Article Import

ยังไม่เบื่อเขาคนนี้กันใช่ไหม คุยกันอีกรอบกับ Mac DeMarco ก่อนขึ้นเวที คืนนี้

  • Writer: Montipa Virojpan
  • Photographer: Chavit Mayot

Fungjaizine ขอเก็บบทสนทนาสนุก ๆ ก่อนขึ้นโชว์กับ Mac DeMarco ศิลปินแคนาเดียนอารมณ์ดีที่จะมาเปิดการแสดงเป็นครั้งที่สองในกรุงเทพ ฯ กับ Singha Light Live Series Vol 3.2 – Mac DeMarco ที่กำลังจะเกิดขึ้นแล้วในคืนนี้โดยทีม Have You Heard? มาดูกันว่าเขาจะเรียกเสียงฮาจากบรรดาสื่อที่เข้าไปสัมภาษณ์ได้มากขนาดไหน

อ่านบทสัมภาษณ์ก่อนหน้านี้ได้ >ที่นี่<

เพิ่งกลับมาจาก Fuji Rock Festival เป็นยังไงบ้าง ได้ข่าวว่าวันสุดท้ายของงานมีไต้ฝุ่นเข้า รอดไหม

ช่าย แต่วันที่พวกเราเล่นยังไม่มีนะครับ เขาเรียกไต้ฝุ่นนั่นว่า Jongdari มันเข้ามาตอนที่เรากลับเข้ามาโตเกียวแล้ว (งานฟูจิร็อกจัดที่จังหวัดนีงาตะ) ก็เหมือนแบบ รอดจากในงานเข้ามาในเมืองพอดี บ้าบอมาก แล้วจริง คืออากาศร้อนมาตลอดทั้งสัปดาห์ ดีที่ฝนมาตกเอาตอนหลัง

มาเมืองไทยเป็นครั้งที่สองแล้ว รอบนี้ทำอะไรบ้าง

ก็ไปร้านอาหาร กินของเผ็ด เยอะมาก อร่อยนะครับ แต่ทำผมท้องเสียเลยเนี่ย

คิดว่าโชว์รอบนี้จะต่างจากครั้งแรกเมื่อปี 2013 ยังไง

รอบที่แล้วที่มาเล่นร้านค่อนข้างเล็กครับ (Cosmic Cafe หรือ NOMA RCA ปัจจุบัน) ก็ไม่รู้เหมือนกันครับว่าในรอบนี้พอเล่นโชว์ที่ใหญ่ขึ้นจะเป็นยังไง แต่ก็ตื่นเต้นนะ กิ กับ นาดา (ทีมงาน Have You Heard?) ก็บอกผมว่าคนดูตื่นเต้นที่จะได้ดูผมมาก ต้องเป็นอะไรที่ดีแน่

จากที่ฟังเพลงของคุณ คุณดูเป็นคนสนุกสนานร่าเริงนะ อยากรู้ว่าเพลงไหนเป็นเพลงที่เศร้าที่สุดที่เคยเขียน

เชี่ยน่าจะเป็น Sherrill จากอัลบั้ม 2 ครับ มันก็ไม่ได้เศร้าขนาดนั้นหรอก คือผมได้กลับไปฟังอัลบั้มที่ผ่าน มาประมาณสองอาทิตย์ก่อน ซึ่งมันก็ทำให้ผมนึกถึงช่วงที่ผมทำเพลงนั้นขึ้นมา ตอนนั้นค่อนข้างมีความ emotional แหละ

ทำไมถึงคัฟเวอร์แต่เพลงคลาสสิกร็อกในโชว์ของคุณ

ผมว่ามันมีเพลงประเภทนึงที่เวลาเด็กแคนาเดียนหัดเล่นกีตาร์จะต้องแกะ Iron Maiden หรือ AC/DC คือตอนนั้นเราก็ยังไม่มีเพลงของตัวเองไว้เล่นไงครับ ก็เลยเล่นเพลงพวกนี้

ทำไมคุณถึงเชื่อว่าเพลงป๊อปที่ดีถึงควรเขียนมาจากความรู้สึกที่แท้จริง

ก็ไม่จำเป็นเสมอไปนะครับ มันแค่เป็นวิธีที่ผมทำมาตลอด เวลาคนพูดถึงเพลงป๊อปที่ดีเขาอาจจะหมายถึงเพลงฮิตติดชาร์ตพวกนั้น ซึ่งส่วนใหญ่ก็ไม่ได้เขียนขึ้นโดยคนที่ร้องเพลงนั้นหรอก เป็นคนอื่นมาเขียนให้อีกที ก็… บางทีเห็นด้วย บางทีก็ไม่เห็นด้วยกับความคิดนี้นะแต่ก็ไม่รู้สิครับ ผมแค่เขียนเพลงที่เกี่ยวกับชีวิตของผมแค่นั้นแหละ

แล้วคิดว่าเพลงของคุณเป็นเพลงที่ดีไหม

อืมอาจจะนะ คือมันไม่เคยขึ้นชาร์ตท็อป 40 กับเขาหรอก อาจจะเป็นเพลงที่ไม่ได้ดีขนาดนั้น… ไม่ว่ะ น่าจะเป็นเพลงป๊อปที่แย่เลยแหละ เฮ้ยแต่ผมชอบนะ ชอบที่มันเป็นเพลงห่วย แบบนั้น (ยิ้ม)

อะไรคือสิ่งที่ท้าทายที่สุดในการเขียนเพลงในอัลบั้ม This Old Dog

มันใช้เวลานานขึ้นนะ เหมือนพอผมโตขึ้นแล้วรู้สึกว่าเฮ้ยเขียนเพลงออกมา! ออกไปทัวร์คอนเสิร์ตสิวะ! เมื่อก่อนเป็นแบบนั้นนะ แต่เดี๋ยวนี้แบบ เฮ้อ เหนื่อยแล้วอะ แต่มันก็ทำให้ผมตั้งใจทำเพลง มันมีอะไรให้เล่าเยอะ แล้วผมดันไม่ใช่คนที่เล่าความรู้สึกตัวเองได้ดีขนาดนั้น เหมือนพอเขียนออกมาก็รู้สึกว่าเพลงนี้มันดีสำหรับผมแล้ว จบ แต่ก็เพราะว่าผมทำมันจนเสร็จแล้วนั่นแหละเลยเป็นอะไรที่แปลก แบบก็มานั่งคิดว่า โอเค… ตอนนี้มันเริ่มมีกระบวนการต่าง ผ่านไปละน้า ต่อไปคือการเอาไปขายให้คนฟังแล้วน้า ซึ่งมันก็เป็นสิ่งที่ต้องทำตามปกติแหละไม่รู้สิครับ แต่ผมชอบเพลงในอัลบั้มนี้นะ

คุณเรียกแนวเพลงของคุณว่าอะไร

ผมเคยเรียกมันว่า ‘Jizz Jazz’ นะ ไม่เก็ตกันใช่ไหมครับ แต่ตอนนี้ขอเรียกว่า rock n’ roll ละกัน ประมาณนั้นมั้ง

แล้วกับการที่มีคนเรียกคุณว่าเป็นเจ้าชายอินดี้ร็อกล่ะ?

มีคนเรียกผมหลายอย่างมาก มีอันนึงประหลาดเลยอะ เหมือน Infinity Man หรืออะไรเนี่ย แปลกดีครับ ส่วนที่เรียกว่าเจ้าชายอินดี้ร็อกเนี่ย ถ้าเป็นเมื่อ 4 ปีก่อนก็ยังพอได้ แต่ตอนนี้ผมเป็นลุงไปแล้ว (หัวเราะ)

โชว์ครั้งแรกในชีวิตของคุณเกิดขึ้นที่ไหน

ตอนนั้นเล่นที่ลานสเก็ตครับ ยังเด็ก กันอยู่เลย ทำเพลงเสร็จก็เอาขึ้น Myspace คนฟังก็อยู่แค่ในเมืองที่เราอยู่กัน แล้วก็มีคนที่ตาม ๆ เราคนนึงบอกว่า ‘เฮ้ย จัดงานให้ดูหน่อย’ เราก็แบบ ชิบหายละ ไม่เคยคิดว่าจะได้มีงานเล่นเลยครับ ก็นั่นแหละ ทุกอย่างเกิดขึ้นจากตรงนั้น

รู้สึกยังไงที่กลายมาเป็นต้นแบบของเพลงในยุคนี้ มีคนแซวว่าวงดนตรีสมัยนี้เป็น post-DeMarco ไปหมด

จริง ผมร้องเพลงแย่มากเลยนะ ใช้อินเทอร์เน็ตก็ไม่เก่งอะไรนะ เขาเรียกว่า post-DeMarco หรอ? เจ๋งดีครับ ก็น่าสงสัยเด็กสมัยนี้เหมือนกันนะ คือเวลาผมทำเพลงจะได้อิทธิพลมาจากเพลงเมื่อ 50 กว่าปีที่แล้ว ซึ่งอินเทอร์เน็ตมันก็โหดตรงที่ทำให้เด็กรุ่นนี้ได้อิทธิพลมาจากเพลงที่ปล่อยมาเมื่อ 2 ปีก่อน แปลกอะ แต่ถ้าน้อง ได้ลองย้อนไปดูว่าจริง ไอ้เพลง 2 ปีก่อนนั้นมันมีที่มาจากอะไร เขาก็น่าจะได้เห็นคอนเซ็ปต์ทั้งหมด คงจะดีกว่า

คุณเป็นศิลปินมาตั้งแต่สมัยสตรีมมิงยังไม่เฟื่องฟูขนาดนี้ จนถึงตอนนี้คนฟังก็มีอิสระในการเลือกฟังมากขึ้น คุณได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงตรงนี้บ้างไหม

ไม่นะครับ น่าจะเป็นเพราะผมไม่ค่อยรู้เรื่องสตรีมมิงกับเขาหรอก ผมรู้จัก YouTube แต่พวก Spotify ไรงี้จะงง หน่อย มันมีพวกที่เสียเงิน แต่ Spotify ฟรีใช่ไหม (สื่อ: ไม่นะ) เฮ้ย แต่มันมีฟรีเวอร์ชันนี่… ไม่รู้อะ ก็ ผมไม่ค่อยเข้าใจว่าเราจะทำเงินจากการปล่อยเพลงในสตรีมมิงได้ยังไง เป็นหน้าที่ของค่ายเพลงที่จะจัดการให้ผมล่ะครับ ถ้าผมทำเองได้นะผมจะยัดแม่งทุกอย่างขึ้นไปในนั้นให้หมดเลย เอาไปฟังแบบฟรี เล้ย แต่ค่ายก็จะแบบ ‘แม็ค กูก็มีรายจ่ายนะโว้ย’ มันก็ถูกของเขาแหละครับ แต่ผมเข้าใจนะว่ามันเปลี่ยนพฤติกรรมการบริโภคเพลงไปเยอะ ซึ่งมันก็เป็นเหตุผลที่ทำให้ผมชอบ YouTube มากกว่า เพราะคนมักจะใช้เวลาไปกับการฟังอัลบั้มเต็ม ของเพลงที่ไม่คุ้นที่มีคนอัพโหลดมาให้ฟัง แต่ถ้าเป็นบริการสตรีมมิงเหมือนเขาพยายามจะยัดเพลงฮิตสิบอันดับให้เราฟัง ถ้า YouTube เราสามารถหาบราซิลเลียนฟังก์หรืออะไรแปลก ๆ ฟังได้แบบ บู้มมม เต็มไปหมดเลย มีแต่ของเด็ด มันค่อนข้างจะเป็นช่องทางที่เปิดกว้างกว่าเวลาจะหาอะไรใหม่ ๆ ฟัง ซึ่งเป็นไปไม่ได้เลยที่ผมจะทำแบบนั้นสมัยที่อยู่ไฮสคูล มันบ้าบอมากครับ ต้องไปร้านขายซีดีแล้วให้คนขายเขาแนะนำว่าเพลงไหนดี ควรจะซื้อแผ่นไหน พอมาเป็นตอนนี้อะนะ ‘ฟัคยู’ ไม่ต้องให้พวกเขาช่วยแล้วครับเพราะเรามี YouTube ก็นั่นแหละครับ มันน่าจะมีอะไรที่เปลี่ยนในการทำเพลงของผมแหละ แต่ไม่รู้ว่าเปลี่ยนยังไง อย่างน้อย ตอนนี้ผมก็สนใจเพลงญี่ปุ่นนะ เจอเต็มไปหมดจากออนไลน์ ไม่ใช่พวกเมนสตรีมด้วย พบได้บน YouTube เท่านั้น (ทำเสียงโฆษก)

ได้ยินว่าบ้านของคุณอยู่ริมน้ำ มีคนเคยบอกว่าคุณจะซึมซับพลังงานได้จากสิ่งรอบตัว แล้วน้ำส่งผลอะไรกับคุณหรือเปล่า

ผมอาศัยอยู่แถว Jamaica Bay ใกล้ กับสนามบิน JFK จะมีอ่าวใหญ่มาก  ถัดไปก็เป็นมหาสมุทรละ คืออันนั้นแหละ บ้านผมก็อยู่นอกอ่าวไปหน่อย แล้วก็มีเพื่อนของเราอาศัยในบ้านนั้นด้วย อืม ผมว่าก็จริงอย่างที่คุณพูดนะ แต่น้ำแถวบ้านผมมันเน่า หน่อยคงไม่ได้ให้พลังงานอะไรกับเราเท่าไหร่หรอก แต่ถ้าให้มองจริง คือผมก็ได้รับพลังงานจากตัวเมืองนิวยอร์กซึ่งอยู่ไกลจากบ้านผมไปประมาณนึงแหละ …แล้วก็ไม่ใช่ว่าต้องเป็นสภาพแวดล้อมที่ดีเสมอไป จะภูเขา แม่น้ำ หรือว่ากองขยะ ทุกอย่างมันสามารถส่งผลกระทบไปถึงสิ่งที่คุณทำได้เสมอครับ

แล้วอะไรคือสิ่งที่ดีที่สุดในการอาศัยอยู่ใน Brooklyn

โอ้ ตอนนี้ผมย้ายมาอยู่ Queens แล้วครับ แต่ตอนที่อยู่บรูคลินก็น่าจะเป็น Philly cheese steak sandwich แหละนะ

ปีที่แล้วคุณแกล้งสมาชิกวงด้วยการเอาหน้าเขาขึ้นป้ายบิลบอร์ดใหญ่ เพื่อโปรโมตอัลบั้มใหม่ แล้วตัวคุณเคยโดนเพื่อนแกล้งแปลก บ้างไหม

ก็มีน้า แต่ว่ามันไม่ได้ประหลาดเท่าอันนั้น ไม่รู้ว่าพวกคุณรู้จัก Kirin J. Callinan กันรึเปล่านะ เป็นนักดนตรีออสเตรเลียนครับ แม่งชอบแกล้งผมมากอะ คือตอนนี้เราอาศัยอยู่บ้านเดียวกัน แล้วเขารู้ว่าเวลาผมอยู่ในสตูดิโอผมจะใส่หูฟังตลอดเลยไม่ได้ยินอะไร เดือนที่แล้วเขาแกล้งผม 4 รอบ เข้ามาข้างหลังแบบเงียบมากแล้วก็ทำให้ผมตกใจอะ แกล้งแปลก ไม่ค่อยมีหรอกครับ ของผมน่าจะแปลกสุดละ

คุณมีเพลงชื่อ My Old Man คิดว่าอีก 40 ปีข้างหน้าคุณอยากจะเป็นคนแบบไหน

คงเป็นพ่อคนแล้วมั้งครับ อยากจะสุขภาพดี กว่า ตอน นี้อยากเป็นคนชอบออกไปข้างนอกมากขึ้น แล้วก็เป็นคนใจเย็นรักสงบ… (สื่อ: ยังจะเล่นดนตรีอยู่ไหม) ก็คงจะเล่นนะครับ คิดว่าถึงตอนนั้นน่าจะยังมีคนฟังเพลงของผมอยู่แหละ ไม่รู้ว่าถึงตอนนั้นจะเป็นยังไงนะ แต่ก็หวังว่าผมจะไม่ได้โตไปเป็นลุงแก่ ขี้โมโห หรือเซื่องซึมหรอกนะ

คิดว่าคุยกันอิ่มหนำสำราญได้ที่แล้ว เตรียมไปเจอกับเขาตัวจริงเสียงจริงพร้อมวงไทยคุณภาพทั้งสองวงอย่าง Gorn Clw และ temp. กันได้แล้ว ประตูเปิดสองทุ่มตรงนะจ๊ะ

Facebook Comments

Next:


Montipa Virojpan

อิ๊ก เนิร์ดดนตรีที่เพิ่งกล้าเรียกตัวเองว่าเป็นนักเขียนตอนอายุ 25 ชอบเดินเร็ว นอกจากขนมปังกับกาแฟดำแล้วก็สามารถกินไอศกรีมกับคราฟต์เบียร์แทนมื้อเช้าได้