Article ระเห็ดเตร็ดเตร่

#JAMnight Live! with Ash คอนเสิร์ตที่วัยรุ่นยุค MTV ได้กลับมาโดดสุดตัวอีกครั้ง

  • Writer: Montipa Virojpan
  • Photos:  Nattapat Lueangrungthip and Montipa Virojpan

วัยรุ่นยุค 90s ยิ้มแก้มปริ เมื่อวงร็อกไอริชสามชิ้นกลับมาเล่นสดให้ได้ดูกันอีกเป็นครั้งที่ 4 แล้วที่ Live Arena เมื่อวานนี้ในงาน #JAMnight Live! with Ash แต่นี่เป็นครั้งแรกที่เด็ก MTV ยุคหลังอย่างได้เรามามีประสบการณ์ความมันร่วมกับพี่ ซึ่งต้องขอบอกเลยว่า น้ำตาจะไหล ตะเบ็งคอแตก ฟินระเบิดระเบ้อไปเล้ย

นอกจากจะได้มารำลึกความหลังกับ headliner กันแล้ว ก็ยังมี openning act ที่ถูกเบอร์มาร่วมแสดงด้วย Penguin Villa ขนงานเพลงยุคดั้งเดิมมาเล่นแบบ full band ซึ่งไม่แน่ใจว่าครั้งล่าสุดที่เราได้ดูแบบเต็มวง เครื่องไฟฟ้าแน่น แบบนี้มันนานขนาดไหนแล้ว แต่เมื่อคืนนี้ถือเป็นบรรยากาศที่แจ่มแจ๋วจริง เพราะพี่เจเล่นทั้งเพลง พร เสียงเครื่องสายบาด แบบที่จำกันได้ก็โผล่มาให้ขนลุกเป็นระลอก หรือแม้แต่ ออกไปข้างนอก ที่ก็แอบมีท่อนแจมแจ๊ส โผล่เข้ามาช่วงหลังให้เราได้เซอร์ไพรส์กัน ยังไม่พอ ต่อด้วย ท่าอากาศยาน กับท่อนฮุกที่ทุกคนเห่าหอนได้อย่างน่ารัก ติด กันเลยแบบไม่เบรกใน Acrophobia ก่อนจะกลับสู่เพนกวินยุคปัจจุบันกับเพลงล่าสุด ลำพัง และ Good Morning ที่ทุกคนให้ความร่วมมือช่วยกันร้องเสียงดังฟังชัด

และเมื่ออินโทรเพลง กลับไปที่โลก ดังขึ้น ก็ได้ยินเสียงร้องโอดครวญของหลาย คนที่พร้อมจะรวดร้าวไปกับเพลงช้ำเพลงนี้ แต่ช้ำได้ไม่นานก็ขอทำหวานต่อในเพลง เธอคือความจริง ซึ่งหลังจบเพลงเดือด เพลงต่อไปอย่าง ส่วนที่หายไปนั้น พี่เจก็พูดขึ้นมาว่า ‘หลายคนคงคิดว่าเพนกวินเล่นแต่เพลงช้า พอเจอเพลงเมื่อกี้ไปค่อยเข้ากับการเป็นวงเปิด Ash หน่อย’ เรียกเสียงหัวเราะจากคนดูไปยกใหญ่ จนเมื่อพี่เจบอกว่า ‘ขอเสียงเด็กยุค 2000 หน่อย’ พร้อมกับอินโทรของเพลง เธอเป็นใคร ของ Moor คนดูก็เฮกันสนั่น บอกเลยว่าแรร์มาก ไม่คิดว่าจะเล่นเพลงนี้ แล้วความเดือดแบบเพลงร็อกสนุก ในยุคนั้นก็เป็นตัวอุ่นเครื่องก่อนไปเจอ Ash ได้เป็นอย่างดี

จนเวลาสี่ทุ่มตรงเป๊ะ ระหว่างที่ฤทธิ์ Jameson ผสมโซดากำลังแพร่แอลกอฮอล์เข้าสู้กระแสเลือดนั้น Ash ก็มาอยู่บนเวทีพร้อมกับเล่นเพลง True Story อย่างไม่รีรอ! ซึ่งวงก็เล่นเพลงไวขึ้นกว่าปกติแบบที่ Tim Wheeler ฟรอนต์แมนเคยให้สัมภาษณ์กับเราไว้ พอจบเพลงนี้ทิมก็เปลี่ยนกีตาร์และพูดทักทายแฟนเพลงสวัสดีครับ So good to be back in Bangkok’ ก่อนที่เสียงเฮจะดังขึ้นพร้อมกับอินโทรของเพลง Kung Fu โอ้โห นี่ขนาดน้องเครื่องเพิ่งแลนดิ้งเมื่อเช้า ยังไม่ค่อยได้นอน แต่ตอนนี้ทั้งโดด ทั้งตะโกน ไปกับท่อน ‘Oh oh oh oh’ พร้อมกับทุกคนให้ลั่นฮอล ช่วงโซโล่ท้ายเพลงก็ขยี้มาก โยกคอเคล็ดกันไปเลย! ตามด้วย Cocoon งานยุคใหม่หน่อยของวงแต่ความมันไม่ตกไปเลยกับท่อนฮุคชวนร้องตามได้โข่คู้นนนน ฮูอูหู่นนนแล้วทิมก็บอกว่าพวกเขามีอัลบั้มใหม่ Islands และเพลงต่อไปที่จะเล่นชื่อ Annabell ซึ่งก็ไม่ได้เป็นปัญหากับแฟนเพลงแต่อย่างใด ใหม่แค่ไหนก็ร้องตามได้ ก่อนที่จะกลับมาที่เพลงฮิต Oh Yeah คนเอากันตั้งแต่ท่อนแรกของเพลง แล้วช่วงหลังของโชว์เขาเว้นให้คนดูช่วยร้อง การประสานเสียงของทุกคนพร้อมกันในเพลงนี้ฮึกเหิมชวนขนลุกมาก จริง เพลงนี้ก็เป็นเพลงจังหวะกลาง เท่ แต่พอเอามาเล่นเร็วขึ้นนี่สุดบิ๊ว นึกเวลาคนร้อง ‘Oh yeah, she was taking me over. Oh yeah, it was the start of the summer’ พร้อมกันสุดเสียง กับโซโล่ท้ายเพลงที่โคตรเพราะของเพลงนี้ โห ขนลุก

Ash

“How’re you guys doing? Last time we were playing in the festival in 2013 and now we’re playing the headline show. Bangkok is our favourite city in the world, we’re so glad to be back.” เราเชื่อว่าพวกเขาต้องชอบประเทศไทยมากแน่ ทิมเองก็เคยเล่าว่าเขามาเที่ยวเมืองไทยและเทคคอร์สเรียนมวยไทยอยู่สองสามครั้งด้วย บางคนอาจจะคิดว่านี่เป็นประโยคยาหอมที่ศิลปินคนไหนมาเล่นบ้านเราจะต้องพูด แต่เราเชื่อว่าวงนี้เขาคิดแบบนี้จริง แฮะ ไม่งั้นไม่ยอมมาบ่อยขนาดนี้หรอก! เอ้า ต่อเลยกับเพลง Confessions in the Pool จากอัลบั้มล่าสุด เป็นเพลงที่เราชอบที่สุดในชุดนี้ ซึ่งเขาเคยบอกว่าเพลงนี้เวลาเล่นสดสนุกมาก แล้วก็สนุกพีคจริง จบเพลงยกแก้วขึ้น cheers กับคนในฮอลแล้วลุยต่อในเพลง A Life Less Ordinary โดด พังก์ ไปเลย และอีกเพลงเท่ Goldfinger ตามด้วย Walking Barefoot ที่ท่อนหลังก็ร้องรับส่งกับคนดูสนุกมาก จนแล้วจนรอด อินโทรเพราะ ของเพลงต่อไปขึ้นมานี่เหมือนตายตาหลับแล้วจริง เพลงที่ได้ยินตอนเด็กมาก ไม่คิดว่าจะได้มาดูมาฟังสด นั่นคือเพลง Shining Light เพลงชาติของวงนี้เขาแหละ ใครจะไปคิดว่าเพลงร็อกที่แต่งเป็นเนื้อหารัก ๆ มันจะเพราะกินใจได้ขนาดนั้น แล้วจึงกลับมาที่อัลบั้ม Islands กันอีกรอบในเพลงที่อินโทรติดหูมาก อีกเพลงอย่าง All That I Have Left พอจบเพลงนี้ทิมก็บอกว่าจะดรอปอารมณ์ให้ช้าลงหน่อยที่เพลงเพราะ ซึม แทร็คสุดท้ายจากอัลบั้ม Incoming Waves เพราะแบบขนลุกมาก คือครบรสแล้วอะโชว์นี้ มาทุกอารมณ์

จะมีหลายช่วงมากที่ทิมเล่นมุข ‘เอ้โอ่!’ แบบ Freddie Mercury วง Queen คือพี่แกไว้หนวดทรงเดียวกัน แล้วพอเล่นทีคนดูก็เอาด้วยทุกรอบ ตลกมาก เพลงต่อไปที่เล่นก็เดือด มัน ไปเล้ยกับ Orpheus ต่อด้วย Cantina Band ที่เป็นเพลงทริบิวต์ให้กับธีมซองอันนึงของ ‘Star Wars’ คือวงนี้ดูชอบสตาร์วอร์สมากขนาดอัลบั้มแรกของวง 1977 ยังตั้งตามปีที่หนังออกฉายด้วย แล้วก็หยิบงานยุค Nu-Clear Sounds อย่าง Jesus Says มาเล่น คือไม่น่าเชื่อว่าพี่ เขาอายุ 40 กันแล้ว ยังเล่นแน่นเล่นสนุกกันอยู่เล้ย จบเพลงนี้ทิมบอกว่า มาร์ก มือเบส จะทำสิ่งที่วงไม่เคยทำมาก่อนในทุกโชว์ที่กรุงเทพ ไอ้เราก็รอดู ปรากฏว่ามาร์กคว้าไมค์ร้องเพลง My Heart Will Go On เสียงหลง ขำก๊ากออกมาเลย พี่ ก็น่าจะเมากันใช้ได้อยู่ แล้วจึงกลับมาเล่นต่อในเพลง Numb Skull โคตรเดือดดดดด พอท่อนกีตาร์สาด ก็โยกคอหลุดกันไป แต่พอท่อนหยุดคนดูก็ส่งเสียงร้อง ‘วู้ว!’ เข้าจังหวะ โคตรมัน จบเพลงนี้ก็พูด ‘ขอบคุณครับ’ ภาษาไทยเสียงดังฟังชัดให้อีกหนึ่งที ก่อนจัดสามเพลงไม้ตายรัว เอาใจกันสุด  Buzzkill และ Girl From Mars ที่สนุกมากกกกก และเพลง Burn Baby Burn ก็ได้ นต Getsunova มาร่วมเล่นกีตาร์ในเพลงนี้ด้วย บอกเลยว่าสีกีตาร์เรืองแสงเปลี่ยนสีวิบวับแย่งซีนเชียวล่ะ แต่คนดูก็โดดกันไม่ยั้งกับเพลงโปรดของทุกคนเพลงนี้

ช่วงอังกอร์ หลังจากที่วงเดินลงจากเวทีไป คนดูก็ตบมือเรียกให้พวกเขากลับมาในทันที สักพักก็ตะโกนร้องขออีกเพลง แต่พี่ ที่ยืนหลังเราบอก ขอสิบเพลงไปเลย! พอวงกลับมา ทิมบอกว่านาน กลับมาที มีเพลงให้อีก 2-3 เพลงเล่นเยอะกว่านี้ก็ได้ค่ะ ยินดีมาก ฮือ จัดเพลง Did Your Love Burn Out? จากชุดล่าสุดให้ ถึงจะยังร้องตามไม่ได้แต่เพลงนี้เท่มาก ทีท่อนดรอปให้เราร้องตามกันด้วย ต่อกันที่ Twilight of the Innocents ตอนนี้เขาบอกว่าจะแถมให้อีก 2 เพลงได้ไหม เหลือบดูนาฬิกาตอนนี้ก็รู้สึกว่าวงเล่นเกินมาเยอะแล้ว คือคนดูสนุกแล้ว เขาก็ดูสนุกจริง ชอบจริงอะ จัดมากับเพลง Angel Interceptor และเพลงน่ารัก Wildsurf จบเพลงนี้ ทิมก็ร้อง ‘เอ้โอ่!’ คนดูก็บ้าจี้ตาม จะอิมโพรไวส์อะไรก็ตามหมด แล้วถึงปิดท้ายกันด้วย Lose Control เดือด คอหลุดกันไปเลยจ้า

#JAMnight Live! with Ash ถือเป็นคอนเสิร์ตปิดท้ายซีรีส์ Jameson ในปีนี้ที่ประสบความสำเร็จและสวยงามมาก ได้ใจทั้งคนดูและศิลปินไปเต็ม ไม่ว่าจะเวนิว ไลท์ติ้ง และระบบเสียงที่เอื้อกับประสบการณ์การชมดนตรีสดแบบนี้ แถมคนดูหยิบมือถือขึ้นมาถ่ายกันน้อยมาก ส่วนใหญ่คือพี่ แฟนเพลงของ Ash ที่กระโดดและตะโกนร้องเพลงไปสุดเสียง เหมือนทุกคนได้กลับมาเป็นวัยรุ่นที่ได้ฟังเพลงพวกนี้จาก [V] หรือ MTV กันอีกครั้ง ส่วนเราไม่ทันยุคนั้นเท่าไหร่แต่พอเก็ตความรู้สึกของพี่ ที่แม้จะจบงานแล้วก็ยังเต้นกันต่อกับ after party ที่มีเพลงอย่าง Lust For Life, Disco 2000 และ Roll With It เปิดคลอไปตลอดคืน ขอบคุณทุกคนที่ทำให้โชว์นี้เกิดขึ้นและเป็นอีกโชว์ที่สนุกที่สุดสำหรับเรา ไว้เจอกันใหม่กับ #JAMnight Live! Series ปีหน้า มาลุ้นกันว่า Jameson Thailand และ Have You Heard? จะพาใครมาให้เราได้ดูกันอีก

Facebook Comments

Next:


Montipa Virojpan

อิ๊ก เนิร์ดดนตรีที่เพิ่งกล้าเรียกตัวเองว่าเป็นนักเขียนตอนอายุ 25 ชอบเดินเร็ว นอกจากขนมปังกับกาแฟดำแล้วก็สามารถกินไอศกรีมกับคราฟต์เบียร์แทนมื้อเช้าได้