ขอแค่คืนเดียวจะบอกรักให้เธอไม่ลืมใน ‘Bless’ เพลงป็อปน่ารัก ๆ จาก Kachain

  • Writer: Peerapong Kaewthae

เก็บความรู้สึกดี ๆ ที่มีเอาไว้ วอนสายลมและแสงจันทร์ช่วยบันดาลให้เราได้ใกล้กันซักครั้งใน Bless สัมผัสบรรยากาศริมทะเลด้วยเมโลดี้สดชื่น ๆ ในเพลงใหม่ของ Kachain อินโทรด้วยเสียงบรรยากาศริมทะเลชวนผ่อนคลาย ก่อนจะสาดเสียงคีย์บอร์ดเข้ามาใส่เรา ร้อยเรียงกับกีตาร์ เบสและกลองขึ้นมาเป็นเป็นป็อปใส ๆ ได้รื่นเริงมาก เนื้อเพลงก็วอนขอให้มีโอกาสได้รู้จักกันซักครั้งแล้วจะไม่ปล่อยให้เธอจากไปไหนอีกเลย เสียงคีย์บอร์ดมันโดดเด้งซะเหลือเกินล้อไปกับเสียงกีตาร์ได้เพลิดเพลินมาก แต่ท่อนฮุกก็ยังมีลูกเล่นด้วยเสียงกีตาร์เหงา ๆ แทรกอยู่ข้างใน ไม่ถึงกับเศร้า แต่ก็แอบเหงาที่ทำได้แค่แอบรักเธออยู่อย่างงี้ ท่อนโซโล่ก็ฟาดเราด้วยกีตาร์เท่ ๆ ก่อนจะจัดคีย์บอร์ดแหลมบาดใจเข้ามาอีกชุด ทำเอาเราเคลิ้มไปเลย MV ก็ยังมีอารมณ์ขันด้วยการเอาชื่อเพลงมาทำเป็นโลโก้แบบหน้าพักจอของเครื่องเล่น DVD ที่เด้งไปเด้งมาบนจอ เสียดายที่จนจบเพลงแล้วมันก็ไม่ทิ่มเข้าไปตรงมุมจอซะที แม้จะเป็นเพลงที่สองแต่วงก็มีพัฒนาการทางดนตรีที่น่าสนใจ ไปกดหัวใจเพลงพวกเขาไว้ฟังบนฟังใจได้ ที่นี่ เลยจ้า

Pray ตอกย้ำความช้ำใน ‘เอาอีกแล้ว’ บอกรักแล้วไม่สมหวังครั้งเดียวมันจะติดในใจเราไปอีกนาน

  • Writer: Peerapong Kaewthae

เพราะคำพูดที่บอกออกไปแล้วเธอไม่ได้ยิน มันจะดังอยู่ในหัวฉันเหมือนพูดซ้ำไปซ้ำมาตลอดเวลา Pray ชวนน้ำตาปริ่มไปกับเพลงใหม่ เอาอีกแล้ว ทำนองของซินธ์ที่พุ่งพล่านไปมาเหมือนพาเรากลับไปวันเก่า ๆ ก่อนจะตบเข้ามาด้วยกลองและเบสโดยมีเสียงซินธ์นุ่ม ๆ เลี้ยงอารมณ์ของเพลงไว้ ก่อนจะมีกีตาร์ระบายเข้ามาน้อย ๆ แต่กินใจ เมื่อภาพ คำพูดและความรู้สึกตอนนั้นวนกลับมาเล่นซ้ำ ๆ ไม่มีวันหยุด ท่อนเชื่อมคือน่ารักสุด ๆ ด้วยจังหวะเศร้า ๆ มีกีตาร์สองตัวคอยบรรเลงอารมณ์ความรู้สึกที่ติดอยู่ในใจ แล้วมีซินธ์คอยบิลด์ให้เราอินเข้าไปอีก ท่อนฮุกก็น่าฟังด้วยซินธ์กับกีตาร์ที่ทำงานด้วยกันลงตัวมาก ท่อนดรอปที่ใช้แต่ซินธ์ช้า ๆ หน่วง ๆ นี่เอาตายเลยคือได้ใจมาก แล้วค่อย ๆ ไต่ระดับความพีคกลับไปเท่าเดิมจนฮุกสองก็ซัดอารมณ์เข้าไปอีกหน่อย ก่อนทำนองจะจางหายไปเหมือนคำพูดที่เธอไม่ได้ฟัง MV ก็ทำมาถูกต้องมาก ชูเมสเสจในเพลงออกมาได้ชัดเจน กับการถ่ายซีนบอกรักซ้ำ ๆ ราวกับตอกย้ำภาพวันนั้น แถมโปรดักชั่นก็หลักแหลมมากทั้งการวางซีนหรือดำเนินเรื่อง บอกเลยว่าเป็น mv ที่ชอบที่สุดในช่วงหลายเดือนนี้เลย ถ้าใครยังไม่รู้จัก Pray การเริ่มต้นด้วยเพลงนี้ก็ถือว่าโอเคมาก แต่เขายังมีอีกหลายเพลงบนฟังใจที่ดีไม่แพ้กัน ลองไปฟังได้ ที่นี่ เลย

เมื่อคุณยายอยากตั้งวง Grindcore ตอนอายุ 67 ในชื่อ ‘Grindmother’

  • Writer: Peerapong Kaewthae
  • Art Director: Tas Suwanasang

เวลาว่าง ๆ เคยนั่งจินตนาการกันเล่น ๆ มั้ยว่าพอเราแก่ตัวลงไปเราจะเป็นคนยังไง ยังจะฟังเพลงใหม่ ๆ อยู่มั้ย จะยังชอบร้องเพลงเหมือนเดิมรึเปล่า หรือจะใช้ชีวิตช้าลง นอนดูทีวีทั้งวันหรือหางานอดิเรกทำง่าย ๆ แบบที่คนแก่ทั่วไปชอบทำ มีคุณยายคนหนึ่งแกก็มีงานอดิเรกธรรมดาเหมือนคนอื่นแหละ เธอใช้เวลาหลังเกษียณไปกับการทำฟาร์มออแกนิกหรืองานช่างไม้ แต่วันหนึ่งเมื่อลูกชายของเธอชวนเธอไปร้องแบ็กอัพให้กับวงเมทัลของเขา ทำให้คุณยายพบพรสวรรค์ที่หลับใหลอยู่ในตัวมาเนิ่นนาน และแน่นอนเธอมีความสุขสนุกกับสิ่งที่เธอทำมาก เธอคือ Grindmother จากที่ลูกชายและเพื่อนจะตั้งวงกันสองคนโดยเอาแม่มาว้ากแค่เพลงเดียว ความโกรธเกรี้ยวของเธอทำให้ทั้งสองต้องทึ่งทันทีที่อัดครั้งแรก เมื่อเห็นความสามารถของตัวเองจึงชวนให้คุณแม่ตั้งวงโดยลูก ๆ จะช่วยแบ็กอัพให้ในชื่อ Grindmother ทำเพลงแนวไกรนด์คอร์ที่กดสุดในทางของเฮฟวี่เมทัลเลยทีเดียว จังหวะสับกลองอันบ้าคลั่งกับการกรีดร้องแบบฮาร์ดคอร์พังก์ ฟังแล้วโคตรพุ่ง ชื่อวงของเธอก็มาจากการกร่อนคำว่าไกรนด์เข้ากับความแม่นั่นเอง พวกเขาอัดและมาสเตอร์กันเสร็จในเวลาอันรวดเร็วจนออกมาเป็นอัลบั้ม Age of Destruction ทันทีในปีเดียวกัน แถมได้ผลตอบรับน่าพอใจ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะเราไม่เคยเห็นสายว้ากอายุจะเหยียบ 70 แล้วในวงการมาก่อน แม้แต่ Ozzy Osbourne ศิลปินในตำนานยังพูดถึงเธอ (และ Ozzy ก็อายุไล่ ๆ กับเธอด้วย) แน่นอนว่าวงก็นี้ก็มีช่วงพีคเหมือนกัน พวกเขาได้ไปทั่วตามเมืองใหญ่ ๆ ในอเมริการ่วมถึงแคนาดาและญี่ปุ่น “ก่อนหน้านี้ฉันไม่เคยเข้าใจเลยว่าลูกชายของฉันฟังเพลงอะไรกัน” คุณยายเล่าให้ Huffpost … Continued

รัสเซียไม่ถูกใจสิ่งนี้! สมาชิก Rammstein จูบกันในคอนเสิร์ตท้าทายกฎหมายเหยียดคนหลากหลายทางเพศ

  • Writer: Peerapong Kaewthae
  • Art Director: Tas Suwanasang

คนไทยอาจไม่ค่อยรู้จัก Rammstein วงอินดัสเทรียลเมทัลจากเยอรมันที่ทำดนตรีได้เดือดพล่านกับภาษาที่ดุดัน กระแทกกระทั้นด้วยจังหวะอันรุนแรง มีอิทธิพลอย่างมากในแถบยุโรปและมีชื่อเสียงไปทั่วโลก และยิ่งโด่งดังที่สุดในนาทีนี้เพราะฟรอนต์แมนและมือกีตาร์ของวงจูบกันบนเวที Luzhniki Stadium (เทียบได้กับราชมัง ฯ บ้านเรา) ในประเทศรัสเซีย แต่การทำแบบนี้ไม่ใช่อารมณ์ใคร่ที่ชวนกังขาหรือความอินเกินพิกัดในดนตรีเฉย ๆ แต่พวกเขากำลังส่งเมสเสจที่ทรงพลังที่สุดที่วงดนตรีหนึ่งจะทำได้ รัสเซียเป็นประเทศที่หลายคนปักหมุดว่าอยากไปเที่ยวซักครั้งในชีวิต ชมความงามของสถาปัตยกรรมที่ไม่เหมือนใคร แถมวงดนตรีระดับ ๆ จากยุโรปหรือทั่วโลกก็ต้องทัวร์ผ่านประเทศนี้แน่นอน แต่หลายคนอาจไม่รู้ว่าประเทศนี้มีกฎหมาย anti-gay law ที่ต่อต้านการแสดงออกหรือให้ข่าวสารเกี่ยวกับคนหลากหลายทางเพศ ซึ่งมีมาตั้งแต่ปี 2003 โดยประธานาธิปดีวลาดีมีร์ ปูติน ซึ่งอ้างว่าเพื่อปกป้องลูกหลานชาวรัสเซียจากพฤติกรรมที่ผิดธรรมชาติ แค่แสดงออกว่าเป็นคนหลากหลายทางเพศอาจมีสิทธิ์ถูกจับติดคุกได้ถึง 15 วันหรือโดนปรับประมาณ 2,500 บาท ซึ่งกำลังปลูกฝังรากความรู้สึกเกลียดกลัวเกย์ให้กับคนรัสเซียอย่างชัดเจน เกิด hate crime การทำร้ายหรือฆ่ากันเพียงเพราะเป็นคนรักร่วมเพศแทบจะรายวัน แม้จะมีคนหลายกลุ่มลุกขึ้นมาต่อต้านกฎหมายนี้ แต่ความเปลี่ยนแปลงก็ยังทำงานของมันได้เชื่องช้ากว่าที่ควรเป็นการที่วงดนตรีระดับโลก หรืออย่างน้อยก็มีชื่อเสียงมาก ๆ ในแถบยุโรปลุกขึ้นมาทำอะไรแบบนี้จึงสร้างแรงกระเพื่อมที่รุนแรงได้พอสมควร พวกเขาจูบกันและอัพภาพที่บันทึกไว้ขึ้น Instagram พร้อมแคปชั่นที่แปลเป็นภาษาอังกฤษว่า “Russia, We Love You!” เป็นการส่งสารที่ทรงพลังมาก ๆ การจูบกันก็เป็นการแสดงความรักอย่างหนึ่งไม่ได้ยึดโยงเกี่ยวกับเพศเลย เพราะฉะนั้นการที่ผู้ชายสองคนจะจูบกันมันไม่ควรจะผิดกฎหมายข้อไหนบนโลก … Continued

ผลสำรวจชี้ หลายคนอาจเลิกฟังเพลงหรือวงใหม่ ๆ หลังอายุ 30

  • Writer: Peerapong Kaewthae
  • Art Director: Kanchanok Wongprasit

ช่วงวัยรุ่น ทุกคนต่างก็สนุกกับการตามหาว่าเราเป็นใครผ่านหนังดี ๆ หรือเพลงที่เราชอบ ยิ่งได้ฟังเพลงมากเท่าไหร่ก็เหมือนเราได้เข้าใจตัวเองมากขึ้นเท่านั้น โดยที่คิดว่าเราจะเป็นนักฟังเพลงตลอดไปไม่มีวันเปลี่ยน แต่ความจริงแล้วการเปลี่ยนแปลงก็มาเร็วกว่าที่เราคิดด้วยซ้ำ มีงานวิจัยยืนยันแล้วว่าคนเราจะเลิกหาเพลงหรือวงใหม่ ๆ ฟังหลังอายุ 30 ปี จากการสำรวจคนอังกฤษ 1,000 คนถึงพฤติกรรมการฟังเพลงบน Deezer สตรีมมิ่งชื่อดัง พบว่ากว่า 60% เป็นคนฟังเพลงไม่ลึกเลย และจะฟังเพลงที่ชอบซ้ำไปซ้ำมา และกว่า 25% ของคนกลุ่มนี้ก็ไม่ชอบที่จะฟังเพลงใหม่ ๆ นอกเหนือจากแนวเพลงที่ตัวเองคุ้นเคยด้วย ช่วงอายุที่พีคที่สุดของคนฟังเพลงคือ 24 ปี 75% ของคนที่ตอบแบบสอบถามบอกว่าพวกเขาฟังเพลงใหม่ ๆ อาทิตย์ละ 10 เพลงเป็นอย่างน้อย อีก 64% บอกว่าพวกเขารู้จักศิลปินใหม่ ๆ เดือนละประมาณ 5 คนเลยทีเดียว แต่หลังจากช่วงอายุนี้ไปคนก็ค่อย ๆ หมดความสนใจในการหาอะไรใหม่ ๆ ฟังลงไปเรื่อย ๆ ผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่ให้เหตุผลว่าชีวิตพวกเขายุ่งเหยิงมากขึ้นเมื่อแก่ตัวลง หรืออยากมีเวลามากกว่านี้เพื่อจะได้นั่งพินิจพิเคราะห์เพลงใหม่ ๆ บ้าง แต่ 19% บอกว่าพวกเขามีเพลงใหม่ … Continued

‘วิภาวดี’ ไม่น่าเบื่อเลยถ้ามีเธอติดรถไปด้วย เพลงใหม่ล่าสุดจาก YENTED

  • Writer: Peerapong Kaewthae

แบดบอยฟอร์มพะเยาปล่อยเพลงใหม่ให้แฟน ๆ หายคิดถึง พร้อมน้ำเสียงหวานออดอ้อนนุ่มลึกกับสไตล์ดนตรีที่แตกต่างจากเพลงก่อน ๆ ใน วิภาวดี เพราะการใช้เวลาช่วงรถติดกับเธอก็คือช่วงเวลาที่พิเศษมากแล้วเหมือนกัน เสียงซินธ์ค่อย ๆ เบ่งบานขึ้นมาในรูหูพร้อมจังหวะแซมป์กลองกรู๊ฟ ๆ กีตาร์นิดหน่อยแล้วตบแต่งด้วยเบสหนึบ ๆ ได้ลงตัวไปกับเสียงร้องหวาน ๆ มาก สไตล์การร้องแบบ r&b มันส่งให้เนื้อเพลงยิ่งเซ็กซี่ขึ้นไปอีก เมื่อการติดแหงกอยู่ท่ามกลางถนน “วิภาวดี” ก็มีความสุขถ้าได้อยู่กับเธอ ท่อนฮุกก็ซัดด้วยเสียงหลบท่าไม้ตายพร้อมด้วยเครื่องดนตรีแบบวาไรตี้ ฟังแล้วเผลอยิ้มออกมาเลย เซอร์ไพรส์เราด้วยท่อนดรอปกลางเพลงที่ใส่เสียงจากคลื่นวิทยุเข้าม ก็เป็นลูกเล่นที่น่าสนใจ ช่วงท้ายก็เติมด้วยกีตาร์เท่ ๆ ตามสไตล์ของวงได้รื่นหูมาก เพลงนี้มีความมินิมัลแทบจะเป็น bedroom pop เรียบเรียงได้กลมกล่อมชวนเคลิ้มให้เราตายใจ ก่อนจะอุบสไตล์ดนตรีจัด ๆ ไว้ตอนท้าย ถ้าได้ดูสดน่าจะเติมบรรยากาศและความแน่นของเครื่องดนตรีจริงลงไปได้น่าตื่นเต้นแน่นอน ว่าแล้วก็อยากลองฟังสดเลยแฮะ ตอนนี้ก็ทำได้แค่กดหัวใจเก็บไว้ฟังบนฟังใจได้ ที่นี่ เลย   เนื้อเพลง วิภาวดี 6:00 pm (Vibhavadi) – YENTED   แสงอาทิตย์สะท้อนผ่านร่างกายของเธอ ในช่วงเวลาสิบแปดนาฬิกาบนถนนวิภาวดี เธอทำให้คนที่เฉยชา กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง … Continued

การฟังเพลงด้วยกัน ทำให้ความสัมพันธ์ของเราผูกพันแน่นแฟ้น

  • Writer: Peerapong Kaewthae
  • Art Director: Kanchanok Wongprasit

ใครยังมีความทรงจำที่ชัดเจนเกี่ยวกับการฟังเพลงและคุยเรื่องศิลปินบนรถกับพ่อบ้าง หรือยังจำได้ว่าเคยร้องเกะกับเพื่อนสมัยมัธยมเพลงอะไรบ้าง ไม่ต้องแปลกใจ ว่าทำไมงานพิธีสำคัญหรือพิธีรีตรองในชีวิตหนึ่งถึงต้องมีเสียงดนตรีเข้ามาประกอบทุกครั้ง เสียงดนตรีเนี่ยแหละที่เชื่อมทุกคนเข้าด้วยกัน และดึงความทรงจำดี ๆ ของเราขึ้นมาอีกครั้งทำให้ความรู้สึกดี ๆ อยู่กับเราไปนาน ๆ สมองเราชอบฟังเพลงมาก ถึงขนาดมีส่วนหนึ่งของสมองที่ค่อยประมวลผลเกี่ยวกับเพลงโดยเฉพาะ การฟังเพลงหรือร้องกับใครซักคน มันจึงมีผลกับสมองโดยตรงทำให้เราและเขารู้สึกใกล้ชิดผูกพันมากขึ้นจากการหลั่งโดปามีน หรือสารแห่งความสุขพร้อมกัน แและจะยิ่งแแน่นแฟ้นยิ่งขึ้นเมื่อรู้สึกว่าเพลงนี้คือเพลงของเรา มีงานวิจัยชิ้นหนึ่งระบุว่า ฟังเพลงด้วยกัน การเล่นดนตรีด้วยกัน ร้องเพลงด้วยกันหรือเต้นด้วยกัน ทำให้สมองหลั่งโดปามีนออกมามากกว่าการทำกิจกรรมข้างต้นคนเดียว อีกหนึ่งงานวิจัยบอกว่าในคณะประสานเสียงขนาดเล็ก (20-80 คน) กับขนาดใหญ่ (232 คน) ว่าพวกเขาสนิทกันได้เร็วขึ้นจริงมั้ย ก็พบผลลัพต์ที่น่าสนใจว่าคณะประสานเสียงขนาดใหญ่รู้สึกสนิทสนมกันเร็วกว่าคณะขนาดเล็กด้วยซ้ำ วิธีนี้ยังได้ผลดีกับคนในครอบครัวอีกด้วย มีการเก็บข้อมูลว่าวัยรุ่นที่โตมากับการฟังเพลงเหมือนพ่อแม่ คุยเรื่องดนตรีกับพ่อแม่เป็นประจำหรือเคยไปคอนเสิร์ตหรือเล่นดนตรีด้วยกัน จะทำให้เมื่อโตขึ้นพวกเขาก็จะสนิทกับพ่อแม่เหมือนเดิมหรือมากขึ้นด้วยซ้ำ ในกลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่บอกว่ามีความทรงจำที่ดีเกี่ยวกับเพลงและพ่อแม่ในช่วงอายุ 8-14 ขวบ นักวิจัยอธิบายว่ามีสองปัจจัยหลักที่ทำให้การฟังเพลงกับคนอื่นทำให้เราความสัมพันธ์ของเราแน่บชิดขึ้น ปัจจัยแรกคือ coordination การทำกิจกรรมเข้าจังหวะไปพร้อมกันทั้งร้องหรือเต้น หรือแค่ฟังเพลงด้วยกันทำให้รู้สึกเชื่อมต่อกันได้ และอีกปัจจัยหนึ่งคือ empathy หรืออารมณ์ร่วม มีงานวิจัยหลายชิ้นโฟกัสกับอารมณ์และความทรงจำที่เกิดขึ้นผ่านเสียงเพลง มันคือวิธีที่ทำให้เราเอาใจใส่และให้ความสำคัญกับคนที่เราฟังเพลงด้วยมากขึ้น อยากสนิทกับใครก็ไม่ต้องทำอะไรให้มันเว่อร์วังมาก แแค่ฟังเพลงด้วยกันในห้องปิดหรือในรถก็ให้ผลลัพธ์ที่ดีกว่า แทรกเสียงดนตรีลงไปในชีวิตประจำวันของกันและกันก็ทำให้เข้าถึงง่ายกว่าเยอะ ไม่ต้องถึงขั้นชวนคนที่แอบชอบตั้งวงดนตรีเด้อ อ้างอิง Performance of music … Continued

งานวิจัยบอก! น้องหมาแสนรู้ของเราก็ชอบฟังเพลงเหมือนกันนะ โดยเฉพาะแนว REGGAE

  • Writer: Peerapong Kaewthae
  • Art Director: Karin Lertchaiprasert

เวลาเราเปิดเพลงร็อกดัง ๆ แล้วโยกหัวอยู่ในบ้าน อาจเห็นน้องหมานั่งมองเราตาแป๋วหรือกระโดดเข้ามาร่วมวงด้วย ไม่ใช่เพราะน้องสงสัยว่าเราเต้นแร้งเต้นกาทำบ้าอะไรเนี่ย แต่อาจเป็นเพราะน้องหมาก็สนุกกับเพลงเหมือนเราจนอยากเต้นด้วยก็ได้ งานวิจัยล่าสุดบอกว่าหมาก็ชอบฟังเพลงเหมือนกัน กลุ่มช่วยเหลือสัตว์เลี้ยง Scottish SPCA ที่ร่วมมือกับมหาวิทยาลัยแห่งกลาสโกว์ให้สุนัขลองฟังเพลงห้าแนว ได้แก่ ซอฟต์ร็อก, Motown, ป๊อป, เร็กเก้และคลาสสิก แล้วตรวจคลื่นสมองจับความเครียด อัตราการเต้นของหัวใจและท่าทางทางกายภาพของพวกมัน ทำให้เห็นว่าน้องหมาขยับไปหมอบหรือนั่ง ๆ นอน ๆ มากกว่าเมื่อเสียงเพลงดังขึ้น เป็นสัญญาณว่าน้อง ๆ กำลังผ่อนคลาย แถมระดับความเครียดก็ลดลงอย่างต่อเนื่องจากการฟังเพลง ได้ผลลัพธ์ที่ดีใกล้เคียงเหมือนกับสมองมนุษย์เวลาฟังเพลงเลยทีเดียว แต่ละแนวเพลงก็ให้ผลที่มากน้อยแตกต่างกันด้วย แต่ที่น่าสนใจคือเพลงเร็กเก้และเพลงซอฟต์ร็อกให้ผลในแง่บวกต่อน้องหมามากกว่าแนวเพลงอื่นอย่างเห็นได้ชัด วิธีการเปิดเพลงนี้ยังช่วยเยียวยาจิตใจให้สุนัขไร้บ้านในศูนย์พักพิง ทำให้น้องหมาทุกตัวสงบและผ่อนคลายมากขึ้น นักวิจัยจึงแนะนำให้ศูนย์พักพิงหรือร้านสัตว์เลี้ยงเปิด โดยเฉพาะเจ้าของที่มีงานประจำและต้องทิ้งสุนัขให้อยู่บ้านตัวเดียว ถ้ากลัวน้องเหงากับการรอคอยอันยาวนานก็ลองจัดเพลย์ลิสต์ดี ๆ ให้น้องหมาลองฟังระหว่างวันด้วยก็ดีนะ อีกสิ่งหนึ่งที่นักวิจัยค้นพบคือสุนัขแต่ละตัวก็มีแนวเพลงที่ชอบไม่เหมือนกันด้วย เสียดายที่งานวิจัยนี้ไม่ได้ลองว่าหมาจะชอบเพลงเฮฟวี่เมทัลรึเปล่า ไม่งั้นจะลองเปิด Bomb At Track ให้น้องชิวาว่าที่บ้านฟังบ้าง อิอิ

เพลงสากลเพลงไหน คือเพลงที่ศิลปินหยิบไป cover มากที่สุดในโลกกันนะ

  • Writer: Peerapong Kaewthae
  • Art Director: Karin Lertchaiprasert

ทุกวันนี้เราคงเห็นวีดีโอคัฟเวอร์เพลงเยอะแยะมากมายบน YouTube อาจเป็นเพราะการทำคลิปคัฟเวอร์เพลงที่พวกเขาชอบก็เป็นหนึ่งในวิธีฝึกฝนของนักดนตรียุคนี้ด้วย แต่ความจริงแล้วศัพท์คำว่า ‘cover’ ที่หมายถึงการหยิบเพลงเพลงหนึ่งมาเรียบเรียงใหม่ในสไตล์ที่แตกต่าง ก็เพิ่งมีมาไม่นานนี่เอง เพราะสมัยก่อนมีการนำเพลงฮิตมาทำใหม่เป็นเรื่องปกติเพื่อหารายได้อีกทางหนึ่งจากมัน ศิลปินบางคนก็มีชื่อเสียงจากการนำเพลงฮิตในอดีตมาเล่นมาร้องด้วยสไตล์ใหม่ด้วยซ้ำ ซึ่งเห็นได้บ่อย ๆ ในวงการเพลงแจ๊ส หนึ่งในเหตุผลที่หลายคนเลือกคัฟเวอร์เพลงดี ๆ ซักเพลง อาจจะมาจากความหลงใหลในตัวศิลปินต้นฉบับ การทำเพลงออกมาในสไตล์เรานอกจากจะช่วยเผยแพร่ผลงานของเขาแล้ว เรายังได้ส่งสารไปถึงเจ้าของเพลงด้วยว่าฉันชอบเพลงคุณมาก โดยเฉพาะศิลปินระดับตำนานทั้งหลายเนี่ยแหละที่โดนกันเป็นประจำ เวิร์กมั่ง ไม่เวิร์กมั่ง เลยมีคนไปเก็บข้อมูลดูว่าเพลงสากลเพลงไหนที่คนคัฟเวอร์กันเยอะที่สุดในโลกบ้าง อันดับหนึ่งคงหนีไม่พ้น The Beatles ที่มีแฟนเพลงอยู่ทั่วโลก เราอาจจะชอบเพลงของเขาอยู่หลายเพลง แต่เพลงที่ถูกหยิบมาคัฟเวอร์มากที่สุดของพวกเขาคือเพลง Yesterday ซึ่งถูกบันทึกใน Guinness World Records เลยว่าเป็นเพลงที่มีคนเอาไปคัฟเวอร์กว่า 7 ล้านรอบ เป็นตัวเลขที่น่าตกใจมาก และไม่มีใครคาดคิดเหมือนกัน ว่าเพลงอมตะของสมาชิกจากสี่เต่าทอง John Lennon อย่าง Imagine จะถูกคัฟเวอร์กันแพร่หลายไม่แพ้กัน เพราะศิลปินใหญ่คนไหนก็หยิบเพลงนี้ไปทำกันทั้งนั้นตั้งแต่ Elton John, David Bowie, Diana Ross, Jack Johnson แม้แต่ Avril Lavigne … Continued

ทำลายข้อจำกัดทางร่างกาย สานฝันความเป็นนักดนตรีให้คนพิการด้วย EyeHarp

  • Writer: Peerapong Kaewthae
  • Art Director: Kanchanok Wongprasit

สมัยเด็ก ๆ เวลาใครถามว่าโตขึ้นอยากเป็นอะไร เราอาจจะตอบได้เต็มปากว่าอยากเป็นร็อกสตาร์ครับ! แต่กับคนที่เกิดมาพร้อมความพิการ การจะพูดออกมาอยากเล่นดนตรีอาจจะเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้เลย แต่ทุกวันนี้ เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทในชีวิตพวกเขามากขึ้น ทำลายขีดจำกัดทางร่างกายให้สามารถเล่นดนตรีได้เหมือนคนทั่วไปแล้วด้วย EyeHarp มันคือโปรแกรมเครื่องดนตรีที่ช่วยให้คนพิการได้ฝึกฝนหรือเล่นดนตรีผ่านคอมพิวเตอร์ ซึ่งทำงานร่วมกับเครื่องตรวจจับสายตาผ่านการมองหรือเครื่องตรวจจับการเคลื่อนไหวของศีรษะ ทำให้สามารถเล่นดนตรีได้ด้วยการมองหรือกระพริบตา โดยโปรแกรมจะสามารถตั้งค่าคีย์เสียง จังหวะหรือความสูงต่ำของเมโลดี้ รวมไปถึงคอร์ดและการไล่เสียง ซึ่งหน้าจอจะมีสองส่วนคือสร้างคอร์ดขึ้นมาก่อนช่องของการวางโน้ต และใช้สายตาควบคุมเมโลดี้ที่จะเปล่งเสียงออกมา ข้างล่างนี่คือตัวอย่างของการเล่นเพลง Yesterday ของ The Beatles ด้วยโปรแกรม EyeHarp ที่สำคัญคือโปรแกรมนี้แจกจ่ายให้ใช้ฟรีด้วย เป็นโปรเจกต์ที่ Zacharias Vamvakousis ทุ่มเททำมาตลอดชีวิตการเป็นนักศึกษาปริญญาโทในสเปน เขาเชี่ยวชาญด้านงานวิจัยเกี่ยวกับเสียงดนตรีและ Machine Learning หรือการเอาเทคโนโลยีมาปรับใช้ในชีวิตของมนุษย์ ซึ่งเหตุผลที่เขาก่อตั้งโปรเจกต์นี้ขึ้นมา เพราะเคยประสบอุบัติเหตุทางมอเตอร์ไซค์จนทำให้เล่นดนตรีไม่ได้ไปพักใหญ่ เขาจึงไม่กล้าจินตนาการเลยว่าคนพิการจะต้องคิดถึงการเล่นดนตรีขนาดไหน เมื่อเปิดตัวโปรเจกต์นี้ขึ้นมาก็ได้รับเสียงตอบรับอย่างดี ทั้งคนที่พิการตั้งแต่กำเนิดและคนที่เพิ่งพิการในภายหลัง เมื่อได้เก็บสถิติแล้ว การฝึกฝนให้คนเหล่านี้ได้สัมผัสกับเสียงดนตรีด้วยตัวเอง ช่วยทำให้สุขภาพจิตของพวกเขาดีขึ้นเป็นเท่าตัว ลดอัตราการเกิดโรคซึมเศร้าในคนพิการได้อย่างเห็นผลชัดเจน แถมยังกวาดรางวัลเกี่ยวกับงานดีไซน์ที่ช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิตของทุกคนไปมากมายทั่วโลก ขีดสุดของโปรเจกต์นี้คือการตั้งวงดนตรีของคนพิการขึ้นมาด้วยการใช้ EyeHarp ในการทำโชว์ เปิดโอกาสให้คนที่มีข้อจำกัดทางร่างกายแต่ยังคงมีเมโลดี้ในหัวใจได้โชว์ทักษะกันอย่างออกรส มีพื้นที่ได้บอกเล่าความรู้สึกลึก ๆ ในใจของตัวเองออกมาผ่านเสียงดนตรี ไม่ว่าจะดนตรีคลาสสิกหรือดนตรีแจ๊สก็ไม่ยากเกินไปสำหรับพวกเขาเลย ลองชมโชว์ด้านบนที่งดงามราวกับกำลังคอนเสิร์ตของศิลปินมืออาชีพเลยทีเดียว ไม่ว่าเสียงเพลงจะไปดังอยู่ที่ไหน มันก็ช่วยชุบชูจิตใจทุกคนที่ได้ยินตลอดเวลา … Continued

ชุบชีวิตให้เทปคาสเซ็ตทุกตลับได้ด้วย NINM It’s OK เครื่องเล่นเทปคาสเซ็ตแห่งยุค

  • Writer: Peerapong Kaewthae
  • Art Director: Kanchanok Wongprasit

จะเรียกว่าวัฏจักรของแฟชั่นก็ได้มั้ง ที่อะไรบางอย่างเคยหมดยุคไปแล้วก็กลับมาฮิตกันได้อีกครั้ง แม้แต่ในวงการเทคโนโลยีและวงการเพลงด้วยเหมือนกัน เพราะล่าสุดคนก็กลับมาฮิตเทปคาสเซ็ตกันอีกรอบ เพราะศิลปินหันมาผลิตอัลบั้มใหม่กันเพื่อให้แฟนเพลงสะสม ล่าสุดก็วง temp. ที่ขายอัลบั้ม Sweet As Honey ในรูปแบบเทปคาสเซ็ต ด้วยสไตล์ของวงและความน่ารักของเพลงก็ทำให้แฟน ๆ คลั่งกันเลยทีเดียว แต่จะซื้อเทปมาตั้งไว้เฉย ๆ ก็น่าสงสารแย่ อยากจะถือออกไปอวดทุกคนเหมือนถือเครื่องเล่น mp3 ก็ไม่ได้ จะให้แบกวิทยุไปทั้งเครื่องก็เกินเรื่อง ถ้ายังไม่รู้จะไปหาเครื่องเล่นเทปจากไหนในยุคนี้ ขอแนะนำให้รู้จัก NINM It’s OK เครื่องเล่นเทปคาสเซ็ตแห่งศตวรรษที่ 21 หรือจะเรียกว่า WALKMAN แห่งยุคจรวดก็ได้ เจอโปรโมตเข้าไปถึงกับใจละลาย แค่ชื่อก็กินขาดแล้วด้วยคำว่า ‘It’s OK’ เพราะมีแต่เสียงเพลงเท่านั้นที่เยียวยาจิตใจเราได้ กับการออกแบบที่กะทัดรัด แล้วยังทำงานได้เหมือนเครื่องเล่นเทปคาสเซ็ตทั่วไป ทั้งอัดเทปผ่านไมค์ built in กรอไปกรอกลับได้ พร้อมเปลือยฝาบนให้เห็นความสวยงามของเทปที่กำลังหมุน และที่พิเศษกว่าใครคือ Bluetooth 5.0 ที่สามารถต่อกับหูฟังหรือลำโพงที่ชอบได้เสถียรง่ายดาย หรือจะใช้หูฟังมีสายก็ได้เพราะมีช่อง 3.5 มิลลิเมตรมาให้ใช้ด้วย เหมือนเอาเทคโนโลยีเมื่อ 40 ปีที่แล้วมาผสมกับยุคนี้ น่าตื่นเต้นที่เจ้าเครื่องเล่นเทปตัวนี้ยังอยู่ในขั้นระดมทุนบน Kickstarter … Continued

เสียงภายใน BMW รุ่นใหม่ ออกแแบบโดย Hans Zimmer นักแต่งเพลงระดับโลก

  • Writer: Peerapong Kaewthae
  • Art Director: Kanchanok Wongprasit

สำหรับคนเล่นรถ เสียงเร่งเครื่องโชว์แรงม้าอาจจะทำให้ฟินได้เหมือนฟังคีย์เปียโนอันงดงามของโมซาร์ตเลยทีเดียว แต่เมื่อรถยนต์ไฟฟ้ากำลังมาแรงในสายตาชาวโลกตอนนี้ แม้จะมีดีไซน์ล้ำเกินใครแต่ก็ช่วยลดมลพิษให้กับโลกไปในตัว เสียงเร่งเครื่องยนต์สุดเซ็กซี่ก็เลยถูกแทนที่ด้วยความเงียบไปโดยปริยาย BMW เลยอยากเติมเต็มความรู้สึกโหวง ๆ ภายในรถนี้ด้วยเสียงแห่งอนาคตจาก Hans Zimmer นักแต่งเพลงระดับโลกที่ทุกคนไว้ใจ เขาฝากผลงานอันน่าตราตรึงไว้ในหนังหลายเรื่องทั้ง ‘The Dark Knight’, ‘Inception’, ‘Interstellar’, ’12 Years a Slave’ และ ‘The Lion King’ ภาคแอนิเมชัน ซึ่งทุกคนก็น่าจะจดจำเขาได้ในฐานะนักออกแบบซาวด์ไซไฟได้อย่างน่าถึง กับการร่วมมือกันแบบเหนือความคาดหมายกับ Renzo Vitale ที่ถูกขนานนามว่าเป็น acoustic engineer ที่เก่งที่สุดในเยอรมัน มีหน้าที่ออกแบบเสียงและการสั่นสะเทือนภายในรถทั้งหมด มาช่วยกันเนรมิตรถ BMW รุ่นใหม่ชื่อว่ารุ่น Vision M Next ทั้งสองมีหน้าที่ออกแบบเสียงอันเป็นเอกลักษณ์ของรถยนต์ไฟฟ้าแห่งอนาคต ช่วยสร้างอารมณ์ร่วมในการขับขี่ดีไซน์ที่ล้ำยุคตั้งแต่สายตาจนถึงสัมผัสบนพวงมาลัยและเบาะรถ อธิบายง่าย ๆ คือไม่ทำให้เจ้าของรถรู้สึกแปลกแยกจากรถของตัวเอง วีดีโอข้างล่างคือโปรโมตหลักของรถรุ่นนี้ โดยเขาบอกว่าเสียงที่อยู่คลิปคือเสียงที่มีอยู่ในรถเแล้ว ส่วนตัวแค่เห็นพวงมาลัยก็คือกินขาดแล้ว แต่เสียงแห่งอนาคตที่ Hans ได้ออกแบบไว้ก็ยกระดับดีไซน์ทั้งหมดขึ้นมาให้หรูหราขึ้นเยอะเลย แถมเพลงในคลิป Hans … Continued

ZIMOUN ผู้สร้างศิลปะผ่านสิ่งรอบตัวได้เรียบง่าย ชวนผ่อนคลายกับเสียง ASMR

  • Writer: Peerapong Kaewthae
  • Art Director: Karin Lertchaiprasert

Fungjaizine เคยแนะนำเรื่องเกี่ยว ASMR ไปหลายเรื่องแล้ว หลายคนอาจจะเข้าใจว่ามันคืออะไรมากขึ้น หรือขนาดเข้าถึงและรู้สึกผ่อนคลายทุกครั้งที่ได้ลองฟัง ทุกวันนี้ก็ได้รับการยอมรับว่าเป็นศาสตร์ที่ใช้งานได้จริงและไม่ใช่แค่เรื่องของเทรนด์หรือการตลาดด้วย ไม่แปลกใจเลยที่ ASMR จะถูกหยิบไปใช้ในงานศิลปะใน ZIMOUN ASMR บำบัดอารมณ์ความรู้สึกด้วยเสียงกระซิบให้เสียวซ่านไปทั้งสมอง ฟังเพลงก่อนนอนช่วยให้หลับดีขึ้นจริงหรือ? งานวิจัยยืนยัน! เนื้อเพลงจะอยู่ในหัวเราตลอดไป อัลไซเมอร์ก็เอามันไปไม่ได้ เราอยากแนะนำให้รู้จักงาน ZIMOUN ศิลปินจากสวิตเซอร์แลนด์ที่หลงใหลในสถาปัตยกรรม เครื่องยนต์กลไกและสนใจในเรื่องโครงสร้างของเสียง งานศิลปะจัดวางของเขาส่วนใหญ่จึงเป็นเครื่องกลที่เคลื่อนไหวแบบเรียบง่าย มินิมัล เป็นแพตเทิร์นที่น่าสนใจทั้งทางสายตา และสร้างคลื่นเสียงที่น่าสนใจทางหูอีกด้วย เขามักหยิบฉวยของใกล้ตัวในชีวิตประจำวัน มาทำศิลปะจัดวางที่สร้างประสบการณ์ชวนผ่อนคลายได้อย่างน่าประหลาด จากการใช้มอเตอร์เครื่องยนต์ต่อเข้ากับของทั่วไปเช่นแท่งไม้ กล่องกระดาษแข็งหรือฟอยล์ ควบคุมให้มันเคลื่อนไหวอย่างบ้าคลั่งอย่างมีระบบ แต่ผลลัพธ์ที่ได้กลับกลายเป็นเสียงสำเนียงคีย์ต่ำที่ขยับตัวไปมาเบา ๆ สร้างชั้นบรรยากาศแห่งความชิล ไม่ว่าใครได้เดินผ่านหรือมายืนท่ามกลางสมรภูมิอันบ้าคลั่งของเครื่องมืออะนาล็อกนี้ จะพบการบำบัดที่หาที่ไหนไม่ได้เลยบนโลกใบนี้ ลองดูคลิปความยาว 23 นาทีของงานเกี่ยวกับเสียงทั้งหมดของเขาได้ งานของเขาได้รับการยอมรับและได้จัดในพิพิธภัณฑ์น้อยใหญ่ทั่วโลก โดยครั้งล่าสุดก็ได้จัดใน NYUAD Art Gallery เมืองอาบูดาบี สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์  ซึ่งภัณฑารักษ์ของที่นี่ก็ชื่นชม ZIMOUN เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว แต่ส่วนสำคัญที่ทำให้เธอตัดสินใจเลือกงานของเขามาจัดแสดงคือโปรเจก Leerraum ซึ่งแปลว่า ’empty space’ หรือ ‘ความว่างเปล่า’ ที่เขาร่วมมือกับศิลปินอีกเกือบ … Continued

#Googleโป๊ะแตก เมื่อ Genius เว็บไซต์เนื้อเพลงชื่อดังจับได้ว่าโดนลอกไปแบบคาหนังคาเขา!

  • Writer: Peerapong Kaewthae
  • Art Director: Tas Suwanasang

แม้ใครจะไม่ได้ใช้ Spotify เป็นสตีมมิงฟังเพลงหลักของตัวเอง ก็น่าจะรู้จักหรือเห็นเว็บ Genius ผ่านตาอยู่บ้าง จากการเสิร์ชหาเนื้อเพลงสากลที่เราอยากร้องตามได้ ล่าสุดมีข่าวที่เซอร์ไพรส์และน่าขำมาก เพราะเว็บไซต์แห่งนี้ออกมาแฉว่า ผู้คร่ำหวอดในวงการ IT อย่าง Google ดันขโมยเนื้อหาของเว็บไซต์หรือก็คือเนื้อเพลงนั่นแหละ ไปลงในแพลตฟอร์มเสิร์ชเอนจินของตัวเอง แถมยังจับได้คาหนังคาเขาอีกด้วย สืบเนื่องมาจากจำนวนคนเข้าเว็บที่น้อยลงอย่างเห็นได้ชัด เพราะ Google เปิดส่วนใหม่ที่เมื่อเราพิมพ์เนื้อเพลงลงไปเพื่อแล้ว ก็จะขึ้นเนื้อเพลงทั้งหมดในหน้า Google ทันที แม้จะอำนวยความสะดวกให้กับชาวเน็ตเกรดเอมาก ๆ แต่สำหรับเจ้าของเว็บ Genius ที่ต้องพึ่งโฆษณาบนเว็บก็คงไม่ปลื้มเท่าไหร่ โดยทางนี้ก็ให้ข่าวยืนยันว่าได้ส่งเรื่องไปร้องเรียน Google หลายครั้งแล้ว ว่าเนื้อเพลงที่ Google แสดงถูกก็อปมาจากเว็บเรา แถมมีตัวอย่างกว่าร้อยเพลงให้เทียบดูได้ โดยวิธีจับโป๊ะ Google ของพวกเขาก็ไม่ธรรมดาเลยทีเดียว ลองไปดูวีดีโอที่เขาใช้อธิบายกันเลย ถ้าใครยังไม่เก็ต อธิบายง่าย ๆ ว่าในไวยกรณ์ภาษาอังกฤษเราต้องใส่ apostrophe หรือ ‘ หลังประธานหลายคำส่วนใหญ่ ทางเว็บเลยใส่รหัสลับลงไปด้วยการอะพอสทรอฟีแบบตรงกับแบบเอียงลงไป ซึ่งถ้าไม่ได้สังเกตก็อาจจะไม่ได้สนใจอะไร ความจริงคือมันไว้แทนรหัสมอสซึ่งเคาะออกมาจะเป็นคำว่า red-handed หรือแปลไทยเก๋ ๆ ว่า ‘จับได้คาหนังคาเขาเลยนะ’ … Continued

System Sounds เว็บไซต์ที่ผนวกเสียงดนตรีเข้ากับระบบสุริยะจักรวาล กลายเป็นเพลงชวนตื่นตา

  • Writer: Peerapong Kaewthae
  • Art Director: Tas Suwanasang

เมื่อ 13 มิถุนายนที่ผ่านมา NASA ได้ประกาศอย่างเป็นทางการว่า พวกเขาพบดาวเคราะห์ในระบบสุริยะจักรวาลเป็นจำนวน 4,000 ดวงแล้ว! พอเราได้ยินประโยชน์ข้างต้นแล้วก็คงได้แต่รำพึงว่า แล้วยังไงหว่า? การไขความลับจักรวาล การเกิดและดับของสิ่งต่าง ๆ เอเลี่ยนหรือการที่เสาะหาดาวที่มนุษย์ไปอยู่ได้ สำหรับทุกคนมันอาจเป็นเรื่องไกลตัวมาก ๆ อย่างน้อยก็คงมีโอกาสน้อยมากที่จะเกิดในช่วงชีวิตเรา แต่มีชาวต่างชาติสามคนที่เห็นความสนุกในการเล่นกับดวงดาวและเสียงดนตรี Andrew Santaguida คือนักดนตรีที่ไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกับดาราศาสตร์ ส่วน Matt Russo คือนักดาราศาสตร์ที่ชอบเล่นดนตรี นอกจากเป็นอาจารย์สอนฟิสิกส์ เขาก็ต้องคอยตอบคำถามเกี่ยวกับดวงดาวของ Andrew ส่วน Dan Tamayo คือเพื่อนซี้ที่มหาลัยของ Matt เขาเป็นนักวิจัยที่สนใจเรื่องระบบสุริยะและวงโคจรของดาวต่าง ๆ แต่ที่ทั้งสามคนมีเหมือนกันคือพวกเขารักทั้งเสียงดนตรีและดวงดาวเหมือน ๆ กัน จึงทำเว็บชื่อ System Sounds ขึ้นมา เพื่อเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับดาราศาสตร์ผ่านเสียงดนตรี ซึ่งแน่นอนว่าเขาเอาดาวเคราะห์ 4,000 ดวง มาทำให้น่าสนใจขึ้นด้วย แนะนำให้ลองฟังรอบหนึ่งก่อนค่อยอ่านบรรทัดต่อไป ว่าการค้นพบที่ยิ่งใหญ่มันชวนผ่อนคลายแค่ไหน เพื่อฉลองที่ NASA สำรวจดางเคราะห์ใหม่ ๆ ได้ครบ 4,000 … Continued