ตาดูหูฟัง

ไม่เห็นเหงาเลย! 5 MV ที่เล่นเองคนเดียวก็ได้

  • Writer: Sarun Pinyarat

สังเกตกันหรือเปล่าว่า Fungjaizine เล่มนี้เขาชื่อ “Lonely Issue” ซึ่งตอนคิดคอนเซปต์ว่าจะให้คนขึ้นอย่าง เป้ อารักษ์ ทำอะไรดีถึงจะดูเหงาแบบสุด ๆ คือเราจะเคยเห็นโพสต์ level ความเหงา ที่มีถีบเรือเป็ดคนเดียว กิน MK คนเดียว ฯลฯ กันใช่ไหม งั้นถ้าจะทำอะไรให้สุดทาง เราลองให้เป้จัดปาร์ตี้ที่เชิญตัวเองเป็นแขกคนเดียวของงานไปเลยแล้วกัน เหงาชิบหาย

และเพื่อให้เข้ากับบรรยากาศของเล่ม ตาดูหูฟัง ตอนนี้เลยเลือก music video เพลงไทยที่มีตัวเอกเล่นอยู่คนเดียว ไม่มีใครเล่นด้วย (หวายยยยยย *นิ้วชี้หน้า สายตาเหยียดหยาม*) ที่น่าจดจำและชวนพูดถึงมาทั้งหมด 5 เพลง/วิดีโอด้วยกัน

…ยินดีต้อนรับสู่ความเหงาในโลกภาพเคลื่อนไหวของดนตรี

 

เพื่อนพระเอก (Good Fella) – Polycat

สารภาพกันตรงนี้เลยว่าไอเดียของคอลัมน์นี้มันเริ่มมาจาก MV เพลงนี้แหละ ส่วนตัวแล้วใน MV ไตรภาคของ Polycat (มันเป็นใคร, ภักดี, เพื่อนพระเอก) ผมชอบตัวนี้ที่สุด (แม้ว่าพลังทำลายล้างของน้องเก้าและน้องแต้วจะสูงมากก็ตาม) เพราะด้วยวิธีการเลือกเล่าเสี้ยวเวลาชีวิตของ “เพื่อนพระเอก” คนนี้ในแบบ real-time, one-shot มันช่างทำให้เราเข้าใจความคิดความอ่าน และสถานะที่ตัวละครตัวนี้ตกอยู่ได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ เป็นการ production ที่ทำน้อยแต่สื่อความเหงาได้มหาศาลจริง ๆ

 

ทุกสิ่ง – Pru

เวลาไม่มีงบทำ MV กันเนี่ย การใช้นักแสดงน้อย ๆ (หรือใช้คนเดียวซะเลย) หรือใช้คนในวงแสดงเองมักเป็น solution แรก ๆ ที่ทีม production เลือกใช้ เป็นเหตุผลว่าทำไม MV ที่ถ่ายศิลปินร้องเพลงเดินไปเดินมา นอนบ้าง นั่งบ้างล่ะ บางทีก็ต้อง act อะไรอยู่คนเดียวแบบเคอะเขินไม่เป็นธรรมชาติสุด ๆ มีให้เห็นเต็มไปหมด

ทุกสิ่ง เป็นอีก MV ที่ตกอยู่ในหมวดดังกล่าว แต่ด้วยพลัง inner ของพี่น้อย (ที่ไม่ใช่ว่าใคร ๆ จะมี) แทนที่จะมองว่าเค้าไม่มีงบทำ MV ผมกลับคิดว่าวิธีการแช่กล้องนิ่ง ๆ แบบนี้กลับเป็นการยิ่งเสริมสร้างพลังให้กับ “ทุกสิ่ง” เพราะไม่มีภาพอะไรที่จะเล่าอารมรณ์ที่ค่อย ๆ ไต่ขึ้นแล้วทะลักออกมาของเพลงได้ดีกว่าการได้อ่านเรื่องราวจากสายตาและสีหน้าของพี่น้อยอีกแล้ว

 

อธิบาย – Ewery

สิ่งที่ชอบใน MV นี้คือความเรียบง่ายของ concept ที่เปรียบเปรย “คำอธิบาย” เหมือนการแต่งหน้าทาปากให้เป็นตัวตลก ที่หากมองเพียงภายนอกก็เป็นความพยายามสร้างความรู้สึกดี ๆ เพื่อเบี่ยงเบนความสนใจมาเป็นเปลือกภายนอก แต่เนื้อแท้ลึก ๆ ข้างใน อย่างไรเสียการจากลากันมันไม่สามารถเอาเหตุผลมาเคลือบให้คนฟังรู้สึกดีขึ้นได้หรอกนะ (ฮือ)

 

ไม่มีที่มา – Ten to Twelve

เอาจริง ๆ เพลงนี้มันเศร้าตั้งแต่ท่อนแรกเลยนะ ขึ้นมาก็ “ฮือ ฮื้อ ฮือ หื่อ ฮือ…” บิ๊วมาแต่หัววัน แล้วตัว MV ก็ไม่ทำให้เราผิดหวัง การเปลี่ยนมุมมองความสัมพันธ์มาเป็นระหว่างสัตว์เลี้ยงกับมนุษย์แทน เป็นการแก้เลี่ยนจากความรักความเหงาแบบชาย-หญิงได้ดี แต่ในขณะเดียวกันก็เป็นอะไรที่สากลพอให้ผู้ชมส่วนใหญ่เข้าถึงได้

เกร็ดเล็ก ๆ จาก MV: ผู้เขียนเชื่อว่าผู้กำกับ MV ไม่มีที่มา น่าจะได้แรงบันดาลใจจากเรื่องราวของ Laika สุนัขตัวแรกที่ได้ขึ้นยานอวกาศไปโคจรรอบโลกจากการทดลองของสหภาพโซเวียตในปี 1957 (https://en.wikipedia.org/wiki/Laika) ซึ่งนี่ไม่ใช่ MV แรกที่ส่งสุนัขไปในอวกาศ ศิลปินอิเล็กทรอนิกชาวเดนมาร์ก Trentemøller ก็น่าจะได้แรงบันดาลใจจาก Laika มาทำเป็น MV เพลง Moan ในปี 2010 เช่นกัน

 

หมุน – Greasy Cafe

เหงาสุดขอบจักรวาล เมื่อนางเอกของเพลงต้องรอการกลับมาของแฟนหนุ่มที่ไปปฏิบัติภารกิจอันไกลโพ้น อีกกว่า 53 ปีถึงจะได้เจอกัน…

กำกับโดย เต๋อ นวพล MV เพลง หมุน ตั้งคำถามเดียวกับที่พี่เล็ก Greasy Cafe’ ถามผู้ฟังว่าในมุมมองของความรักและความผูกพันธ์คุณจะใช้ “ความเชื่อ” (ว่าความรักเป็นสิ่งที่มั่นคง ฉันจะรอได้ไม่ว่าจะอีกนานแค่ไหน) หรือ “ความจริง” (ว่าความรักเป็นสิ่งที่ไม่มั่นคง แล้วฉันจะต้องรอไปอีกนานแค่ไหนกัน) ในการตัดสินใจ?

นี่เป็น MV ที่ส่วนตัวผมยกให้เป็นตัวพ่อของความเหงาเลยแล้วกัน ไม่ว่าจะเป็นการสร้างบรรยากาศโลก sci-fi ไสตล์ “2001 Space Odyssey” ที่ดูเวิ้งว้าง การแสดงของ นุ่น ศิรพันธ์ และที่สำคัญที่สุดคือโครงสร้างการตัดต่อเล่าเรื่อง ระหว่างคำบนจอคอมพิวเตอร์กับจังหวะดนตรีและเนื้อเพลง ที่เชื่อว่าคงแทงทะลุใจใครหลายคน รวมถึงตัวผมเองด้วย…

“Thank You Wait Me”

 

 

ก่อนจากกัน ขอทิ้งความคิดเล่น ๆ เอาไว้ว่าบางทีการที่เราเห็นคนที่อยู่คนเดียว ทำอะไรคนเดียว แบบตัวละครใน MV ทั้ง 5 เพลงนี้ พวกเค้าอาจจะไม่ได้กำลังเหงาอยู่ก็ได้นะ อย่างที่ ต่อ–คันฉัตร รังษีกาญจน์ส่อง เขียนเอาไว้ในหนังสือเล่มล่าสุดของเขา #OneLifeStand (แบ่งเปอร์เซ็นต์ให้กูด้วย) ว่าจริง ๆ การใช้ชีวิตคนเดียวบางทีมันเป็นเรื่องของ “ทางเลือก” ที่ตั้งใจและคิดมาดีแล้ว ไม่ใช่สภาวะที่เขาไม่พึงประสงค์

แต่ต่อให้เหงาจริง ๆ ก็ไม่เห็นเป็นอะไร อย่างน้อยที่สุดมันก็ทำให้เราได้เรียนรู้ที่จะให้คุณค่าในวันที่เรามีใครอยู่ข้าง ๆ มากขึ้น

สุขสันต์วันเหงาๆ ครับ :’)

Facebook Comments

Next:


Sarun Pinyarat

ท้อป ศรัณย์ ภิญญรัตน์ เคย: เรียนออกแบบที่ไทยและฟินแลนด์ / ทำงานที่ Startup ใน Sillicon Valley ชอบ: ฟังเพลง / ดูหนัง / อ่าน / การเล่าเรื่อง / บูมบูม เป็น: ผู้ก่อตั้งฟังใจ / นักออกแบบ / คนคิด / คนเจรจา / คนลงมือทำ / นักเขียนจำเป็น