Article ระเห็ดเตร็ดเตร่

Adoy กับโชว์สุดมันที่ทำเอาเราตื่นตาตื่นใจจนอยากดูอีกซ้ำ ๆ

  • St0ry and photos by Nattapat Suthapornpat

27 ตุลาคม 2561

หลังจากเดือนก่อนที่เราได้สัมภาษณ์ทำความรู้จัก Adoy ไปแล้ว (อ่านได้ที่นี่) ก็มาถึงวันที่เราจะได้ดูโชว์ของพวกเขาสด ๆ กันที่ Rockademy ซึ่งเราสังเกตได้ว่าผู้คนดูหนาตาเป็นพิเศษเนื่องจากบัตรจำนวนสี่ร้อยใบได้ถูกขายหมดเกลี้ยง

ก่อนที่เราจะได้ดู Adoy ในวันนี้ ทางผู้จัด Seen Scene Space ได้พา เอ ดอย และยี่ สามหนุ่มวงอินดี้ขวัญใจวัยรุ่นอย่าง Safeplanet มาให้ดูกันก่อน ทางวงเปิดงานด้วย ตัดสินใจ ที่ฟังแล้วชวนนึกถึงประโยคคุ้นเคยที่หลายเสียงเห็นพ้องตรงกันว่า ‘แค่อินโทรขึ้นก็รู้ว่าเป็นวงอะไร’ จากนั้นตามด้วย กล่องดำ และ ระบาย ตามมาติด ๆ ก่อนที่พวกเขาจะพาเราไปในโลกของเหล่าเซฟบอยด้วยเพลงที่มีท่อนเสียงร้องประสานเพราะ ๆ อย่าง ดินแดน แล้วก็มาถึงเพลงที่หลายคนตั้งตารอฟังนั่นก็คือ คำตอบ ซิงเกิ้ลที่พึ่งปล่อยออกมาล่าสุด ซึ่งเราขอบอกเลยว่า เอ มือกีตาร์โซโล่ได้เท่มาก เก็บรายละเอียดแบบครบทุกเม็ดมันทุกหยด จากนั้นต่อด้วยเพลงฮิตประจำวงอย่าง ห้องกระจก และปิดท้ายด้วย แสงสว่าง ที่ทำเอาแฟน ๆ วงนี้ฟินกันไปถ้วนหน้า โดยส่วนตัวแล้วเราไม่ได้ดูเหล่าเซฟบอยเล่นสดเป็นเวลามาประมาณครึ่งปีได้ แต่ทุกครั้งที่ได้มาดู สามหนุ่มก็ไม่ทำให้เราผิดหวังเหมือนเดิม นอกจากนี้ยังมีการเรียงเซตลิสต์ใหม่ที่ทำให้โชว์ดูไหลลื่นและต่อเนื่องมากขึ้น ตามเชียร์กันไปยาว ๆ ครับกับวงนี้ เรารออัลบั้มเต็มอยู่นะ

มาต่อกันด้วย Adoy วงหลักในวันนี้ที่นำร่องมาด้วยเพลงสนุก ๆ อย่าง I Just Can’t Forget Her โดยมีวิชวลสุดอลังการงานสร้างฉายอยู่เบื้องหลัง แค่เพลงแรกจบไปเราก็อดคิดไม่ได้ว่า โชว์วันนี้จะต้องออกมาดีแน่นอน แล้วก็ไปมันกันต่อด้วยคัฟเวอร์เพลง Say That ของ Toro y Moi กับฉากหลังเมา ๆ และจังหวะเพลงที่ชวนขยับแข้งขยับขาอย่างสนุกสนาน จากนั้นทางวงก็ไม่รอช้าที่จะเสิร์ฟความสนุกให้คนดูอย่างต่อเนื่องด้วย San Francisco ที่ดนตรีเหมือน หลุดออกมาจากหนังไซไฟตะลุยอวกาศ กลิ่นอายแบบวงซินธ์ป๊อปรุ่นเก๋าอย่าง M83 เล่นออกมาได้เท่สุด ๆ ไปเลย แล้วพวกเขาก็ผ่อนจังหวะลงให้พักหายใจหายคอกันสักเล็กน้อยด้วยการหยิบเพลงสุดละมุนหูอย่าง Wonder มาเล่น แถมยังมีวิชวลที่ฉายเนื้อเพลงอยู่ด้านหลังชวนให้คนดูส่งเสียงร้องไปตาม ๆ กัน ก่อนจะไปต่อด้วย Young เพลงฟังสบาย ๆ อีกเพลงกับเมโลดี้สุดติดหู และเสียงคอรัสเพราะ ๆ จาก ดายอง มือเบสสาว ที่คอยร้องสอดประสานเข้ากันกับเสียงของนักร้องนำอย่าง จูฮวาน ได้เป็นอย่างดี แล้วทางวงก็หยิบ Ever เพลงใหม่ที่ยังไม่ได้ปล่อยออกมาเล่น โดยมีดนตรีอิเล็กทรอนิกหม่น ๆ คอยคุมมู้ดและจังหวะของเพลง ซึ่งมี กึนชาง มือกลองที่ขยับไปใช้กลองไฟฟ้าแทน

จากนั้นก็ถึงคิวของเพลงลอย ๆ อย่าง Runner’s High ตามด้วย Balloon เพลงช้าทีโซโล่กีตาร์ช่วงท้ายประสานกันแบบลงตัวมาก และต่อจากนี้ก็จะเป็นช่วงที่ให้สมาชิกในวงแต่ละคนแนะนำตัวพร้อมพูดคุยกับคนดูโดยมีล่ามที่หน้าตาละม้ายคล้ายหลวงพี่ HYUKOH คอยแปลให้ แถม จูฮวาน ยังแซวล่ามอีกด้วยว่าหน้าเหมือนพระ (หัวเราะ) ส่วนเหตุผลที่มีล่ามมาแปลเนี่ย จูฮวาน ได้กล่าวไว้ว่า “จริง ๆ แล้วก็อยากขอบคุณทุกคนที่มางานนี้แต่ว่าภาษาไทยมันยากไป” เรียกเสียงหัวเราะจากคนดูไปได้อีกหนึ่งครั้ง ขี้เล่นเหมือนกันนะเนี่ยเรา (ฮา) แล้วสมาชิกแต่ละคนก็พูดขอบคุณคนดู พร้อมกับบอกว่าถ้ามีโอกาสดี ๆ จะกลับมาเล่นที่ไทยอีกแน่นอนในขนาดงานที่ใหญ่ขึ้น

หลังจากจบช่วงพูดคุยกันไปแล้ว ก็มาถึงช่วงที่ทางวงเลือกเล่นเพลงที่มีความดุดันมากขึ้น โดยเริ่มจาก Laika ที่มาพร้อมกับดนตรีพุ่ง ๆ และวิชวลภาพอวกาศอยู่ด้านหลัง ราวกับพวกเขากำลังพาเราไปนั่งในกระสวยอวกาศที่กำลังทะยานออกไปนอกโลกเลยทีเดียว พอจบเพลงนี้ปุ๊บ พวกเขาก็ซัด You & I อย่างต่อเนื่อง ก่อนจะเล่น Bike เพลงที่มีความสดใสขึ้นมาทันตาเห็นเมื่อเทียบกับสองเพลงก่อนหน้านี้

ต่อมาคือ Grace อีกหนึ่งเพลงเพราะ ๆ ท่ามกลางแสงระยิบระยับไปทั่วห้องที่เกิดจากบอลดิสโก้บนเพดาน ตามด้วย Blanc ที่ได้ George เพื่อนชาวเกาหลี ที่มาร่วม featuring ในเพลงนี้ด้วย แล้วก็เข้าสู่ช่วงอังกอร์ไปกับเพลงปิดท้ายอย่าง Don’t Stop ที่คนดูร้องตามกันได้อย่างพร้อมเพรียง แถม จูฮวาน ยังลงจากเวทีมาร่วมร้องเพลงกับคนดูอีก

จบลงไปแล้วกับงานนี้ การแสดงของพวกเขาแตกต่างจากในอัลบั้มอย่างที่พวกเขาเคยให้สัมภาษณ์ไว้จริง ๆ การแสดงสดของพวกเขามีไดนามิกค่อนข้างเยอะ ประกอบกับนักร้องนำอย่างจูฮวานก็พลังเหลือล้น บิ้วคนดู เล่นกับคนดูตลอดงาน ส่วนสมาชิกคนอื่น ๆ ในวงเองก็เล่นดีไม่แพ้กัน เล่นกันเต็มที่มาก และอีกหนึ่งสิ่งที่ต้องเอ่ยถึงก็คือวิชวลของวงที่สร้างความน่าตื่นตาตื่นใจให้กับคนดูตลอดงาน แถมยังเข้ากับมู้ดของเพลงอีก เราคิดว่างานนี้นับเป็นอีกครั้งที่ตอกย้ำ ความสามารถของ Seen Scene Space ในการคัดเลือกศิลปินดี ๆ มาให้เราดูกัน ถ้าหากใครที่ไม่อยากพลาดความสนุกแบบนี้ งานหน้ายังมี Maho Rasop Festival ที่ผู้จัดร่วมกับทาง ฟังใจ และ Have You Heard? โดยงานจะมีวันที่ 17 พฤศจิกายน พร้อมศิลปินอีก 19 วง ขอบอกเลยว่าขนาดงานเล็ก ๆ ยังสนุกขนาดนี้ งานหน้าต้องสนุกมากแน่นอน แทบอดใจรอไม่ไหวแล้ว!

Facebook Comments

Next: