Quick Read Snacks

พาไปฟังเพลงที่ได้รับแรงบันดาลใจจาก Middle Earth โลกในจินตนาการของ J.R.R. Tolkien

  • Writer: Malaivee Swangpol

หลายคนคงจะเคยดู ‘The Lord of the Rings’ และ ‘The Hobbit’ ภาพยนตร์มหากาพย์ที่สร้างจากหนังสือของ J.R.R. Tolkien อาจารย์ด้านภาษาศาสตร์ที่มหาวิทยาลัยอ็อกซฟอร์ด แต่หลายคนอาจจะไม่รู้ว่า นอกเหนือจากภาพยนตร์ทั้งสองเรื่อง ยังมีจักรวาล Middle Earth ที่แตกแขนงเป็นชนเผ่าย่อย ๆ มีภาษาต่าง ๆ 8 ภาษา มีจักรวาล เทพ และโลกถึง 4 ยุค โดยยุคของ The Hoobit และ The Lord of the Rings ที่เราได้ดูกันคือแค่ส่วนหนึ่งของ Third Age เท่านั้น อีก 3 ยุคที่เหลือยังมีหนังสืออีกหลายเล่มที่โทลคีนเขียนถึง ด้วยความยิ่งใหญ่ของเรื่องราวก็ทำให้มีศิลปินที่ชอบเรื่องราวของจักรวาลมิดเดิลเอิร์ธ นำไปตั้งชื่อวงและแต่งเป็นเพลงมากมาย จนมีการจำกัดความแนวเพลงแนวหนึ่งว่า Tolkien Metal เลยทีเดียว วันนี้ขอเลือกเพลงจากเหล่าศิลปินที่อินสุด ๆ มาให้อ่านกันจ้า

“I would draw some of the great tales in fullness, and leave many only placed in the scheme, and sketched. The cycles should be linked to a majestic whole, and yet leave scope for other minds and hands, wielding paint and music and drama…”

J.R.R. Tolkien

Blind Guardian

วงพาวเวอร์เมทัลจากเยอรมัน เจ้าของอัลบั้ม Nightfall in Middle Earth ที่แค่ชื่อก็ดูอินมากแล้ว ในอัลบั้มแต่งจากหนังสือ ‘The Silmarillion’ ตำนานก่อนเกิดโลกในยุค First Age และยาวมาถึงเรื่องราวบางส่วนก่อนจะเกิดสงครามแหวนที่เราได้ดูกันในภาพยนตร์ตอนที่ 3

นอกจากนี้ในอัลบั้มอื่น ๆ ยังมีเพลงอย่าง Gandalf’s RebirthLord of the Rings, The Bard’s Song (The Hobbit) และอีกหลายเพลงที่ได้รับแรงบันดาลใจจากจักรวาลมิดเดิลเอิร์ธ ลองอ่านเรื่องราวในอัลบั้มได้ ที่นี่ ละเอียดมาก ๆ

Rush

Neil Peart มือกลองและนักแต่งเพลงของวงเป็นผู้ชื่นชอบในการอ่านหนังสือมาตลอด ในปี 1975 วงปล่อยเพลง Rivendell จากอัลบั้ม Fly By Night ซึ่งแน่นอนว่าพูดถึงดินแดนริเวนเดล ดินแดนแห่งความสงบของเหล่าเอลฟ์ โดยบรรยายในเนื้อเพลงว่า ‘A place you can escape the world, where the dark Lord cannot go’ ในปีถัดมา ก็ปล่อยเพลง The Necromancer ซึ่งหมายถึงจอมมารซอรอนนั่นเอง

Black Sabbath 

Geezer Butler มือเบสและนักแต่งเพลงของวงเขียนถึงตัวละคร Gandalf พ่อมดผู้นำทางคณะพันธมิตรแห่งแหวนไปยังมอร์ดอร์ ในเพลง The Wizard จากอัลบั้มแรกของวง ซึ่งที่มาที่ไปของเพลงนี้คือ เขากำลังอ่าน The Lord of the Rings ตอนที่เขียนเพลงนี้ โดยเนื้อเพลงเล่าถึงพ่อมดว่า ‘Evil power disappears. Demons worry when the wizard is near. He turns tears into joy. Everyone’s happy when the Wizard walks by.’

Led Zeppelin

วงร็อกในตำนานเจ้าของเพลง Stairway To Heaven ซึ่งมีหลายเพลงที่ได้รับแรงบันดาลใจจาก The Lord of the Rings ทั้ง The Battle of Evermore ซึ่งมีการใช้คำว่า Ringwraiths ซึ่งหมายถึงภูติแหวน ผีที่ไม่ไปผุดไปเกิดด้วยความลุ่มหลงในแหวนเอกธำมรงค์ เพลง Misty Mountain Hop ซึ่งพูดถึง Misty Mountain ภูเขาซึ่งเป็นที่ตั้งของเหมืองมอเรีย ที่อยู่ของบัลร็อก ซึ่งคณะพันธมิตรแห่งแหวนต้องต่อสู้เดินทางผ่านไปเพื่อไปยังมอร์ดอร์ จนแกนดาล์ฟเกือบตาย และ Ramble On ที่พูดถึงทั้งมอร์ดอร์และกอลลัม ‘Twas in the darkest depths of Mordor, I met a girl so fair. But Gollum, and the evil one crept up, and slipped away with her’

Leonard Nimoy

ใครที่เป็นติ่ง Star Trek รุ่นเก่าน่าจะรู้จักคุณลุงสป็อกผู้ล่วงลับเป็นอย่างดี แต่หลาย ๆ คนอาจจะยังไม่รู้ว่าลุง Nimoy เคยออกอัลบั้มถึง 5 อัลบั้มกับ Dot Records ในช่วงปี 1967-1970 และอัลบั้ม compilation อีกหลายชุด โดยเพลง The Ballad of Bilbo Baggins มาจากอัลบั้ม Two Sides of Leonard Nimoy เพลงมีจังหวะสนุกสนานกับเนื้อเพลงที่พูดถึง Bilbo ฮอบบิตผู้รับบทนำในเรื่อง The Hobbit ‘Bilbo! Bilbo! Bilbo Baggins, the bravest little hobbit of them all’ บอกเลยว่าใครที่อินทั้ง Star Trek และ The Lord of the Rings ฟินแน่นอน

The Hobbitons

ชื่อวงโฟล์กเนเธอร์แลนด์ที่ออกอัลบั้มในปี 1996 มีเพลง 16 เพลงที่นำเนื้อเพลงมาจากบทกลอนจากหนังสือของโทลคีน ทั้งเรื่อง ‘The Hobbit’, ‘The Adventures of Tom Bombadil’ และ ‘The Lord of the Rings’ ซึ่งผลิตโดยได้รับการอนุญาตจาก Tolkien Estate บริษัทที่ดูแลลิขสิทธิ์ทั้งหมดของโทลคีนโดยตรง ด้วยข้อตกลงที่ว่า จะไม่นำซีดีไปจำหน่ายเพื่อค้ากำไร และซีดีนี้จำหน่ายจนหมดเกลี้ยง ลองฟังเพลงทั้งหมดได้ด้านล่าง

John Sangster

นักดนตรีแจ๊สชาวออสเตรเลียคนนี้ได้แต่งเพลงด้วยแรงบันดาลใจจากงานของโทลคีน คืออัลบั้ม The Hobbit Suite (1973), The Lord of the Rings: A Musical Interpretation, v. 1-3  (1975-77) และ Landscapes of Middle-earth (1987) ซึ่งสามอัลบั้มสามารถฟังต่อกันเป็นเวลากว่า 7 ชั่วโมงเลยทีเดียว นอกจากนี้เขายังแต่งเพลงสำหรับรายการโทรทัศน์ สารคดี ภาพยนตร์ และเพลงประกอบวิทยุมากมาย สามารถอ่านรีวิวอย่างละเอียดของทั้ง 5 อัลบั้มได้ ที่นี่

Za Frûmi

วงที่เล่นดนตรีแนว dark ambient, dark folk ซึ่งเคยปล่อยอัลบั้มมาในสองแบบ คือ Za Frûmi Legends ที่อัลบั้มแรกมีเนื้อหาเกี่ยวกับสงครามของคนแคระ เพลงในโรงเตี๊ยม ป่าโทรล ปราสาทและลัทธิประหลาด ในอัลบั้มสองเกี่ยวกับแวมไพร์ ส่วนใน The Za Frûmi saga ปล่อยมาทั้งหมดสามอัลบั้มในภาษาออร์ก คือ Za Shum Ushatar Uglakh (2000) ซึ่งชื่ออัลบั้มหมายถึงนักรบนาม Uglakh ผู้ยิ่งใหญ่ อัลบั้มที่สอง Tach (2001) แปลว่ากระดูก และ Shrak Ishi za Migul (2007) ซึ่งแปลว่าการรวมตัวในหมอก ทั้งสามอัลบั้มเล่าเรื่องการเดินทางของเหล่าออร์กและทาสเพื่อไปพบแวมไพร์ ซึ่งเพลงเป็นลักษณะบทพูด คล้าย ๆ ละครวิทยุที่เติมดนตรีลงไป สามารถอุดหนุนได้ ที่นี่

Johan de Meij

ซิมโฟนีบทนี้แต่งขึ้นระหว่างเดือนมีนาคม 1984 ถึงธันวาคม 1987 ออกแสดงครั้งแรกในวันที่ 15 มีนาคม 1988 ที่เมืองบรัสเซลล์ ประเทศเบลเยียม ซึ่งซิมโฟนีบทนี้เป็นบทแรกที่ de Meij เขียนขึ้น โดยมี 5 ท่อน ซึ่งแต่ละท่อนก็ได้รับแรงบันดาลใจจากตัวละครหรือฉากสำคัญในเรื่อง แบ่งเป็น

I. GANDALF (The Wizard)
II. LOTHLORIEN (The Elvenwood)
III. GOLLUM (Sméagol)
IV. JOURNEY IN THE DARK
—-a. The Mines of Moria
—-b. The Bridge of Khazad-Dûm
V. HOBBITS

ลองฟังได้ด้านล่างเลย

The Tolkien Ensemble

เป็นวงโฟล์กจากเดนมาร์กที่ตั้งขึ้นในปี 1995 ซึ่งมีเป้าหมายที่จะเป็นวงดนตรีวงแรกที่แต่งทำนองให้บทกลอนและเพลงจากเรื่อง The Lord of the Rings ได้จนครบสมบูรณ์ ซึ่งพวกเขาปล่อยอัลบั้มมาสี่อัลบั้มในช่วงปี 1997 ถึง 2005 โดยได้รับอนุญาตจากตระกูลโทลคีนและ HarperCollins ผู้ตีพิมพ์หนังสือ พวกเขาได้ทัวร์ยุโรปในปี 2007  และนำเพลงของพวกเขามารวมกับซาวด์แทร็กของภาพยนตร์ที่แต่งโดย Howard Shore รวมถึงในโชว์ก็ยังมีการอ่านบทบรรยายสด ๆ โดย Christopher Lee (ผู้รับบท ซารูมาน ในฉบับภาพยนตร์) อีกด้วย

นอกจากนี้ ยังมีวงที่ถูกจำกัดความว่าเป็น Tolkien-metal อีกหลายวง อย่าง Summoning, Battlelore ซึ่งเพลงเกือบทุกเพลงเกี่ยวกับจักรวาลของโทลคีน หรือบางวงก็หยิบเอาชื่อตัวละครจากโลกมิดเดิลเอิร์ธไปใช้เป็นชื่อวงและนามแฝง เช่น Marillion ได้ชื่อมาจากเรื่อง ‘The Silmarillion’ วง Gorgoroth, Cirith Ungol, Amon Amarth  ซึ่งได้ชื่อมาจากบริเวณใน Mordor, Burzum ก็ได้ชื่อมาจาก black speech ภาษาของเหล่าออร์ก ซึ่งคำนี้แปลว่าความมืด, Shagrath นักร้องของวง Dimmu Borgir ได้ชื่อมาจากหัวหน้าออร์กในนิยายไตรภาค นอกจากนี้ยังมีอีกหลายวงที่ได้รับแรงบันดาลใจจากดินแดนมิดเดิลเอิร์ธ ซึ่งสามารถอ่านเพิ่มเติมได้ที่ข้อมูลอ้างอิงด้านล่างเลยจ้า

 

อ้างอิง
Ramble On: Rockers Who Love ‘The Lord of the Rings’  Works inspired by J. R. R. Tolkien
Works inspired by J. R. R. Tolkien A List Of Tolkien Themed Metal Albums
What are some metal songs inspired by J.R.R. Tolkien’s world of Middle Earth?
The Tolkien Music List  Category:Bands
Facebook Comments

Next:


Malaivee Swangpol

มิว (เรียกลัยก็ได้)​ โตมาข้าง ๆ วงมอชแต่ตอนนี้ฟังทุกแนว ชอบอ่านหนังสือ ตามหาของกินอร่อย ๆ และตอนนี้ก็คงกำลังวางแผนเที่ยวรอบโลกอยู่