลมังงะยอดเยี่ยม ซึ่งก็มีภาคต่อออกมาในชื่อ ‘Blue Giant Supreme’ ที่ตามติดชีวิตไดในฐานะนักดนตรีอยู่ต่างแดนด้วย การ์ตูนเรื่องนี้น่าจะบันดาลใจให้ใครหลายคนที่กำลังหัดเล่นดนตรีได้อย่างร้ายกาจแน่นอน

SHIORI EXPERIENCE – Ordinary Me and Weird Guy

ครั้งหนึ่ง ชิโอริ ก็เคยมีความฝันที่จะเป็นมือกีตาร์ของวงดนตรีระดับโลก แต่โชว์ครั้งแรกบนเวทีของเธอก็พังไม่เป็นท่าเพราะพี่ชายตัวแสบ เมื่อเวลาผ่านไปชิโอริในวัย 27 ปีก็กลายเป็นครูมัธยมที่มีชีวิตอันน่าเบื่อ และหวังไว้เพียงแค่ว่าอนาคตจะได้แต่งงานกับผู้ชายดี ๆ ซักคน แต่แล้ววันหนึ่งเธอก็พบวิญญาณของผู้ชายประหลาด ๆ ในตู้เสื้อผ้าบ้านตัวเอง จนมารู้ทีหลังว่าเขาคือ Jimmy Hendrix มือกีตาร์ระดับตำนานที่เสียชีวิตไปนานแล้ว ถึงไม่รู้ว่าเขามาโผล่ที่นี่ได้ยังไง แต่มันช่วยปลุกไฟในตัวชิโอริให้กลับมาเล่นกีตาร์อีกครั้ง และเป็นตำนานให้ได้

การ์ตูน เรื่องนี้มันอัดแน่นไปด้วยความร็อก ความสนุกสนานมันเคลือบวิธีการทำงานอันยากลำบากในการสร้างสรรค์เพลงซักเพลงหนึ่งออกมาได้อร่อยมาก เราได้ทั้งเสียงหัวเราะและความรู้ประดับหัวไปพร้อมกัน แถมสายสัมพันธ์ระหว่างชิโอริกับจิมมี่ก็น่ารักน่าหยิกเหมือนการ์ตูนรักชวนจิ้นทั่วไปดี เป็นการ์ตูนอีกเรื่องที่คนรักเสียงดนตรีไม่ควรพลาด

Mashiro no Oto

Mashiro no Oto

เซ็ตสึ ถูกเลี้ยงมาโดนคุณปู่ที่เป็นนักเล่น ‘ซามิเซ็ง’ เครื่องดนตรีโบราณอันไพเราะของญี่ปุ่น ที่เก่งมาก ทำให้เขาอยู่กับเสียงดนตรีมาตั้งแต่เด็ก แต่เมื่อคุณปู่เสียชีวิตทำให้ชีวิตของเขาไขว้เขวไปไกล หลังจากเดินทางเข้ามาในโตเกียวโดยไม่มีจุดหมาย แม่ของเขาก็เข้ามาหาเรื่องวุ่นวายในชีวิตของเขาทันที แต่ยิ่งนานวันเขาก็ยิ่งกลับมามีแพชชั่นกับการเล่นซามิเซ็งมากขึ้นเรื่อย ๆ

นอกจากจะสามารถแนะนำและเผยแพร่เครื่องดนตรีประจำชาติได้อย่างน่าสนใจ ทั้งเทคนิคอันน่าตื่นเต้นและวิธีการเล่นที่ไม่แตกต่างไปจากกีตาร์เลย แล้วยิ่งมันถูกเล่าในบริบทที่คนอ่านเข้าถึงได้ ก็ทำให้เราอินไปกับเครื่องดนตรีชิ้นนี้แบบจริงจังทั้งที่ไม่เคยจับมันเลยด้วยซ้ำ เราก็พอเห็นภาพแล้วว่าเครื่องดนตรีชิ้นนี้ทำไมมันถึงยังอยู่มาได้ยาวนานถึงขนาดนี้ ถ้ามองข้ามลายเส้นที่คล้ายการ์ตูนตาใสไปหน่อย ก็จะได้ซึมซับไปกับดราม่าที่รุนแรงไม่แพ้การ์ตูนดนตรีเรื่องอื่น ๆ

Bremen

Bremen

ถ้าการตามหาความหมายของชีวิตและการทำตามความฝันคือปณิธานอันสูงสุดของเรา การ์ตูน เรื่องนี้ก็อัดแน่นไปด้วยความรู้สึกแบบนั้นเลย เรย์จิ คือวัยรุ่นที่มีความฝันอันเรียบง่ายคืออยากเป็นมือกีตาร์แห่งวงร็อกระดับโลก แต่ต้องติดอยู่กับความจริงที่ต้องทำงานกะดึกในร้านข้าวหน้าเนื้อไปเรื่อย ๆ ทำให้เขาพบกับ โรมิโอ โดยบังเอิญ ด้วยความถูกชะตาจึงตามเขาไปและพบว่าโรมิโอจำอดีตของตัวเองไม่ได้ และเขามีเสียงร้องที่ตราตรึงราวกับบทสวดของพระผู้เป็นเจ้า ทำให้ทั้งคู่ปลงใจที่จะตั้งวงร็อกด้วยกันและออกตามหาต้นกำเนิดของโรมิโอให้เจอ ภายหลังก็ได้ เรียว มือกลองนิวฮาล์ฟแต่งหญิงกับ รัน มือเบสสุดขรึมมารวมวงด้วย ทำให้พวกเขาค่อย ๆ เข้าใกล้ความฝันเข้าไปทีละน้อย

ดูเผิน ๆ อาจจะเป็นการ์ตูนตลกโปกฮามุกห้าบาทสิบบาท แต่มันพาเราเข้าไปผจญภัยในโลกเบื้องหลังอันเน่าเฟะของญี่ปุ่น ทั้งความดำมืดของสังคม อำนาจ เงินทอง อาชญากรรม และเรื่องจริงอันเจ็บปวดของวงการดนตรี แต่ตัวเอกทั้งสี่คนก็ต่อสู้กับอดีตและปัจจุบันของตัวเองเพื่อสานต่อความฝันที่แท้จริงของพวกเขาเอาไว้ สร้างแรงบันดาลใจให้กับคนอ่านได้อย่างไม่น่าเชื่อเลย

Woodstock

Woodstock

เชื่อว่า กาคุ ก็เป็นวัยรุ่นที่หลงใหลในเสียงดนตรีไม่แพ้ใคร เขาถึงขนาดฝันอยากเป็นส่วนหนึ่งของเทศกาลดนตรีร็อกระดับโลกอย่าง Woodstock ให้ได้ แต่เขาก้าวข้ามอุปสรรคของการเป็นคนขี้อายมาก ๆ ของตัวเองไม่ได้จนไม่ได้ทำวงดนตรีของตัวเองซักที เขาจึงสร้างวงดนตรีปลอม ๆ ของตัวเองขึ้นมาโดยใช้ชื่อว่า ‘The Charlies’ เพื่อทำตามความฝันของตัวเองและหลบหนีออกจากชีวิตจริงที่แสนน่าเบื่อ แต่ชาวเน็ตเจ้ากรรมก็ดันกดไลก์สิ่งนี้กันถล่มทลายจนวงจำลองของเขาดังเป็นพลุแตกจริง ๆ ทำให้ชีวิตของกาคุต้องเปลี่ยนไปตลอดกาล

สิ่งหนึ่งที่ทำให้รัก การ์ตูน เรื่องนี้คือมันใช้วิธีเล่าเรื่องที่เข้ากับวัยรุ่นยุคนี้ได้อย่างเป็นมิตร แถมนำเสนออีกไอเดียหนึ่งในการทำตามความฝันได้ชวนติดตามมาก ต่อให้ใครไม่รู้จัก Woodstock แต่ก็เชื่อว่าจะต้องอินไปกับความฝันของกาคุได้แน่นอน

Sound! Euphonium

Sound! Euphonium

หลังจากผ่านประสบการณ์อันเลวร้ายในการประกวดมาทำให้ คุมิโกะ หันหลังให้กับการเล่นดนตรีไปเลย จนกระทั่งเธอขึ้นมอปลายและย้ายมาที่โรงเรียนแห่งหนึ่งที่ชมรมดนตรีเคยคว้าแชมป์ระดับประเทศมาแล้ว แต่ปัจจุบันกลับไม่เหลือความหวังใด ๆ แม้แต่จะชนะในเขตตัวเองด้วยซ้ำ เธอจึงใช้ประสบการณ์ทางดนตรีที่สะสมมาเพื่อสร้างวงโยธวาทิตของโรงเรียนให้ยิ่งใหญ่อีกครั้ง ทั้งที่การแข่งก็ใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ แล้วเหมือนกัน

ก่อนที่จะกลายเป็นการ์ตูนเรื่องนี้ มันเคยเป็นนิยายที่ขายได้หลักล้านฉบับมาก่อนแล้วจึงนำมาดัดแปลงเป็นมังงะ แล้วกลายเป็นอนิเมะตามลำดับ ด้วยเนื้อหาที่เข้มข้นในเรื่องดนตรีอย่างจริงจัง คนที่เคยอยู่วงโยของโรงเรียนมาจะต้องอินแน่นอน แทรกด้วยดราม่าระหว่างสมาชิกในวงที่สะท้อนสังคมความคิด ก็ทำให้มันกลายเป็นการ์ตูนดนตรีที่ประทับใจใครหลายคน ซึ่งมันก็ถูกสร้างเป็นหนังอนิเมชันในชื่อ ‘Liz and the Blue Bird’ ที่โฟกัสไปที่ตัวละครหลักอีกสองตัวในเรื่อง และเมื่อเดือนก่อนก็เพิ่งฉายภาค The Movie ในญี่ปุ่นที่เป็นภาคต่อของอนิเมะอีกด้วย

ใน 6 เรื่องนี้ใครเคยอ่านเรื่องไหนแล้วบ้าง แล้วมีเรื่องไหนที่อยากแนะนำให้คนอื่นรู้จักอีก มาคอมเมนต์คุยกันได้เลย

Facebook Comments

Next:


Peerapong Kaewthae

แม็ค เป็นคนชอบฟังเพลงเพราะเป็นกิจกรรมที่ทำคนเดียวได้ และก็ชอบแนะนำวงดนตรีหรือเพลงใหม่ ๆ ให้คนอื่นรู้จักผ่านตัวอักษรตลอดเวลา