Quick Read Snacks

7 เพลงเล่าเรื่องเก่ง ฟังแล้วเห็นภาพเป็นฉาก ๆ

  • Writer: Montipa Virojpan

หลังจากที่เราหยิบเพลง เจ้าหญิงคนต่อไป ของ Blissonic มาเล่าย้อนอดีตแบบละเอียดกันไปแล้ว ก็นึกขึ้นมาได้ว่ายังมีเพลงที่เขียนเนื้อร้องในรูปแบบของการเล่าเรื่องไปข้างหน้าเรื่อย อยู่อีกมากมาย ซึ่งหลายเพลงก็ทำได้ดีแบบที่เรานึกภาพตามได้เลยทีเดียว หรือบางเพลงก็มี plot twist ให้เรางงเล่น แต่ทั้งหมดทั้งมวลก็ทำให้เราสนุกกับการฟังเพลงเหล่านั้นมากขึ้นด้วย มาลองฟังกันว่ามีเพลงแบบนี้เพลงไหนอีกบ้าง

Greasy Cafe – ความบังเอิญ

อีก storyteller คนสำคัญของวงการเพลง เพลงนี้เป็นเพลงแรกที่ทำให้เรารู้จัก Greasy Cafe และขอยกให้เป็นมาสเตอร์พีซของพี่เล็กจริง ซึ่งเราชอบมากกกกก ไม่เคยฟังเพลงไทยที่เล่าเรื่องสถานการณ์ในชีวิตประจำวันได้เผ็ดมันแบบนี้ ด้วยสำเนียงของคำที่ใช้ และดนตรีเร้า เข้ากับเพลงมาก คือเขากำลังติดฝนแล้วเจอผู้หญิงที่คิดว่าเขามายืนหลบฝนใกล้ เพราะสนใจเธอ แต่อาจจะด้วยลุคหรืออะไรก็ตามทำให้เธอมองเขาแบบหัวจรดเท้า เขาเลยหัวร้อนและร้องเพลงเหน็บแนมเธออย่างร้ายกาจ

โชคชะตาที่นำชั้นมาเจอเธอในวันฝนตก
พายุกระหนำ สายฝนก็เทลงมาเหมือนฟ้าจะแตก โอละลา ๆๆ

ดวงไม่ดี หรือชั้นนั้นคิดไปเองที่ได้พบเธอ
ดาวก็เมิน และเดือนก็เหมือนโดนฟ้ากลืนหายไป โอละลา ๆๆ

*ความบังเอิญที่รถชั้นเสีย ชั้นเลยต้องยืนข้างเธอ เนื้อตัวแสนเปียก
ทำไมเธอต้องมองชั้นเหมือน ชั้นคงต้องตาย ถ้าไม่ได้รู้จักเธอ
ก็มันไม่มีที่ยืน เข้าใจชั้นไหม และไม่ได้ต้องการใกล้ชิด เพื่อคิดอะไรต่อไป
หัวจรดเท้า เธอมองซ้ำ การกระทำของเธอมันมากเกินไป

เธอนั้นคงเหมือนผู้หญิงมากมายที่หลงตัวเอง
ขอโทษที ถ้าชั้นทำให้หัวใจเธอหวั่นไหว โอละลา ๆๆ

(*)

เธอคิดอะไร ชั้นก็แค่ยืนหลบฝน ก็แค่นั้นเอง

Yerm – การจากไปของราชสีห์

เพลงนี้ก็มาในโครงสร้างที่คล้าย เจ้าหญิงคนต่อไป ที่เลือกเล่าเพลงเป็นนิทาน แต่เพลงนี้เท่มากด้วยการเล่นกับชื่อเพลงของ Sqweez Animal ทั้ง คำบางคำ ย้ำ พรุ่งนี้ที่ดีกว่า ไม่มีที่มา เมื่อเช้า จนวันสุดท้าย แล้วไม่ใช่การเรียงไปส่ง เพราะมันออกมามีเรื่องเล่าที่เข้าใจได้ และที่ใช้เพลงเหล่านี้เพราะพวกเขาแต่งขึ้นมา tribute ให้ สิงห์ เพราะเขาเป็นเหมือนไอดอลของนักดนตรีหลาย คนในบ้านเรา แต่อย่างน้อยที่สุดคือเขาได้ทิ้งบทเพลงเหล่านั้นไว้ให้เราได้นึกถึงตลอดไป

ครั้งนึงที่ยังมีราชสีห์เป็นเจ้าป่า
คอยออกหาอาหาร
ให้กวางตัวน้อยที่คอยที่ริมธาร
เจ้ากวางตัวนั้นยังไร้เดียงสา
เกินจะออกล่ายามค่ำคืน
ได้แต่รอราชสีห์จะมา
เมื่อไรยังรอต่อไป

พอเวลาผ่านไปเจ้ากวางได้รู้
ว่ามีอะไรไม่เหมือนเดิม
เริ่มออกตามหาราชสีห์ที่หายไป
ทำให้มันได้พบราชสีห์นอนสิ้นใจ
จะทำอย่างไรต่อไป

*ราชสีห์ได้ทิ้งไว้เพียงคำบางคำ
และมันจะคอยย้ำให้กวางตัวนั้น
เริ่มจะออกล่าในยามราตรี
เพื่อพรุ่งนี้ที่ดีกว่า
บางสิ่งในชีวิตมันไม่มีที่มา
ต้องออกตามหาเพื่อที่จะได้รู้
ตั้งแต่เมื่อเช้าจนวันสุดท้าย
เพียงเข้าใจความหมาย
ว่าชีวิตคืออะไร

บนโลกอันโหดร้ายบางคนอาจพ่ายแพ้
เพียงเธอเธออย่ายอมแพ้จดจำไว้
สักวันต้องยิ่งใหญ่
ให้การจากไปไม่สูญเปล่า

(*, *)

เอ้รงค์ สุภารัตน์ – ห้องสุดท้าย

หลายคนน่าจะรู้จักกับบทเพลงนี้ผ่านทางวิทยุคลื่น Shock FM เรื่องราวคลาสสิกสุดโรแมนติกที่ฟังกี่ทีก็ยังขนลุก เกี่ยวกับชายหนุ่มที่ออกตามหาหญิงสาวที่เขาเคยพบในคืนฝนตก และได้พูดคุยกันอย่างถูกชะตา

ผมมาตามหาผู้หญิงคนหนึ่ง
ซึ่งที่จริงนี้เราพบกันไม่นานเกือบสัปดาห์
มันเป็นคืนฟ้าฝนโปรยกระหน่ำ
ที่ข้างทางพบใครยืนอยู่คอยโบกใต้ต้นไม้

ผมจึงจอดรับเพราะความเห็นใจ
ให้อาศัยและนำเธอมาที่หน้าแมนชั่นนี้
คิ้วงามปากสีชมพูยิ้มพราย
เมื่อปราศัยชอบใจรับฟังเธออย่างแอบศรัทธา

ผมมาตามหาผู้หญิงคนหนึ่ง
ซึ่งที่ฟังนั้นเธอพักอยู่ชั้นบนห้องสุดท้าย
คุณจำได้ไหมหรือใครช่วยตาม
อยากไต่ถามพบเพียงเห็นหน้าก็จะอบอุ่นใจ

ผมมาตามหาผู้หญิงคนหนึ่ง
ซึ่งที่จริงนี้เราพบกันไม่นานเกือบสัปดาห์
มันเป็นคืนฟ้าฝนโปรยกระหน่ำ
ที่ข้างทางพบใครยืนอยู่คอยโบกใต้ต้นไม้

คุณคนคนนั้นคิดพลางถอนใจ
ตอบออกไปสายตาประหวั่น
ใครกันห้องสุดท้าย
หรือคนก่อนนั้นที่เธอหายไป
รถเธอชนที่โค้งต้นไทร
หรือใครที่คุณถาม

ผมมาตามหาผู้หญิงคนหนึ่ง
เธออยู่ไหน

Solitude is Bliss –  Sleep Tight (03.00 A.M.)

เมื่อพูดถึงเพลง ห้องสุดท้าย แล้ว ก็จะไม่พูดถึงเพลงนี้ก็ไม่ได้ เพราะเจ้าตัวเขาบอกเองเลยว่าได้แรงบันดาลใจสไตล์การเขียนเพลง Sleep Tight (03.00 A.M.) มาจากคุณเอ้ ทีแรกเราก็คิดว่าเพลงนี้จะเป็นเพลงโหยหาบุคคลที่เคยอยู่ในชีวิตเราซึ่งก็ไม่ผิดเท่าไหร่หรอก (บรื๋อ) แต่ความเท่ในเพลงนี้คือการเลือกใช้การอุปมาอุปไมยให้ตีความต่ออีกได้ในบางท่อน ด้วยความที่เนื้อหามีความซับซ้อนกว่าเพลงก่อนหน้าที่เลือกจะเล่าตรง อยู่บ้าง

เรา เป็นแค่เพียง ความทรงจำของคนหนึ่ง หนึ่งในผู้คนที่รู้จัก
เธอคือความจำใช่ไหม เธอจะบอกฉันได้ไหม
เธออยู่ที่ใด อยู่ที่ใด
เธอ คือสายลมหรือเปล่า หรือว่าเป็นต้นไม้ที่ผลิใบ
หรือเธอคือใครที่เคาะประตู

เพราะเหตุการณ์ก่อนที่ฉันจะเผลอนอน
มันคือเรื่องราวที่วนเวียนและหลอกหลอน

กลิ่นหอม ที่วิ่งผ่าน ทางของขนจมูก
ปลุกให้ฉันตาย จากความเป็นจริง

เพราะเหตุการณ์ก่อนที่ฉันจะเผลอนอน
มันคือเรื่องราวที่วนเวียนและหลอกหลอน
เธอยืนจ้องมองตรงที่ปลายเท้าที่ฉันนอน
เธอยืนจ้องมอง มองด้วยรอยยิ้มเหมือนก่อน

เรา เป็นแค่เพียง ความทรงจำของคนหนึ่ง
หนึ่งในผู้คนที่จากไป

Dajim – มันอยู่ใต้พรม

แหนะ คิดว่าจะเลือก 704 ใช่มะ จริง เพลงนั้นก็เป็นอีกเพลงที่เอามาเล่าแล้วหลอนจนเห็นภาพขนลุกซู่ แต่เพลงอื่น ของดาจิมก็เป็นเพลงที่เล่าเรื่องแล้วบันเทิงไม่แพ้กัน ด้วยความที่เป็นเพลงแร็ปที่ส่วนมากจะเป็นการหยิบเหตุการณ์มาเล่าอยู่แล้ว การฟังเพลงของดาจิมหรือศิลปินฮิปฮอปคนอื่น เลยมี storyline ที่น่าติดตาม อย่างอันนี้ก็เป็นการไปรับของแล้วกลัวจะโดนค้น เลยหาที่ซ่อนไว้ใต้พรมในรถ

*ก็แค่มัน ก็แค่มัน ก็แค่มัน
ก็แค่มันอยู่ใต้พรมแท้ แต่ว่าพวกพี่แก เค้าดันหาไม่เจอ
ก็แค่มันอยู่ใต้พรมแท้ แต่ว่าพวกพี่แก เค้าดันหาไม่เจอ
ก็แค่มันอยู่ใต้พรมแท้ แต่ว่าพวกพี่แก เค้าดันหาไม่เจอ
ก็แค่มันอยู่ใต้พรมแท้ แต่ว่าพวกพี่แก เค้าดันหาไม่เจอ

กลางค่ำกลางคืนละดึกดื่นห้าทุ่ม
ไอ้เพื่อนมันเซ็งและกลุ้มมันร้อนรุ่มจิตใจ
มันโทรมาหาที่บ้าน มันชวนไปเอกมัย
ไปกันด้วยเบนซ์คันใหญ่อะคู่ใจ

ไปก็ไป ไปก็ไป ไปด้วยความสงสัย
แต่ผมก็ไม่ได้ถามอะไรอะไรมันไป
พอไปถึงที่หมายเรียกว่าเป็นจุดขาย
แล้วเพื่อนชายก็ตรงเข้าไปที่วินมอเตอร์ไซค์ ไม่รู้ไปทำอะไร

เวลามันก็เดินผ่านไปได้ไม่นานเท่าไหร่
มันกลับมาพร้อมกับวัชพืชอะสองห่อใหญ่ มันคือสมุนไพร
และแล้วอาการสงสัยของกระผมหมดไปในทันใด
สีหน้าของเพื่อนมันเปลี่ยนใหม่ มันดูสดใส กำลังได้ใจ

พวกเราก็ท่องไปด้วยความสบายใจ
เพราะเรามีเจ้าของดีตั้งสองห่อใหญ่
แล้วเราจะทำยังไง แล้วควรจะเก็บที่ไหน
จะเบาะหน้าก็ไม่ได้ จะเบาะหลังก็ไม่ดี

มันบอกให้ใส่ไว้ในกระเป๋ามึงซี่
กูบอกไม่ดี กูบอกไม่ดี๊ กูบอกไม่ดี
ไว้ใต้พรมดีกว่าพี่เพื่อลี้ภัยไปในตัว
ต่างคนก็ต่างกลัว มึงก็กลัว กูก็กลัว

เพราะมีคนกลุ่มใหญ่ประมาณสามสิบตัว
เค้าใส่หมวกบนหัว แถมยังมีปืนข้างตัว
ไอ้เราก็กลัวจะเข้าตาราง
เค้าบอกให้จอดข้างทาง เราเห็นฝันร้ายลาง

ในใจนึกถึงผีสางและนางไม้
ช่วยคุ้มครองลูกช้างไว้ไม่ให้เค้าค้นหาเจอ
เราไม่ได้พูดเวอร์ พวกเราทุกคนเหวอ
เค้าเปิดพรมด้านหลัง แต่ว่าดันหาไม่เจอ

เราไม่ได้ว่าเค้าเซ่อ ที่เค้านั้นหาไม่เจอ
เพราะเกือบจะไม่ได้กลับมานั่ง นอน เหวอ

(*)

โอ๊ย ถ้ามันเจอเราคงจะอาน
โอ๊ะโอ๊ย ถ้ามันเจอเราคงจะบาน
ปู่ย่าตายายต้องมาปวดกบาล
รำคาญใจ โอ๊ะ กิ๊กกิ๊ว

ไม่เจ๊อ ไม่เจอ ไม่เจ่อ ไม่เจอ
พี่หายังไง พี่ก็หาไม่เจอ
ไม่เจ๊อ ไม่เจอ ไม่เจ่อ ไม่เจอ
โทษทีครับที่พี่นั้นหาไม่เจอ

(*)

4E RASTAFARI – HELLO

น้าจูและผองเพื่อนคือนักเล่าเรื่องที่ทำให้เรา ‘ยิ้ม’ ออกแทบจะทุกเพลง โดยเฉพาะกับเพลง HELLO เนี่ย ถ้าเห็นแค่ชื่อเพลงก็ไม่มีทางรู้หรอกว่าเกี่ยวกับอะไรจนกว่าจะได้ลองฟัง โอ้โห มาเป็นฉาก คนที่เคยเมาปุ๊นจะอินกับเพลงนี้เป็นอย่างดี แต่จริง แล้วเพลงนี้เป็นเพลงรณรงค์ให้การใช้กัญชาถูกกฎหมายในประเทศด้วยนะ

ครั้งแรกเหมือนจะตกเครื่องบิน หูเริ่มไม่ได้ยิน จมูกเริ่มไม่ได้กลิ่น ยืนแข็งเหมือนหิน
ผมเริ่มร้อน ผมเริ่มวิ่งหนีมอเตอร์ไซวิน ผมหิวข้าว ผมแทบก้มลงไปกินดิน
ผมงมงาย ผมโรยริน น่ะ 

ผมหลุดไปยังยูนาน หลุดไปยังเหลียงซาน หลุดไปยังซานฟราน
เริ่มไม่ไหว เริ่มคลาน ช่วยผมด้วยก็เพราะว่า …. ผมไม่ไหวแล้ว ผมจะอ้วก

อ้วกมามีแต่พริกหยวก อ้วกมามีแต่ไข่ลวก เมาม้วกกก เมาม้วกกก
ยืนคุยกับมดปลวก ใส่หมวกแม่งไม่รู้เรื่อง
รู้สึกว่าตัวเองสติเฟื่อง ดูหลง เหมือนกับรถไม่มีเครื่อง
ใครพบเห็นเค้าก็บอกว่าผมเชื่องง่ะ

เฮ้ยนี่ไรใครเปิดไฟใครพูดไรใครพูดไร
เฮ้ยนี่มันอะไรใครเปิดไฟใครปิดไฟเปิดไฟใครปิดใครเปิดไฟ
เฮ้ยนี่มันอะไรใครพูดไรใครพูดไร
เฮ้ยใครพูดไรวะ เฮ้ย อย่าทำอย่างงิ อย่าทำกันอย่างงี้

*หากว่าตอนนี้ตากูเริ่มลาย หากว่าตอนนี้สมองกูเริ่มคลาย
ฮะโหลว ผมกำลัง get high
ฮะโหลว ผมกำลัง get high
เมเดย์ เมเดย์ get high
เมเดย์ เมเดย์ กำลัง get high
เมเดย์ เมเดย์ get high
เมเดย์ เมเดย์ (กูกำลังถอน)
Yeah ช่วยกูด้วย เฮ้ย ช่วยกูด้วย

เอาเป็นว่าทั้งวันเรา need a joint, need a joint
เอาเป็นว่าทั้งวันเรา need a joint, need a joint
เอาเป็นว่าทั้งวันเรา need a joint, need a joint
เอาเป็นว่าทั้งวันเรา need a joint, need a joint

มาเถอะมาซะทีแมนแมน
ถูกกฎซักทีแมนแมน
ตามระเบียบซักทีแมนแมน
ซื้อขายซักทีแมนแมน
ถ้าปิดตาปิดรู้อยู่ไกลแมน
ทำเป็นไม่รู้อยู่ไกลแมน
ต้องนานเท่าไร ต้องรอเท่าไร ก็ยังไม่ลุกอีกปีแสง

อยากสุขเสรีรี
ยอมจ่ายภาษีษี
วอนท่านมนตรีตรี
ปลดปล่อยมันทีที

ตาระเบิด ละเมอยังเพ้ออีก
คนจะหลับฝันยังบอกขยี้อีก
ฝันว่านอนตะแคงทีบินเป็นแพลงกิ้ง
โดนทั้งล้มทั้งยืนไม่ฝืนแต่ได้อีก

โครตจะเมา ไครจะเซอร์ โครตระบำ โครตละเมอ
คนที่ไม่รู้จักแค่คุยก็อยากเจอ
ทำเป็นไปทักไปว่ากันเลยเบลอ
One roll รับรอง weed, two roll รับรองซี้ด
Three roll รับรอง กรี๊ด four row … ไม่ไหวหว่ะ

*

กลิ่นเรานั้นลอยไปที่ห้องห้องหนึ่ง ห้องห้องนั้นเป็นทรงกลม
พอเข้าไปจะรู้สึกเคว้ง จะรู้สึกเคว้ง
แค่แค่คุณเอานิ้วใดนิ้วนึงมาแตะกันเบา
คุณก็จะเจอะเดอเดอะแล้ว ก็จะเจอะแล้ว

นี่คือการกำหนดจุดเมมโมรี่ ลงไปในมิติ ของการสัมผัส
ทุกทุกคนรู้สึกเหมือนกัน ทุกคนเข้าใจเหมือนกัน
บันทึกความคิดที่เข้าใจ บันทึกความคิดที่หลุดพ้น
บันทึกความคิดที่เข้าใจ บันทึกความคิดที่หลุดพ้น

*

หากว่าตอนนี้
หากว่าตอนนี้
ฮะโหลว
หึหึอะอะอะ

ไปส่งกู บขส. ดู๊พนักงานสวนสัตว์

โอ้ย ไม่พูดถึงไม่ได้จริง วงนี้ เพลงที่เซอร์ที่สุดในปฐพี มีเรื่องเล่ามากมายจนเราต้องเอามาขยายต่อ ตั้งแต่การบรรยายความรู้สึกที่ได้อยู่ในถังนำ้แข็ง การโดนรุ่นน้องตีปาก โดนเธอทิ้ง หรือการผจญภัยของม้าลายที่อยากขับรถจี๊ป นักการภารโรง และเพลงนี้

ด่วนเลยกูรีบ จอดให้กูขึ้น นกกระจอกเทศกำลังกระหายน้ำ
ด่วนเลยกูรีบ จอดให้กูขึ้น นกกระจอกเทศกำลังกระหายน้ำ

*แท๊กซี่เขาก็งง งงเป็นไก่ตาแตกแท๊กซี่เขาก็ยังงงอยู่ เลยเอ่ยปากถามว่า
** มึงเป็นใคร อ๊าย! ตกใจมันถามดังเกิน
จึงตอบกลับไป กูเป็นพนักงานสวนสัตว์
มึงเป็นใคร อ๊าย! ตกใจมันถามดังเกิน
จึงตอบกลับไป กูเป็นพนักงานสวนสัตว์

ด่วนเลยกูรีบ จอดให้กูขึ้น สิงโตเจ้าป่า คงกำลังหิว
ด่วนเลยกูรีบ จอดให้กูขึ้น ช้างแมมมอธ เอ้ย! สูญพันธ์ุไปแล้วนี่หว่า

( * , ** )

รีบๆ ขับไปเลย จะมัวซักประวัติทำไมครับ สัตว์ป่าที่หิวโหยกำลังรอคอย

( ** , ** )

จริง มีเพลงไทยที่เป็นเพลงเล่าเรื่องอยูอีกมากมายให้เราได้ลองฟังและจินตนาการภาพตาม ใครที่มีเพลงไหนอยากมาแบ่งกันฟังอีกก็แชร์ไว้ได้ที่คอมเมนต์เลยนะ 😀

Facebook Comments

Next:


Montipa Virojpan

อิ๊ก เนิร์ดดนตรีที่เพิ่งกล้าเรียกตัวเองว่าเป็นนักเขียนตอนอายุ 25 ชอบเดินเร็ว นอกจากขนมปังกับกาแฟดำแล้วก็สามารถกินไอศกรีมกับคราฟต์เบียร์แทนมื้อเช้าได้